@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ. 56

“อย่านะคะ คุณพี่อย่าโกรธคุณพ่อนะคะที่ท่านบังคับจิตใจน้องขนาดนั้น”
“ว่าไงนะ ท่านพระยาบังคับจิตใจน้องรำพึง”
“ค่ะ...น้องเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพ่อจะทำกับน้องกับคุณพี่ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่น้องเองก็พยายามหว่านล้อมทุกวิถีทาง แต่คุณพ่อก็ยังไม่มีคุณพี่อยู่ในสายตาซักนิดเลยจริงๆ”
ขุนไวอึ้ง เสียใจ รำพึงได้ทีก็เสี้ยมใหญ่

“น้องไม่เข้าใจจริงๆว่าชาติตระกูลของคนเรามันสำคัญอะไรนักหนา”



“ชาติตระกูล”
รำพึงพยักหน้า
“ค่ะ คุณพ่อเอาแต่ย้ำว่าขุนพิทักษ์เกิดในตระกูลเจ้าพระยาไม่เหมือนกับคุณพี่...ที่...เอ่อ”
ขุนไวฉุนมากแต่เสียงเย็น
“พอ! ไม่ต้องพูดต่อ พี่พอจะเข้าใจ”
รำพึงหน้าเสีย
“คุณพี่ไม่โกรธคุณพ่อหรอกเหรอคะ”
ขุนไวนิ่งซะจนรำพึงเดาไม่ถูก รำพึงอยากให้ขุนไวโกรธพระยาเทวราช รำพึงตัดสินใจปล่อยโฮโผซบขุนไวทันที
“น้องยอมให้คุณพ่อฆ่าน้องให้ตายซะดีกว่า ดีกว่าที่จะให้น้องต้องไปแต่งงานกับคนที่น้องไม่ได้รัก”
ขุนไวใจอ่อนยวบ รำพึงซัดอีกดอก
“น้องยอมตาย ถ้าชาตินี้น้องไม่ได้แต่งงานกับคุณพี่”
ขุนไวฮึด
“ไม่ต้องห่วง พี่เองก็ขอแค่ตาย หากชาตินี้ไม่ได้น้องรำพึงมาครอบครอง”
“คุณพี่เข้าใจน้องแล้วใช่มั้ยคะว่า น้องรักคุณพี่แต่ที่ต้องไปหาคุณหญิงมณีก็เพราะถูกคุณพ่อบังคับ”
“พี่เข้าใจ ท่านพระยาอยู่ไหน” ขุนไวถามทันที
รำพึงตกใจ
“เอ่อ..คุณพ่อไปสะสางงานราชการน่ะค่ะ คุณพี่มีอะไรเหรอคะ”
“พี่จะคุยกับท่านพระยาให้รู้เรื่อง”
“อย่านะคะ...เอ่ออย่าเพิ่งเลยนะคะ”
“จะรออะไร รอให้ไอ้ขุนพิทักษ์มันยกขันหมากมาสู่ขอน้องรำพึงของพี่ซะก่อนอย่างนั้นเรอะ”
“คือ...น้องจะลองหว่านล้อมคุณพ่ออีกซักครั้ง ถ้าท่านอ่อนลง น้องจะรีบบอกให้คุณพี่มาเจรจาทันที เผื่อทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น ดีมั้ยคะ”
“ไม่ดีหรอก”
รำพึงสะดุ้ง
“พี่ไม่อยากช้า ปล่อยไว้จะไม่ได้การ”
รำพึงจนแต้ม เพราะไม่อยากให้ขุนไวจู่โจมพระยาเทวราช แต่อยากให้ขุนพิทักษ์มาสู่ขอให้เรียบร้อยก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที รำพึงตัดสินใจใช้มารยาหญิงยั่วใส่ เริ่มลูบไล้ใบหน้าขุนไว
“คุณพี่คะ...ถ้าความใจร้อนของคุณพี่จะทำให้น้องฝันสลาย ฝันที่จะได้อยู่กินกับคุณพี่...แล้วนี่น้องจะทำยังไงดี”
ขุนไวอ่อนลง มือไม้รำพึงยังลูบไล้ไปทั่ว
“มีทางไหนที่น้องจะทำให้ความร้อนของคุณพี่เบาลงได้บ้างมั้ยคะ”

รำพึงส่งสายตาเย้ายวน ขุนไวไฟลุกพรึ่บ ลืมเรื่องทุกอย่างหมด ก่อนถาโถมตัวใส่ รำพึงโล่งอกที่ดึงเวลาเกมนี้ออกไปได้อีกหน่อย
เย็นวันเดียวกัน ขุนพิทักษ์ทรุดลงข้างคุณหญิงมณี
“ลูกขอร้องนะขอรับคุณแม่ ขอให้คุณแม่เห็นใจลูกบ้าง ลูกรับปากว่าลูกจะตั้งใจรับราชการ สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลของเรา ขอพียงอย่างเดียว ขอให้ลูกได้อยู่กินกับคนที่ลูกรัก”
คุณหญิงมณีถอนใจ
“อย่างเดียวของเจ้านั่นแหละที่จะทำให้เจ้าต้องสูญเสียทุกๆอย่างที่เจ้าพูดมาทั้งหมด ไม่ว่าจะการรับราชการ หรือการสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล”
“คุณแม่...คุณแม่หมายความว่า”
“ใช่ ถึงยังไง ผู้หญิงที่เจ้าจะต้องแต่งงานด้วยก็คือหนูรำพึง”
“คุณแม่!”
“ผลแห่งการทำอะไรไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อนในที่สุดก็ต้องมาเดือดร้อนภายหลังอย่างนี้”
“แต่...ผม ผมไม่ได้...”
“ลูกผู้ชายนะขุนพิทักษ์ ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ในเมื่อกล้าทำก็ต้องกล้ารับ หากเราโยนความผิดให้ผู้หญิง แม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ผู้คนเขาจะก่นด่าเจ้าลับหลังว่าอย่างไรบ้าง หวังว่าเจ้าคงจะรู้ คาดเดาได้ไม่ยาก”
คุณหญิงพูดพลางถอนใจ เช่นเดียวกับขุนพิทักษ์ที่ถอนใจอย่างเคร่งเครียด
“พรุ่งนี้แม่จะไปขอฤกษ์จากพระ เจ้าควรจะไปกับ...”
ขุนพิทักษ์พูดทันที
“ไม่ขอรับ ลูกไม่ไป”
ขุนพิทักษ์ลุกพรวดออกไปทันที ปล่อยให้คุณหญิงมณีมองตามอย่างอ่อนใจ
“นังแจ่ม”
“เจ้าขา”
“เรื่องที่ข้าวานให้เจ้าไปคุยกับนังชุ่ม ว่าไง เรียบร้อยมั้ย”
“เจ้าค่ะ...เรียบร้อยเจ้าค่ะ”
คุณหญิงมณีพยักหน้าหงึกๆบอก
“นังชุ่มเอ๋ย...น่าเวทนาจริงๆ”

ขุนพิทักษ์เดินดุ่มๆ มาอย่างหงุดหงิดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างอารมณ์เสียสุดๆ
“เห็นข้าเป็นอะไร ทำไมต้องมาบังคับจิตใจกันขนาดนี้ ... หึ้ย”
ขุนพิทักษ์ทุบมือเปรี้ยงลงกับพื้น ชุ่มเอื้อมมาจับมือขุนพิทักษ์
“เจ็บมั้ยเจ้าคะ”
“ชุ่ม”
ชุ่มกุมมือขุนพิทักษ์ไว้
“อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย ถ้าท่านเจ็บ ข้าก็เจ็บด้วย”
ขุนพิทักษ์อึ้ง
“และถ้าท่านมีความสุข ข้าก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน”
“ชุ่ม...เจ้าพูดจาอะไรของเจ้า ที่เจ้าพูดหมายความว่ายังไง”
“แต่งงานกับคุณรำพึงเถอะ”
ขุนพิทักษ์ตกใจ
“ชุ่ม! เจ้าพูดอะไรออกมา นี่เจ้ายังสติดีอยู่รึเปล่า”
“ก็เพราะข้ามีสติน่ะสิ ข้าถึงอยากให้ท่านทำในสิ่งที่สมควร”
“ใคร ใครบังคับเจ้าให้มาพูดกับข้าแบบนี้ แม่ข้าใช่มั้ย”
ชุ่มหลบตาบอก
“ไม่ใช่...แต่ข้าอยากให้ท่านกตัญญูต่อคุณหญิง อย่าทำให้คุณหญิงต้องไม่สบายใจ ข้าเองก็เหมือนกัน ชีวิตนี้ถ้ามีอะไรที่จะแสดงความกตัญญูต่อคุณหญิงได้ ข้าก็ยินดี”
ขุนพิทักษ์อึ้งไป
“ชุ่ม...”
“ถึงท่านจะรักข้ามากแค่ไหน แต่ทาสอย่างข้าก็ไม่มีวาสนาจะคู่ควรกับท่าน ขอให้ข้าได้อยู่รับใช้ท่านอย่างเจียมตน เท่านี้..ข้าก็ยินดีแล้ว”
ขุนพิทักษ์อึ้งมองหน้าชุ่ม
“และข้าจะยิ่งดีใจ ถ้าได้เห็นท่านเจริญก้าวหน้าเป็นที่นับหน้าถือตาของคน ทั่วไป ไม่ใช่ต้องมาตกต่ำ เพราะมีข้าเป็นตัวถ่วงความเจริญ”
“ชุ่ม”
ขุนพิทักษ์รวบตัวชุ่มมากอดแน่น ชุ่มพูดทั้งน้ำตาหยด โดยที่ขุนพิทักษ์มองไม่เห็นเพราะกอดอยู่
“แต่งงานกับคุณรำพึงเถอะนะ”
ขุนพิทักษ์เศร้าใจเหลือเกิน แต่ยังกอดชุ่มแน่น ชุ่มเศร้าใจยิ่งกว่า กลืนสะอื้นไว้แน่น มีแต่น้ำตาที่หยด

คืนนั้น ภายในห้องนอน รำพึงขัดถูผิวด้วยความรังเกียจขุนไวอย่างหงุดหงิด

“หึ้ยๆๆ”
“โชคดีนะเจ้าคะที่ขุนไวกลับไปก่อนท่านพระยาจะกลับมาพอดี๊ เฮ้อ! เส้นยาแดงผ่าแปด อกอีจวงจะระเบิด” รำพึงแว๊ดใส่
“อย่าเอ่ยชื่อไอ้ขุนไวให้ข้าได้ยินอีก..จะอ้วก!”
“เอ่อ...อ้าว...แต่ตะกี้คุณรำพึงเพิ่งจะ...”
“หุบปาก! หุบเองได้มั้ย หรือจะต้องให้ข้าช่วย”

จวงหุบปากแน่นทันที
“ไม่ต้องเจ้าค่ะ หุบเองได้เจ้าค่ะ”
รำพึงเลิกขัดผิว จวงเข้าช่วยเช็ดถู ก่อนจะคันปากอีกจนได้
“คุณรำพึงเจ้าขา อย่าหาว่าจวงสาระแนเลยนะเจ้าคะ แต่จวงอยากรู้ตื้นลึกหนาบาง เพื่อจะคอยช่วยเหลือทูนหัวของบ่าว ตกลงคุณรำพึงจะแต่งงานกับใครแน่เจ้าคะ ระหว่าง ขุนพิทักษ์ กับขุนไว”
“เชอะ นี่น่ะเรอะยกข้าเป็นทูนหัว เรื่องแค่นี้เอ็งก็ยังเดาใจข้าไม่ออก มันน่าจับไปโบยให้หายโง่”
“ฮั่นแน่! หน้าอย่างนี้ เสียงอย่างนี้ มีรึจวงจะไม่รู้ใจ ร้อยเอาขี้หมากองเดียว..ขุนพิทักษ์ใช่มั้ยเจ้าคะ”
รำพึงยิ้ม แต่ไม่ตอบ จวงยิ้มหน้าบาน
“ใช่แน่ ต้องขุนพิทักษ์แน่ๆ ทูนหัวจะแต่งงานกับขุนพิทักษ์ แต่เมื่อตะกี้...ทำไม...”
รำพึงตวัดสายตาเฉียบพิฆาต
“หุบปากเจ้าค่ะ...หุบปาก ” จวงหุบปากแน่น
“ดีมาก ถ้ายังอยากมีเงาหัวก็จงหุบปากไว้ให้แน่น..นังจวง”
พูดจบ รำพึงก็เชิดหน้า นึกถึงขุนพิทักษ์ ตาวาวหวาน จวงอดสงสัยไม่ได้ รำพึงมองตัวเองในกระจก พูดลอยๆ กับตัวเอง
“สวยเลอเลิศขนาดนี้ ให้มันรู้ไปสิว่าข้าจะต้องพ่ายแพ้แก่นังชุ่ม นังทาสชั้นต่ำ”

เช้าวันใหม่ ที่กุฏิ หลวงตามั่นค่อยๆลืมตาขึ้น คุณหญิงมณีรีบถาม
“เห็นเป็นอย่างไรเจ้าคะ มีฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่บ้าง”
หลวงตามั่นยังนิ่ง
“หลวงพ่อเจ้าคะ”
หลวงตามั่นพูดอย่างมีมารยาท
“รออีกซักนิดไม่ได้เรอะ”
“อิฉันก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น แต่ดูเหมือนทุกอย่างมันเร่งรัดให้รอไม่ได้จริง ๆ เจ้าค่ะ”
หลวงตามั่นพยักหน้าน้อยๆบอก
“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทุกอย่างมันคงถูกกำหนดไว้แล้วจริงๆ”
“หลวงพ่อ” คุณหญิงมณีชักใจเสีย
“ฤกษ์ดีในที่นี้คงจะได้แก่ฤกษ์สะดวก หากโยมเห็นว่าสะดวกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ลำพังฤกษ์ผานาทีเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ขอให้คิดดีปฏิบัติดีด้วย กิจนั้นจึงจะสำเร็จสมความปราถนา”
“เจ้าค่ะ อิฉันจะนำคติธรรมนี้ไปปฏิบัติให้เป็นผล”
คุณหญิงมณีก้มกราบ
“เจริญพร...โยม”
หลวงตามั่นมองอย่างเมตตา คุณหญิงมณีปลงและทำใจ

วันใหม่ จวงวิ่งเร็วจี๋มาเคาะประตูห้องรำพึงอย่างรัว
“คุณรำพึงเจ้าคะ เรื่องด่วนเจ้าค่ะ เปิดประตูเถอะเจ้าค่ะ ทูนหัวของบ่าว”
จวงจะเคาะประตูอีก รำพึงเปิดผลัวะ จวงชะงักกึก
“นังจวงใครตาย ญาติแกฝ่ายไหน”
จวงหอบแฮ่กๆ พลางยิ้มบอก
“ไม่เจ้าค่ะ ไม่เกี่ยวญาติจวง... แต่เกี่ยวกับทูนหัวของจวง”
“อย่ามายอกย้อน มีอะไรก็รีบว่ามา”
“คุณหญิงมณีเจ้าค่ะ คุณหญิงมณีมาขอพบท่านพระยา”
“เจ้าว่าไงนะ”
จวงยิ้มเผล่
“ที่สำคัญไม่ใช่คุณหญิงมณีคนเดียว...ท่านขุนพิทักษ์ก็มาด้วย”
รำพึงยิ้มแฉ่ง
“คุณพี่!”
รำพึงพรวดออกไป จวงหน้าเหวอ..
“อ้าว...บ่าวยังไม่ได้ชวนเลย ทูนหัวก็พุ่งไปซะแล้ว ฮิๆๆ เฮ่ย แล้วจะอยู่ทำไรละนังบ่าว”
จวงพุ่งออกไปตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พระยาเทวราชนั่งอยู่กับคุณหญิงมณี ขุนพิทักษ์ มีแจ่มอยู่ใกล้ ๆ
“มาเร็วกว่าที่คิด นับว่าคุณหญิงมณียังเห็นข้าอยู่ในสายตา”
“พูดอะไรอย่างนั้นคะท่านพระยา ดิฉันเคราพในเกียรติของท่านเสมอ แล้วก็เห็นสมควรกับการทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจ ว่าแต่ขุนพิทักษ์เถอะไหงทำหน้าตาแบกทุกข์ซะขนาดนั้น”
ขุนพิทักษ์ไม่รู้จะพูดอะไร รำพึงโผล่มากับจวงพอดี
“อ้าว..ลูกสาวข้ามานู่นแล้ว”
“กราบสวัสดีคุณหญิงป้า กราบสวัสดีคุณพี่ค่ะ”
“รำพึง...คุณหญิงมณีมาทาบทามสู่ขอเจ้าให้กับขุนพิทักษ์”

รำพึงหน้าบาน
“ป้าคิดว่าหนูรำพึงคงไม่มีอะไรขัดข้อง”
รำพึงไว้ตัวนิดนึงบอก
“สุดแล้วแต่คุณพ่อค่ะคุณหญิงป้า”
ขุนพิทักษ์แอบเซ็ง
“ในเมื่อทุกคนเห็นดีเห็นงาม ข้าก็เห็นดีด้วย ขุนพิทักษ์ ข้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว ข้าหวังว่าเจ้าจะรักและดูแลลูกสาวข้าเป็นอย่างดี”
ขุนพิทักษ์นิ่ง รำพึงมอง
“ว่าไง”
คุณหญิงมณีมองขุนพิทักษ์
“ขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้จัดพิธีแต่งงานให้สมศักดิ์ศรีและรวดเร็วที่สุด”
ขุนพิทักษ์หน้าเศร้า รำพึงดีใจและสะใจที่สุด

ที่มุมหนึ่งในเรือนพระยาเทวราช รำพึงกราบเท้าพ่อ
“ลูกขอกราบขอบพระคุณคุณพ่อที่รักและเมตตาลูกตลอดมา”
พระยาเทวราชหน้าเชิดบอก
“ข้าจำเป็นต้องรักษาเกียรติยศของข้าไว้ไม่ให้ป่นปี้เป็นครั้งที่ 2ต่างหาก”
รำพึงอึ้ง ก่อนจะสงบสติอารมณ์ แล้วเปลี่ยนเรื่อง
“แต่...คุณพ่อคะ ถ้าขุนไวรู้เรื่องนี้ เข้า”
จวงหูผึ่งทันที พระยาเทวราชคิดตาม รำพึงถอนใจแล้วพูดต่อ
“ถ้าขุนไวรู้ว่าลูกจะแต่งงานกับขุนพิทักษ์มีหวังขุนไวคงจะมาก่อเรื่องกลางงานให้ชาวบ้านได้ร่ำลือไปทั่วแน่ๆ”
พระยาเทวราชเห็นด้วย
“อืม...คนอย่างขุนไวก็เลือดร้อนไม่ใช่เล่น”
“โธ่! แล้วอย่างนี้เกียรติยศศักดิ์ศรีของคุณพ่อต้องมาป่นปี้เพราะขุนไวเหรอคะเนี่ย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วง ก็เพราะเจ้านั่นล่ะ ไม่คิดรักศักดิ์ศรี เรื่องราวมันถึงวุ่นวายแบบนี้ เลือดแม่มันแรงจริง ๆ”
รำพึงโกรธวาบ แต่ทนเก็บไว้
“คุณพ่อจะทำอย่างไรกับขุนไวคะ”
“ข้าคิดไว้แล้ว ถ้าข้าไม่เฉลียวฉลาด ข้าคงไม่ได้เป็นถึงพระยาเทวราชหรอก”
รำพึงเบื่อจะฟังแต่จำต้องยิ้มแย้มเยินยอ
“ค่ะ..คุณพ่อของลูกเก่งกาจเกินจะหาใครมาเทียบได้”
พระยาเทวราชเมินหน้าไปแล้วคิดถึงขุนไว รำพึงสีหน้าบอกว่า จะรอดู

รำพึงเปิดประตูห้องนอนพรวดเข้ามาแล้วปิดปัง! ด้วยความแค้น
“เก่งนักเหรอ กดขี่แม่ข้า แล้วยังลงมือฆ่าแม่ของข้าได้ลงคอ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเก่งเหรอท่านพ่อ คนเก่งจริงน่ะเค้าไม่ต้องไปไล่ฆ่าใครให้เหนื่อยหรอกค่ะ เพียงแต่นั่งรอ นอนรอ รอดูไอ้พวกไม่เก่งจริงมันฆ่ากันเอง”
รำพึงค่อยๆ นั่งอย่างสบายใจบนเตียง รำพึงยิ้มสะใจ

ผ่านเวลามา หลายวัน ขุนไวอ่าน จ.ม. คำสั่งแล้วงง
“นี่มันอะไรกัน จู่ๆ ก็มีคำสั่งให้ข้าไปตรวจราชการที่นอกเมืองพรุ่งนี้โดยไม่ มีกำหนดกลับ มีใครได้รับคำสั่งนี้อีกบ้างนอกจากข้า”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager