@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 8/3 วันที่ 19 ก.พ. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 8/3 วันที่ 19 ก.พ. 56

“บอกก็ได้ เจ้าวีมันแปลกใจทำไมน้องเมย์ทำคะแนนดีขนาดนี้”
สุดนภาพูดแบบมีพิรุธ “อะไรกัน เรื่องแค่นี้ก็ต้องมีปัญหาด้วย” สุดนภาแอบบ่น “หยง หาเรื่องให้ชั้นแล้วมั๊ยล่ะ”
นาวินแอบมองสุดนภาอย่างสังเกต
“หรือว่าคุณมีอะไรปิดบังผม”
สุดนภาพปฏิเสธเสียงสูง “ไม่มี๊...”

“เสียงสูงขนาดนี้ แสดงว่ามี หรือคุณแอบเอาข้อสอบให้น้องเมย์ดู”
สุดนภาโวยวาย “จะบ้าหรือ ใครจะไปทำแบบนั้น แค่นี้ก่อนนะ จะไปห้องน้ำ”
สุดนภาเดินไป นาวินบ่นตามหลัง
“ผมแค่ล้อเล่น เป็นจริงเป็นจังไปได้”



นาวินเดินมาส่งสุดนภาที่หน้าห้องพักในคอนโด
“ขอบคุณมากนะ คุณกลับได้แล้ว”
“อ้าว ไม่เชิญผมเข้าไปกินน้ำกินท่าก่อนหรือ”
“ไม่ เพิ่งทานข้าวเสร็จ หิวอีกแล้วหรือไง”
สุดนภาเปิดประตูเข้าห้องแล้วปิดดังปัง นาวินยืนมองแล้วยิ้ม
นาวินมั่นใจ “นับไม่เกิน 3 คุณบี๋ต้องเปิดมารับเราแน่นอน 1....2.....”
สุดนภาเปิดประตูออกมา นาวินทำท่าจะเดินเข้าห้องแต่สุดนภาดันตัวนาวินไว้
“ใครให้คุณเข้ามา” สุดนภาส่งน้ำให้ 1 ขวด “อ่ะ เอาไป เดี๋ยวจะหาว่าชั้นไร้น้ำใจ”
สุดนภาปิดประตูดังปัง นาวินถือน้ำอย่างงงๆ
“ก็ยังดีว๊า....ได้แค่น้ำก็ชื่นใจแล้ว”
นาวินยกขวดน้ำขึ้นดูแล้วยิ้มๆ

สุดนภาเดินเข้ามานั่งยิ้มในห้อง
“นายนาวินนี่บ้าจริง..จริ๊ง” สุดนภานึกได้ “ต้องเตือนหยงก่อน”
สุดนภาหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก

เมรินกับประภัสสรนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะ สายแก้วรีบมารายงาน
“น้องเมย์ขา ครูบี๋โทรมาค่ะ”
ประภัสสรถามทันที “โทรหาชั้นหรือเปล่าสายแก้ว”
“เปล่าค่ะ ครูบี๋บอกจะคุยกับน้องเมย์ค่ะ”
ประภัสสรมองหน้าเมรินด้วยความแปลกใจ เมรินรีบลุกขึ้นแล้วเลี่ยงไปรับโทรศัพท์
เมรินคุยโทรศัพท์
“มีอะไรหรือบี๋
สุดนภาคุยโทรศัพท์อยู่ที่ห้อง “หยงแกต้องระวังตัวนะ รู้มั๊ยเมื่อกี้คุณวีเค้าโทรมาถามคุณนาวินเรื่องแก”
เมรินชะงัก “ถามอะไร”
“อ้าว ก็เรื่องที่แกแสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ไงล่ะ เตือนให้แกระวังไว้ก่อน คุณปฐวีน่ะเค้าไม่ใช่เด็กๆนะ เดี๋ยวจะมีปัญหา”
เมรินหน้าเครียด เธอวางโทรศัพท์แล้วเดินมานั่งข้างประภัสสร
“ครูบี๋โทรมามีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” ประภัสสรถาม
“อ๋อ ไม่มีหรอกค่ะ ครูบี๋โทรมาแสดงความยินดีที่น้องเมย์สอบได้ที่ 1”
“แหมครูบี๋นี่นารักจริงๆนะ เห็นมั๊ย ใครๆก็ดีใจ ดูน้าวีสิ พอได้ข่าวว่าน้องเมย์สอบได้ที่ 1 น้าวีอึ้งไปเลย”
ประภัสสรดึงเมรินมากอดไว้ เมรินยิ้มเจื่อน

เมรินนอนกระสับกระส่ายแล้วพลิกตัวกลับไปกลับมา เธอนึกถึงตอนที่ปฐวีเห็นสมุดพกแล้วนิ่งไปอย่างคิดหนัก
เมรินถอนหายใจ
“นี่ชั้นหาเรื่องใช่มั๊ยเนี่ย ตันหยงเอ๊ย”
เมรินหน้าเครียด

เช้าวันใหม่ รถของหนึ่งฤทัยจอดอยู่ข้างทาง หนึ่งฤทัยมองหน้ารถตัวเองที่มีควันขึ้น
“ทำยังไงดีล่ะเนี่ย” หนึ่งฤทัยมองนาฬิกา
หนึ่งฤทัยคิดว่าจะทำยังไงดี

ปฐวีที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินพูดโทรศัพท์ลงบันไดมาด้วยท่าทางรีบร้อน
“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
ประภัสสรเดินเข้ามาในบ้าน
“วี ไปทำงานแต่เช้าเชียว ทานกาแฟกับพี่ก่อนมั๊ย”
“คงไม่ทันแล้วครับพี่ภัส ผมต้องไปรับหมอหนึ่ง”
“งั้นก็ไปเถอะจ๊ะ”
ปฐวีเดินไป ประภัสสรมองตาม
เมรินวิ่งลงจากบ้านมาอย่างรีบร้อน
“น้าวีค่ะ น้าวี คุณแม่ขาน้าวีไปแล้วหรือคะ ทำไมไปแต่เช้าเลย”
“อ๋อ น้าวีมีธุระจ๊ะ”
เมรินงง
“ต้องไปรับหมอหนึ่ง หมอหนึ่งคนที่น้าวีพามาบ้านนั่นแหละ สงสัยจะเป็นแฟนน้าวีแน่แล้ว”
เมรินได้ยินก็อึ้งจนคอตก เธอหันหลังเดินเข้าบ้านทันที ประภัสสรมองเมรินแบบงงๆ

เมรินนั่งเศร้าเพราะคิดไม่ถึงว่าปฐวีจะเป็นแฟนกับหนึ่งฤทัย
“น้าวี.....กับหมอหนึ่ง” เมรินประชด “ความจริงเค้าก็เหมาะสมกันแล้วนี่” เมรินคิดในใจ “แล้วทำไมเราต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ”
เมรินนั่งจับเจ่าเท้าคางอยู่ลำพัง

หนึ่งฤทัยยืนรออยู่ข้างรถตัวเองที่จอดอยู่ ปฐวีขับรถมาจอด หนึ่งฤทัยรีบวิ่งมาหา
“หนึ่งขอโทษด้วยนะคะที่ต้องรบกวนวี ขับมาดีๆไม่รู้เกิดอะไรขึ้น อยู่ๆรถก็ดับไป หนึ่งหาเบอร์ศูนย์บริการไม่เจอค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมลองดูให้ก่อนนะครับ”
ปฐวีเปิดประตูเข้าไปเปิดฝากระโปรงรถ แล้วเดินไปดูที่ห้องเครื่องยนต์ที่มีควันพวยพุ่ง
“สงสัยมีปัญหาหม้อน้ำรั่ว คงต้องเรียกช่างแล้วละครับ”
หนึ่งฤทัยงง “หนึ่งไม่สันทัดเรื่องเครื่องยนต์เลยค่ะ”
ปฐวีขำ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรตามช่างที่ศูนย์ มาจัดการให้ดีกว่านะครับ”
ปฐวีกดโทรศัพท์ หนึ่งฤทัยมองปฐวีอย่างโล่งใจ

ปฐวีนั่งกินอาหารเช้ากับหนึ่งฤทัยในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“หนึ่งอายจังเลยค่ะ เป็นถึงหมอ แต่เรื่องรถ ขับเป็นอย่างเดียว”
“ไม่ต้องอายหรอกครับ เรื่องธรรมดา คนเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง”
“นั่นแหละค่ะ น่าอายจัง”
ปฐวียิ้มขำ หนึ่งฤทัยแอบมองปฐวี
“ถ้าไม่ได้หมอวีหนึ่งคงแย่แน่ๆเลย มีเหตุฉุกเฉินทีไร หนึ่งเป็นต้องรบกวนวีทุกครั้งเลย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีนะ ที่หนึ่งคิดถึงผมเป็นคนแรก”
ปฐวีตักอาหารให้หนึ่งฤทัย หนึ่งฤทัยมองแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ทานเถอะครับ เดี๋ยวจะได้รีบไป”
“ค่ะ”
หนึ่งฤทัยก้มหน้ากินอาหารเช้า ปฐวีมองเลยไปด้านหลังหนึ่งฤทัยแล้วก็ชะงัก หนึ่งฤทัยสังเกตเห็น
“วีคะ เป็นอะไรไป มีอะไรหรือเปล่า”
ปฐวีตอบแบบมีพิรุธ “เปล่าครับ เรารีบทานเถอะนะครับ”
ปฐวีก้มหน้ากินแบบมีพิรุธส่วนหนึ่งฤทัยมองอย่างงงๆ

พิรามยืนอยู่ข้างเตียงที่ร่างตันหยงนอนอยู่ เขาหยิบรูปตันหยงตอนที่ถ่ายในงานหมั้นคู่กันมาวางที่โต๊ะข้างเตียง พิรามเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ตันหยง
“ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อทำให้เราสอง คนกลับมามีวันที่มีความสุขเหมือนเดิม”
พิรามนั่งลงอ่านหนังสือใกล้ๆตันหยง
บุหงากับพินิจยืนดูอยู่ที่มุมหนึ่งห่างออกมา บุหงาซับน้ำตา
“พิรามทำแบบนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา”
“อย่างน้อย มันคงเป็นการถ่ายโทษในใจของพิรามนั่นแหละ” พินิจบอก
“แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรกับลูกเราเลยนะคะคุณ”
“อย่างน้อยที่สุด พิรามก็ได้แสดงความจริงใจกับลูกเราแล้วนะ ผมว่าคุณควรจะยกโทษให้เค้าได้แล้วละ”
บุหงานิ่งคิดแล้วหันไปมองพิรามที่ดูแลตันหยงเป็นอย่างดี

หนึ่งฤทัยกับปฐวีเดินมาตามทางจนถึงหน้าห้องตันหยง
“เดี๋ยวหนึ่งต้องไปตรวจเยี่ยมคุณตันหยง เข้าไปด้วยกันมั๊ยคะ”
ปฐวีลังเล “อย่าดีกว่าครับ เชิญหมอหนึ่งเถอะ ผมต้องไปเยี่ยมคนไข้ผ่าตัดเมื่อวานนี้”
“งั้นหรือคะ”
ปฐวีจะเดินไปแต่แล้วก็นึกได้จึงหันมาเรียกหนึ่งฤทัย
“เดี๋ยวเย็นนี้ผมไปส่งให้นะครับ”
หนึ่งฤทัยยิ้มหวาน “ขอบคุณค่ะ”
ปฐวียิ้มแล้วเดินไป หนึ่งฤทัยดีใจ

ปฐวีเดินออกมา สุดนภาเห็นก็ชะงัก
“อ้าวครูบี๋ มาเยี่ยมเพื่อนหรือครับ”
“อ๋อค่ะ หมอวี ขอตัวก่อนนะคะ”
สุดนภาทำท่าจะเดินไป ปฐวีรีบเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนครับ ผมมีเรื่องอยากปรึกษา”
“ปรึกษาหรือคะ เรื่องอะไร”
“เรื่องน้องเมย์ครับ”
สุดนภายืนเครียดเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี

สุดนภากับปฐวีนั่งคุยกันในร้านกาแฟ สุดนภาอึดอัดและไม่อยากนั่งอยู่
“ครูบี๋สังเกตว่าน้องเมย์ผิดปกติหรือเปล่าครับ” ปฐวีถาม
“ผิดปกติยังไงคะ”
“ฉลาดขึ้น เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น อะไรทำนองนี้”
“แล้วคุณวีล่ะคะ รู้สึกยังไง เอ่อ...จริงๆแล้วคุณอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าบี๋นะคะ”
ปฐวีนิ่งคิด “ผมก็บอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะใกล้ชิดกันมาก ผมเลยไม่รู้สึกอะไรก็ได้”
“บี๋ก็ไม่เห็นว่าน้องเมย์จะผิดปกติอะไรนะคะ เด็กวัยนี้พัฒนาการโน้มไปตามสังคม หมายถึง เด็กจะปรับตัวตามสังคมสิ่งแวดล้อม ถ้าอยู่กับผู้ใหญ่เด็กก็จะแสดงพฤติกรรมเป็นผู้ใหญ่ มากกว่าเด็กที่อยู่กับเด็กด้วยกัน”
“ครูบี๋พูดเป็นวิชาการเชียวนะครับ”
สุดนภายิ้มเจื่อน

เมรินเดินกระสับกระส่ายอยู่ในบ้าน ประภัสสรสังเกตเห็น
“น้องเมย์เป็นอะไรไปคะ”
“รอน้าวีค่ะ ไม่รู้วันนี้น้าวีจะกลับตอนไหน” เมรินชะเง้อมอง
“คงดึกแหละค่ะ เมื่อครู่นี้น้าวีโทรมาบอกวันนี้มีธุระไม่กลับมาทานข้าว น้องเมย์มีอะไรกับน้าวีหรือคะ”
เมรินจ๋อย “ไม่มีหรอกค่ะ”
เมรินเดินคอตกขึ้นข้างบน ประภัสสรมองตามไป
ปรางค์ทิพย์เดินเข้ามาในบ้าน
“ทำอะไรอยู่จ๊ะ แม่ภัส”
ประภัสสรหันมามองปรางค์ทิพย์แล้วยิ้มเจื่อน ปรางค์ทิพย์ยิ้มร้าย

ตกกลางคืน ปฐวีเดินลงมาส่งหนึ่งฤทัยที่หน้าคอนโด
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง เอ่อ ตอนนี้รถติดมากเลย วีจะเข้าไปดื่มกาแฟก่อนไหมคะ”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ”
“โธ่ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะ หนึ่งต่างหากที่เป็นฝ่ายรบกวน”
“ผมมีธุระ ไม่รบกวนดีกว่าครับ”
“วี มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะ เห็นหน้าเครียดตั้งแต่ออกจากร้านอาหารเมื่อเช้าแล้ว”
ปฐวีงงๆ แต่ก็ยิ้มให้ “ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมขอตัวก่อนนะ”
ปฐวีขึ้นรถแล้วขับออกไป หนึ่งฤทัยมองตามอย่างผิดหวัง

ประภัสสรนั่งเงียบอยู่ในห้องรับแขกเพราะกำลังนึกถึงตอนที่เธอกับปรางค์ทิพย์นั่งคุยกันก่อนหน้านี้
“พี่เห็นเธอไม่ค่อยสบายใจเลยแวะมาคุยด้วย เป็นอะไรไป หมู่นี้ดูซูบๆไปนะเรา”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ภัสแค่นอนดึกเท่านั้นเอง”
“นอนดึกเพราะรอนายเมธีใช่มั๊ย อย่ามาปดพี่เลย”
ประภัสสรหลบตาไม่ยอมตอบ
“ไม่เข้าใจจริงจริ๊ง ทำไมถึงไม่รักเมียบ้างเลยน๊า เหมือนจะหลบหนีหน้ากันเลยนะแบบนี้ กลับดึก ออกแต่เช้า แสดงว่าพี่พูดไว้ไม่ผิด นายเมธีน่ะ แต่งกับเธอเพราะเงิน ถ้าเธอมีแต่ตัว เค้าก็คงไม่แลหรอก นี่ขนาดมีเงินนะ ยังทำอะไรไม่ไว้หน้ากันเลยผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์กับเมียน่ะ มันก็เหมือนมะเร็งนั่นแหละ มันกัดกินทำร้าย ทำลายจิตใจของเรา ที่ร้ายกว่าก็คือการที่ไปแอบมีอะไรๆ ไว้นอกบ้าน แต่พอกลับมาตีหน้าว่าเสียใจ ขอโทษขอโพย แต่ลับหลังเราก็ไปเริงร่ากับคนใหม่ ทิ้งให้เราเฉาอยู่ที่บ้าน คนรักกันจริง เค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก”
“แต่ภัสไม่อยากเชื่อว่าคุณเมธีจะทำแบบนั้นได้”
“เธอเชื่ออย่างนั้นน่ะ มันดีสำหรับครอบครัวแล้วล่ะจ๊ะแม่ภัส พี่สงสารเธอจริงเชียว ถ้าเธอแต่งงานกับคนอื่น ป่านนี้เธอคงไม่ต้องมานั่งน้ำตาตกในแบบนี้หรอกแม่ภัสเอ๊ย”
ประภัสสรคิดหนัก ส่วนปรางค์ทิพย์แอบยิ้มร้าย

เมื่อนึกถึงคำพูดของปรางค์ทิพย์ ประภัสสรก็ถอนหายใจยาวคล้ายจะสะอื้น ปฐวีเดินเข้ามายืนมอง เขาเห็นประภัสสรนั่งเศร้าก็ถอนหายใจแล้วไปนั่งข้างๆ
“พี่ภัสครับ”
ประภัสสรสะดุ้ง “อ้าววี มาเมื่อไหร่นี่ น้องเมย์บ่นหาน้าวีทั้งวันเลย”
“หรือครับ นี่น้องเมย์หลับหรือยัง”
“ป่านนี้คงหลับไปแล้วละ วีเหนื่อยมั๊ย ทานอะไรมาหรือยัง”
ประภัสสรทำท่าจะลุกขึ้นไปจัดอาหารให้ ปฐวีดึงมือไว้
“พี่ภัสครับ ช่วงนี้พี่เมธีงานยุ่งมากเหรอครับ ผมไม่ค่อยเจอเลย”
ประภัสสรเมินหน้า “พี่ไม่รู้เหมือนกัน เราไม่ได้คุยกันนานแล้ว”
“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ พี่ภัส”
ประภัสสรนิ่งไม่ตอบแต่น้ำตาคลอ
“ทำไมพี่ภัสไม่ลองหาโอกาสคุยกันบ้างละครับ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ค่อยดีนะครับ”
“พี่เหนื่อยแล้ววี ทะเลาะกันทุกที เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องทะเลาะกันให้ลูกเห็น”
“แต่น้องเมย์เป็นเด็กฉลาดนะครับ ถึงไม่พูดเค้าก็ซึมซับความรู้สึกได้”
“ชีวิตคู่น่ะ มันต้องปรับตัวทั้งสองคนนะวี จะให้ใครคนใดคนหนึ่งทำอยู่คนเดียวน่ะ มันไม่สำเร็จหรอก”
ประภัสสรเศร้า ปฐวีมองประภัสสรอย่างหนักใจ

เมธีนั่งที่โซฟาห้องพักของฉัตรพร ฉัตรพรคุกเข่าถอดรองเท้ากับถุงเท้าให้ เมธีมองฉัตรพรแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
“เดี๋ยวฉัตรไปเอาน้ำมาให้นะคะ รอฉัตรแป๊บนึงนะคะ”
เมธียิ้มอย่างผ่อนคลายแล้วมองตามฉัตรพรไป
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉัตรพรชะงัก เมธีหน้าเครียด

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 8/3 วันที่ 19 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager