@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4 วันที่ 12 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4 วันที่ 12 ก.พ. 56

“เรื่องอาการทางจิตเวชก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หลานของคุณค่อนข้างฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกันด้วยซ้ำ” หมอจิตเวชรายงาน
ตันหยงเดินไปหน้าประตู
“อันนี้แหละครับ ที่ผมเป็นห่วง หลังจากอุบัติเหตุ แกดูมีเหตุมีผลและซับซ้อนขึ้น ดูแปลกไป บางครั้งก็บอกว่าตัวเองไม่ใช่น้องเมย์” ปฐวีบอก
“พฤติกรรมแบบนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการหาสาเหตุซักระยะแต่การจากที่ดู เด็กก็มีสุขภาพจิตที่ดี ไม่บ่งบอกว่าจะมีปัญหาอะไร” หมอจิตเวชบอก

ตันหยงค่อยๆ เดินสวนยมนาออกไป
“ใบรายงานผลตรวจจากเครื่องคอมฯเมื่อซักครู่ค่ะ” ยมนายื่นใบรายงานผลให้ปฐวี
“หรือว่าจะจัดพยาบาลพิเศษไปดูแลน้องเมย์ที่บ้านล่ะคะ วีจะได้สบายใจขึ้น” หนึ่งฤทัยเสนอ
ตันหยงเดินออกมาได้ก็รีบจ้ำออกไป พอตันหยงเดินเลี้ยวไป หนึ่งฤทัยกับหมอจิตเวชก็เดินคุยออกจากห้องของปฐวี



ปฐวีเปิดซองเพื่ออ่านรายงานผลจากคอมพิวเตอร์
“ก็ปรกติ”
รสิกากับยมนายืนขยับเข้ามาใกล้ปฐวี จริญทิพย์เดินเข้ามาในห้อง
“คุณหมอวีต้องการพี่เลี้ยงให้น้องเมย์หรือคะ” ยมนาถาม
“ให้รสิการับหน้าที่นี้ก็ได้นะคะ รสิการักเด็กค่ะ”
“อุ๊ย...ยมดีกว่าค่ะ ยมชำนาญการเลี้ยงเด็กมาก”
“เรื่องเด็กขอให้บอกรักเถอะค่ะ”
จริณทิพย์พูดขึ้น “นี่หล่อนสองคน ไปทำหน้าที่ของหล่อนได้แล้ว ที่นี่ชั้นจัดการเองเผลอไม่ได้เชียว”
รสิกากับยมนาค้อน ถอยไปยืนข้างหลัง จริญทิพย์รีบเสนอตัว
“จะว่าไป ทิพย์ยินดีนะคะ ทิพย์ดูแลเด็กเก่ง เคยเลี้ยงน้องมา 11 คน แถมตอนนี้เลี้ยงหลานตั้ง” จริณทิพย์นับนิ้ว “นับไม่ถ้วน ถ้าคุณวีต้องการ ทิพย์ยินดีนะคะ”
ปฐวีหัวเราะ “ถ้าคุณทิพย์ไปดูแลน้องเมย์ แล้วใครจะดูแลผมล่ะครับ อย่างนี้น่ะดีแล้ว”
จริณทิพย์ยิ้มปลื้ม ปฐวีหันไปมองข้างตัวพยาบาลรัก-ยม แล้วก็ไม่เห็นเมริน
“อ้าว..น้องเมย์อยู่ไหนเนี่ย”
พยาบาลรัก-ยมมองหน้ากันเหวอ ทั้งสองก้มและคลานดูทั่วพื้น
“เมื่อกี้ยังอยู่ด้วยกันนี่นา” รสิกาบอก
“น้องเมย์ไปไหนเนี่ย” ยมนาหา
“หล่อนสองคนนี่มันแย่จริงๆ” จริณทิพย์พูดกับปฐวี “ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าอยู่ในโรงพยาบาล เราต้องหาตัวเจอแน่”
ปฐวีรีบวิ่งออกไปอย่างวิตก
ปฐวีวิ่งหาเมริน สองพยาบาลรัก-ยมวิ่งหาช่วย จริณทิพย์ก็วิ่งหา

ตันหยงในร่างเมรินเดินเลี้ยวมาเห็นประตูลิฟต์เปิดอยู่ก็รีบตะโกนว่า "รอด้วยค่ะ" แล้ววิ่งเข้าลิฟต์ไป คนในลิฟต์ชะเง้อมองหาผู้ปกครอง
“หมดแล้วค่ะ” ตันหยงบอกแล้วกดเลขชั้นหนึ่ง
“ขึ้นลิฟต์คนเดียวก็ได้เหรอคะ เก่งจัง” คนในลิฟต์ยิ้มบอก
ตันหยงยิ้มให้ประตูปิด ในจังหวะที่พยาบาลรัก-ยมวิ่งผ่านมา รสิกาและยมนาวิ่งมายืนที่หน้าลิฟต์
“ไม่มี ทำไงดีล่ะ ยม”
“ก็หาต่อสิ”

รสิกากับยมนาแยกย้ายกันตามหา
ฝ่ายสุดนภาเดินเข้ามาในโรงพยาบาล เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สุดนภาชะงักแล้วหยิบขึ้นมากดรับ ประตูลิฟต์เปิดออกตันหยงเดินออกมาจากลิฟต์แล้วตรงลิ่วไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล

สุดนภาพูดโทรศัพท์ “นี่คุณ จะบ้าหรือ โทรมาทำไม ชั้นทำธุระอยู่ แค่นี้นะ ต้องปิดโทรศัพท์แล้ว”
สุดนภากดปิดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“จะอะไรกับชั้นนักหนานี่ โทรจิกโทรตามอยุ่นั่นแหละ มีเจ้านายแบบนี้กรรมของชั้นจริงๆ”
สุดนภาเดินไปที่หน้าลิฟต์แล้วกดลิฟต์
ตันหยงหันไปดูที่ลิฟต์ก็เห็นสุดนภากำลังเดินเข้าประตูลิฟต์ไป
“นั่นยายบี๋นี่ ยายบี๋ รอก่อน”
เมรินวิ่งพรวดพราดไปที่ลิฟต์ทันที แต่ก็ไม่ทันเพราะประตูลิฟต์ปิดไปเสียก่อน
“ยายบี๋ โธ่เอ๊ย..”
เมรินพยายามกระโดดกดลิฟต์ แต่ก็ไม่ถึงจึงได้แต่ยืนรอจนกระทั่งไฟลิฟต์ไปหยุดอยู่ที่ชั้นปลายทาง

จริณทิพย์มาที่ห้องประกาศออกไมโครโฟนที่ ร.พ
“ประกาศเดี๋ยวนี้เลย เด็กผู้หญิงสูงแค่นี้ ชื่อเมริน เป็นหลานหมอปฐวี ผ.อ.โรงพยาบาล หายไป
เจ้าหน้าที่งงๆ
“มานี่ ชั้นเองดีกว่า ประกาศ ใครพบเด็กผู้หญิงอายุประมาณหกขวบใส่เสื้อสีชมพู ผมมัด รบกวนนำส่งที่พยาบาล หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ”

ปฐวียังเดินหาเมริน เขาเห็นเด็กคนหนึ่งแต่ก็ไม่ใช่ จริณทิพย์ยังคงประกาศต่อแต่ดูรุนแรงขึ้น
“เด็กผู้หญิง อายุประมาณหกขวบ ใส่เสื้อสีชมพู หายออกไปจากห้องผ.อ.ตอนนี้ญาติเป็นกังวลมาก กำลังกระจายกันตามตัวอยู่ ใครพบเห็นรบกวนนำส่งด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ปฐวีเงยฟังเสียงและมีสีหน้ากลุ้มใจอย่างบอกไม่ถูก

ประตูลิฟต์เปิด สุดนภาเดินออกมาจากลิฟต์ พยาบาลรัก-ยมวิ่งตามหาเมรินจนเหนื่อยหอบแล้วก็มาเจอกับสุดนภา
“หาอะไรกันคะ คุณพยาบาล”
รสิกาหอบ “คุณเห็นเด็กตัวขนาดนี้บ้างมั้ยคะ”
“ไม่เห็นค่ะ” สุดนภาตอบ
รสิกากับยมนามองหน้ากันแล้วเศร้า
“ขอตัวก่อนนะคะ” สุดนภาบอก
สุดนภาเดินไป
“ทำไงดีล่ะคราวนี้” ยมนาถาม
ทันใดนั้นเมรินก็วิ่งพรวดพราดออกมา รสิกากับยมมามองหน้ากันแล้วรีบโดดตะครุบตัวเมรินเอาไว้ทันที
“ปล่อยสิ ชั้นจะไปหาเพื่อน” ตันหยงบอก
“ไม่ได้ค่ะ น้องเมย์ ต้องไปหาคุณหมอวีก่อน ไม่งั้น พี่สองคนแย่แน่”
เมรินพยายามดิ้นรนพร้อมกับชะเง้อคอมองหาสุดนภาแต่ก็ไม่เห็น ตันหยงนิ่ง พยาบาลรัก-ยมหยุดแล้วยิ้มให้ ตันหยงได้จังหวะวิ่งหนี สองพยาบาลตกใจรีบวิ่งตามกันจ้าละหวั่น

ปฐวียืนหน้าเครียดอยู่ในห้องทำงาน ตันหยงนั่งอยู่ตรงหน้า รสิกากับยมนายืนหอบ ทั้งสองหันไปมองหน้าปฐวีแล้วก็ค่อยๆล่าถอยออกจากห้องไป
“น้องเมย์ไปไหนมา ทำไมไม่บอกน้าวีก่อนคะ” ปฐวีถามเสียงเข้ม
“น้องเมย์จะออกไปเข้าห้องน้ำค่ะ แต่ว่าน้องเมย์หลงทาง”
“แล้วทำไมน้องเมย์ไม่บอกน้าวี น้าวีจะได้ให้พี่เค้าพาไป”
“น้องเมย์ขอโทษค่ะ”
“ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีก รู้มั้ย น้าวีเป็นห่วงน้องเมย์มาก”
ปฐวีดึงเมรินมากอด ตันหยงอึดอัดจึงดันออก
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ นี่โรงพยาบาลของน้าวี ที่ทำงานของน้าวี น้องเมย์จะหายไปได้ยังไง” ตันหยงพูด
ปฐวีพูดจริงจัง “น้องเมย์ ฟังน้าวีนะ ถ้าน้องเมย์เป็นอะไรไป น้าวีจะเสียใจที่สุด”
ปฐวีมองหน้าตันหยงอย่างจริงจัง ตันหยงอึ้งแล้วก็หลบตา
“ขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว”
“ดีมาก ต่อไปนี้ ห้ามอยู่ห่างน้าวีเกิน 5 ก้าว เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจค่ะ”

สุดนภาจัดดอกไม้ใส่แจกันแล้วนำมาวางไว้บนหัวเตียงที่ร่างของตันหยงนอนอยู่
“ชั้นรู้ ว่าแกคงไม่เห็นดอกไม้นี่หรอกว่าสวยแค่ไหน แต่ชั้นก็อยากเอามาให้อยู่ดี เมื่อไหร่แกจะตื่นมาคุยกับชั้นซะที หยง”

สุดนภาถอนหายใจ นั่งมองหน้าตันหยงเงียบๆ อยู่อย่างนั้น
ปฐวีนั่งเซ็นเอกสารอยู่แล้วเหลือบตามองมายังเมริน ตันหยงหันไปสบตาแล้วก็เบื่อ จึงเมินหน้าหนี

“ไม่ต้องมามองเลย” ตันหยงคิดในใจ
กองเอกสารบนโต๊ะค่อยๆลดลง ตันหยงนั่งสัปหงก
“โอ๊ย ทำไมมันง่วงขนาดนี้นะ ไม่นะ ชั้นไม่อยากหลับ ชั้นอยากไปหาร่างของชั้น” ตันหยงคิดในใจ
ปฐวีเหลือบมอง เขายิ้มแล้วเดินมาหาก่อนจะอุ้มเมรินลงนอน
“หลับซะแล้ว ยายตัวร้าย บทจะหลับก็หลับง่ายๆแบบนี้เอง”
ปฐวีเดินไปหยิบผ้ามาห่มให้ก่อนจะหอมแก้ม
นาวินกับจริณทิพย์วิ่งไล่จับกันเข้ามาในห้อง ปฐวีรีบจุ๊ปากให้เบาๆ นาวินกับจริณทิพย์เห็นเมรินนอนหลับอยู่บนเตียงก็หยุดเถียงกันทันที
“แกรีบมากับชั้นเลย ชั้นมีเรื่องเซอร์ไพรส์แก ที่นี่แหล่ะ” นาวินบอก
“ในโรงพยาบาลนี้ มีเรื่องอะไรที่แกรู้ แต่ชั้นไม่รู้ด้วยเหรอ” ปฐวีสงสัย
นาวินยักคิ้วให้ “ตามมา”
“คุณทิพย์ผมฝากหลานด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ ทิพย์จะดูแลอย่างดี” จริณทิพย์นึกได้ “อ้าววว...ทำไมคุณนาวินได้คุณวีไป แต่ชั้นได้เด็กล่ะ โลกช่างไม่มีความยุติธรรมซะเลย”
จริณทิพย์เซ็งๆ

นาวินลากปฐวีมาตามทาง
“อะไรของแกวะ เจ้าวิน”
“รับรองเรื่องนี้แกต้องอึ้ง”
นาวินทำท่ามีลับลมคมนัยก่อนจะยกมือเคาะประตูห้อง แล้วเปิดเข้าไป

นาวินกับปฐวีโผล่เข้าไปในห้อง สุดนภาวิ่งออกมารับ พอเห็นหน้านาวิน สุดนภาก็เล่นงานทันที
“นี่คุณ มาทำไม..”
นาวินเดินยิ้มเข้ามาในห้อง ปฐวีเดินตามมา สุดนภาอ้าปากค้าง
“อ้าว..ครูบี๋...สวัสดีครับ” ปฐวีทัก
พอเห็นปฐวี สุดนภาก็เปลี่ยนเป็นเรียบร้อยทันที
“สวัสดีค่ะ คุณปฐวี”
นาวินอึ้งเมื่อเห็นสุดนภาเปลี่ยนท่าทีแถมยังไม่สนใจนาวินอีกด้วย สุดนภาคุยกับปฐวีอย่างอ่อนหวาน
“คุณหมอวีมาตรวจเพื่อนของบี๋หรือคะ” สุดนภาถาม
นาวินพูดแทรก “ใช่สิ ผมนี่แหละ เป็นคนพาเจ้าวีมาเยี่ยมเพื่อนคุณ”
สุดนภาไม่มองหน้านาวิน “เชิญค่ะหมอวี นี่เพื่อนบี๋เอง ชื่อตันหยงค่ะ”
ปฐวีเดินไปมองที่เตียง พอเห็นตันหยงปฐวีก็ตะลึง
“นี่เพื่อนคุณหรือครับ ครูบี๋” ปฐวีถาม
“ใช่ค่ะ เพื่อนของชั้นเอง”
“บอกแล้วไง นายต้องเซอร์ไพร์ส ใช่ผู้หญิงคนที่นายเจอที่คลับใช่มั้ย”
“อะไรกัน นี่คุณเคยเจอหยงหรือคะ”
ปฐวีอึ้ง

ตกเย็น ปฐวีขับรถมาตามทาง โดยมีเมรินนั่งอยู่ข้างๆ
“น้าวีคิดเรื่องงานหรือคะ” ตันหยงถาม
“ครับ น้ากำลังคิดถึงคนไข้คนหนึ่ง แล้วน้องเมย์ล่ะ คิดเรื่องอะไร ดูไม่ค่อยสดชื่นเลย”
ตันหยงคิดในใจ “จะให้ร่าเริงขนาดไหนล่ะ”
“เมย์คิดเรื่องตัวเองค่ะ” ตันหยงตอบ
“ตัวแค่นี้ มีเรื่องส่วนตัวแล้ว”

ปฐวีมองหลานแล้วยิ้มให้ ก่อนหันกลับไปคิดเรื่องเดิม ตันหยงนั่งคู่กับปฐวีแต่หันหน้ามองไปคนละทางต่างคนต่างคิด

ด้านสุดนภาเดินวุ่นวนอยู่ในห้องอย่างใช้ความคิด

“หมอวีไปเจอกับหยงตอนไหนนะ”
สุดนภาคิดแล้วหยิบโทรศัพท์โทร.ออก
“ฮัลโหล คิดถึงผมใช่ไม๊ เวลาที่เธอ ไม่มีใครให้ทะเลาะ” เป็นนาวินที่รับสายอย่างเริงร่า
“ชั้นคงตัดสินใจผิดจริงๆที่เธอหาคุณ แค่นี้นะ”
“เดี๋ยวสิครับ ขี้หงุดหงิดจริง มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”
“ชั้นมีเรื่องอยากจะถามคุณ”
“ผมยินดีตอบ ทุกคำถาม ของคุณบี๋”
“ทำไมหมอวีถึงรู้จักกับเพื่อนของชั้น”
นาวินเซ็ง “โหย โทรหาผมถามเรื่องของไอ้วีเนี่ยนะ”
“ไม่ถามคุณแล้วจะถามใคร จะตอบหรือไม่ตอบ อย่ามาโยกโย้กวนประสาทนะ”
“ไม่ตอบ..จบป่ะ”
สุดนภาแค้นจึงกระแทกหูวางสาย “บ้าๆๆ เจอกันคราวหน้า นายได้เละแน่”
นาวินยิ้มขำเพราะดีใจที่แกล้งสุดนภาได้

ปฐวีอยู่ในห้องนอน เขานึกถึงภาพตันหยงที่สนามบิน ภาพตันหยงในโรงแรมที่ปฐวียืนมอง
“ไม่อยากเชื่อเลย คุณตันหยง”

เช้าวันใหม่ ปฐวีเดินมาขึ้นรถจะไปโรงพยาบาล
“อรุณสวัสครับพี่ภัส พี่เมธี”
“วีไปทำงานแต่เช้าเชียว”
“ครับ วันนี้มีเคสด่วน ไปก่อนนะครับ”
ปฐวียิ้มให้ทั้งคู่แล้วไป
“คุณก็ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสาย” ประภัสสรบอก
“ผมไปนะ”

เมธียิ้มให้ประภัสสรแล้วเดินขึ้นรถไป ประภัสสรมองตามแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
ประภัสสรเดินเข้ามาในบ้าน เมรินวิ่งลงมาจากชั้นบนอย่างรวดเร็ว โดยมีสายแก้ววิ่งตามมา ประภัสสรรีบจับตัวเมรินไว้

“อะไรกันคะน้องเมย์ อย่าวิ่งเร็วนะคะ เดี๋ยวล้ม”
“น้าวีล่ะคะ น้าวีไปไหน” ตันหยงถามทันที
“อ๋อน้าวีไปทำงานแล้ว”
“ไม่ทันจนได้” ตันหยงคิดในใจ “ทำไมเด็กมันขาสั้นแบบนี้นะ” แล้วตันหยงก็โทษสายแก้ว “พี่สายแก้วนั่นแหล่ะ บอกให้ปลุกก็ไม่ปลุก”
“อ้าว ก็น้องเมย์ยังไม่ไปโรงเรียนนี่คะ
ตันหยงงอนแล้วเดินไป ประภัสสรกับสายแก้วมองตามอย่างงงๆ

ปฐวีนั่งอยู่ในห้อง หนึ่งฤทัยเดินเข้ามาในห้องพร้อมแฟ้มในมือ
“นี่ค่ะ แฟ้มของคุณตันหยง คนไข้คนนี้แหละที่หนึ่งพูดถึง”
“ขอบคุณมากครับ”
ปฐวีรับแฟ้มมาเปิดดูอย่างสนใจ
“หมอวีรู้จักคนไข้คนนี้หรือคะ”
ปฐวีชะงัก “อ๋อ..เพื่อนของคุณตันหยง เป็นครูของหลานสาวผม ครับ”
“งั้นหรือคะ”
หนึ่งฤทัยมองปฐวีที่กำลังก้มอ่านแฟ้ม

ตันหยงนั่งกินอาหารอยู่กับประภัสสร
“เดี๋ยวแม่ไปช่วยคุณย่าทำงานนะคะ น้องเมย์ทานอาหารให้หมดนะคะ” ประภัสสรบอก
“ค่ะคุณแม่”
“สายแก้วช่วยยกแฟ้มไปให้นะคะ คุณน้องเมย์คอยตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพี่สายแก้วมา”
ประภัสสรกับสายแก้วเดินไป ตันหยงรอจนทั้งสองเดินลับไปเธอก็รีบวิ่งไปที่โทรศัพท์แล้วกดเบอร์โทรหาบุหงาทันที
“ฮัลโหล” บุหงารับสาย

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4 วันที่ 12 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager