อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 12/5 วันที่ 28 ก.พ. 56
สุดนภาไม่ฟังเสียง เธอลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูจะลากตันหยงลง แต่ตันหยงไม่ยอมลง“ลงมา ลงมาเร็วๆ”
“แกจะให้ชั้นทำอะไร ชั้นไม่เอาด้วยหรอก”
“หยง แกฟังชั้นนะ แกมีโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ชั้นอยากให้แกตัดสินใจให้ดีๆ”
ตันหยงอึกอักพยายามหาข้ออ้าง “เอ่อ...ชั้นอยากไปกราบคุณย่า”
ตันหยงนิ่งคิด
ตันหยงก้มกราบปรงทองในบ้านปรงทอง ปรงทองมองตันหยงอย่างเอ็นดู
“ไหว้พระเถอะลูก ไหนเงยหน้าให้ย่าดูชัดๆซิ”
ตันหยงเงยหน้าขึ้นมองปรงทอง ทั้งคู่สบตากัน
“หน้าตาหน้าเอ็นดูจริง” ปรงทองชม
สุดนภาที่มองอยู่ยิ้มปลื้ม
“ตันหยงเป็นเพื่อนของบี๋เองค่ะ เค้าป่วยอยู่นานหมอวีเป็นคนดูแลค่ะ”
“คุ้นหน้าจริง เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะ”
ตันหยงยิ้มรับ
ปรงทองมองตันหยงอย่างเอ็นดู
“แล้วหมอวีล่ะคะ” สุดนภาถาม
“จริงสิ ครูบี๋ไปริมน้ำสิ เจ้าวีคงอยู่ที่นั่นแหละ” ปรงทองบอก
“ค่ะคุณย่า”
สุดนภาหันมายิ้มให้ตันหยง ทั้งสองคนไหว้ลาปรงทอง สุดนภาลากแขนตันหยงไป
สุดนภาลากตันหยงมาตามทางเดิน ปฐวียืนหันหลังอยู่
“นั่นไง” สุดนภาชี้ไป
ตันหยงมองไปตรงหน้า
“ไปสิ ชั้นจะไปรอแกหน้าบ้านนะ”
ตันหยงดีใจ เธอเดินไปสองสามก้าวแล้วเรียก
“น้าวี!”
ปฐวีหันมาเห็นตันหยงก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ปฐวีดีใจ ตันหยงวิ่งเข้าไปหาแล้วไปหยุดยืนใกล้ๆ
“น้าวี...”
ปฐวีดีใจจนอยากจะเข้ามากอดตันหยง แต่เสียงหนึ่งฤทัยเรียกดังขึ้นเสียก่อน
“วีคะ”
ทั้งสองหันไปมอง ปฐวีจ๋อย หนึ่งฤทัยเดินมาเกาะแขนปฐวี
“คุณตันหยง มาได้ไงคะนี่” หนึ่งฤทัยสงสัย
ตันหยงมองหน้าปฐวีอย่างตัดพ้อ นาวินวิ่งจู๊ดเข้ามาเจอสุดนภาที่อีกมุมหนึ่ง
“คุณบี๋ เดี๋ยว อย่าพึ่งเข้าไป” นาวินห้าม
“ไม่ทันแล้ว” สุดนภามองนาวินอย่างแค้นๆ
ตันหยงหันหน้าวิ่งออกมา ปฐวีผวาจะตามแต่หนึ่งฤทัยรั้งแขนไว้ ตันหยงวิ่งผ่านหน้าสุดนภาแล้วก็หยุดมองอย่างตัดพ้อเพื่อน
ปฐวีแกะมือหนึ่งฤทัยออก หนึ่งฤทัยมองหน้าปฐวีอึ้งๆ
“ผมขอโทษครับ”
ปฐวีวิ่งตามตันหยงไป หนึ่งฤทัยทั้งอึ้งทั้งเสียใจ
ตันหยงวิ่งออกมาแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเดินไปด้วยความเสียใจ ปฐวีวิ่งตามมาจับตัวไว้ ทั้งสองหยุดมองหน้ากัน
“คุณมาหาผม”
“ชั้นไม่คิดว่าคุณอยู่กับหมอหนึ่ง”
ปฐวีหน้าเสียเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง ตันหยงรอฟัง แต่ปฐวีไม่อธิบายอะไร
“คุณไม่เคยคิดจะไปเยี่ยมชั้น แม้แต่ตอนที่ชั้นยังอยู่ที่โรงพยาบาล”
ปฐวีมองหน้าตันหยง
“เพราะคุณมีคู่หมั้นแล้ว”
ตันหยงเงียบก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินออกไป ปฐวีจะเรียกแต่ก็ไม่กล้า เขาได้แต่มองตาม ด้วยความเจ็บใจตัวเองที่พูดแบบนั้นออกไป
ตันหยงเดินมาที่รถ เธอหันไปมองบ้านประภัสสรแล้วก็เศร้าจึงเดินขึ้นไปนั่งบนรถ สุดนภาเดินมาด้วยความโกรธ นาวินวิ่งตาม
สุดนภาพูดเสียงต่ำ “ไม่ต้องมายุ่งกับชั้นเลย”
“อย่าโกรธผมสิ ใครจะไปรู้ว่าจะมาเร็วแบบนี้ กะว่าจะรีบมาดักรอก่อนไง”
“โทรศัพท์ก็มีทำไมไม่โทรบอกก่อน คุณทำชั้นหน้าแตก ทำเพื่อนชั้นเสียใจ รู้ไว้ด้วย”
สุดนภางอนแล้วขึ้นรถไปทันที นาวินยืนเกาหัวด้วยความเซ็ง รถแล่นออกไป ปฐวีมองตามตันหยง แต่ตันหยงไม่หันมามอง
ตันหยงเดินมานั่งที่เตียงเศร้าๆ สุดนภาเดินตามเข้ามา
“ชั้นขอโทษ ชั้นวุ่นวายเองหยง มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้”
“ชั้นไม่โทษแกหรอกบี๋ ความจริงมันผิดที่ชั้นเองนั่นแหละ”
“ไม่เอาน่า แกอย่างเพิ่งสรุปสิหยง ทุกอย่างมันยังไม่กระจ่างเลย”
“ชัดทุกอย่างแล้ว ชั้นไม่ควรคิดถึงเค้าอีก คนที่ชั้นควรคิดถึงให้มากคือพิราม ชั้นไม่ควรทำผิดต่อเค้า”
“หยง”
“บี๋ เราหยุดแค่นี้เถอะนะ พอได้แล้ว”
ตันหยงทำหน้าจะร้องไห้ สุดนภาเป็นเดือดเป็นร้อน
ปฐวีนั่งเครียด ในขณะที่นาวินกำลังโทรศัพท์หาสุดนภา แต่สุดนภาไม่ยอมรับ
“จะโกรธไปไหนเนี่ย ทำไมยังไม่ยอมรับสายอีก”
ปฐวีหันไปมองเพื่อน
นาวินยิ้ม “แต่เดี๋ยวก็คงหายโกรธแหละ ชั้นมีวิธี”
“เก่งจริงนะแก”
“เปล่า ชั้นไม่ได้เก่ง เรื่องบางเรื่อง มันไม่ต้องใช้วิชาการ หรือความรู้ชั้นเทพหรอก ก็แค่ทำตามความรู้สึกตัวเอง แล้วแกล่ะ คิดจะทำยังไง”
“แกจะให้ชั้นทำยังไง ในเมื่อเค้ามีคนคอยดูแลอยู่แล้ว”
นาวินพูดจริงจัง “เรื่องความรัก มันต้องใช้ความรู้สึก อย่ามัวแต่ใช้เหตุผล”
“เรื่องทุกอย่าง มันต้องมีเหตุผล”
ปฐวีนิ่งไม่ตอบแล้วเบือนหน้าออก นาวินมองแล้วบ่น
“โอ๊ย...ไอ้วีเอ๊ย รู้แต่เรื่องสมอง แต่ไม่รู้เรื่องหัวใจเล้ย...”
ปฐวีกำลังจะขึ้นรถไปทำงาน ปรงทองที่ใส่บาตรเสร็จแล้วเดินเข้ามา ปฐวีเดินเข้าไปหา
ปรงทองพูดกับเด็กรับใช้ “เจ้าส้ม เข้าไปก่อน ชั้นจะคุยกับหลานชั้น”
“คุณย่า”
“งานยุ่งมั้ยพ่อวี”
“ช่วงนี้ไม่ยุ่งแล้วครับ มีหมอใหม่มาช่วย หมอจากทุนมูลนิธิของคุณย่านั่นแหล่ะครับ”
“ดี จบกันมาเยอะๆ จะได้ออกมาช่วยเหลือคน ย่าชอบให้โอกาสคน เราเองก็เช่นกันนะเจ้าวี ให้โอกาสตัวเองบ้าง หาคนมาเป็นคู่คิด ย่าจะได้หมดห่วงสบายใจ”
ปฐวียิ้มให้ “ครับ คุณย่า ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
ปฐวีกำลังนั่งคิดถึงประโยคของปรงทอง จริญทิพย์เดินเข้ามาพร้อมกาแฟและแฟ้ม
“มาแล้วค่ะ กาแฟร้อนๆ ทิพย์แถมแซนวิชมาให้ด้วยนะคะ แล้วก็รายงานหมอฝึกใหม่ หมอรุ่นนี้หน้าตาเด็กลง ๆ นะคะ ไม่รู้อดนมกันรึยัง เอ๋ ..หรือว่าทิพย์แก่ขึ้นน๊า”
จริญทิพย์พูดไปเรื่อย ในขณะที่ปฐวีใจลอยไม่ตอบ
“อ้าว หมอวีขา หมอวี”
ปฐวีรู้สึกตัวมองจริญทิพย์
“ทิพย์พูดไปตั้งเยอะ หมอวีไม่ได้ฟังเลยหรือคะ ใจลอยไปไหนเนี่ย หมอวี”
ปฐวีสะดุ้ง “คุณทิพย์ว่าไงนะครับ”
“ตายแล้วหมอวี นายแพทย์ศัลยกรรมประสาท ห้ามมีอาการทางสมองนะคะ กลับมาอยู่กับทิพย์ก่อน เอ๊.. หรือจะเป็นอาการทางหัวใจ”
ปฐวีมองจริญทิพย์ดุๆ จริญทิพย์จ๋อยเดินออกมา
“ทิพย์เอาแฟ้มหมอฝึกใหม่มาให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
จริญทิพย์วางแฟ้มแล้วเดินออกไป ปฐวีมองตามแล้วส่ายหน้า
ตันหยงกับพิรามเดินมารอที่หน้าห้องตรวจ ตันหยงมองหาปฐวีแต่ก็ไม่เห็น พิรามสังเกตเห็นจึงถาม
“หยง มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ..เปล่าหรอกค่ะ”
พยาบาลเดินออกมา
“เชิญคุณตันหยงในห้องตรวจได้เลยค่ะ”
ตันหยงเดินตามพยาบาลเข้าห้องตรวจไป พิรามมองตามแล้วถอนหายใจ
หนึ่งฤทัยตรวจร่างกายให้ตันหยงเสร็จเรียบร้อย หนึ่งฤทัยเขียนบันทึกแล้วหันไปสั่งพยาบาล
“ตอนนี้ร่างกายคุณเป็นปกติดีแล้วนะคะ หมอสั่งยาบำรุงให้ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง” หนึ่งฤทัยพูดกับพยาบาล “ช่วยเอานี่ไปที่ห้องยาก่อน”
พยาบาลรับใบสั่งยาแล้วเดินออกไป หนึ่งฤทัยยิ้มให้ตันหยง
“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ อย่าลืมทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องนะคะ”
ตันหยงรู้สึกอึดอัด “ค่ะ เอ่อ หมอหนึ่งค่ะ หมอวีสบายดีมั้ยคะ”
หนึ่งฤทัยมองหน้าตันหยง
“ค่ะสบายดี ขอเวลาคุณซักครู่ได้มั้ยคะ”
“อะไรคะ” ตันหยงถาม
“เอ่อ...หนึ่งไม่ทราบว่าคุณกับวีรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เราสองคนรู้จักกันมาเกือบ 10 ปี หนึ่งผูกพันกับวีมาก หนึ่งอยากบอกให้คุณทราบตรงนี้”
ตันหยงนิ่งเพราะพูดไม่ออก
“คุณเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว คุณจะพัวพันกับวีทำไม”
ตันหยงอึกอัก “ชั้น...”
“หนึ่งกับวีคงไปได้ไม่ไกลกว่านี้ ถ้ายังมีคุณพัวพันวีอยู่ หนึ่งรักหมอวีมาก มากจนทนไม่ได้ ถ้าขาดหมอวีไป ขอร้องละนะคะคุณตันหยง อย่าทำให้วีต้องไม่สบายใจอีกเลย เห็นแก่ลูกผู้หญิงด้วยกันเถอะค่ะ รับปากหนึ่งนะคะ”
หนึ่งฤทัยมองตันหยงอย่างขอร้อง ตันหยงอึ้งเพราะแทบจะร้องไห้
ตันหยงเดินออกมาจากห้องโดยมีหนึ่งฤทัยเดินตามมาส่ง พอเห็นทั้งคู่ พิรามก็รีบเดินมารับ
“เรียบร้อยแล้วหรือครับ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกอย่างปกติดี” หนึ่งฤทัยบอก
“กลับกันเถอะค่ะ” ตันหยงพูด
พิรามมองตันหยง
“ครับ งั้นกลับกันเลย ผมขอตัวก่อนนะครับหมอหนึ่ง”
“ค่ะ ขอให้คุณทั้งสองคนโชคดีนะคะ”
ตันหยงเดินออกไปทันที พิรามมองอย่างแปลกใจแล้วเดินตามไป หนึ่งฤทัยทั้งโล่งใจทั้งละอายใจ
ตันหยงนั่งเฉย ส่วนพิรามมองตันหยงอย่างเป็นห่วง
“หยงตกลงใจเรื่องของเราหรือยังครับ”
“พิรามคะ หยง...”
“ผมดูฤกษ์แต่งงานของเราไว้แล้วนะครับ สองวัน ก่อนเดินทาง”
พิรามจ้องตันหยงรอคำตอบ ตันหยงนึกถึงคำพูดของหนึ่งฤทัย
“หนึ่งอยากจะขอร้องคุณ อย่ามายุ่งกับหมอวีอีก คุณก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว”
ตันหยงยิ้มเศร้าก่อนพูด
“เราเป็นคู่หมั้นกัน เราก็ควรจะแต่งงานกันใช่มั้ยคะ”
พิรามดีใจมาก
“ตกลงนะหยง หยงตกลงแล้วใช่มั้ย”
ตันหยงพยักหน้า “ค่ะ มันคงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด”
พิรามตื่นเต้น “ขอบคุณครับหยง ขอบคุณมาก”
พิรามกอดตันหยงไว้ด้วยความดีใจสุดขีด ตันหยงเศร้า
ปฐวีนั่งคุยโทรศัพท์กับนาวิน
“โทรมาทำไม นี่เวลางานแกไม่ใช่เหรอ” ปฐวีว่า
“เป็นห่วง อยากจะถามเรื่องแก ไปถึงไหนแล้ว คุยกับคุณตันหยงหรือยัง”
ปฐวีตอบทันที “ยัง”
“จะมัวรออะไรวะ”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 12/5 วันที่ 28 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager