อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/6 วันที่ 27 ก.พ. 56
เมรินเดินมาเคาะประตูห้องประภัสสร“คุณแม่ขา คุณแม่”
ประภัสสรดิ้นรน ขวดหันไปพยักหน้าให้ชัยมาจับประภัสสรไว้
“น้องเมย์ ไปให้พ้น หนีไป” ประภัสสรตะโกน
ชัยรีบอุดปากประภัสสรไว้ ประภัสสรดิ้นรน
เมรินประหลาดใจ เธอรีบผลักประตูเข้าไปในห้องของประภัสสร ขวดคว้าตัวเมรินไว้ เมรินตกตะลึง
ปรางค์ทิพย์เดินกระวนกระวายอยู่หน้าบ้าน รถของปฐวีวิ่งเข้ามาจอด ปรางค์ทิพย์รีบไปเกาะประตู
“วี.......พี่เห็นโจรมันเข้าบ้านบ้านแม่ภัส”
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องกรี๊ดดังลั่น ปฐวีกับปรางค์ทิพย์หันมองขึ้นไปข้างบน ปฐวีกระโจนพรวดเข้าไปในบ้านประภัสสร ปรางค์ทิพย์ยืนมองอย่างร้อนใจ
เมรินทั้งดิ้น ทั้งร้อง และทุบขวด ขวดกระชากเมรินเซไปจนหัวกระแทกพื้น เมรินนิ่ง ขวดตามไปบีบคอจนเมรินตาเหลือก
ประภัสสรตะโกน “กรี๊ดดด อย่าทำลูกชั้น แกจะเอาอะไรก็เอาไป ปล่อยลูกชั้นนะ”
เมรินตาเหลือกเพราะลมหายใจขาดห้วง วิญญาณของตันหยงออกมาจากร่าง ตันหยงมองตัวเองแล้วมองเมรินด้วยความตกใจแล้วจะวิ่งเข้าไปห้าม
“หยุดนะ”
วิญญาณตันหยงจางหายไป
“เฮ้ย ไอ้ขวด เดี่ยวเด็กก็ตายพอดี พอได้แล้ว” ชัยเตือน
ขวดได้สติก็ปล่อยมือจากคอเมริน เมรินสลบไป
ร่างของตันหยงนอนอยู่บนเตียง พิรามนั่งจับมือตันหยงไว้ จู่ๆ มือตันหยงก็กระตุกแล้วบีบมือพิราม พิรามสะดุ้ง
“หยง หยง หยงครับ”
พิรามจ้องมือตันหยงอีกครั้งแต่ไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้ ตันหยงนอนนิ่งสนิท พิรามงง
เมรินนอนนิ่งสนิท
“ตายหรือเปล่าวะ เผ่นเถอะ” ชัยบอก
“ไอ้บ้า ยังไม่ได้ของเลย เร็วเข้าเก็บของเข้า” ขวดเร่ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนวิ่งขึ้นบันได ชัยกับขวดหันไปมอง
“กูไม่รอแล้ว ไปก่อนละ” ชัยบอก
ชัยรีบวิ่งกระโจนออกนอกหน้าต่างไป ขวดมองอย่างลังเลแล้วก็รีบวิ่งตามไป ประภัสสรรีบคลานเข้าไปกอดเมริน ปฐวีวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง
“พี่ภัส น้องเมย์”
“วีช่วยน้องเมย์ด้วย ช่วยเมย์ด้วย”
ปฐวีมองเมรินที่นอนไม่ได้สติแล้วก็เข้าไปอุ้มเมรินไว้
“ผมจะพาน้องเมย์ไปโรงพยาบาล พี่ภัสเดินไหวมั้ยครับ”
“ไม่ต้องห่วงพี่ วีรีบไปเถอะ พี่ไม่เป็นไร”
ปฐวีอุ้มเมรินออกจากห้องไปทันที ประภัสสรลุกตามไป
เมรินนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่ในห้องที่โรงพยาบาล หนึ่งฤทัยกับปฐวีนั่งอยู่ข้างๆ ปฐวีนั่งมองเมรินด้วยความเป็นห่วง
“ถ้าผมไม่กลับช้า คงไม่มีเรื่องแบบนี้”
“วีคะ อย่าโทษตัวเองเลย ตอนนี้น้องเมย์พ้นขีดอันตรายแล้ว”
ปฐวีลุกขึ้นเดินไปทุบผนังเพราะโกรธตัวเอง
“ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย”
หนึ่งฤทัยเดินไปจับมือปฐวีเพื่อปลอบใจ เมรินที่นอนอยู่บนเตียงพูดออกมา
“น้าวี”
ปฐวีชะงักแล้วหันไปมองเมริน
“น้องเมย์”
ปฐวีวิ่งไปกอดเมรินไว้ หนึ่งฤทัยมองตามแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก หนึ่งฤทัยค่อยๆ เดินเลี่ยงออกไปจากห้อง
“น้องเมย์ น้องเมย์ของน้าวีปลอดภัยแล้ว”
เมรินมองไปรอบๆตัว
“ชั้นอยู่ที่ไหน”
ปฐวีอึ้ง “คุณไม่ใช่น้องเมย์”
ปฐวีเบือนหน้าหนี เมรินมองปฐวีด้วยความเศร้าเสียใจและรู้สึกผิด
“ชั้นขอโทษ”
เมรินเมินทำท่าจะร้องไห้ ปฐวีมองด้วยความสงสารแล้วเขาก็ค่อยๆดึงตัวเมรินมากอดไว้ ตันหยงร้องไห้เสียใจในอ้อมกอดของปฐวี
ปรางค์ทิพย์นั่งบีบมือตัวเองเพื่อระงับใจ ปรงทองนั่งหน้าเครียด แม้นวาดกำลังคุยโทรศัพท์ สักครู่แม้นวาดก็วางสาย
“เจ้าเมย์กับแม่ภัสเป็นยังไงบ้าง แม่วาด” ปรงทองถาม
“ปลอดภัยดีค่ะ คุณวีให้พักอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน”
“งั้นสั่งให้เตรียมรถ ชั้นอยากออกไปเยี่ยมหลาน”
“คุณวีสั่งว่าอย่าเพิ่งไปเลยค่ะ ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า ให้คุณภัสกับคุณเมย์พักให้หายตกใจก่อน”
ปรางค์ทิพย์ร้องไห้โฮ ปรงทองกับแม้นวาดมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
“เป็นอะไรไป แม่ปรางค์ ทุกคนปลอดภัยดีแล้ว อย่าร้อง” ปรงทองงง
“คุณยายขา ปรางค์ขอโทษ ปรางค์ไม่ดีเอง ปรางค์ขอโทษ”
ปรางค์ทิพย์ร้องไห้ฟูมฟาย ปรงทองหันมองแม้นวาดด้วยความแปลกใจ
เมรินนอนหลับอยู่บนเตียง ในขณะที่ปฐวีนั่งมองเมรินนิ่ง
“น้องเมย์ หนูอยู่ที่ไหน” ปฐวีคิดในใจ
เมธีเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาสีหน้าร้อนใจ
“วี น้องเมย์เป็นยังไงบ้าง”
“ปลอดภัยดีครับพี่เมธี หลับไปแล้ว”
เมธีเดินมาที่เตียงแล้วก้มลองจูบแก้มลูกสาวอย่างอ่อนโยน
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วภัสล่ะเป็นยังไงบ้าง” เมธีถามต่อ
“พี่ภัสกับลูกในท้องปลอดภัยดีครับ อยู่ห้องถัดไปนี่เอง” ปฐวีบอก
“งั้นพี่ไปดูภัสก่อนนะวี ฝากน้องเมย์ด้วย”
“ครับ ไม่ต้องห่วง”
เมธีมองเมรินอย่างเป็นห่วงแล้วก็เดินไป ปฐวีถอนหายใจยาวก่อนจะกลับไปนั่งมองเมรินที่โต๊ะ
สายแก้วนั่งเฝ้าประภัสสรที่นอนหลับอยู่ เมธีเปิดประตูเข้ามา
“คุณภัสเป็นยังไงบ้าง”
“เพิ่งหลับไปเมื่อครู่นี้เองค่ะ” สายแก้วบอก
สายแก้วลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง เมธีเดินไปนั่งที่เตียงแล้วจับมือประภัสสรขึ้นมาแนบแก้ม
“ภัส ผมกลับมาแล้ว”
ประภัสสรลืมตาเห็นเมธีก็โผเข้ากอดเมธีทันที
“คุณเมธี”
“ผมกลับมาแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ผมดีใจที่คุณไม่เป็นอะไร”
“น้องเมย์ก็ปลอดภัยแล้วค่ะ”
“ผมทราบแล้ว พึ่งมาจากห้องน้องเมย์ คุณพักเถอะนะ ผมจะอยู่กับคุณตรงนี้”
เมธีกอดกระชับประภัสสรไว้แน่น
เช้าวันใหม่ เมรินหลับ ปฐวียังนั่งมองเมรินอยู่ สักพักเมรินก็ลืมตาตืนขึ้นมาเห็นปฐวีนั่งมองเธออยู่
“ตื่นแล้วหรือ” ปฐวีถาม
ตันหยงงัวเงีย “คุณไม่ได้นอนเลยเหรอคะ”
“ผมเป็นห่วงคุณ”
ตันหยงอึ้ง ก่อนมองปฐวีอย่างซาบซึ้งใจ ปฐวีเมินหน้าออก
ประตูเปิดพรวดเข้ามาพร้อมกับสุดนภาที่วิ่งเข้ามาโวยวาย
“หยง แกเป็นยังไงบ้าง”
สุดนภาชะงักที่เห็นปฐวีนั่งอยู่ด้วย สุดนภาจ๋อยแล้วตีปากตัวเอง นาวินเดินเข้ามา
“อ้าว เจ้าวี อยู่นี่หรือ”
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณบี๋” ปฐวีบอก
สุดนภายิ้มให้ปฐวีเจื่อนๆ
ปฐวีเดินออกไปจากห้อง นาวินมองสุดนภา สุดนภาทำท่าสำนึกผิด นาวินเดินตามปฐวีไป พอทั้งคู่ลับตัว สุดนภาก็รีบวิ่งไปหาตันหยง
“มันเกิดอะไรขึ้น ชั้นเป็นห่วงแกแทบแย่หยง”
สุดนภากอดตันหยงไว้
“โชคดีที่แกไม่เป็นอะไร”
“บี๋ ตอนที่ชั้นโดนทำร้าย วิญญาณชั้นออกจากร่างน้องเมย์ ไปเข้าร่างชั้น”
“ถ้างั้น.. ก็หมายความว่า......”
ตันหยงถอนหายใจยาวแล้วพูดเศร้าๆ
“ใช่....ถ้าชั้นจะกลับร่างเดิม เราก็ต้องเสียน้องเมย์ไป”
สุดนภาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
“เวรกรรมจริงๆ”
สุดนภามองตันหยงที่นั่งเครียดก่อนจะลุกขึ้นมากอดตันหยง
ปฐวีกับนาวินนั่งคุยกัน ปฐวีดื่มกาแฟ ส่วนนาวินนั่งหน้าเครียด
“พี่เมธีมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า ถึงมีคนคิดปองร้ายครอบครัวแบบนี้” นาวินถาม
“อาจจะเป็นโจรทั่วไป ที่จี้ปล้น หวังชิงทรัพย์”
“แล้วนี่แกแจ้งความหรือยัง”
“ยังเลย มัวแต่วุ่นๆ อยู่”
“งั้นชั้นจัดการให้ แกอย่าเพิ่งคิดอะไรเลย กลับไปดูพี่สาว กับหลานแกก่อนเถอะ”
ปฐวีมองหน้านาวิน
“เฮ้ย...ยังไงตอนนี้เค้าก็ยังเป็นหลานของแกอยู่น่า ไปสอบถามเหตุการณ์ด้วย ไป”
ทั้งสองเดินออกไป
เมริน ปฐวี ประภัสสร เมธี สุดนภา และนาวินอยู่ในห้อง ประภัสสรนั่งติดเมริน
ประภัสสรถามน้องชาย “วี น้องเมย์ต้องอยู่โรงพยาบาลรึเปล่า”
“ผมขอดูอาการให้แน่ใจก่อน ซักสองสามคืนครับ ส่วนพี่ภัส ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ” ปฐวีบอก
“โธ่ลูก แม่สงสารหนูจริงๆ ไอ้โจรมันช่างใจร้าย ทำร้ายเด็กตัวเล็กๆได้ลงคอ”
“ไม่ต้องห่วงครับพี่ภัส ผมแจ้งความให้เรียบร้อยแล้ว ประเดี๋ยวตำรวจคงจะมาสอบปากคำ” นาวินบอก
“ขอบใจมาก วิน” เมธีพูดกับประภัสสร “แล้วคุณภัสจำหน้าคนร้ายได้หรือเปล่า”
ประภัสสรลังเล “ภัสไม่แน่ใจนะคะ”
เมรินคิด “น้องเมย์จำได้แล้วค่ะ”
ทุกคนหันมามองหน้าเมริน
เมรินนึกถึงหน้าขวดกับชัยตอนที่อยู่ในห้องประภัสสร แล้วเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ในร้าน ตอนที่สามคนคุยกัน เหตุการณ์ที่ลานจอดที่ชัยเดินผ่านหน้าเธอไป
“วันนั้น ผู้ชายคนนั้น อยู่กับป้าปรางค์!”
ปฐวีตะลึง
ปรางค์ทิพย์ร้องไห้พร้อมกับก้มลงกราบเท้าปรงทอง ปรงทองมองปรางค์ทิพย์อย่างผิดหวัง
“ปรางค์กราบขอโทษคุณย่าค่ะ”
“ชั้นไม่เคยคิดเลยแม่ปรางค์ ว่าหล่อนจะใจไม้ไส้ระกำ ทำกับน้องกับหลานตัวเองได้ลงคอ”
“ปรางค์ผิดไปแล้วค่ะ คุณยาย”
“พี่ปรางค์ทำขนาดนี้ได้ยังไงครับ” ปฐวีถาม
“ลูกสาวผมเกือบจะต้องตายเพราะคุณ” เมธีว่า
ปรางค์ทิพย์หันมามองประภัสสรกับเมธีแล้วยกมือไหว้ ประภัสสรตกใจรีบรับมือปรางค์ทิพย์ไว้ เมธีอึ้ง
“แม่ภัส คุณเมธี พี่ขอโทษเธอจริงๆ พี่ขอโทษ” ปรางค์ทิพย์บอก
“พี่ปรางค์คะอย่าทำแบบนี้เลย” ประภัสสรพูด
“พี่ขอโทษ”
ปรางค์ทิพย์สะอื้น
“แม่ปรางค์ หล่อนตอบมาเดี๋ยวนี้นะ ผีห่าซาตานตัวไหน มันดลใจให้หล่อนทำเรื่องชั่วได้ขนาดนี้” ปรงทองคาดคั้น
ปรางค์ทิพย์ร้องไห้โฮแล้วคลานมาหาปรงทอง
“ปรางค์ผิดไปแล้ว ปรางค์ผิดไปแล้ว ..... ความอิจฉาริษยา ที่มันสุดใจปรางค์มาตลอด มันทำให้ปรางค์คิดชั่วคิดเลว ปรางค์ไม่หวังหรอกค่ะ ว่าจะมีใครอภัยให้ปรางค์”
“หล่อนจะอิจฉาใคร ชั้นก็เลี้ยงหลานทุกคนเสมอกัน แม้แต่พ่อเมธี” ปรงทองนึกได้แล้วก็ส่ายหัว “ชั้นไม่รู้ ว่าทำไมหล่อนถึงได้จงเกลียดจงชังพ่อเมธีเค้านัก หล่อนอาฆาตแค้นเค้าเรื่องอะไร”
ทุกคนรอฟัง ปรางค์ทิพย์หลบตาแล้วเอ่ยออกมา
“ปรางค์ไม่ได้เกลียดเมธีหรอกค่ะ”
ปรางค์ทิพย์หันไปมองเมธี เมธีเมินหน้าหนี
“ตั้งแต่เด็ก ปรางค์พยายามที่จะเรียนเก่ง เรียนดี ให้เป็นที่รักของคุณยายแต่คุณยายกลับห่วงแม่ภัส กับตาวีมากกว่า ..... ปรางค์เข้าใจค่ะ ว่าทั้งคู่ เป็นเด็กกำพร้า แต่ปรางค์ก็รู้สึกว่าคุณยายลำเอียง”
ปรงทองอึ้ง
“ภัสได้ทุกอย่างเหนือปรางค์ ไม่ว่าปรางค์จะพยายามมากแค่ไหน คุณยายก็ไม่เคยเห็น ปรางค์สอบเข้ามหาวิยาลัยอันดับหนึ่งได้ แต่แม่ภัสสอบไม่ได้ คุณยายก็ยังให้รางวัลเท่ากัน”
ปรงทองรวมทั้งทุกคนอึดอัดใจ
“กระทั่งคนที่ปรางค์รัก คุณยายยังสนับสนุน ให้แต่งานกับแม่ภัส”
ปรงทองมองเมธีอย่างงๆ เมธีอึ้ง ทุกคนตกใจมาก
“แม่ปรางค์!! แกพูดอะไรของแก” ปรงทองตกใจ
ปรางค์ทิพย์ร้องไห้
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/6 วันที่ 27 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager