อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/3 วันที่ 21 ก.พ. 56
“เจ้าคุณพ่อ...เจ้าคุณพ่อ”“ผีท่านพระยา !”
จวงโพล่งแล้วกระโดดไปหลบหลังรำพึงทันที ยกมือไหว้ปะหลกๆ ด้วยความหวาดกลัว ทั้งที่ไม่เห็นอะไร
“หนูรำพึง ใจเย็นๆ ก่อนนะ ดูให้ดีๆสิ ไม่มีอะไรสักหน่อย” คุณหญิงมณีบอก
รำพึงค่อยๆ เปิดหน้าดู ไม่เห็นผีท่านพระยาแล้ว รำพึงทำหน้าเหวอ
“รำพึงกราบขอโทษเจ้าค่ะที่ทำให้ตกใจ...โอ๊ย...รำพึงเวียนหัวเหลือเกินค่ะ”
รำพึงสบตากับจวง จวงเข้าใจรับลูกต่อทันที
“โถๆๆ ทูนหัวของบ่าวเตรียมงานอยู่ทั้งวัน ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน จะไม่ให้เหน็ดเหนื่อยจนตาฟ่าฟางได้ยังไงล่ะเจ้าคะ”
“หนูรำพึงไปพักผ่อนเถอะ งานทางนี้เดี๋ยวแม่ดูแลเอง”
“แต่รำพึงอยากตอบแทนบุญคุณเจ้าคุณพ่อ”
“ดูแลรักษาตัวเองก่อนเถอะ ถ้าขืนหนูรำพึงเป็นอะไรไปอีกคน วิญญาณท่านพระยาจะนอนตายตาไม่หลับ พ่อพิทักษ์พาน้องไปพักก่อนเถอะ แล้วอยู่ดูแลน้องด้วยนะ “
ขุนพิทักษ์ไม่อยากทำ คุณหญิงมณีเสียงเข้ม
“พ่อพิทักษ์”
ขุนพิทักษ์จำใจประคองรำพึง
รำพึงเหลียวกลับมามองโกศพระยาเทวราชอย่างหวาดกลัวแล้วถึงเดินออกไปกับขุนพิทักษ์ จวงจะตามไปด้วย แต่รำพึงมองจวงตาเขียว จวงรู้ตัว
“บ่าวอยู่ช่วยงานคุณหญิงกับน้าแจ่มดีกว่า”
“ผีเข้าเหรอ ถึงขยันขึ้นมาซะอย่างงั้น” แจ่มถาม
จวงลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ
หลวงตามั่นและคณะพระสงฆ์สวดจบ คุณหญิงและแขกผู้ใหญ่ประเคนของถวาย
“โยมรำพึงไปไหนเสียล่ะ”
“ไม่สบายเจ้าค่ะก็เลยให้เข้าไปพักผ่อน น่าสงสารนะเจ้าคะ เพิ่งจะออกเรือนแท้ๆ แต่ต้องมาเสียพ่อ”
“มันเป็นวิบากกรรมที่เขาต้องได้รับ”
หลวงตามั่นมองไปทางโกศของท่านพระยาเหมือนจะรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น
ภายในครัว จวงเทผงม้าเสพนางใส่ลงในขันน้ำ
“เป็นบุญของคุณรำพึงที่มีบ่าวฉลาดอย่างนังจวง อุตส่าห์เตรียมผงม้าเสพนางเผื่อไว้ให้”
จวงคนผงเสพนางในขันน้ำแล้วหัวเราะคิกคัก
ภายในห้องนอน เรือนพระยาเทวราช รำพึงนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง ขุนพิทักษ์ป้อนน้ำรำพึงยิ้มมีความสุข แต่ปั้นหน้าเศร้า
“คืนนี้คุณพี่นอนกับน้องที่นี่นะคะ น้องไม่มีแรงกลับเรือน”
“ไม่ได้ พี่มีงานต้องทำ”
“มีงาน หรืออยากกลับไปนอนกกนังชุ่มกันแน่”
“ทั้งสองอย่าง”
“แต่คุณแม่สั่งให้คุณพี่อยู่ดูแลน้อง คุณพี่กล้าขัดคำสั่งคุณแม่หรือคะ”
“พี่อยู่ดูแลเจ้าตั้งแต่พระเริ่มสวด จนตอนนี้แขกกลับหมด พี่ถือว่าพี่ทำตามคำสั่งคุณแม่แล้ว”
ขุนพิทักษ์จะออกไปจากห้อง รำพึงลุกตามไปขวางประตู
“น้องไม่ให้คุณพี่ไป ! คุณพี่ต้องอยู่กับน้องที่นี่”
ขุนพิทักษ์มองแล้วบอก
“พี่ว่าเจ้าน่าจะมีแรงกลับเรือนได้แล้วล่ะมั้ง”
รำพึงอึ้ง เสียรู้ ทำอะไรไม่ถูกเลยบีบน้ำตาซะเลย
“น้องอยากให้คุณพี่อยู่กับน้อง เจ้าคุณพ่อตายไป น้องก็ไม่เหลือใครแล้ว ชีวิตน้องมีแต่คุณพี่เท่านั้น แต่คุณพี่กลับไม่สนใจไยดีน้องเลย ตอนนี้ใครต่อใครพากันพูดเรื่องคุณพี่หลงเมียทาส น้องอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คุณพี่ไม่สงสารน้องบ้างหรือคะ”
ขุนพิทักษ์นิ่งคิด
“นั่นสิ”
รำพึงยิ้มดีใจ
“พี่ควรจะยกชุ่มให้เป็นเมียพี่อย่างสมเกียรติ เมื่อชุ่มไม่เป็นทาสแล้ว ใครต่อใครจะได้เลิกพูดว่าพี่หลงเมียทาส”
รำพึงปรี๊ดบอก
“ไม่ได้ ! น้องไม่ยอมให้คุณพี่ยกย่องเชิดชูมันเสมอน้อง”
“แล้วเจ้าจะทำอะไรพี่ จะฟ้องท่านพระยารึ”
รำพึงพูดไม่ออก ขุนพิทักษ์กระตุกยิ้มยียวนแล้วเดินออกไปจากห้อง ชนกับจวงที่ถือขันน้ำมาพอดี ขันน้ำตกพื้น
“ว้าย ! ตก หมดกัน”
ขุนพิทักษ์เดินออกไป รำพึงร้องกรี๊ดด้วยความโมโหแล้วปาข้าวของกระจาย
“คุณรำพึง เป็นอะไรไปเจ้าคะทูนหัวของบ่าว”
“คุณพี่จะยกนังชุ่มขึ้นเสมอข้า ข้าเกลียดมัน เกลียดๆๆ”
รำพึงปาข้าวของระบายอารมณ์ จวงหลบเป็นพัลวัน
“นังชุ่มมันร้ายนัก ที่ท่านขุนหลงมันถึงเพียงนี้ เพราะมันต้องทำของใส่ท่านขุนแน่ๆเจ้าค่ะ”
รำพึงชะงัก
“ทำของเหรอ!”
รำพึงฉุกคิดถึงคำพูดของพระยาเทวราช
“แม่ของเจ้าเป็นแค่ทาสคนนึง แต่มักใหญ่ใฝ่สูงไม่เจียมตัว บังอาจใช้เล่ห์เพทุบาย ใช้คุณไสยทำเสน่ห์ใส่ข้าจนข้าลุ่มหลงมันจนหน้ามืดตามัว”
รำพึงอึ้ง พูดเบาๆ
“คุณไสย”
รำพึงปาดน้ำตา แววตาร้าย
“ข้าไม่มีวันแพ้นังชุ่ม คุณพี่ต้องเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น”
“คุณรำพึงคิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ”
“ในเมื่อนังชุ่มมันทำของใส่คุณพี่ได้ แล้วทำไมข้าจะทำบ้างไม่ได้ นังจวง...เอ็งต้องช่วยข้า !”
บริเวณทางเดินแถวหน้าเรือนหมอไสย์ เวลากลางคืนวันเดียวกัน ก้อนเมฆลอยบดบังพระจันทร์ รำพึงกับจวงมีผ้าคลุมหัวเดินมาด้วยกัน จวงมองซ้ายมองขวากลัวผี แต่รำพึงไม่กลัว
“ทูนหัวของบ่าว...ทำไม๊ทำไมจะต้องใจร้อนมาตอนนี้ด้วย น่าจะรอให้ฟ้าสว่างก่อนนะเจ้าคะ คือว่า..จวงกลัวผีน่ะเจ้าค่ะ”
“หุบปากได้แล้วนังจวง ถ้าไอ้หมอผีคนนี้ไม่เก่งอย่างที่เอ็งคุย เอ็งได้กลายเป็นผีแน่”
“เก่งสิเจ้าคะ...บ่าวเอาหัวเป็นประกัน เพราะพี่สาวของบ่าวทำมากับมือ อู้ย ทั้งๆที่ความสวยของมันสู้บ่าวไม่ได้สักนิด อ้วนก็อ้วน ดำก็ดำ โอ่ย...หัวกะไดไม่แห้ง ผู้ชายรุมตอมกันหึ่งเลยเจ้าค่ะ”
“ดี ขอให้คุณพี่เป็นของข้าคนเดียว จะต้องแลกด้วยอะไร ข้ายอมทั้งนั้น”
จวงกับรำพึงเดินมาถึงหน้าเรือนหมอไสย์ ซึ่งเป็นลักษณะเรือนไม้ชั้นเดียวหลังเล็ก ตั้งอยู่กลางป่า
“ถึงแล้วเจ้าค่ะ” จวงบอกพลางตะโกนเรียก
“พ่อหมอ พ่อหมอจ๊ะ”
ประตูเปิดออกเอง...เอี๊ยด!
จวงกับรำพึงสะดุ้ง เสียงหมอไสย์ดังบอก
“เข้ามา”
รำพึงกับจวงมองหน้ากันอย่างกลัวๆ แต่ก็เดินเข้าไป
หมอไสย์นั่งอยู่หน้าหิ้งตั้งเครื่องรางของขลัง ก้มหน้าตำหมากในครกไม่สนใจรำพึงกับจวง รำพึงกับจวงมองหน้ากัน รำพึงพยักพเยิดให้จวงเรียกหมอไสย์
จวงเรียกเสียงหวาน
“พ่อหมอ พ่อหมอ”
หมอไสย์หลับตาทำปากขมุบขมิบท่องคาถายังไม่สนใจ แล้วเป่าเบาๆ ไปที่กระด้งที่วางอยู่ข้างตัว จู่ๆ หนอนจำนวนมากก็ปรากฏอยู่บนกระด้ง รำพึงกับจวงตาโตตกใจ
หมอไสย์หยิบหนอนใส่ครก ตำสองสามครั้ง แล้วควักของในครกเข้าปากเคี้ยวแทนหมาก รำพึงกับจวงผงะ
รำพึงร้อง “อี๋!”
หมอไสย์เงยหน้าหัวเราะหึๆ
“อาคมของข้าแกร่งกล้าเพราะพวกมัน เมื่อข้าทำให้ผัวของเจ้ากลับมารักมาหลงเจ้าได้สำเร็จ เจ้าจะเป็นหนี้บุญคุณพวกมัน”
จวงตื่นเต้น
“พ่อหมอรู้ได้อย่างไรจ๊ะ ว่าคุณรำพึงจะมาทำเสน่ห์”
“ผู้หญิงที่ดั้นด้นมาหาข้าถึงที่นี่ ในเวลานี้มีเรื่องทุกข์ใจอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น”
“แล้วพ่อหมอช่วยข้าได้หรือเปล่า”
“ขึ้นอยู่กับเจ้าไม่ใช่ข้า…”
หมอไสย์มองรำพึงอย่างท้าทาย รำพึงจ้องหมอไสย์กลับอย่างไม่หวั่นเกรงเลยสักนิด
รำพึงดันจวงออกมาจากห้องแล้วสั่ง
“จวง เอ็งออกรอข้างนอกนี่”
“จะดีหรือเจ้าคะ ทูนหัวของบ่าวต้องทำพิธีกับพ่อหมอตามลำพัง มันไม่งามนะเจ้าคะ”
“ข้าบอกแล้วไง ขอแค่ทำให้คุณพี่กลับมาเป็นของข้า ให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม รออยู่นี่”
“เจ้าค่ะ”
รำพึงเดินกลับเข้าเรือนไป จวงมองไปรอบๆ หวาดกลัว
“เอาวะ อยู่ใกล้หมอผี ผีจะกล้าโผล่มาหลอกก็ให้มันรู้ไป”
ทันใดนั้นเสียงหมาหอนดังขึ้น จวงกรีดเสียงลั่นด้วยความตกใจ หลับตาพนมมือไหว้ปะหลกๆ
“แอร๊ย ! คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกช้างด้วย ลูกช้างยังไม่อยากหัวโกร๋น ลูกช้างยังหาผัวไม่ได้”
ภายในเรือนหมอไสยศาสตร์ หมอยกโถกระเบื้องที่ตั้งอยู่บนหิ้งมาวางตรงหน้าคู่กับพานวางซึ่งวางใบกาหลง หมอไสย์เปิดฝาโถออก รำพึงผงะเพราะกลิ่นหอมแปลกๆ
“อะไร”
“น้ำมันจันทน์มหาเสน่ห์ ข้าจะใช้ใบกาหลงชุบน้ำมันชโลมทั่วตัวเจ้า”
รำพึงตกใจ
“ทั่วตัว หมายความว่าข้า...”
“น้ำมันจันทน์จะทำให้เรือนร่างเจ้าหอมหวน ผัวเจ้าจะเกิดความรักใคร่ใหลหลงเจ้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น เขาจะลืมผู้หญิงทุกคน ชีวิตของเขาจะมีแต่เจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น”
รำพึงคิดตาม แล้วตัดสินใจ
“ถ้าไม่ได้ผล ข้าจะกลับมาเอาคืนท่านให้สาสม”
รำพึงหันหลังให้หมอไสย์แล้วปลดผ้านุ่งออก ผ้านุ่งของรำพึงหล่นกองแทบเท้า หมอไสย์มองเรือนร่างเปลือยเปล่าของรำพึงอย่างพึงพอใจ แล้วหลับตาทำปากขมุบขมิบ บริกรรมคาถาน้ำมันจันทน์ในโถเดือดปุดๆ
หมอไสย์นำใบกาหลงชุบลงไปในน้ำมันจันทน์
“นึกถึงผัวเจ้าไว้ นึกถึงความสุขที่เจ้าจะได้รับจากเขา”
หมอไสย์ทาน้ำมันบนใบกาหลงลงไปบนแผ่นหลังของรำพึง ลูบไล้ไปมาบนเรือนร่าง พร้อมกับบริกรรมคาถา
รำพึงหลับตานึกถึงขุนพิทักษ์
รำพึงเคลิบเคลิ้มจากสัมผัสของหมอไสย์ที่ลูบไล้ใบกาหลงไปทั่วหลัง
ระหว่างที่นึกถึงช่วงที่ขุนพิทักษ์มีอะไรกับรำพึง จู่ๆ ก็มีภาพระหว่างรำพึงกับขุนไวเข้ามา รำพึงนิ่วหน้าทั้งที่ยังหลับตา พูดเตือนตัวเอง
“ผัวข้าคือคุณพี่พิทักษ์ผู้เดียวเท่านั้น”
หมอไสย์ได้ยินก็กระตุกยิ้ม แล้วบริกรรมคาถาต่อ รำพึงหลับตาพริ้ม ขยับร่างไปมาเล็กน้อย เคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่จินตนาการอยู่ ท่ามกลางเรือนหมอไสย์ที่มีทั้งโถน้ำมันจันทน์ หัวกะโหลก กุมารทอง เทียนดำบนหิ้งดูน่ากลัว
คืนเดียวกัน ภายในห้องนอน ชุ่มสะดุ้งตื่น
“ท่านขุน !”
ขุนพิทักษ์นอนอยู่ข้างชุ่มตื่นขึ้นมาเห็นชุ่มน้ำตานองหน้า
“ชุ่ม เจ้าเป็นอะไร”
“ข้าฝันร้าย ข้าฝันเห็นท่านตกลงไปในแม่น้ำสีเลือด แล้วท่านก็ถูกน้ำพลัดหายไปจากข้า”
ชุ่มกอดขุนพิทักษ์แน่นและพูดอย่างเอ็นดู
“เจ้าทำตัวเหมือนเด็กเสียจริง เก็บเอาความฝันมาคิดเป็นตุเป็นตะ”
ขุนพิทักษ์ประคองหน้าชุ่ม
“เอ้า...ร้องไห้เข้าไป หรืออยากจะอ้อนให้ข้าโอ๋”
“ยังจะพูดเล่นอีก ข้าใจไม่ดีจริงๆ นะเจ้าคะ ข้าสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับท่านขุน”
ชุ่มนึกถึงช่วงที่หลวงตามั่นให้แหวนพิรอดแก่ชุ่มจึงถามขุนพิทักษ์
“แหวนพิรอดที่ข้าเคยให้ท่านขุนอยู่ไหนเจ้าคะ”
“ข้าเก็บไว้ที่ห้องหอ”
ชุ่มรีบบอกขุนพิทักษ์
“ท่านขุนกลับไปห้องนะเจ้าคะ ไปใส่แหวน ข้าขอร้อง”
“ชุ่ม ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”
“ถ้าเป็นล่ะเจ้าคะ ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร”
ขุนพิทักษ์มองรำพึงด้วยความรัก แล้วจูบหน้าผากชุ่ม
“ถ้าข้ากลับไปห้องหอ รำพึงต้องดึงตัวข้าไว้ แล้วถ้าข้าไม่ได้กลับมาล่ะเอ็งจะอยู่ยังไง”
“ข้าจะอยู่อย่างคนที่รักท่าน ไม่ว่าท่านจะอยู่กับใครก็ตาม ไปนะเจ้าคะ ไปใส่แหวน”
“ก็ได้ ก็ได้ ข้าไปเอาแหวนเพื่อให้เจ้าสบายใจก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วงว่าข้าจะไม่กลับมา เพราะไม่มีใครรั้งตัวข้าไว้ได้นอกจากเอ็งคนเดียว”
ขุนพิทักษ์ออกไปจากห้อง ชุ่มมีสีหน้าไม่สบายใจ
ขุนพิทักษ์เดินมาจากทางห้องตัวเองเดินผ่านห้องโถงกลางเห็นรำพึงนอนสลบอยู่บนพื้นใกล้ประตู
“รำพึง”
ขุนพิทักษ์มองร่างรำพึงอย่างตัดสินใจ แล้วย่อตัวช้อนร่างรำพึงขึ้น ใบหน้าขุนพิทักษ์เข้าใกล้หน้า รำพึงลืมตา ยิ้มร้ายนึกถึงที่หมอไสย์บอก
บริเวณเรือนหมอไสย์ ร่างอันเปลือยเปล่าของรำพึง บริเวณไหล่เปื้อนน้ำมันจันทน์มหาเสน่ห์ หมอไสย์ใช้ใบกาหลงแตะค้างบนหน้าผากรำพึง บริกรรมคาถาแล้วเป่ามนต์เบาๆ เป็นอันเสร็จพิธี
“เจ้าจงกลับไปนำเลือดของเดรัจฉานให้ผัวเจ้าได้ลิ้มรส...ได้สัมผัสกลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นกายของเจ้า เพียงเท่านี้...เขาก็จะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
รำพึงหันขวับมามองหน้าขุนพิทักษ์ ในมือรำพึงมีมีดสั้นที่เลือดไหลโชกอยู่แล้ว ขุนพิทักษ์ก้มลงไปเห็นก็ตกใจ
“เลือด”
ยังไม่ทันจะสิ้นคำ รำพึงก็จับหน้าขุนพิทักษ์ด้วยสองมือ เอาเลือดที่นิ้วโป้งแตะปากขุนพิทักษ์พร้อมบริกรรมคาถา “มนต์คาถารักแท้” ในทันที
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/3 วันที่ 21 ก.พ. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager