@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/3 วันที่ 12 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/3 วันที่ 12 ก.พ. 56

“น้องเมย์ไปส่งคุณแม่ค่ะ ไม่อยากอยู่แถวนี้แล้ว” ตันหยงบอก
ประภัสสรกับเมรินเดินไป ปรางค์ทิพย์สีหน้าไม่ดี
“นังเมย์ตัวแสบ นังภัสอีกคน ทำเป็นติ๋มๆ แต่ก็ประจบประแจงคุณยาย แสบทั้งแม่ทั้งลูก”
“คุณปรางค์บ่นอะไรคะ” สายแก้วถาม
ปรางทิพย์สะดุ้ง
“นังนี่ ชั้นตกใจหมด ... ไปให้ไกลๆเลย”
สายแก้วเดินตามเมรินไป ปรางค์ทิพย์แค้น

ปรงทองนั่งทำงานในห้องทำงานที่บ้าน ประภัสสรรวบรวมเอกสารส่งให้
“คุณย่าคะ โครงการให้ทุนนักเรียกแพทย์ ภัสตรวจให้เรียบร้อยแล้วนะคะ นักเรียนที่คุณย่าให้ทุนไป รุ่นแรก จะกลับมาใช้ทุนปีนี้ค่ะ”
“ดีมาก ย่าอยากให้โอกาสกับคนอื่นๆ ยังมีคนดีในสังคมอีกมากที่ขาดโอกาส และหวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่ๆมาช่วยเราทำงานทำประโยชน์ให้สังคมต่อไป เออแล้วนี่เจ้าเมย์ไปไหนซะล่ะ” ปรงทองถาม



“น้องเมย์เดินมาส่งภัสค่ะ แต่พอจะชวนขึ้นมาด้วยก็ร้องหาหนุงหนิงซะอย่างนั้น”
ปรงค์ทองยิ้มเอ็นดู “จะไปเอาอะไรกับเจ้าเมย์ อายุแค่นี้”
“แต่ภัสอดเป็นห่วงลูกไม่ได้หรอกค่ะคุณย่า ตั้งแต่เกิดเรื่องภัสกลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง”
“จะกลัวอะไร ปล่อยๆบ้างเถอะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แม่ภัสน่ะ ต้องอย่าหัดเป็นคนคิดมาก ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สบายใจขึ้นหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ คุณเมธีก็พยายามหาเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ภัสก็รู้สึกสบายใจขึ้น”

ปรงทองมองแล้วคิดว่าหลานสาวคนนี้เอาชีวิตฝากไว้แต่ครอบครัวจริงๆ
เมรินเดินมองรอบๆ ตัวแล้วถอนหายใจเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงที่สนามหน้าบ้าน สายแก้วเดินมาตาม

“คุณเมย์คะโทรศัพท์ค่ะ”
“โทรศัพท์ของชั้นหรือ ใครโทรมาน่ะ” ตันหยงงง
ตันหยงรับโทรศัพท์
ปฐวีคุยโทรศัพท์อยู่ที่โรงพยาบาล
“น้องเมย์ครับ เป็นยังไงบ้าง”
“น้าวี” ตันหยงยิ้มก่อนทำเฉย “ก็ดีค่ะ”
“น้าวีเป็นห่วงน้องเมย์นะ คิดถึงด้วย”
ตันหยงแอบทำหน้าเบื่อหน่าย “ถ้าห่วงทำไมไม่ให้น้องเมย์ไปโรงพยาบาลกับน้าวีล่ะคะ”
“มาบ่อยๆไม่ได้หรอก ที่โรงพยาบาลน่ะเชื้อโรคเยอะแยะ”
“แต่น้องเมย์ไม่กลัวนี่คะ น้องเมย์อยากไป”
“ไว้วันหน้านะคะ เอาละ น้าวีโทรมาอยากรู้ว่าน้องเมย์ปลอดภัยดี แค่นี้นะคะ”
ตันหยงกดวางโทรศัพท์
“ที่แท้ก็ห่วง กลัวหลานสาวจะเป็นอะไร ...เฮ้อ..เบื่อ”
“อะไรกันคะ เบื่อน้าวีหรือ ตายแล้ว คุณวีได้ยินเสียใจตายเลย” สายแก้วว่า
“ทำไมล่ะ เรื่องแค่นี้เอง”
สายแก้วทำเป็นความลับ “น้องเมย์อย่าพูดไปนะคะ น้าวีน่ะรักคุณน้องเมย์มากกว่าหลานทุกคนเลย พูดแบบนี้ คุณวีเสียใจแย่”
ตันหยงทำหน้าเบื่อ

ประภัสสรเดินออกมาหาเมริน ปรางค์ทิพย์ที่ตัดดอกไม้อยู่ด้านนอกถามขึ้น
“เป็นไงบ้างแม่ภัส คุณย่าว่ายังไงบ้าง”
“เรื่องอะไรคะพี่ปรางค์”
“ทำเป็นซื่อ ก็เรื่องมูลนิธิน่ะสิ คุณย่าจะให้เธอคุมเหรอ”
“อ๋อ คุณย่าไม่ได้บอกค่ะ เพียงแต่สั่งให้ภัสดูแลเรื่องทุนนักเรียนแพทย์ก็เท่านั้น”
“นั่นไง ชั้นว่าแล้ว งานได้หน้าคุณย่าต้องให้หล่อนทำ”
เมรินกับสายแก้วเดินเข้ามา เมรินหยุดมองแล้วคิด
ตันหยงคิดในใจ “คุณป้าปรางมาเล่นงานอะไรคุณภัสอีกเนี่ย” ตันหยงรีบพูด “คุณแม่ขา รีบไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า เดี๋ยวคุณพ่อจะกลับมาแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องรีบหรอก เดี๋ยวจะเป็นแม่สายบัวซะเปล่า พ่อหล่อนจะกลับหรือเปล่าก็ไม่รู้” ปรางค์ทิพย์ว่า
ประภัสสรหน้าเสีย ตันหยงทนไม่ได้
“ต้องกลับสิคะ คุณพ่อรักคุณแม่จะตายไป เข้าบ้านดีกว่าค่ะคุณแม่”
“ภัสขอตัวก่อนนะคะพี่ปรางค์ ไปค่ะน้องเมย์”
ประภัสสรเดินไป ปรางค์ทิพย์นิ่งคิด
“ทำไมหมู่นี้ นังเมย์มันดูฉลาดนักนะ มันกล้าต่อปากต่อคำกับชั้น” ปรางค์ทิพย์เจ็บใจ

ปฐวีกำลังจับชีพจรให้ร่างของตันหยง แล้วก็ถอนหายใจ ร่างตันหยงนอนนิ่งสนิทบนเตียง ปฐวีมองตันหยง
“ผมจะช่วยคุณได้ยังไงบ้างนะ คุณตันหยง”
ปฐวีมองนิ่งก่อนถอนหายใจ

ตกกลางคืน ประภัสสรส่งเมรินเข้านอน แล้วประภัสสรก็เดินออกจากห้องไปปิดไฟ
“แม่รักลูกที่สุดเลย นอนหลับฝันดีนะคะ”
“คุณแม่ก็นอนหลับฝันดีนะคะ”
ประภัสสรยิ้มให้ลูกสาวแล้วหอมแก้ม ตันหยงลุกขึ้นมานั่ง
“คุณภัสคงมีแต่น้องเมย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวสินะ ถ้าเค้ารู้ความจริง ว่าเราไม่ใช่น้องเมย์ เค้าต้องรับไม่ได้แน่ๆ”

ปฐวีที่เพิ่งกลับอยู่ที่หน้าบ้านประภัสสร
“ป่านนี้หลับหรือยังก็ไม่รู้”
เมธีถือตุ๊กตาหมีเดินลงมาจากรถ จนมาเจอกับปฐวี
“อ้าววี เพิ่งกลับเหมือนกันหรือ”
“ครับพี่เมธี วันนี้มีเคสผ่าตัด พี่เมธีล่ะครับงานยุ่งหรือ”
“ใช่ โปรเจ็คใหญ่ปัญหาก็ยิ่งเยอะ”
ปฐวีมองตุ๊กตาหมีในมือของเมธีแล้วยิ้ม
“ของเจ้าตัวเล็กหรือ คงดีใจใหญ่เลย”
เมธียิ้ม
ปฐวีล้อพี่เขย “แล้วของพี่ภัสล่ะครับ”
“พี่ไม่รู้จะให้อะไรภัสดี ภัสเค้ามีครบทุกอย่างแล้ว”
“ความรักความเอาใจใส่ไงครับพี่เมธี”
เมธีมองหน้าปฐวี ปฐวียิ้มแล้วเดินไป

เมธีเดินย่องเข้ามาในห้องเมริน เมรินลืมตาขึ้นมอง
“พ่อกลับมาทันน้องเมย์ยังไม่นอน ทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังจะนอนแล้วค่ะ คุณพ่อเพิ่งกลับหรือคะ”
“ครับ พ่อพาเพื่อนใหม่มาให้ด้วยนะ ทำความรู้จักกันซะก่อน นี่น้องเมย์”
เมธีส่งตุ๊กตาให้เมริน เมรินรับมาแบบเฉยเมย
“น้องเมย์ไม่ดีใจที่ได้ตุ๊กตาเหรอ”
“ดีใจค่ะ” ตันหยงคิดแล้วพูด “แต่จะดีใจกว่านี้ ถ้าเป็นของขวัญที่คุณพ่อ เอามาให้คุณแม่”
เมธีอึ้ง
“น้องเมย์พูดถูก พ่อเองก็ห่วงแต่จะไม่มีเวลาให้ลูก จนลืมนึกถึงคุณแม่ เรานี่ใจตรงกับน้าวีเลยนะ ทักเรื่องเดียวกันเชียว ขอบใจนะลูก ที่เตือนพ่อ” เมธีว่า เมรินยิ้มให้

เมธีหอม เมรินหลับตาปี๋ เมธียิ้มแล้วให้ลูกสาวนอน
พระอาทิตย์ยามเช้าทำให้บรรยากาศทั่วบ้านดูสดใส คุณหญิงปรงทองกำลังเตรียมตัวจะใส่บาตร อยู่หน้าบ้าน เมรินเดินออกมาหาพร้อมสายแก้ว

“เจ้าเมย์มาใส่บาตรกับย่าเร็วเข้า พระมาโน่นแล้ว” ปรงทองชวน
“ค่ะคุณย่า”
ปฐวีเดินออกมาจากในบ้าน เขาเห็นปรงค์ทองกับเมรินกำลังยืนรอพระก็รีบมาสมทบ
“ผมขอใส่ด้วยคนนะครับ คุณย่า”
“เชิญเถอะ ไปช่วยเจ้าเมย์โน่น” ปรงทองบอก
ปฐวีเดินไปยืนข้างเมริน พอพระเดินมา ปฐวีก็ช่วยเมรินจับทัพพีตักข้าวใส่บาตรพระอย่างคล่องแคล่ว
ตันหยงอึดอัด “น้าวีคะ ไม่ต้องก็ได้เมย์ทำได้ค่ะ”
“เวลาทำบุญต้องตั้งใจ เดี๋ยวไม่ได้บุญนะ”
ปฐวีไม่ฟังเสียง เขาจับมือเมรินใส่บาตรจนเสร็จ เมรินมองงอนๆ
ปรงทองกับแม้นวาดยืนมองสองน้าหลานอย่างเอ็นดู
“จะไปทำงานแต่เช้าเชียวนะ งานยุ่งหรือตาวี” ปรงทองถาม
“ครับคุณย่า วันนี้มีคนไข้หลายเคส ผมต้องดูแลเอง” ปฐวีพูดกับเมริน “แล้วเราเนี่ย เมื่อไหร่จะไปโรงเรียน เรียนจบจะได้เป็นหมอมาช่วยน้าวีไงล่ะ”
ตันหยงอึกอัก “ไม่ไหวมั๊งคะ เมย์เห็นเลือดแล้วจะเป็นลม”
“น้องเมย์ดูแข็งแรงขึ้นแล้ว” ปฐวีคิด “น่าจะไปโรงเรียนได้แล้ว”
ตันหยงอึกอักแล้วทำท่าปวดหัวทันที
“โอ๊ย น้องเมย์ปวดหัวจังเลย ขอตัวไปหาคุณแม่ก่อนนะคะ”
ตันหยงวิ่งเข้าบ้านทันที ปฐวีมองตามอย่างรู้ทัน
“ร้ายจริงๆ ยายเมย์เนี่ย น่าจะหายดีแล้วนะ” ปฐวีพูดกับปรงทอง “ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับคุณย่า ย่าแม้น”
“ไปเถอะ บุญรักษานะลูกนะ”
ปฐวีไหว้ปรงค์ทองและแม้นวาดก่อนเดินไป แม้นวาดยิ้มชื่นชม
“คุณวีกับคุณเมย์นี่น่ารักจังเลยนะคะ คุณท่าน ถ้าไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าเป็นพ่อลูกกัน”
ปรงทองไม่ตอบแต่ยิ้มชื่นชม

สุดนภากำลังค้นเอกสารในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ห้องธุระการของโรงเรียน นาวินเดินเข้ามายืนมอง
นาวินกระแอม “ทำอะไรมิทราบครับคุณครูบี๋”
“ค้นประวัตินักเรียนค่ะ น้องเมย์นักเรียนในห้องของชั้นขาดไปหลายวันแล้ว ชั้นเป็นห่วง”
นาวินเก๊ก “อ๋อ เรื่องน้องเมย์หรือ ผมรู้แล้ว น้องเมย์ตกบันได เลยต้องลาพักแต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“อะไรนะ น้องเมย์ตกบันได คุณรู้ได้ไง” สุดนภางง “อย่าบอกนะว่าคุณสนใจสืบค้นประวัติเด็กนักเรียนทุกคน”
“แหม...คุณบี๋ผมดูแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ”
สุดนภาแอบบ่น “ที่จริงแย่กว่านั้นอีก”
“ลืมไปแล้วหรือ ผมกับเจ้าวีเป็นเพื่อนสนิทกัน”
สุดนภานึกได้ “จริงสิ ว่าแล้วที่แท้ก็ข้อมูลจากเพื่อน โธ่คิดว่าสนใจทำงาน”
สุดนภาคว้ากระดาษมาจดข้อความในเครื่องแล้วลุกขึ้นเดินออกไป
“นี่คุณ อุส่าห์บอกให้ทราบ จะขอบคุณซักคำก็ไม่มี ...แถมยังมาว่าเราอีก”
สุดนภาไม่สนใจ นาวินมองค้อน

สุดนภาหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์โทรออก
“สวัสดีค่ะ บ้านน้องเมย์ใช่มั้ยคะ นี่ครูประจำชั้นของน้องเมย์นะคะ”

ประภัสสรวางโทรศัพท์ เมรินนั่งกอดตุ๊กตาหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ
“น้องเมย์ยังไม่พร้อมจะไปโรงเรียนนะคะ” ตันหยงรีบบอก
“ครูประจำชั้นของน้องเมย์ โทรมาถามว่าน้องเมย์เป็นอะไรมากหรือเปล่า เพื่อนๆทุกคนคิดถึงหนู อยากเจอน้องเมย์ไงคะ”
ตันหยงคิดในใจ “ไม่ไหวหรอก อยู่ในร่างเด็กนี่ก็แย่พอแล้ว ยังต้องอยู่ท่ามกลางเด็กอีก วันละ 10 ชั่วโมง ชั้นต้องตายแน่ๆ”
“นะคะน้องเมย์ แม่ว่า ถ้าน้องเมย์พร้อมแล้ว ก็ไปสนุกกับเพื่อนๆที่โรงเรียนดีกว่า”
“เมย์ยังไม่พร้อมค่ะ”
ประภัสสรงงกับท่าทางจริงจังของเมริน

ปฐวียังคงนั่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล จริญทิพย์เดินเข้ามา
“คุณวียังไม่กลับอีกหรือคะ”
จริญทิพย์ส่งแฟ้มให้
“ขออ่านเคสอีกแป๊บนึง ก็จะกลับแล้วครับ คุณทิพย์กลับก่อนก็ได้นะครับ”
“แหม...ทิพย์อยากอยู่เป็นเพื่อนหมอวีก่อนน่ะค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ”
จริญทิพย์บ่น “หมอวีนะหมอวี ทำงานหนักแบบนี้ เดี๋ยวก็ป่วยหรอก ทิพย์งี้เป็นห๊วง เป็นห่วง”
จริญทิพย์เดินไป
ปฐวีพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน แล้วดูหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เขากำลังค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องการรักษาตันหยง แฟ้มชื่อตันหยงวางอยู่บนโต๊ะ

เช้าวันใหม่ เมรินร้องโวยวายไม่ยอมไปโรงเรียน เธอนอนคลุมโปง ประภัสสรเข้าไปพูด
“น้องเมย์ขา เป็นเด็กดีไม่งอแงนะคะ”
“เมย์ไม่อยากไปค่ะ ไม่อยากไปเรียนกับเด็ก ปวดหัวค่ะ”
“น้องเมย์ครับ หน้าที่เด็กต้องไปโรงเรียนนะครับ ไม่เรียนหนังสือได้ยังไง” เมธีช่วยพูด
“ไม่เรียนค่ะ เรียนมาตั้งหลายปีแล้ว จะให้ไปเริ่มใหม่ ไม่เอาหรอกค่ะ”
“น้องเมย์ลุกขึ้นมาคุยดีๆลูก”
“ไม่ค่ะ เมย์ปวดหัว”

เมธีจับตัว เมรินดิ้นพร้อมกับร้องไม่ ๆๆ เมธีกับประภัสสรอ่อนใจ มองหน้ากันด้วยความกลัดกลุ้ม
วันต่อมา สายแก้วเข้ามาปลุกเมริน พอเปิดผ้าห่มก็เห็นว่าเมรินหายไปแล้ว สายแก้วร้อนรนวิ่งตามหา เมรินที่แอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าหัวเราะขำ

ประภัสสรเข้ามาปลุกเมรินในห้องนอนตอนเช้า เมรินลุกขึ้นงัวเงียแล้วพยักหน้าให้ประภัสสร ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วชักผ้าห่มคลุมโปง ประภัสสรมองเมรินแบบจนปัญญา
สายแก้วประภัสสรแท็คทีมกันเข้ามาปลุกเมริน เมรินดิ้นไม่ยอมไปโรงเรียน
“เมย์ไม่ไปโรงเรียน บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไป ปวดหัวอยู่”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/3 วันที่ 12 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager