@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 10/2 วันที่ 23 ก.พ. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 10/2 วันที่ 23 ก.พ. 56

“อย่าพูดแบบนี้อีก...เรื่องอะไรที่ทำให้น้องเจ็บ พี่ก็เจ็บไปด้วย”
รำพึงแอบยิ้ม
“แล้วเรื่องขุนไวกับน้อง...คุณพี่เชื่อไอ้สมรึเปล่าคะ”
ขุนพิทักษ์พลิกตัวรำพึงมามองหน้าอย่างจริงจัง รำพึงแอบหวั่น ในใจรีบบริกรรมคาถา
“ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”
ขุนพิทักษ์แววตาเปลี่ยน เคลิ้มดังต้องมนต์

“ไม่เลยสักนิด พี่ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าน้องรำพึงจะทำเรื่องชั่วๆแบบนั้นได้”
ขุนพิทักษ์ประทับจูบที่หน้าผากรำพึง รำพึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งใจ แต่นัยน์ตามีแววร้ายที่ชนะศึก



ภายในเรือนทาส เวลากลางคืน ชุ่มค่อยๆทำแผลให้สมจนเสร็จ แจ่มช่วยผสมยาอยู่ด้วย คุณหญิงยืนมองอย่างสะท้อนใจ สมยกมือขึ้นพนม
“คุณหญิงขอรับ กระผมสาบานได้ว่ากระผมไม่ได้โกหก กระผมไม่ได้ปล้ำคุณรำพึงนะขอรับ”
“เอ็งไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ข้ารู้ว่าเอ็งไม่ทำเรื่องชั่วแบบนั้นแน่ไอ้สม”
สมกับชุ่มมองคุณหญิงมณีน้ำตาจะไหล
“สม..ช่วงนี้ข้าจะให้เอ็งไปอยู่กับหลวงพ่อสักพักก่อน ข้าบอกกล่าวกับหลวงพ่อท่านไว้แล้ว”
ชุ่มมองสมและพิงหัวไปที่ไหล่พี่ชาย
“ชุ่มที่ข้าทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าข้าจะลงโทษพี่เอ็งอย่างที่ลูกข้าบอก แต่ถ้าเขาร้อนเป็นไฟ เราก็ต้องเย็นเป็นน้ำ เพราะถ้าต่างฝ่ายต่างร้อนมันก็มีแต่จะเผาผลาญกันไม่จบไม่สิ้น ข้าเชื่อว่ามันต้องมีวันที่ลูกข้ารู้ดีรู้ชอบ”
“บ่าวเข้าใจเจ้าค่ะ แค่นี้คุณหญิงก็เมตตาต่อบ่าวและพี่สมมากแล้วเจ้าค่ะ”
คุณหญิงมณียื่นเงินให้สมถุงหนึ่ง
“เอาเก็บไว้ใช้ ไปอยู่ไกลตาข้าจะได้ไม่ลำบาก”
สมรับไปทั้งสมและชุ่มกราบคุณหญิง
“กราบขอบพระคุณคุณหญิงขอรับ”
“พักผ่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไป”
คุณหญิงมณีเดินออกไปจากเรือนแจ่มเดินตาม
ที่ด้านหน้าเรือน คุณหญิงลงบันไดมา แจ่มตามมาติดๆ
“คุณหญิงเจ้าคะ แล้วเรื่องที่ท่านขุนไวกับคุณรำพึงที่ไอ้สมมันบอก คุณหญิงคิดยังไงเจ้าคะ”
“ไม่มีหลักฐานเราไม่ควรกล่าวหาใคร”
แจ่มรีบหุบปาก
“เจ้าค่ะ แต่ก็แปลกนะเจ้าคะ ทำไมอยู่ๆท่านขุนก็ลุกขึ้นมารักคุณรำพึงไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ แจ่มว่าท่านขุนต้องโดนของแน่ๆเจ้าค่ะ”
“ใครทำอะไรไว้ สักวันความจริงก็จะปรากฎ ไม่นานหรอกนังแจ่ม เวรกรรมมันมีจริง เชื่อข้า”
คุณหญิงเดินนำไป แจ่มเกาหัวแล้วบ่นๆ
“เฮ้อ...ทำไมมันยุ่งอิรุงตุงนังกันไปหมดวะเนี่ย”
แจ่มเดินตามคุณหญิงไป

เช้าวันใหม่ ที่กุฎิ สมกับชุ่มกราบหลวงตามั่น
“ฝากพี่สมด้วยนะเจ้าคะหลวงตา”
“อยู่วัด...อยู่แล้วเย็น ไม่ต้องห่วงหรอกโยม”
“ข้าต่างหากที่ต้องห่วงเอ็งนังชุ่ม คุณรำพึงจ้องจะเล่นงานเอ็ง ยิ่งท่านขุนมาเป็นซะแบบนี้ยิ่งอันตรายสำหรับเอ็ง”
“ตัวข้าน่ะช่างมันเถอะ แต่ข้าเป็นห่วงท่านขุน ข้ารู้สึกว่าท่านขุนไม่ใช่ท่านขุนคนเดิม”
“โยมพิทักษ์กำลังเผชิญวิบากกรรม ใจเขาไม่อยู่กับตัว เราต้องเรียกสติโยมพิทักษ์กลับมา”
“หลวงพ่อหมายความว่ายังไงเจ้าคะ”
“อำนาจพุทธคุณ”
ชุ่มคิดตามที่หลวงตามั่นพูดแล้วนึกถึง...

โยมนำแหวนพิรอดวงนี้ไปมอบให้กับขุนพิทักษ์
ชุ่มดีใจถาม
“แหวนจะช่วยปกป้องท่านขุนใช่ไหมเจ้าคะ”
“มันเป็นเพียงเครื่องเตือนสติยามที่ตกอยู่ในอำนาจของกิเลส จำไว้ สิ่งที่จะช่วยท่านขุนได้คือ สติ และ จิตใจที่ดีงามเพียงเท่านั้น”

“แหวนพิรอด! ข้าต้องกลับไปหาแหวนให้เจอ”
“เอ็งต้องระวังตัวนะชุ่ม คนอย่างคุณรำพึงทำได้ทุกอย่าง”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะต้องทำให้ท่านขุนคนเดิมกลับมาให้ได้”
ชุ่มกราบลาหลวงตาแล้ววิ่งออกไป สมเป็นห่วงน้อง


ในเวลาต่อมา จวงเปิดประตูห้องหอออกมา รำพึงก้าวนำออกมา
“ทูนหัวของบ่าว...ทำไมต้องลงสวนไปเก็บดอกไม้เองล่ะเจ้าคะ ใช้บ่าวก็ได้เจ้าค่ะ”
“ข้าอยากเลือกเอง เพราะข้าอยากจัดดอกไม้สวยๆหอมๆไว้รอคุณพี่กลับมา”
จวงตาเยิ้มบอก
“หวานเหลือเกินเจ้าค่ะ แต่จะว่าไปกลิ่นดอกไม้หอมแค่ไหนก็ไร้ค่า เมื่อเจอกลิ่นกายของคุณรำพึงกับเสน่ห์น้ำมันจันทน์ รับรองท่านขุนไม่ไปไหนแน่เจ้าค่ะ”
รำพึงรีบปราม
“เรื่องแบบนี้อย่าเอามาพูดเล่น”
รำพึงเดินฉับ ฉับ ลงจากเรือน จวงรีบตาม
“รอจวงด้วยสิเจ้าคะ ทูนหัว”
จวงวิ่งตามไป ชุ่มโผล่ออกมาจากมุมหนึ่ง แล้วย่องเข้าห้องหออย่างระวัง
ภายในห้อง ชุ่มรีบค้นตามตู้ โต๊ะต่างๆ อย่างรีบเร่ง จนชุ่มไปเจอกล่องๆหนึ่ง เปิดมามีกริชประจำตระกูลอยู่ในนั้นและชุ่มก็เจอแหวนวางอยู่คู่กัน

“เจอแล้ว!”
ชุ่มรีบหยิบแหวนขึ้นมาแล้วเก็บไว้ที่ชายพก ชุ่มเก็บกล่องกริช แล้วรีบจะออกจากห้อง แต่จังหวะที่จะเปิดประตูออกมา คนที่อยู่ตรงหน้าชุ่มคือรำพึง ชุ่มตกใจ
“นังชุ่ม!”
“คุณรำพึง!”
ชุ่มได้สติจะรีบหนี แต่รำพึงจับดันเข้าไปในห้อง โดยมีจวงเข้ามาช่วย
“นังชุ่มเอ็งเข้ามาในห้องคุณรำพึงทำไม เอ็งคิดจะมาขโมยอะไรบอกมา”
“เอ่อ...ข้า”
“นังจวง ค้นตัวมัน”
จวงจะเข้าค้นตัวชุ่มแต่ชุ่มถีบจวง ชุ่มจะวิ่งหนีแต่รำพึงจับไว้ รำพึงตบหน้าชุ่ม ชุ่มล้มไป จวงล็อกตัวชุ่มได้
“ฤทธิ์เยอะนักนะนังชุ่ม...ไหนดูสิว่าคนอย่างเอ็งที่ชอบขโมยผัวคนอื่นแล้วยังจะขโมยอะไรอีก”
รำพึงเข้าค้นตัวชุ่มแล้วก็เจอของที่ชายพก รำพึงหยิบออกมาเห็นเป็นแหวนพระ รำพึงชูแหวนขึ้น
“คุณรำพึงขอข้าเถอะ นั่นมันแหวนของข้า”
ชุ่มพยายามตะกายดิ้นให้หลุดเพื่อจะเอาแหวน
“แหวนของเอ็ง แล้วทำไมมาอยู่ในห้องข้า”
ชุ่มตอบไม่ถูก รำพึงบีบปากชุ่ม
“จำใส่กะโหลกไว้ ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเอ็ง..มันมีแต่ของของข้า จำไว้ นังทาสชั้นต่ำ”
“คืนแหวนให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ มันสำคัญกับข้ามาก”
“สำคัญมากนักเหรอ ถ้าสำคัญมาก ไม่ว่ามันไปอยู่มี่ไหนเอ็งก็ต้องตามหามันให้เจอใช่มั้ย...ถ้ายังงั้นก็ไปตามหาในป่าก็แล้วกัน”
รำพึงพูดจบก็โยนแหวนทิ้งออกหน้าต่าง ชุ่มโกรธเผลอขึ้นเสียงกับรำพึง
“คุณรำพึง”
“กล้าขึ้นเสียงกับคุณรำพึงเหรอ... อย่าปล่อยมันไว้เจ้าค่ะคุณรำพึง”
รำพึงตบหน้าจนชุ่มร้อง
ที่ด้านหน้าห้องคุณหญิงมณีกับแจ่มเดินมาได้ยินเสียงชุ่มก็รีบเข้าไปดู เห็นรำพึงกำลังตบชุ่มอยู่
“หนูรำพึง...ทำไมทำนังชุ่มมันแบบนี้”
แจ่มรีบเข้าไปแยกชุ่มจากจวง ซึ่งก็ฮึ่มๆจะใส่กันอยู่ระหว่างแจ่มกับจวง
“นังชุ่มมันเข้ามาขโมยของในห้อง จะไม่ให้รำพึงลงโทษมันได้ยังไงล่ะเจ้าคะคุณแม่”
“เอ็งแอบเข้ามาในห้องนี้รึ”
ชุ่มจำพยักหน้าตอบ
“เจ้าค่ะ แต่บ่าวไม่ได้ขโมย บ่าวไม่ได้เอาอะไรของคุณรำพึงไปนะเจ้าคะ”
“ตอแหล แบบนี้ปล่อยไว้มีแต่จะเป็นเยี่ยงอย่างเลวๆให้กับคนในปกครองนะเจ้าคะคุณแม่”
คุณหญิงมณีถูกดักคอ
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ให้คุณหญิงท่านตัดสินเถอะเจ้าค่ะ เพราะคุณหญิงเป็นเป็นผู้ปกครองของเรือนนี้” แจ่มบอก
รำพึงหันขวับ
“ใครขอความคิดเห็นทาสอย่างเอ็ง”
แจ่มเจอพลังแดกดันของรำพึงจนหงอไป จวงคิกคัก
“นี่ห้องหอของรำพึง รำพึงขอจัดการนังหัวขโมยนี่ด้วยตัวรำพึงเอง หวังว่าคุณแม่คงไม่ขัดนะเจ้าคะ”
คุณหญิงมณีน้ำท่วมปากจำต้องยอม รำพึงยิ้มร้ายที่ชุ่มเหมือนลูกไก่ในกำมือ


ไม้หวายลงหลังชุ่มดัง ฟั่บ! ชุ่มกรีดร้อง แผ่นหลังแตกตามรอยหวาย
“โอ๊ย!”
“ริจะเป็นหัวขโมย มันก็ต้องเจ็บแบบนี้”
รำพึงฟาดดังขวับ
“พอทีเถอะหนูรำพึง นังชุ่มมันโดนเฆี่ยนไปเป็นสิบไม้แล้วนะ”
“มันจะได้จำแล้วก็ไม่กล้าทำแบบนี้อีกไงเจ้าคะคุณแม่..โดนแค่เนี้ยมันยังน้อยไป”
รำพึงหันไปเรียกจวง
“นังจวง...”
จวงสาดน้ำเกลือไปที่หลัง ชุ่มร้องกรี๊ด! แจ่มตกใจรีบเข้าไปแย่งถังน้ำเกลือจากจวง
“นังจวงเอ็งราดมันด้วยน้ำเกลือ แผลสดๆแบบนั้นมันจะทนไหวได้ยังไง ทำกันยังกับไม่ใช่คน”
“ข้าทำตามคำสั่งคุณรำพึง เรื่องอื่นข้าไม่สน”
“อีจวง...”
แจ่มปรี๊ดจะเข้าลุย แต่คุณหญิงห้ามไว้ แจ่มน้ำตารินด้วยความสงสารชุ่ม
“หนูรำพึง แม่ขอเถอะนะ เดี๋ยวนังชุ่มมันจะขาดใจตายซะก่อน”
รำพึงยิ้มเย็นบอก
“รำพึงคงจะให้คุณแม่ไม่ได้ เพราะรำพึงมีหน้าที่ดูแลคนในเรือนนี้แทนคุณพี่และคุณแม่ ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด”

รำพึงลงหวายฟาดลงหลังชุ่มอีก คุณหญิงมณีทนดูไม่ได้ถึงกับต้องเดินหนีไป แจ่มจำต้องตาม

บริเวณหลังเรือน เด็กๆ เล่นกันอยู่เป็นกลุ่ม ที่พื้นมีแหวนพิรอดที่ตกอยู่ ไอ้ดำหยิบแหวนขึ้นมาดู
“แหวนใครวะ”
ขุนพิทักษ์เดินมาเห็นไอ้ดำกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่เลยถาม
“ดูอะไรอยู่ไอ้ดำ”
“แหวนขอรับท่านขุน ไม่รู้ของใครมาตกอยู่แถวนี้”
ดำยื่นแหวนให้ขุนพิทักษ์ แสงเรืองจากแหวนทำให้ขุนพิทักษ์ชะงักจนต้องเอื้อมมือไปหยิบ
“ไอ้ดำตาเอ็งแล้ว มาเร็ว” เด็กคนหนึ่งบอก
“เออ เออ ข้าไปแล้ว” ไอ้ดำบอก
ดำวิ่งออกไป ทิ้งขุนพิทักษ์ไว้ที่ตรงนั้น
ขุนพิทักษ์มองแหวนอย่างพิเคราะห์ เสียงสวดมนต์ ลอยเข้ามาในภวังค์ จนทำให้ขุนพิทักษ์ มีอาการมึน
เสียงร้องของชุ่มที่โดนโบย ลอยเข้ามาในภวังค์

หลังชุ่มอาบไปด้วยเลือด รำพึงเข้ามาจิกหัวชุ่ม
“พี่เอ็งยังไม่รอดเงื้อมือข้า นับประสาอะไรกับคนอย่างเอ็ง คิดจะลองดีกับข้า ก็อย่าหวังจะรอดเลย”
“ข้าไม่ได้อยากจะลองดีกับท่าน ข้าแค่อยากให้ท่านขุนได้สวมแหวน”
“จะตายแล้วยังปากดีอีก”
“ต่อให้ข้าต้องตายแต่ถ้าท่านขุนปลอดภัยข้าก็ยอม”
รำพึงปรี๊ด
“อีชุ่ม งั้นเอ็งก็เตรียมตัวตายได้เลย”
รำพึงฟาดชุ่มไม่ยั้ง ชุ่มร้องโอยเจ็บปวด
ขุนพิทักษ์มองแหวน ภาพในมโนสำนึกก็ผุดขึ้นมา

“ท่านขุน สัญญากับข้าได้ไหมว่าท่านจะสวมแหวนไว้ตลอด”
ขุนพิทักษ์สวมแหวนแล้วยกให้ดู
“พอใจหรือยัง”

ขุนพิทักษ์นึกถึงตอนที่นอนกอดและบอกรักชุ่มในเรือนทาส

รำพึงลงหวายไม้ที่หลังชุ่ม ก่อนชุ่มจะหมดสติเรียก
“ท่านขุน!”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 10/2 วันที่ 23 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager