@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 5/2 วันที่ 14 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 5/2 วันที่ 14 ก.พ. 56

“โห แรงนะเนี่ย ใช่สิ ผมจะเลิศเหมือนเจ้าวีมันได้ยังไง”
“รู้แล้วก็ดี เลิกตอแยชั้นซะที คุณผู้บริหาร” สุดนภาเดินหนี “เฮ้อ สองคนนั้นไปไหนนะ ทำไมป่านนี้ยังไม่มา”
นาวินสะกิดสุดนภา สุดนภาศอกกลับทันที นาวินร้องจ๊าก
ปฐวีกับเมรินเดินกลับมา สุดนภารีบทิ้งนาวินแล้ววิ่งไปหาทั้งสองคนทันที นาวินมองตาม
“ทำไมข้อศอกแหลมแบบนี้”
นาวินรีบเดินตามไป

ปฐวี สุดนภา นาวิน และเมรินเดินมาที่จอดรถ
“ตกลงแยกย้ายกันนะ เดี๋ยวชั้นไปส่งครูบี๋เอง” นาวินสรุป



“ใครบอกชั้นจะกลับกับคุณ” สุดนภาย้อนถาม
“อ้าว ใครบอกว่าผมจะกลับเลยล่ะ คุณต้องไปช่วยผมทำธุระก่อน”
สุดนภางง “งานอะไรเนี่ย”
“ผมต้องเลือกซื้อแฟ้มไปใช้ที่โรงเรียน แล้วผมค่อยไปส่งคุณ”
“ไม่ต้อง” สุดนภานึกได้ “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณนาวิน เดี๋ยวดิชั้นกลับแท็กซี่ดีกว่าสะดวกดี”
“ตามใจ แต่ยังไงคุณก็ต้องไปช่วยผมเลือกของก่อน ไปนะวี น้องเมย์”
นาวินไม่ฟังเสียงก่อนจะเดินนำไป สุดนภาหันมองเมรินแล้วรีบเดินตามนาวินไป
“คอยด้วยสิ แล้วมันธุระอะไรของชั้นเนี่ย กะแค่แฟ้ม เลือกเองไม่ได้รึไง”
ปฐวีกับเมรินมองตามขำๆ
“สงสัย เจ้าวิน มันชักจะยังไงยังไงกับครูบี๋ของน้องเมย์ซะแล้ว” ปฐวีเปรย
“น่าเสียดาย ครูบี๋ไม่คิดแบบนั้น เพราะครูบี๋มีคนที่ชอบอยู่แล้ว” เมรินบอก
ปฐวีงง “อ้าวแล้วครูบี๋ชอบใครล่ะ”
ปฐวีมองหน้าเมริน เมรินส่ายหน้าทำไม่รู้ไม่ชี้
เมรินยิ้ม “ยังไม่บอกค่ะ”
เมรินเดินขึ้นรถไป ปฐวีมองตามด้วยความงง

ปฐวีกับเมรินขึ้นนั่งบนรถ เมรินนึกอะไรได้ก็ทำหน้าเศร้าอ้อนวอน
“น้าวีคะ เรากลับบ้านอีกทางได้ไหมคะ”
“ได้สิ น้องเมย์อยากไปไหนล่ะ”
“เดี๋ยวเมย์บอกทางให้ค่ะ”
พูดจบเมรินก็เศร้าต่อ ปฐวีมองหน้าหลานสาวอย่างไม่เข้าใจ

ตันหยงกับปฐวีนั่งอยู่ในรถ ตันหยงมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็เห็นบ้านของตัวเอง
“น้าวีคะ น้าวีช่วยชะลอหน่อยได้มั้ยคะ”
ปฐวีชะลอรถ
รถค่อยๆ วิ่งผ่านบ้านตันหยง
ตันหยงมองบ้านตัวเองจนเหลียวหลัง ปฐวีสงสัย
“น้องเมย์เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ บ้านนั้นมีอะไรหรือ”
เมรินส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ”
ปฐวีจอดรถทันทีแล้วรีบจับหน้าเมรินมาส่องดู
“ไหนมาให้น้าวีดูหน่อย”
ปฐวีก้มหน้ามาใกล้จนตันหยงเริ่มอึดอัด
“เมย์ไม่เป็นไรแล้วค่ะน้าวี”
“น้องเมย์ร้องไห้ทำไม”
ตันหยงอึกอัก “เปล่าคะ เมย์คิดถึงคุณแม่ค่ะ”

ปฐวีไม่เข้าใจว่าหลานสาวเป็นอะไร เขามองเมรินแล้วหันไปมองบ้านหลังนั้น
รถปฐวีแล่นมาจอดที่ลานหน้าบ้าน ปฐวีเปิดประตูแล้วอ้อมมาเปิดให้เมริน เมรินลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้าน ปฐวีเรียกไว้ก่อนจะนั่งลงจับหน้าตาเมรินด้วยความเป็นห่วง แล้วค่อยๆ บรรจงหอมแก้มเมรินเบาๆ เมรินหลับตาด้วยความเต็มใจ

“น้าวีรักน้องเมย์นะคะ”
เมรินชะงัก “น้องเมย์ก็รักน้าวีค่ะ”
เมรินยิ้มอายๆ แล้วเดินเศร้าเข้าบ้านไป ปฐวีมองตามแล้วยิ้มเศร้า เขาส่ายหัวเพราะไม่เข้าใจเมริน

ตันหยงนั่งอยู่บนเตียง เธอเผลอลูบแก้มตัวเองแล้วยิ้มเศร้าๆ ประภัสสรโผล่หน้าเข้ามาท่ประตู เธอเห็นเมรินนั่งอยู่บนเตียง
“เป็นไงคะน้องเมย์วันนี้น้าวีพาไปทานไอศครีมอร่อยไหมคะ”
“อร่อยค่ะ”
“ให้คุณแม่เล่านิทานให้ฟังก่อนนอนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมย์ง่วงแล้ว คุณแม่ไปนอนเถอะค่ะ”
“แม่ยังไม่นอนหรอกลูก แม่จะรอคุณพ่อก่อน”
ประภัสสรห่มผ้าให้เมรินแล้วหอมแก้ว
“ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะคะลูก”
“ค่ะ”
เมรินนอนเศร้าอยู่บนเตียง

ประภัสสรนั่งคอยเมธีอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายแก้วเดินเข้ามา
“ให้สายแก้วเอากับข้าวไปอุ่นก่อนดีมั้ยคะ คุณภัส”
“ไม่ต้องหรอก เก็บไปเลย คุณเมธีคงจะยุ่งนั่นแหละ”
ประภัสสรลุกขึ้นเดินขึ้นไปข้างบน สายแก้วมองตาม
“แหม คุณเมธีนะคุณเมธี ยุ่งกับงานจนลืมครอบครัวแบบนี้ทุกทีเลย”

ดอกไม้ที่เมธีเอามาให้ประภัสสรซึ่งปักอยู่ในแจกันเริ่มเหี่ยว ประภัสสรนั่งอ่านหนังสือรอเมธีอยู่บนเตียงนอน เธอมองดอกไม้ในแจกันแล้วถอนหายใจก่อนจะข่มใจอ่านหนังสือต่อ
นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน ประภัสสรนอนหลับอยู่บนเตียงโดยมีหนังสือตกอยู่ข้างตัวใกลๆ ้กับโทรศัพท์

โทรศัพท์ของเมธีวางอยู่บนโต๊ะ ส่วนเมธีกำลังอธิบายผังงานให้ลูกน้องฟังอย่างจริงจัง
“เราจะต้องสร้างคอนโดที่ดูทันสมัยที่สุดในเมืองกาญจน์ เพื่อรองรับความเจริญเติบโต หลังจากท่าเรือน้ำลึกทวายเสร็จ ความต้องการที่พักอาศัยจะสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ทุกคนต้องร่วมมือกันทุ่มเทให้งานออกมาดีที่สุด เข้าใจมั้ย”
ลูกน้องรับคำ “ครับคุณเมธี”
เมธีพูดต่อไปเรื่อยๆ
ทุกคนแยกย้ายไปทำงาน เมธีพิงพนักเก้าอีกอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงโทรศัพท์ในออฟฟิศดังขึ้น ลูกน้องวิ่งไปรับ
“หัวหน้าครับ ทางไกลโครงการขอนแก่นครับ”
เมธีรีบวางงานทุกอย่างแล้ววิ่งไปรับโทรศัพท์ ทันใดนั้นมือถือของเมธีก็มีสัญญาณไฟแดงสายเรียกเข้า

ประภัสสรงัวเงียตื่นขึ้นมามองนาฬิกาก็เห็นว่าดึกมากแล้ว
“ตายจริง จะตีสามแล้ว ยังไม่กลับมาอีก ทำงานอะไรกันนักกันหนาเนี่ย”
ประภัสสรหยิบโทรศัพท์กดโทรหาเมธีแต่ไม่มีคนรับ ประภัสสรวางหูโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“อะไรกัน ยุ่งจนไม่มีเวลารับสายเชียวหรือ”
ประภัสสรมีสีหน้าวิตกเพราะนึกถึงคำพูดของปรางค์ทิพย์
“...ผู้ชายจะทำดีกับเมียเป็นพิเศษน่ะ เพราะต้องการทำให้เมียตายใจ เธอหัดเปิดหูเปิดตาซะบ้างนะแม่ภัส...”

ประภัสสรหน้าเครียดเพราะเริ่มระแวง
เมธีกำลังจะเดินไปขึ้นรถ ลูกน้องของเมธีวิ่งตามมา

“หัวหน้าครับ ไซท์งานที่ขอนแก่นเกิดดินยุบตัวโครงสร้างอาจจะมีปัญหาอยากให้หัวหน้าเข้าไปดูด่วนหน่อยครับ ตอนนี้ขนคนงานออกหมดแล้วครับ”
เมธีนิ่งคิด “งั้นหรือ”
“ครับ ที่ไซด์งานแตกตื่นกันใหญ่ ทางโน้นกลัวว่าจะมีปัญหากับโครงสร้างอาคาร”
“จริงๆไม่น่ามีปัญหา แต่เราก็ควรไปดู” เมธีตัดสินใจ “ไม่เป็นไร คุณจองตัวเครื่องบินให้ผมด่วนเลย ไฟล์แรกตอนเช้า ผมจะรีบไป”
“ครับหัวหน้า”
ลูกน้องเดินไป เมธีมองตามด้วยความหนักใจ

ที่บ้าน เมธีเดินขึ้นมาตามทางเดิน แล้วมาหยุดที่หน้าห้องเมริน เมธีลังเล
“สงสัยหลับไปแล้วมั๊ง”
เมธียิ้มแล้วตัดสินใจเปิดเข้าไปในห้อง

เมธีย่องเข้าไปในห้องเมริน เมธีเข้าไปหอมแก้มเมรินที่นอนหลับสบาย แล้วค่อยๆดึงผ้าห่มคลุมตัวให้
“พ่อขอโทษนะน้องเมย์ ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเลย พ่อขอเวลาอีกนิดเดียวนะ”

เมธีเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นประภัสสรนอนหลับ เมธียิ้มมองประภัสสรแล้วค่อยๆหยิบหนังสือกับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงไปเก็บ
เมธีเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาวางเพื่อเตรียมเก็บใส่กระเป๋าเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้ ประภัสสรค่อยๆลืมตาขึ้นเห็นเมธีกำลังจัดเสื้อผ้า
“กลับมาแล้วหรือคะ อ้าว แล้วนั่นคุณจะเก็บเสื้อผ้าไปไหนคะ”
“ไซด์งานมีปัญหา ผมเลยต้องไปดู”
ประภัสสรนิ่งอึ้ง
“ภัสคิดว่าจากนี้ไป คุณจะมีเวลาให้ครอบครัวแล้วซะอีก”
เมธีวางมือแล้วเดินไปโอบประภัสสร
“ผมขอโทษจริงๆครับภัส ผมเองก็อยากใช้เวลาอยู่กับคุณ กับลูกเหมือนกัน”
“คุณแน่ใจเหรอคะ แต่การกระทำของคุณมันตรงกันข้าม คุณก็ไม่เคยอยู่กับลูกกับภัสเลย จริงอย่างที่พี่ปรางค์ว่า ผู้ชายก็เป็นแบบนี้”
“คุณภัส ทำไมคุณพูดแบบนี้ ผมบอกแล้วว่าอย่าไปเชื่อคุณปรางค์นัก”
“ก็พี่ปรางค์พูดถูกนี่ค่ะ ภัสเหนื่อยที่ต้องมาแก้ตัวแทนคุณ เดือนนึงมีเวลาให้ครอบครัวไม่กี่วัน คนอื่นเค้าจะคิดยังไง”
“คนอื่นมองเรายังไงผมไม่รู้ มองผมยังไงผมไม่แคร์ ผมขอแค่คุณเข้าใจผม อยู่เคียงข้างผม ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อครอบครัวเรานะคุณภัส”
“คุณไม่จำเป็นต้องทำก็ได้” ประภัสรบอก
เมธีนิ่งเงียบ
“ผมต้องการเลี้ยงดูครอบครัวผม ด้วยตัวผมเอง ผมไม่อยากให้ใครมามองว่าผมมาเกาะคุณ เพราะฉะนั้นผมอยากจะคืนเงินที่คุณย่าคุณให้ผมมาเร็วๆ”
“คุณก็กลัวแต่คนอื่นจะมองว่าคุณไม่ดี คุณมีข้ออ้างมาให้ภัสตลอดเวลา แต่ภัสไม่เคยได้เวลาของครอบครัว ภัสเองก็เบื่อและเหนื่อยที่จะต้องพูดกับคุณ”
เมธีพยายามระงับอารมณ์ “ผมบอกแล้วไงว่าผมขอเวลาอีกนิดเดียวคุณภัส”
“ชีวิตคุณมันก็มีแต่งาน กับงาน งานมักจะมาก่อนภัสกับลูกเสมอ ภัสเริ่มจะหมดความอดทนแล้วนะคะ”
“โธ่คุณภัส มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะครับ ทำไมคุณไม่หนักแน่นเลยไปสนใจคำพูดของคนอื่นทำไม”
“ภัสก็เป็นอย่างนี้ของภัสนะค่ะ ถ้าคุณเบื่อนัก คุณก็ไปสิคะ อยากจะกลับเมื่อไหร่ก็เชิญ”
เมธีจะเข้ามาจับแขนแต่ประภัสสรสะบัดออก
“ไม่เอาน่าภัส คุณใจเย็นๆ เราพูดกันอย่างมีเหตุผลนะครับ”
“คุณพูดแบบนี้ แสดงว่าภัสไม่มีเหตุผลใช่มั้ย”
“เปล่า ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะทำอะไรก็ตามใจคุณ ไม่ต้องสนใจภัสกับลูกก็ได้”
“โธ่ภัส”
ประภัสสรสะบัดหน้าหนีแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงโดยหันหลังให้เมธี เมธีมองประภัสสรอย่างหนักใจก่อนจะนั่งลงบนเตียงโดยหันหลังให้ประภัสสร

สองคนลืมตาค้าง และต่างก็คิดกันไปคนละทาง
เช้าวันใหม่ ประภัสสรจัดเตรียมอาหารเช้าให้เมธี เมธีเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เมธีมองหน้าประภัสสรแต่ประภัสสรเมิน
“คุณภัส...ผม”
เสียงโทรศัพท์ของเมธีดังขึ้น เมธีรีบกดรับ ประภัสสรเมินหน้าด้วยความน้อยใจ
เมธีหงุดหงิด “ลืมได้ยังไง ผมต้องใช้นะ ทีหลังต้องรอบคอบกว่านี้นะ”
เมธีกดปิดโทรศัพท์แล้วหันมาทางประภัสสร
“เอกสารมีปัญหาผมต้องแวะเข้าออฟฟิศก่อนไปสนามบิน คงอยู่ทานอาหารเช้าไม่ได้แล้ว ผมไปก่อนนะคุณภัส”
เมธีหยิบกระเป๋าเอกสารแล้วเดินเข้าไปจะหอมแก้มประภัสสร แต่ประภัสสรเบี่ยงตัวหลบ
“คุณรีบไม่ใช่หรือ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเสียงาน”
เมธีชะงักแล้วถอนหายใจ
“งั้นผมไปก่อนละ”
เมธีเดินออกไป ประภัสรนั่งลงแล้วน้ำตาก็คลอ

เมธีเดินออกจากบ้านมาอย่างเร่งร้อน ปฐวีเดินเข้ามาเห็น
“อ้าวพี่เมธี ไปไหนแต่เช้าเชียวครับ แล้วนี่เจ้าตัวเล็กตื่นหรือยัง”
“พอดีพี่มีงานด่วนต้องรีบไป น้องเมย์ สายแก้วคงกำลังจัดการอยู่”
“หรือครับ พี่เมธีรีบไปเถอะ เดี๋ยวผมไปหาเจ้าตัวเล็กหน่อย”
“พี่ไปก่อนนะวี ฝากคุณภัสกับน้องเมย์ด้วย”
เมธีขึ้นรถไป ปฐวีมองตามแล้วส่ายหน้า
“พูดจาแบบนี้สงสัยมีเรื่องกับพี่ภัสแน่เลย”

ปฐวีเดินเข้ามาในบ้าน ประภัสสรเห็นปฐวีก็รีบเบือนหน้าแล้วเช็ดน้ำตา
“ผมจะมาดูน้องเมย์ไปโรงเรียนวันแรกหน่อย” ปฐวีอึ้ง “พี่ภัสร้องไห้หรือครับ”
“เปล่าหรอกจ๊ะ ไม่มีอะไร”
“ทะเลาะกับพี่เมธีหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะวี ไปดูน้องเมย์กันดีกว่า”
ประภัสสรฝืนทำท่าร่าเริงแล้วเดินไป ปฐวีมองตามแล้วถอนหายใจ

นาฬิกาปลุกส่งเสียงปลุก เมรินกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย
“ขอให้ชั้นเป็นตันหยง”
เมรินเปิดผ้าออก ดูมือ ดูตัวแล้วเธอก็หน้าเบะด้วยความเศร้าพร้อมกับถอนใจ
เมรินรีบล้มตัวลงนอนคลุมโปงต่อ สายแก้วเดินเข้ามา
“น้องเมย์ขา ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องไปโรงเรียนแล้วนะ”
เมรินโวย
“ไม่ไป อย่ามายุ่ง”
สายแก้วไม่รู้จะทำยังไงดี ปฐวีเดินเข้ามาทางด้านหลังสายแก้วแล้วสะกิดให้สายแก้วหลบไปปฐวียื่นมือไปแล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากตัวเมริน
“บอกแล้วว่าอย่ามายุ่ง ชั้นไม่ไปโรงเรียน”
ปฐวีดึงผ้าห่มเมรินออกแล้วลงมือจั๊กกะจี๋ทันที
“นี่แน่ะ เด็กขี้เกียจต้องโดนแบบนี้”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 5/2 วันที่ 14 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager