อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/2 วันที่ 20 ก.พ. 56
โจรทั้งสามคนหัวเราะเยาะใส่หน้าขุนไว ก่อนจะเดินจากไป“ท่านขุนยอมให้พวกมันสูบเลือดอยู่อย่างนี้หรือขอรับ” ลูกน้องขุนไวว่า
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกมันจะได้สูบเลือดข้า เพราะครั้งหน้ามันคงต้องไปหาเอาในนรก”
ขุนไวแววตากร้าวแข็ง
วันใหม่ บนศาลาเรือนคุณหญิงมณี แจ่มเอาน้ำมาเสิร์ฟพระยาเทวราช
“ครั้งนี้ไปนานเหรอเจ้าคะท่านเจ้าคุณ”
พระยาเทวราชพยักหน้า
“เพราะว่าไปนาน ฉันเลยอยากจะมาฝากฝังรำพึงไว้กับคุณหญิง เพราะหมดจากฉัน รำพึงไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากคุณหญิงและพ่อพิทักษ์”
รำพึงมองหน้าพ่ออย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่พ่อพูดจาแบบนี้
“ฉันมีลูกสาวคนเดียว และเป็นความหวังที่ฉันจะฝากผีฝากไข้ ฉะนั้น อย่าให้รำพึงต้องเจ็บช้ำน้ำใจ หากตัวฉันไปไกลไม่ได้อยู่ปกป้องลูก”
รำพึงสะบัดหน้ามาน้ำตารื้น เริ่มสับสนในความดีความชั่ว
“ท่านเจ้าคุณไม่ต้องห่วงเจ้าคะ หนูรำพึงเป็นสะใภ้ ก็เหมือนลูกของอิฉัน ต้องดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้ว”
“ถ้าทำแบบนั้นได้จริง ฉันจะได้วางใจ”
“ถ้าอย่างนั้นอิฉันขอตัวให้ท่านเจ้าคุณได้คุยกับหนูรำพึงกันตามประสาพ่อลูกนะเจ้าคะ”
คุณหญิงมณีเดินออกไปกับแจ่ม รำพึงมองพ่ออย่างรู้สึกผิด
“รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อย่าให้ป่วยให้ไข้ หยูกยา...”
พระยาเทวราชพูดยังไม่ทันจบ รำพึงก็กลั้นสะอื้นตัดบทขึ้นมา
“เจ้าคุณพ่อเจ้าคะ ไม่ไปได้มั้ยเจ้าคะ”
“ได้ที่ไหนกัน นี่งานราชการ ไม่ได้เล่นขายของ เจ้ามีอะไรรึเปล่า”
“เอ่อ...คือ ลูกแค่ใจหายที่เจ้าคุณพ่อจะต้องในที่ไกลๆ นานๆ”
“อยู่ทางนี้ก็ทำตัวให้ดีแล้วกัน อย่าให้เรื่องเน่าๆลอยไปเข้าหูข้าไกลถึงหัวเมืองเหนือโน่น”
รำพึงสะดุดกึก กัดกราม
“เจ้าคุณพ่อจะพูดกับลูกดีดีสักครั้งไม่ได้เลยเหรอเจ้าคะ”
“พูดดีแล้วได้ชั่วข้าไม่เอา เรื่องของต่ำ มนต์ดำ อย่าได้ไปข้องแวะ อย่าเอาเสนียดมาติดตัว ติดชื่อข้า เหมือนแม่ของเจ้า เพราะถ้าข้ารู้ว่าเจ้าทำเรื่องจัญไรแบบนั้น ข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่”
พระยาเทวราชลุกลงจากศาลาไป รำพึงมองตาม
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านทำตัวท่านเองนะเจ้าคะ เจ้าคุณพ่อ”
รำพึงแววตาเหี้ยมกู่ไม่กลับแล้ว
รถม้าของพระยาเทวราชแล่นฝ่าความมืดของเวลากลางคืนเข้ามาตามทางในป่า
“เร็วกว่านี้! ยังต้องเดินทางกันอีกไกล”
ลูกน้องขุนไวที่มีผ้าคลุมปิดบังใบหน้ามองด้วยสายตาคมกริบ
รำพึงกำลังหวีผมมองตัวเองในกระจกด้วยดวงตากร้าว เมื่อนึกถึงคำพูดของพระยาเทวราช
“สำส่อน! ใฝ่ต่ำเหมือนแม่ของแกไม่มีผิด / อย่าบังอาจสร้างความเสื่อมเสียอับอายให้ข้า เหมือนแม่เจ้าอีกคน”
รำพึงตาวาวบอกกับตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ เจ้าคุณพ่อจะไม่มีโอกาสได้เสื่อมเสียอับอายอีกต่อไป”
ที่กลางป่า ขุนไวยกคันธนูแหลมคม เล็งไปที่ขบวนรถม้าก่อนยิงออกไป ฟรึ่บ!! ลูกธนูปักอกทหารที่บังคับม้า ร่วงลงทันที
“อ๊าก!”
ขบวนรถม้าหยุดชะงัก ทหารคุ้มกันอีกสองนายพุ่งออกมาอย่างระวังภัยรอบตัว ภายในเก๋ง พระยาเทวราชถาม
“โจรป่ารึ”
พระยาเทวราชคว้าดาบขึ้นมากระชับมือ แต่ทันใดนั้น มีดาบคมทิ่มพรวดเข้ามาในเก๋ง!! เฉียดพระยาเทวราชไปนิดเดียว
“เฮ้ย!”
ทหารคนที่หนึ่งเข้ามาช่วยพระยาเทวราช ถีบลูกน้องของขุนไวคนแรกกระเด็นไป ทหารคนที่สองเข้ามาอารักขาพระยาเทวราชทันที
“กำแหงนัก...ไอ้พวกต่ำช้า ปั่นคอมันให้ได้!”
จังหวะนั้น ลูกน้องทั้งสองคนเข้ามาฟาดฟันร่วมวงกับทหารคนแรก ทหารคนที่สองจำต้องเข้าไปช่วยต่อสู้เป็นพัลวัน สุดท้ายทหารถูกลูกน้องขุนไวฆ่าจนตายหมด
พระยาเทวราชกระชับดาบ เข้าไปสู้ด้วยแต่ก็ต้องพ่ายแพ้บาดเจ็บ
“วันนี้ได้ตายเป็นผีเฝ้าป่าแน่ไอ้แก่!”
ลมพัดหน้าต่างปิดดัง ปัง!! รำพึงสะดุ้งเฮือก ใจหายวาบ
พระยาเทวราชฮึดสู้สุดชีวิต แต่สุดท้ายถูกลูกน้องฟันจนยับเยิน
รำพึงนึกถึงคำร่ำลาที่พ่อฝากตนไว้กับคุณหญิงมณี (ถ่ายแล้ว)
“ฉันมีลูกสาวคนเดียว และเป็นความหวังที่ฉันจะฝากผีฝากไข้ ฉะนั้น อย่าให้รำพึงต้องเจ็บช้ำน้ำใจ หากตัวฉันไปไกลไม่ได้อยู่ปกป้องลูก”
รำพึงสับสนน้ำตาไหล
พระยาเทวราชสะบักสะบอมปางตายพยายามคลานหนีแต่ก็โดนเตะเสย หงายกลับไป
“อย่าฆ่าข้าเลย อยากได้อะไรเอาไปให้หมด ขอชีวิตข้าไว้เถอะ”
พวกโจรป่าพากันหัวเราะอย่างสะใจด้วยความสมเพช ค่อยๆเดินตาเหี้ยมเข้าไปหา
“อย่า...อย่าฆ่าข้าเลย”
พระยาเทวราชพยายามคลานหนี จนไปเจอกับเท้าของขุนไวที่ยืนอยู่ตรงหน้า พระยาเทวราชยิ้มกอดขาขุนไวแน่น ปากพร่ำขอร้องดูน่าเวทนา
“ขุนไว...ขุนไว ช่วยข้าด้วย”
“พระยาเทวราชผู้เย่อหยิ่งคนเดิมหายไปไหนเสียล่ะขอรับ”
พระยาเทวราชชะงักกึก
“ข้าเห็นแต่ไอ้แก่ไร้ศักด์ศรีที่กอดขาขอร้องข้าอยู่!”
พระยาเทวราชถัดตัวถอยห่างจากขุนไว ขุนไวสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม
“จับมัน!”
ลูกน้องเข้ามารุมจับพระยาเทวราช
พระยาเทวราชช็อก
“ขุนไว...นี่เป็นฝีมือเจ้า”
ขุนไวยิ้ม พระยาเทวราชโกรธมาก
“ไอ้ไว ไอ้ชั่ว!”
ขุนไวกระแทกคันธนูจนพระยาเทวราชทรุดลง
“รู้รสชาติรึยังว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง รู้รึยังว่าการโดนหักหลังมันเป็นยังไง ท่านทำให้ชีวิตข้าย่อยยับ ทำลายหน้าที่การงานข้า ทำลายหัวใจของข้า จุดจบมันก็ต้องเป็นแบบนี้”
พระยาเทวราชกลัวตาย กอดขาขุนไวแน่น
“อย่านะขุนไว อย่าฆ่าข้านะ ข้ารับปากว่าจะแก้คำสั่งไม่ให้เจ้าต้องออกไปต่างเมือง ข้าจะให้เจ้าแต่งงานกับรำพึง ข้าจะทำทุกอย่าง แต่อย่าฆ่าข้า ข้าขอร้อง...”
“คนระดับพระยาอย่างท่านถึงกับลดตัวลงมาขอร้องหมาวัดอย่างข้าเหรอ”
ขุนไวสีหน้านิ่ง พระยาเทวราชยิ้มนึกว่าขุนไวใจอ่อน แต่... ขุนไวผลักหัวพระยาเทวราชออกไป
“มันสายเกินไปแล้ว!”
พระยาเทวราชตะโกนลั่น
“อกตัญญู! คนอย่างเอ็งไม่มีวันเจริญ ไม่มีวัน!”
ขุนไวสีหน้าโกรธ คว้าดาบจากลูกน้องแล้วเงื้อดาบขึ้นสุดแขน!
ภายในห้อง รำพึงกำหวีแน่น คำพูดของพระยาเทวราชดังก้องในโสตประสาท
“คนชั่วอย่างแม่เจ้า ข้าจะเก็บไว้ทำไม”
“เจ้าคุณพ่อ!”
“ข้าจบชีวิตมันด้วยมือของข้าเอง!”
ที่กลางป่า ขุนไวฟันฉับไปที่คอพระยาเทวราช
ภายในห้อง รำพึงปัดกระจกตกแตก ดวงตาแห่งความกลัวกลับมาเป็นแววตากร้าว
“เจ้าคุณพ่อฆ่าแม่ เจ้าคุณพ่อต้องชดใช้ด้วยชีวิต !”
ในเวลาเช้า แจ่มวิ่งกระหืดกระหอบ หน้าตาตื่นขึ้นมาที่โถงกลางเรือนบ้าน คุณหญิงมณีนั่งจิบน้ำชาอยู่
“เอ้า นังแจ่ม! ทำท่ายังกับมีใครตาย”
แจ่มท่าทางยังหอบอยู่บอก
“ก็มีน่ะสิเจ้าคะ คุณรำพึงอยู่ไหนเหรอเจ้าคะ”
คุณหญิงมณีเอะใจถาม
“เกิดอะไรขึ้น”
แจ่ม ตะกุกตะกัก
“คือว่า...ท่าน”
“อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ได้ มีอะไรก็พูดมา”
“ท่านพระยาเทวราช...ตายแล้วเจ้าค่ะ”
“คุณพระช่วย !”
รำพึงแอบยืนอยู่ที่หน้าห้องหอ รำพึงเหยียดยิ้มสมใจ คุณหญิงมณีหันมามองด้วยความเห็นใจ
“หนูรำพึง”
รำพึงหันขวับมองแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจอย่างรวดเร็ว
“เจ้าคุณพ่อ”
รำพึงทิ้งตัวเป็นลม
“ว้าย ! ทูนหัวของบ่าว”
จวงรับร่างรำพึง คุณหญิงมณีกับแจ่มปราดเข้าไปดูรำพึง
ภายในโรงครัว ผาดนั่งโขลกน้ำพริกดัง โป๊ก โป๊กทางคนหนึ่งพูดขึ้น
“ท่านพระยาเทวราชตายไวเพราะท่านบุญเยอะ”
“ถูกโจรฆ่าตายกลางป่าเนี่ยเหรอวะบุญเยอะ” ผาดว่า
“เออสิวะ ท่านตาย ท่านก็ไม่ต้องอยู่รับเวรรับกรรมกับลูกอย่างคุณรำพึงอีกแล้วไง”
“เออจริง”
ทั้งคู่หัวเราะคิกคักใส่กัน
“อย่าพูดอย่างนั้นเลย คุณรำพึงได้ยินจะยิ่งเสียใจ เวลานี้คุณรำพึงน่าสงสาร พ่อเธอตายทั้งคนนะจ๊ะ” ชุ่มพูดขัด
“จ้าแม่คนดี ตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด ยังจะไปปกป้องเขาอีก” ทาสว่า
“ใช่ สิ้นพระยาเทวราชไปแล้ว อารมณ์คุณรำพึงจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ได้อาละวาดทุกวันแน่ๆ” ผาดบอก
“เอ็งนั่นแหละระวังตัวไว้ให้ดีเถอะนังชุ่ม ใช่ว่าได้ขึ้นมาอยู่บนเรือน แล้วจะรอดมือคุณรำพึงนะ ยิ่งใกล้ ยิ่งน่ากลัว” ทาสบอก
ชุ่มไม่สบายใจทั้งสงสารและกลัวรำพึง
งานศพในเรือนพระยาเทวราช เวลากลางคืน รำพึงยืนไหว้รับแขกอยู่หน้างาน สีหน้าเศร้าสร้อย น้ำตาไหลตลอด ท่านพระยาและคุณหญิงเพิ่งมาถึงงาน รำพึงยกมือไหว้
“เสียใจด้วยนะหนูรำพึง” ท่านพระยาบอก
“ค่ะท่านเจ้าคุณ” รำพึงบอก
“ไอ้โจรพวกนี้ใจทรามบาปหนานักเชียว ฆ่าได้แม้กระทั่งคนดีๆ อย่างท่านพระยาเทวราช คอยดูเถอะ เวรกรรมจะต้องตามสนองพวกมัน ตายไปต้องตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดได้เกิด” คุณหญิงว่า
รำพึงสะอึกแล้วเปลี่ยนเรื่อง
“เชิญคุณป้าข้างในเถอะค่ะ”
แขกทั้งสองคนเข้าไปในงาน รำพึงสีหน้านิ่งเฉยไม่เกรงกลัวบาปมองไปที่โกศพระยาเทวราช
“ถ้าเจ้าคุณพ่อยังอยู่ ลูกก็ต้องตกนรกทั้งเป็นอยู่ดี”
ดูเหมือนพระยาเทวราชจะจ้องผ่านโกศมองมาทางรำพึง
เวลากลางคืน โจรป่า3คนยืนประจันหน้ากับขุนไวและลูกน้องอยู่ที่ชายป่าริมน้ำ โจรป่าคนหนึ่งถาม
“ไหนล่ะค่าจ้างที่เหลือตามสัญญา”
ขุนไวกับลูกน้องยิ้มเหี้ยม
โจรป่าพูดกับขุนไว
“อย่าคิดโกงพวกเข้าเชียวนะ เพราะถ้าพวกข้าแฉเรื่องพระยาเทวราช คนที่จะเดือดร้อนที่สุดก็คือท่าน”
“ใจเย็นๆ ท่านขุนเตรียมเงินไว้ให้พวกเอ็งแล้ว แต่พวกเอ็งต้องไปเอาเอง” ลูกน้องขุนไวบอก
“ที่ไหน”
“ในนรก !”
ขุนไวพูดพลางชักดาบฟันลูกน้องโจรป่าตายคาที่ทันที โจรป่าที่เหลืออยู่ต่อสู้กับขุนไวและลูกน้อง แต่ขุนไวจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย หัวหน้าโจรโดนฟันทรุดตัวลงบนพื้น เลือดไหลออกปาก
“จำเอาไว้ คนอย่างข้าจะไม่ปล่อยให้ใครอยู่เป็นเสี้ยนหนามชีวิต ”
ขุนไวฟันหัวหน้าโจรเป็นครั้งสุดท้าย หัวหน้าโจรตาย ขุนไวยิ้มเหี้ยม
ภายในเรือนพระยาเทวราช แขกสองคนชะเง้อมองไปทางคุณหญิงมณีและแจ่มที่นั่งอยู่ในงาน
“ขุนพิทักษ์หายไปไหน งานศพพ่อตาตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงไม่มาร่วมงาน” แขกคนที่หนึ่งบอก
รำพึงเดินมาข้างหลังได้ยินแขกคุยกันพอดี
“หรือว่าขุนพิทักษ์จะหลงเมียทาสอย่างที่คนเขาลือ” แขกอีกคนว่า
“อะไรกัน เพิ่งแต่งงานกันเองไม่ใช่หรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าหนูรำพึงแก่หัวหงอกอย่างเราๆ ก็ว่าไปอย่าง นี่ยังสาวยังแส้ หน้าตาผิวพรรณหรือก็สะสวยหาหญิงใดเทียบได้ เอ๊ะ..หรือว่านางทางคนนั้นแสนดี”
“อีกที...หนูรำพึงก็ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ล่ะคุณพี่”
รำพึงกำมือแน่นพยายามระงับสติ
“พวกผีเจาะปากมาพูด”
จังหวะนั้น ขุนพิทักษ์สีหน้าเซ็งเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเดินขึ้นเรือนมา รำพึงมองอย่างโกรธๆ แล้วกัดฟันถาม
“โผล่หัวมาได้สักทีนะคะคุณพี่”
รำพึงเดินเข้าไปหาขุนพิทักษ์
ขุนพิทักษ์เดินไปไหว้ศพท่านพระยาเทวราช รำพึงตามมาช่วยจุดธูปให้ด้วยท่าทางปกติ แต่ปากถาม
“น้องคิดว่านังชุ่มจะกักตัวคุณพี่ไว้ไม่ให้มาเสียแล้ว”
“พี่ก็อยากให้ชุ่มทำแบบนั้น”
“คุณพี่ ! ถ้าวิญญาณเจ้าคุณพ่อรับรู้ว่าคุณพี่ทำแบบนี้กับน้อง ท่านคงจะเสียใจมาก”
“ท่านคงจะเสียใจมากกว่า ถ้าวิญญาณของท่านเจ้าคุณรับรู้ว่าเจ้า...”
ขุนพิทักษ์มองด้วยสายตาเจ็บแค้นเรื่องผงม้าเสพนาง แต่รำพึงคิดไปว่าเป็นเรื่องที่ตนวางแผนฆ่าพ่อ รำพึงตกใจและเริ่มระแวง
“คุณพี่พูดถึงเรื่องอะไร”
“เจ้าลืมเรื่องไอ้ผงอัปยศที่เจ้าให้ข้ากินไปแล้วอย่างนั้นเหรอ”
รำพึงพ่นลมหายใจอย่างโล่งใจ รำพึงส่งธูปให้ขุนพิทักษ์แล้วกำลังจะลุกออกไป
ทันใดนั้นรำพึงหันไปเห็นผีท่านพระยาที่มีบาดแผลแหวะหวะเต็มตัวยืนชี้หน้ารำพึงอยู่ข้างโกศ
“นังลูกชั่ว !”
รำพึงปิดหน้าหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว ตกใจสุดขีด กรี๊ดลั่น ล้มลงกับพื้น
“เจ้าคุณพ่อลูกกลัวแล้ว ลูกกลัวแล้ว”
ทุกคนในงานตกใจ
คุณหญิงมณี แจ่มและจวงวิ่งเข้าไปดูรำพึง
“คุณรำพึง คุณรำพึงเป็นอะไรไปเจ้าคะ” จวงถาม
รำพึงชี้ไปที่ข้างโลงศพ
“เจ้าคุณพ่อ...เจ้าคุณพ่อ”
“ผีท่านพระยา !”
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/2 วันที่ 20 ก.พ. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager