อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9/5 วันที่ 22 ก.พ. 56
ปฐวีย้ำ “ใส่ติดตัวไว้นะ ไม่งั้นยายท่านจะเสียใจ”เมรินเดินหงอยๆ จากไป ปฐวีมองด้วยความสงสัย
นาวินกับสุดนภายืนคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง สุดนภามองท่าทางของเมรินแล้วถอนหายใจ
“โอ๊ย ทนไม่ไหว เห็นแล้วสงสาร”
“สงสารใคร” นาวินถาม
“ก็ยายหยง..เอ๊ย น้องเมย์น่ะสิ”
นาวินงง “สงสารทำไม คุณดูไม่ออกหรือ น้องเมย์เป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าวีน่ะ รักหลานยังกะดวงใจ”
“นั่นแหละ ยิ่งน่าสงสารใหญ่เลย”
“อะไรของคุณ ชักเพี้ยนใหญ่แล้ว”
“คุณไม่รู้อะไร” สุดนภาอ้าปากจะพูด แล้วก็นึกได้ “เฮ่ออ”
สุดนภาเดินหนีไป นาวินมองตาม
“อะไรของเค้าวะ”
แม้นวาดประคองให้ปรงทองนั่งลง
“คุณท่านเป็นอะไรไปคะ ตั้งแต่พระพรมน้ำมนต์แล้ว ไม่สบายหรือเปล่า อิชั้นจะชงยาหอมให้”
“ไม่ต้อง ชั้นสบายดี”
“ถ้าอย่างนั้นเอนหลังซักหน่อยเถอะค่ะ”
“ชั้นนอนไม่หลับหรอก แม่วาด ชั้นสังหรณ์ใจพิกล จะเกิดเรื่องในบ้านนี้อีก เฮ้อ..เวรกรรมจริง..จริง”
ปรงทองเครียด
เมรินกับสุดนภานั่งคุยกัน
“บี๋ ชั้นรู้สึกผิดยังไงไม่รู้” ตันหยงบอก
“ทำไมล่ะ แกไม่ได้ไปขู่เข็ญเค้านี่นา”
“นั่นแหละบี๋ ชั้นยิ่งรู้สึกผิดมากไปใหญ่ คุณหญิงท่านเมตตาเอ็นดูน้องเมย์ หลานของท่าน ไม่ใช่ชั้นตันหยงที่มาอาศัยในร่างเหลนของท่าน แกเข้าใจใช่มั๊ย”
สุดนภาถอนหายใจ “หยง แกไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ถ้าจะโทษต้องโทษพรหมลิขิตต่างหาก ที่เล่นกล ทำให้แกต้องสลับร่างอลเวงแบบนี้”
ตันหยงกลุ้มใจ
“แกคิดมากเกินแล้วล่ะ แกก็มีส่วนช่วยให้พ่อแม่ของน้องเมย์เค้าดีกันไม่ใช่หรือ”
ตันหยงเศร้า “นั่นแหละ แต่มันเทียบไม่ได้กับความรัก ความเชื่อใจที่พวกเค้ามีให้ชั้น”
เมรินก้มดูสร้อยข้อมือที่ปฐวีสวมให้
“ชั้นจะทำยังไงดีนะ”
“แกก็ทำหน้าที่เป็นน้องเมย์ให้ดีที่สุด ก็แค่นั้นนั่นแหละในตอนนี้”
เมรินนิ่งคิดก่อนจะถอนใจ แล้วค่อยๆ ยิ้มออก
“งั้นแกช่วยอะไรชั้นหน่อยนะ” ตันหยงบอก
“ได้ทุกเรื่อง บอกมาเลย”
ประภัสสรเดินออกจากห้องน้ำในชุดคลุม เธอเดินมาที่หน้ากระจก ประภัสสรเห็นชุดใหม่แขวนอยู่ด้านหลังก็หันไปมองอย่างแปลกใจ เมรินเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับช่างแต่งหน้า
“น้องเมย์ ใครเอาชุดนี้มาคะ แม่ไม่เคยเห็นเลย” ประภัสสรถาม
“อ๋อ ชุดนี้น้าวีกับเมย์ช่วยกันเลือกให้เป็นของขวัญคุณแม่ค่ะ” เมรินบอก
“โธ่ลูก แม่แก่แล้ว ไม่ต้องแต่งขนาดนี้หรอก ดูชุดสิ แม่ไม่กล้าใส่หรอก กลัวโป๊น่ะ”
เมรินพูดหนักแน่น “ไม่จริงค่ะ คุณแม่ของน้องเมย์ยังไม่แก แถมยังสาวยังสวยด้วย ชุดนี้น้าวีกับเมย์ก็ตั้งใจเลือกอย่างดี รับรองได้ค่ะ ไม่โป๊หรอก”
ประภัสสรเขิน “แหมลูกแม่”
“คุณแม่รอเดี๋ยวนะคะ” เมรินเดินไปเปิดประตูห้อง ช่างแต่งหน้าเดินเข้ามา “เมย์มีช่างแต่งหน้ามาให้คุณแม่ด้วยค่ะ”
“จะดีเหรอน้องเมย์”
“ดีสิคะ” เมรินพูดกับช่างแต่งหน้า “ช่วยแต่งหน้าคุณแม่ให้สวยที่สุดเลยนะคะ”
ช่างแต่งหน้ายิ้มรับ เมรินดันหลังประภัสสรให้ไปนั่งที่โต๊ะ แล้วเมรินก็พยักหน้าให้ช่างแต่งหน้าลงมือทำงาน ส่วนเมรินยืนมองอย่างพอใจ
เมรินเดินลงมาจากบันได ปฐวียืนรออยู่ที่บันไดชั้นล่าง เขาหันมาเห็นเมรินก็เดินไปรับ
“มาแล้ว เจ้าหญิงของน้าวี”
เมรินหน้าบาน ปฐวียื่นมือมาให้เมรินจับ เมรินมองมือปฐวีแล้วจับมือเขาเดินลงมา ปฐวีคุกเข่าลงแล้วติดดอกไม้ให้เมริน เมรินยิ้มปลื้ม
“สวยจังเลยค่ะน้าวี ขอบคุณมากนะคะ”
“สำหรับหลานสาวสุดที่รักของน้าวี จะน้อยกว่านี้ได้ยังไง”
เมรินยิ้มจ๋อย
“ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณอยู่ดีค่ะ”
“พร้อมหรือยังครับ” ปฐวีถาม
เมรินยิ้ม “พร้อมแล้วค่ะ”
ปฐวียกแขนให้เมรินควง เมรินเขย่งขึ้นมาควงแขนปฐวีแล้วเดินออกไป
สุดนภากับนาวินยืนคุยกันอยู่ นาวินยืนชิด สุดนภาดันออก
“ยืนห่างๆ หน่อยสิ อึดอัดนะ”
“ก็หวงนี่” นาวินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
สุดนภามองหน้านาวินแล้วก็เขินเอง สุดนภาทุบ นาวินขำ
ปรางค์ทิพย์คอยจับปรงแก้วกับปรงขวัญไม่ให้วิ่งซน
“อย่าวิ่งสิลูกเดี๋ยวชุดยับหมดยัยแก้ว ยายขวัญอย่านั่งแบบนั้นต้องลูบกระโปรงก่อน” ปรางค์ทิพย์ดึงลูกเข้ามากระซิบ “แม่สั่งแล้วว่าอย่าวิ่งไง”
เสกสรรยืนคุยกับเพื่อนด้วยสีหน้าเครียด เมธียืนคุยกับแขกต่างชาติ เมรินกับปฐวีเดินควงกันออกมาที่งาน เมรินเดินไปทักสุดนภา
“ขอบใจมากนะบี๋” เมรินบอก
“ไม่เป็นไรเรื่องเล็ก คุณภัสเป็นยังไงบ้างล่ะ สวยไหม”
“เดี๋ยวก็รู้”
“นี่สองสาวคุยอะไรกันครับ”
“เรื่องผู้หญิง ผู้หญิงค่ะ คุณนาวิน”
นาวินทำหน้าประหลาดใจ
คนในงานพากันชี้มือกันไปอีกทาง เมธียืนคุยกับแขกต่างชาติแล้วหันไปมองตาม เมธีตะลึง
ประภัสสรเดินออกมาช้าๆ ในชุดสวยสง่า เมธียิ้มภูมิใจ
“ภรรยาของคุณใช่มั๊ยครับ เธอสวยมาก คุณมีครอบครัวที่น่าอิจฉาจริงๆ” แขกคนนึงบอกเมธี
เมธีเขิน “ขอบคุณมากครับ ผมขอตัวสักครู่”
เมธีเดินไปรับประภัสสรโดยเดินผ่านหน้าเมรินกับปฐวีไป
“นี่ฝีมือน้องเมย์ด้วยหรือเปล่า”
“คุณแม่สวยมากใช่มั๊ยคะน้าวี” เมรินถาม
“ใช่ สวยมาก น้าเพิ่งรู้นะว่าหลานน้าวีนี่เก่งหลายอย่างจริงๆ เก่งเกินเด็กซะด้วย”
“เห็นมั๊ย คุณพ่อตะลึงไปเลยดูสิคะ”
เมธีจ้องประภัสสร
“คืนนี้คุณสวยมาก”
ประภัสสรเขิน “ฝีมือน้องเมย์กับตาวีค่ะ”
“ลูกเราเก่งจริงๆ” เมธีมองแล้วยิ้ม “เชิญครับ”
เมธียื่นมือให้ ประภัสสรยิ้มแล้วส่งมือให้สามี เมธีพาภรรยาเข้าไปหากลุ่มเพื่อนๆ ทันที
ปฐวีพาเมริน สุดนภาและนาวินเดินมาที่โต๊ะอาหาร
“ไอ้วิน พาคุณบี๋ไปตักอาหารสิ ทำหน้าที่สุภาพบุรุษหน่อย” ปฐวีว่า
“เชิญครับคุณบี๋ หรือจะให้ผมจัดมาให้ดี” นาวินถาม
“ไม่ต้องค่ะ บี๋ไปเลือกเองดีกว่า”
นาวินผายมือ “เชิญครับ...”
สุดนภากับนาวินเดินไป เมรินมองตามยิ้มๆ
“น้องเมย์รอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวน้าวีจัดมาให้” ปฐวีบอก
“ได้ค่ะ”
ปฐวีเดินไป เมรินมองตามยิ้มๆ
แขกต่างชาติมองมาทางเมรินแล้วยิ้มอย่างเอ็นดูที่เห็นเมรินแต่งตัวน่ารัก
ชาวฝรั่งเศสเดินมาทักเป็นภาษาฝรั่งเศส “.......เด็กคนนี้น่ารักจังเลย....”
เมรินตอบเป็นภาษาต่างประเทศ “ขอบคุณมากค่ะ”
ปฐวีเดินถือจานอาหารเข้ามาเห็นก็ถึงกับชะงัก ปฐวีเห็นเมรินคุยกับชาวต่างชาติคล่องแคล่ว
ชาวต่างชาติถาม “หนูพูดภาษาฝรั่งเศสได้”
“เคยไปเรียนอยู่สองปีค่ะ” เมรินตอบเป็นภาษาฝรั่งเศส
แขกต่างชาติยิ้มและแนะนำตัว เมรินแนะนำตัวกลับแล้วยื่นมือให้จับ
“ชั้นชื่อเมรินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”
“หนูเป็นเด็กที่เก่งจริงๆ ขอตัวก่อนนะ” ชาวต่างชาติจูบมือเมริน
ปฐวีเดินเข้ามาแล้วพูดแซว
“แหม น้าวีไปแป๊บเดียวเอง มีหนุ่มมาจีบน้องเมย์ซะแล้ว”
“น้าวีก็ ล้อน้องเมย์อีกแล้ว”
เมรินทำแง่งอน ปฐวีมองเมรินอย่างสังเกตแล้วเขาก็จัดเก้าอี้ให้เมริน
“ขอบคุณค่ะน้าวี น้าวีนั่งสิคะ”
ปฐวีขยับเก้าอี้เตรียมลงนั่ง
เสียงหนึ่งฤทัยดังขึ้น “ตรงนี้มีที่ว่างหรือเปล่าคะ ขอหนึ่งนั่งด้วยคนได้มั๊ยคะ”
ปฐวีหันไปมองเห็นหนึ่งฤทัยในชุดสวยกำลังยืนยิ้ม
“หนึ่ง เชิญครับ หนึ่งสวยจนผมจำแทบไม่ได้”
ปฐวีลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้หนึ่งฤทัยนั่งแทน เมรินมองหนึ่งฤทัยเซ็งๆ
หนึ่งฤทัยยิ้มให้ปฐวี แล้วหันมามองเมรินที่นั่งหน้าคว่ำ หนึ่งฤทัยหันไปทักทายและจับแก้ม
“น้องเมย์แต่งตัวน่ารักจังเลย ดอกไม้ก็สวย หนุ่มที่ไหนให้น้องเมย์มาคะ”
“น้าวีค่ะ” เมรินบอก
หนึ่งฤทัยชะงักไปเล็กน้อย “ตายจริง วีนี่น่ารักจังเลยนะคะ มีช่อดอกไม้ให้สาวด้วย น้าหนึ่งจะโชคดีแบบน้องเมย์บ้างมั๊ยนะ”
ปฐวียิ้มเขิน “ถ้าหนึ่งอยากได้เดี๋ยวผมหาให้ดีมั๊ยครับ”
“หนึ่งล้อเล่นน่ะค่ะ”
“ผมพาหนึ่งไปตักอาหารก่อนดีกว่า น้องเมย์นั่งรอน้าอยู่ที่โต๊ะนี่นะครับ เดี๋ยวน้าวีมา เชิญครับหนึ่ง”
ปรงทองเดินเข้ามาในงาน แม้นวาดเดินตามมา ทุกคนบริเวณทางเดินพากันทำความเคารพปรงทองกับแม้นวาด ปรงทองเดินทักทายยิ้มแย้มกับแขกทุกคน จริญทิพย์เป็นพิธีกรอยู่บนเวที
“และบุคคลสำคัญเจ้าของงานวันเกิดในวันนี้ คือท่านประธานของเรา คุณหญิงปรงทอง... เชิญท่านประธานขึ้นกล่าวอะไรสักเล็กน้อยนะคะ”
ปรงทองลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นไปบนเวที
“วันนี้ชั้นยินดีเป็นอย่างมาก” ปรงทองกล่าว “ที่ทุกคนเสียสละเวลา มาร่วมงานวันเกิดของชั้น ชั้นดีใจที่มีโอกาสได้เห็นคนที่ชั้นรัก มาอยู่ร่วมกัน......”
ทุกคนมองปรงทองด้วยความชื่นชม
“ชั้นขออวยพรให้ทุกคนที่มาในวันนี้ มีความสุขเหมือนชั้น และขอให้พร ที่ทุกคนมอบให้ชั้น จงย้อนกลับไปสู่ทุกท่าน ทุกคน ฟังคนแก่พูดนานๆ จะเบื่อซะเปล่าๆ เชิญทุกท่านตามสบาย สนุกสนานกันให้เต็มที่เถอะนะ”
ทุกคนปรบมือสนั่น ปรงทองยิ้มแล้วเดินลงจากเวที บรรดาแขกพากันเดินมาทักทาย
ปรงทองนั่งอยู่ที่โต๊ะ แม้นวาดกระซิบอะไรบางอย่าง ปรงทองพยักหน้า เมธีกับประภัสสรเดินจูงมือกันเข้ามา ทั้งคู่เข้ามากราบที่ตักปรงทอง
“ขอให้คุณย่ามีสุขภาพแข็งแรงนะครับ” เมธีอวยพร
ประภัสสรเสริม “อยู่เป็นมิ่งขวัญพวกเราอีก ร้อยปีนะคะ”
“โอ๊ย...สงสัยจะไม่ไหว ย่าขี้เกียจจะตำน้ำกินล่ะสิ” ปรงทองบอก
ประภัสสรกอดปรงทองเอาไว้ ปรงทองกอดตอบ
“อะไรกัน นี่มันงานร่าเริง ทำน้ำตาซึมซะอย่างนั้น แม่ภัสเอ๊ย...”
ประภัสสรเช็ดน้ำตา ปรงทองมองแล้วยิ้ม
“แม่ภัส พ่อเมธี ย่าขอขอบใจที่พวกเจ้ารักกัน เข้าใจกัน ปรับตัวเข้าหากัน นี่เป็นสิ่งที่ย่าต้องการที่สุดเหนือกว่าสิ่งใด มันทำให้ย่าสุขใจ รู้มั๊ย”
ประภัสสรกับเมธีมองหน้ากัน
“เมธี เราเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องรู้จักจัดการชีวิต รู้จักแบ่งเวลา รู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร เข้าใจใช่มั๊ย” ปรงทองถาม
“ครับคุณย่า ผมจะทำให้ดีที่สุด” เมธีรับคำ
ปรงทองมองทั้งสองคนแล้วยิ้ม ปรางค์ทิพย์ยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“หนอยแน่ะ ประจบกันกลางงานเลยหรือ”
ปรางค์ทิพย์หันไปลากแขนเสกสรรจากกลุ่มเพื่อนแล้วเดินตรงไปหาปรงทองทันที
“คุณยายขา ปรางค์กับคุณสรรมากราบอวยพรคุณยายค่ะ”
เสกสรรทำหน้างงๆ ปรางค์ทิพย์เขม่นใส่ เสกสรรจังยอมนั่งลงอย่างประดักประเดิด
“สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณยาย” เสกสรรบอก
“ขอบใจพ่อสรร แม่ปรางค์”
“อ้าว คุณยายไม่มีอะไรจะพูดกับปรางค์หรอกหรือคะ ทียายภัสคุณยายคุยซะนานเชียว” ปรางค์ทิพย์ว่า
ปรงทองถอนหายใจ “จริงๆชั้นมีเรื่องจะพูดกับเธอสองคนมากมาย แต่คิดว่าเอาไว้หลังงานจะเหมาะกว่ามั๊ง”
“โถคุณยายพูดแบบนี้ เหมือนปรางค์กับคุณสรรเป็นคนอื่นคนไกลนะคะ”
“เอางั้นหรือ ก็ได้ จำไว้นะความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญในการเป็นคนพ่อสรรแม่ปรางค์ ถ้าคนเราไม่มีความซื่อสัตย์ซะแล้ว ชีวิตไม่มีวันจะก้าวหน้าหรอก”
เสกสรรหน้าเจื่อน ปรางค์ทิพย์งง
“ผมจะจำไว้ครับคุณยาย” เสกสรรบอก
เสกสรรฉุดปรางค์ทิพย์ให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ปรางค์ทิพย์ยังงงๆ
ปรางค์ทิพย์คาใจ “คุณยายพูดหมายความว่ายังไงเนี่ย คุณรู้มั๊ย”
“อ้าว คุณเป็นหลานยังไม่เข้าใจ ผมมันคนนอก จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
เสกสรรหงุดหงิดแล้วก็เดินไป ปรางค์ทิพย์ยังติดใจสงสัย
บุญศรีคุมปรงแก้วปรงขวัญที่อยู่ในชุดระบำลูกเป็ดขี้เหร่อยู่ที่หลังเวที ปรงแก้วกับปรงขวัญเกายุกยิก บุญศรีต้องคอยดึงไว้
“ทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยถอด” บุญศรีบอก
“มันคันนี่คะ ถอดไม่ได้หรือ”
“ขวัญไม่อยากเต้นเลย”
“น่านะคะ งานคุณยายทวดทั้งที อย่าทำให้คุณแม่โกรธนะคะ” บุญศรีบอก
พอได้ยินคำว่าแม่สองคนจึงเงียบกริบ
ปรงค์แก้ววิตก “ถ้าเราเต้นไม่สวยคุณแม่จะว่ามั๊ยเนี่ย”
“ต้องทำแบบฝึกหัดเพิ่มหรือเปล่า” ปรงขวัญกลัว
บุญศรีฟังสองคนพูดก็พลอยห่อเหี่ยวไปด้วย
ทันใดนั้นปรางค์ทิพย์ก็โผล่เข้ามาหลังเวที
“เรียบร้อยใช่มั๊ย”
“เรียบร้อยค่ะ คุณปรางค์” บุญศรีตอบ
“ดีมาก” ปรางค์ทิพย์พูดกับลูก “แกสองคนอย่าทำให้ชั้นเสียหน้าล่ะ เข้าใจมั๊ย”
ปรงแก้วกับปรงขวัญมองหน้ากันอย่างเศร้าๆ “เข้าใจค่ะ”
ปรางค์ทิพย์พยักหน้าพอใจ
จริญทิพย์เดินขึ้นมาประกาศบนเวที
“ต่อไปเป็นการแสดงของเด็กหญิงปรงแก้ว ปรงขวัญ ลูกสาวจากครอบครัวของคุณปรางค์ทิพย์และคุณเสกสรร เชิญรับชมได้แล้ว”
ปรงแก้วกับปรงขวัญเดินขึ้นไปแสดงบนเวที คนดูข้างล่างชี้ชวนกันดูแล้วยิ้มขำ ปรงแก้วปรงขวัญมีหน้าตาไม่มั่นใจ
เสกสรร มองดูบนเวทีแล้วมองซ้ายมองขวา เขาเห็นปรางค์ทิพย์มัวแต่สนใจลูกบนเวทีจึงค่อยๆ เดินเลี่ยงออกจากงาน
การแสดงบนเวทีจบลง ทุกคนปรบมือให้ ปรางค์ทิพย์กับบุญศรียิ้มปลื้ม
“แหมคุณแก้วคุณขวัญน่ารักจังเลย” บุญศรีบอก
“นั่นน่ะสิ แล้วคุณสรรไปไหนเนี่ย ไม่เห็นมาดูลูกแสดงเลย”
ปรางค์ทิพย์มองหาเสกสรรแต่ก็ไม่เจอ ปรางค์ทิพย์แปลกใจ
จริญทิพย์ยืนรอทำหน้าที่พิธีกรอยู่ที่ข้างเวที ปรางค์ทิพย์เดินมาข้างๆจริญทิพย์แล้วกระซิบอะไรบางอย่างพร้อมส่งกระดาษให้ จริญทิพย์ยิ้มแล้วเดินขึ้นเวที ปรางค์ทิพย์ยิ้มร้าย
จริญทิพย์เดินขึ้นมาประกาศที่หน้าเวที
“การแสดงชุดต่อไป เป็นการแสดงของน้องเมย์ จากครอบครัวคุณเมธี และคุณประภัสสรค่ะ เชิญน้องเมย์บนเวทีนะคะ”
ปรางค์ทิพย์เดินออกมาสมทบ เมธีกับประภัสสรมองหน้ากัน
ประภัสสรงง “น้องเมย์มีการแสดงด้วยเหรอคะ”
“ก็ควรจะแสดงอะไรให้เป็นของขวัญให้คุณยายบ้างนะ” ประภัสสรบอก
ประภัสสรกับเมธีมองหน้ากัน
ปรงทองกับแม้นวาดมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
เมรินมองหน้าปฐวีอย่างงงๆ
“น้องเมย์เตรียมการแสดงไว้ด้วยหรือ ไม่เห็นบอกน้าวีเลย”
“เมย์ก็เพิ่งทราบเดี๋ยวเหมือนกันค่ะ” เมรินบอก
“อ้าว แล้วน้องเมย์จะแสดงอะไรล่ะคะ” ปฐวีถาม
เมรินนิ่งคิดแล้วลุกขึ้นยืนยิ้ม
“น้าวีต้องช่วยน้องเมย์นะคะ”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9/5 วันที่ 22 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager