อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/2 วันที่ 25 ก.พ. 56
“ชั้นเป็นใครคุณไม่ต้องสนใจหรอก ออกไปนะ เดี๋ยวนี้เลย”“พิรามคะ บี๋ขอร้อง”
พิรามลุกขึ้นอย่างงงๆ สุดนภาลากแขนพิรามให้ออกจากห้อง
“ไปก่อนเถอะค่ะ แล้วบี๋จะอธิบายให้ฟัง”
พิรามเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ พอพิรามเดินลับไป เมรินก็นั่งลงปิดหน้าร้องไห้ สุดนภาเดินมาปลอบใจเพื่อน
“ใจเย็น หยง แกต้องตั้งสติไว้ก่อน”
พิรามเดินออกมาจากห้องอย่างงงๆ เพราะไม่เข้าใจ
“เด็กคนนี้เป็นใคร จู่ๆก็มาไล่เรา ทำยังกะโกรธแค้นอะไรกัน”
พิรามเดินไปอย่างหงุดหงิด
ปฐวียืนกอดอกมองพิรามด้วยสีหน้าเครียด
ภายในรถของปฐวี เมรินนั่งหันหน้าออกไปคนละทางกับปฐวี ปฐวีแอบมองเมรินอย่างสังเกต เมรินนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
เมรินปิดหน้าร้องไห้
“จนป่านนี้แกยังไม่ให้อภัยเค้าอีกหรือหยง” สุดนภาถาม
“ให้อภัยหรือ แกไม่เห็นหรือเค้าทำอะไรกับชั้น
“ชั้นเห็น และเข้าใจแกทุกอย่างหยง แต่ชั้นก็เห็นสิ่งที่พิรามเค้าพยายามทำด้วย แกรู้มั๊ย เค้ามาอ่านหนังสือ มานั่งคุยกับแกทุกวัน ชั้นเห็นกระทั่งวันที่เค้าตัดเป็นตัดตายกับแม่พัดชา”
“นี่แกเข้าข้างเค้าหรือ แกเป็นเพื่อนชั้นหรือเป็นเพื่อนเค้ากันแน่”
“ชั้นเป็นเพื่อนแกหยง ชั้นถึงอยากจะบอกว่า แกควรให้อภัยพิรามได้แล้ว เค้าน่าสงสารมาก และแกก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า เค้าสำนึกผิดจริงๆ”
“ชั้นไม่อยากฟัง เค้าทรยศความรักของชั้น เค้าทำลายความรู้สึกดีๆทุกอย่าง”
“ถ้าแกจะไม่อภัยให้พิราม ชั้นก็เข้าใจ แต่คนที่จะทุกข์ที่สุด คือแกนะหยง คิดดีๆนะเพื่อน”
สุดนภามองเพื่อนอย่างเข้าใจแล้วพูดต่อ
“ชั้นแค่พูดในสิ่งที่ชั้นรู้ แต่แกจะตัดสินใจยังไง ชั้นเคารพในการตัดสินใจของแกนะ หยง”
เมรินมองหน้าสุดนภาอย่างอึ้งๆ
เมรินถอนหายใจหนักแล้วก็มีหน้าเศร้า เธอเมินหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ปฐวีแอบมองเมรินอยู่มีสีหน้าเครียด เขาหันไปขับรถต่อไม่พูดไม่จา ทั้งสองคนนั่งเงียบๆ อยู่ในรถ
รถของปฐวีวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ปฐวีชำเลืองมองเมริน เขาเดินลงจากรถจะมาเปิดประตูให้เมริน แต่ไม่ทันได้เปิดเมรินก็เปิดประตูลงจากรถไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย ปฐวีมองตาม เมธีเดินออกมารับ
“อ้าว วี น้องเมย์” เมธีมอง “เป็นอะไรไป ลูกพ่อหน้าไม่ยิ้มเลย งอนอะไรน้าวีหรือเปล่าคะ”
“เปล่าคะ”
“พี่เมธี พี่ภัสล่ะครับ” ปฐวีถาม
“อ๋อ ภัสเค้าบ่นเวียนหัวสงสัยจะไม่ค่อยสบาย”
“หรือครับ เดี๋ยวผมไปดูพี่ภัสหน่อยดีกว่า” ปฐวีฝืนยิ้ม “ผมขอตัวก่อนนะครับพี่เมธี”
ปฐวีเดินไป เมรินนึกได้ก็มองตามปฐวี
“ไงครับลูกพ่อ วันนี้ทำอะไรมาบ้าง เล่าให้พ่อฟังหน่อยสิ” เมธีถาม
ประภัสสรกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ปฐวีเดินเข้ามาหา
“วันนี้กลับเร็วจริงนะวี”
ปฐวีฝืนยิ้ม “เห็นพี่เมธีบอกว่าพี่ภัสเวียนหัวหรือครับ เป็นมานานหรือยังครับ”
“เพิ่งเป็นมาไม่นานนี้แหละ คงไม่มีอะไรหรอก”
“ผมว่า พี่ภัสไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาลดีมั๊ยครับ”
“พี่ว่าไม่ต้องหรอก อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้” ประภัสสรบอก
“ข่าวดี”
ประภัสสรเขิน “พี่อาจจะมีน้องให้น้องเมย์ก็ได้”
“จริงหรือครับ ผมดีใจด้วย แล้วพี่เมธีรู้หรือยังครับเนี่ย”
“พี่จะรอให้แน่ใจก่อนค่อยบอก”
ปฐวีมองประภัสสรแล้วยิ้มอย่างดีใจ
ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร โดยมีสายแก้วคอยบริการ เมรินมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าของปฐวีแล้วถอนหายใจ
“ทำไมน้าวียังไม่มาทานข้าวล่ะคะ” เมรินถาม
“คุณวีขอตัวทานข้างบนค่ะ วันนี้เห็นบ่นว่างานเยอะมากเลย” สายแก้วบอก
“งั้นหรือ งั้นเราก็ทานกันเถอะ” ปรงทองสรุป
สายแก้วตักข้าวให้ทุกคน เมธีตักกับข้าวใส่จานประภัสสร ประภัสสรได้กลิ่นก็ทำหน้าคลื่นเหียน
“อ้าวเป็นอะไรไปภัส ผัดผักนี่ของโปรดคุณไม่ใช่หรือ”
“ไม่ทราบเป็นอะไรภัสได้กลิ่นกระเทียมแล้วคลื่นไส้จังเลย” ประภัสสรบอก
“ขอโทษค่ะ สงสัยแม่จะลืม เดี๋ยวสายแก้วเอาไปเปลี่ยนให้นะคะ”
ปรงทองมองประภัสสรอย่างสังเกตแล้วยิ้ม
“เป็นมากี่เดือนแล้วล่ะแม่ภัส” ปรงทองถาม
“ซักพักแล้วค่ะคุณย่า ภัสง่วงทั้งวันเลย อยากจะนอนตลอดเวลา”
ปรงทองยิ้ม “สงสัยจะมีข่าวดีละมั้ง”
ประภัสสรยิ้มเขิน เมธีกันเมรินมองหน้ากันอย่างงงๆ
“หมายความว่ายังไงครับคุณภัส อ๊ะ หรือว่า คุณจะมี่น้อง” เมธีเริ่มสงสัย
ประภัสสรเขิน “ภัสอยากรอให้แน่ใจก่อนค่ะ แต่คิดว่าน่าจะใช่”
เมธีดีใจ “จริงหรือ ภัส ผมดีใจจังเลย” เมธีมองภรรยาด้วยความรัก “ต่อไปนี้คุณต้องระวังนะ แล้วอยากทานอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า บอกผมนะ”
“งานนี้เจ้าเมย์คงจะไม่เหงาแล้วละสิ” ปรงทองว่า
เมธียิ้มดีใจแล้วรีบประคับประคองประภัสสร ปรงทองปลื้มใจ เมรินดีใจปนเศร้าใจ
ปฐวีนอนเหม่ออยู่ในชุดทำงาน เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา
ปฐวีนึกถึงตอนที่เมรินกลับจากโรงพยาบาล แล้วบอกปฐวีว่าเธอไม่ใช่เมริน
นึกถึงเหตุการณ์ที่โต๊ะอาหาร ที่เมรินบอกว่า ถ้าเธอไม่ใช่น้องเมย์ล่ะคะ แล้วโดนปรงทองดุ
นึกถึงตอนที่เมรินโวยวาย ตอนที่เขาแย่งโทรศัพท์ไป
ปฐวีโมโหตัวเอง “ทำไมเราถึงไม่เอะใจ” ปฐวีคิด
ปฐวีนึกถึงเหตุการ์ณในงานวันเกิดปรงทอง ที่เมรินคุยกับชาวต่างชาติ
เมรินร้องเพลงภาษาอังกฤษ ปฐวีเล่นกีต้าร์
นึกถึงตันหยงที่สนามบินที่กำลังทะเลาะกับคนเกาหลี
นึกถึงคำที่เมรินพูดว่า “ชั้นชื่อตันหยง ชั้นไม่ใช่น้องเมย์”
ปฐวีนิ่งคิด “คนที่อยู่ในร่างน้องเมย์ คือคุณหรือ ตันหยง”
ปฐวีกุมหัวด้วยความเครียด
ป้าแก้วกำลังบงการให้ทุกคนจัดอาหารเช้าอยู่ในครัว
“จัดให้เรียบร้อย อย่าลืมนะอาหารของคุณภัสต้องเตรียมเป็นพิเศษ”
“แม่จ๋า อย่าลืมจัดผลไม้ด้วยนะแม่ คุณภัสบ่นอยากทานองุ่น” สายแก้วบอก
บุญศรีเดินเข้ามามองอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย จะอะไรกันนักหนา แค่อาหารเช้า ต้องโน่นต้องนี่”
“อ้าว แม่บุญศรี ก็คนท้องคนไส้ ก็ต้องเตรียมอาหารบำรุงหน่อยสิ”
“ใคร ใครท้อง อย่าบอกนะว่าป้าแก้วท้อง ชั้นจะหัวเราะให้ฟันร่วง”
“หนอยแน่ะ แม่ศรี พูดจาอะไรระวังปากหน่อย” ป้าแก้วพูดกับสายแก้ว “สายแก้วเอ๊ย นี่ข้าวต้มปลาของคุณภัสไม่ใส่กระเทียม แถมไข่ลวกอีกฟอง บำรุงคุณหนูเล็ก”
“จ๊ะแม่ ชั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวคุณหนูเล็กจะหิว”
สายแก้วเดินไป บุญศรีมองตามอย่างงงๆ
“ใครกันคุณหนูเล็ก” บุญศรีถาม
“นี่ไปมุดอยู่ที่ไหนมา ไม่รู้หรือ คุณภัสเธอกำลังจะมีน้อง” ป้าแก้วพูดกับคนอื่นๆ “เอา รีบเตรียมอาหารให้เสร็จเร็วเข้า”
บุญศรีตาลุก “คุณภัสจะมีน้องหรือ”
ปรางค์ทิพย์นั่งหน้าเครียดหัวฟูอยู่บนโต๊ะกลางบ้าน บนโต๊ะเบื้องหน้ามีบัญชีรายการทรัพย์สินเอกสารการเงินวางระเกะระกะไปหมด
“มันเอาเงินของชั้นไปผลาญหมด”
ปรางค์ทิพย์หน้าเครียด บุญศรีวิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาในห้อง
“คุณปรางค์เจ้าขา คุณหญิงให้มาตามเจ้าค่ะ”
ปรางค์ทิพย์หงุดหงิด “ให้มาตามทำไม จะด่าซ้ำเติมอะไรกันอีก”
“ยังมีอีกเรื่องนึงนะคะคุณปรางค์”
“โอ๊ย...เรื่องอะไรอีก ชั้นไม่อยากฟัง”
ปรางค์ทิพย์ลุกขึ้นเดินพรวดพราดออกไป บุญศรีมองตามอย่างจ๋อยๆ
“โธ่คุณปรางค์นะคุณปรางค์ ไม่ฟังศรีเลย”
ปรางค์ทิพย์นั่งหน้าคว่ำ ในขณะที่ปรงทองมองปรางค์ทิพย์แล้วส่ายหน้า
“นี่แม่ปรางค์ ถ้ายายไม่เรียกหา เจ้าก็ไม่มาให้เห็นหน้าเลยนะ” ปรงทองว่า
“ปรางค์จะมาทำไมให้ขวางหูขวางตาคุณยายล่ะคะ”
“ที่ยายให้ตามน่ะ ก็เพราะเป็นห่วงเจ้าหรอก พ่อสรรหายหน้าหายตาไปเลย กลับบ้านกลับช่องบ้างหรือเปล่า”
ปรางค์ทิพย์เมินหน้า “ช่วงนี้งานคุณสรรยุ่งค่ะ”
ปรงทองถอนหายใจ “จนป่านนี้ เจ้ายังคิดจะปิดยายอีกหรือ เฮ้อ แม่ปรางค์เอ๊ย ยายอยากจะเตือนสติเจ้านะ ว่าอย่าใช้แต่อารมณ์ ต้องมีเหตุผล”
ปรางค์ทิพย์ไม่ตอบ
“ดูครอบครัวแม่ภัสกับพ่อเมธีเป็นตัวอย่างสิ มีปัญหากัน ไม่เข้าใจกันจนมีคนอื่นเข้ามาแทรก แต่สุดท้ายสองคนก็ยอมลดทิฐิ กลับมาปรองดองกันเหมือนเดิม ย่าอยากเห็นครอบครัวของเจ้าเป็นแบบนั้นบ้างนะแม่ปรางค์”
ปรางค์ทิพย์หันไปมองปรงทองแล้วก้มหน้า
ปรางค์ทิพย์รู้สึกกดดัน “ค่ะคุณย่า ปรางค์จะจำไว้”
“นี่รู้ข่าวแม่ภัสหรือยังล่ะ เค้าจะมีข่าวดี คงจะมีน้องใหม่ให้เจ้าเมย์เร็วๆนี้แหละ ครอบครัวเราจะมีสมาชิกเพิ่ม น่าชื่นใจจริงๆ”
ปรางค์ทิพย์ตะลึง “ยัยภัสจะมีลูกอีกคนหรือ”
ปรางค์ทิพย์ทั้งอึ้งทั้งแค้น
ปรางค์ทิพย์เดินลอยๆออกจากบ้านปรงทอง
“มีความสุขกันจริงนะ”
เมธี ประภัสสร และเมรินเดินจูงมือกันจะเข้าบ้าน
ประภัสสรเอ่ยชวน “พี่ปรางค์ ทานข้าวกลางวันด้วยกันนะคะ”
ปรางค์ทิพย์ตะคอก “ชั้นกินไม่ลงหรอก ถ้าต้องทนร่วมโต๊ะกับหล่อน”
ประภัสสรผงะ
“ไม่ทานก็ไม่เป็นไร ทำไมต้องตะคอกคุณภัสด้วย” เมธีไม่พอใจ
“ชั้นจะพูดอะไรกับน้องชั้นแล้วแกมาเกี่ยวอะไร ไอ้บ้านนอก”
เมธีฉุน ประภัสสรรีบดึงแขนไว้
“ใจเย็นๆนะคะคุณเมธี พี่ปรางค์คงอารมณ์ไม่ดี ไม่ทานก็ไม่เป็นไร เราเข้าบ้านกันเถอะค่ะ”
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้น่ะสิ ไม่ว่าผัวจะชั่วจะเลวแค่ไหน หล่อนก็ทนรับสภาพอยู่ได้ ไม่เรียกโง่แล้วเรียกอะไร ชั้นละสมเพชหล่อนจริงๆแม่ภัส”
“คุณปรางค์ พูดแบบนี้ต่อหน้าลูกผมหรือ”
“ทำไมชั้นจะพูดไม่ได้ แกมันก็ไอ้แค่เด็กบ้านนอกมาพึ่งใบบุญบ้านชั้น ถ้าคุณย่าไม่เมตตา นังภัสไม่ใฝ่ต่ำคว้าแกมาเป็นผัว แกจะมีวันนี้หรือ”
เมธีโกรธจัด เขาจ้องหน้าปรางค์ทิพย์
“มองทำไม มองแล้วแกทำอะไรชั้นได้ ไอ้กระจอก”
ประภัสสรดึงมือเมธีไว้แล้วมองอย่างขอร้อง เมธีพยายามสงบใจ
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคุณภัสจะมีพี่น้องที่นิสัยต่างกันขนาดนี้ และก็ขอบคุณ ที่คุณดูถูกเหยียดหยามผม ทำให้ต้องผมพิสูจน์ตัวเอง คุณทำให้ผมมีวันนี้ และผมก็ดีใจที่มีภรรยาอย่างคุณภัสไม่ใช่คุณ”
ปรางค์ทิพย์ตะลึง เมรินกับประภัสสรมองเมธีอย่างชื่นชม
“ไปกันเถอะคุณภัส น้องเมย์ ไปทานข้าวกัน”
เมธีจูงมือเมรินพร้อมกับโอบประภัสสรเดินเข้าบ้านไป ปรางค์ทิพย์มองตามแล้วกรี๊ด
ปรางค์ทิพย์เดินเข้ามาในบ้านอย่างหงุดหงิด เธอกวาดข้าวของบนโต๊ะร่วงระเนระนาด
“ไอ้เมธี แก..แกกล้าด่าชั้น”
ปรางค์ทิพย์ขว้างข้าวของระบายอารมณ์
“หนอยแน่ะ อย่าคิดว่าแกจะมีความสุขได้เลย”
ปรางค์ทิพย์นิ่งคิดแล้วนึกขึ้นได้ เธอค้นกระเป๋าแล้วหยิบนามบัตรขึ้นมา
“คราวนี้ละ ตาชั้นบ้าง”
ปรางค์ทิพย์มองนามบัตรแล้วยิ้มร้าย
เมรินคุยโทรศัพท์กับสุดนภา
“ชั้นเป็นห่วงแกจริงๆ แล้วแกจะทำยังไงต่อไป” สุดนภาถาม
ตันหยงคิด “ชั้นคิดว่าชั้นต้องไปเริ่มที่ร่างของชั้น”
“แกก็ลองแล้ว แต่มันไม่ได้ผลนี่”
“หรือถ้ามีเหตุการณ์มันซ้ำรอยเดิมอีกครั้งนึง”
“แกพูดอะไรของแก”
“ชั้นกับน้องเมย์ เกิดอุบัติเหตุพร้อมกัน แล้วชั้นก็เจอกับน้องเมย์ ถ้าชั้นทำให้มันเกิดอีกครั้ง ทุกอย่างก็อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”
“แกจะบ้าเหรอ ชั้นว่ามันเสี่ยงเกินไปนะ แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ”
“ถ้ามันไม่สำเร็จ นอกจากชั้นจะไม่ฟื้นแล้ว ชั้นอาจจะทำร้ายร่างน้องเมย์อีกด้วย” ตันหยงเศร้า “ชั้นคงทำไม่ได้หรอกบี๋”
“เฮ้อ.. งั้นก็ค่อยๆหาทางกันไปเรื่อยๆเถอะนะ”
“ชั้นว่าคงต้องอยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ”
“นี่ อย่าเพิ่งสิ้นหวังสิ” สุดนภานึกได้ “เออหยง แล้วแกคิดว่าหมอวี เค้าจะรู้นี้ไหม”
“ไม่น่านะ เค้าเป็นคนไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้อยู่แล้ว”
ปฐวียืนกอดอกแล้วพิงขอบโต๊ะทำงานคิดหนัก สักพักจริญทิพย์ก็เดินเข้ามา
“หมอวียังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ”
“คุณทิพย์กลับก่อนได้เลยครับ”
จริญทิพย์ยิ้มแย้ม “ทิพย์อยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะคะ”
ปฐวีเศร้า “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ” ปฐวียิ้มเศร้าแล้วถอนใจ
จริญทิพย์จ๋อยและไม่กล้าพูดต่อ เธอเดินออกแต่ก็ไม่วายหันกลับไปมองแบบห่วงๆ
ที่คลับ ปรางค์ทิพย์ใส่แว่นดำนั่งมองรอบๆ ตัวอย่างระแวง ฉัตรพรเดินมานั่งที่โต๊ะแล้วมองปรางค์ทิพย์
“คุณมาหาชั้นที่นี่ มีธุระอะไร”
ปรางค์ทิพย์ถอดแว่นดำออกมองฉัตรพร
ฉัตรพรนั่งคิดอยู่ในบ้านเงียบๆ ชัยเดินเข้ามาในบ้าน พอเห็นฉัตรพร ชัยก็ยิ้มประจบ
“พี่ฉัตร ขอตังค์หน่อยสิ จะเอาไปจ่ายค่างวดรถ”
ฉัตรมองน้องชายแล้วหยิบเงินส่งให้นิดหน่อย ชัยโวยวาย
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/2 วันที่ 25 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager