อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 12/2 วันที่ 27 ก.พ. 56
ปรางค์ทิพย์ก้มลงกราบปรงทอง“ขอบพระคุณคุณยายที่เมตตาปรางค์นะคะ”
ปรงทองลูบหัวปรางค์ทิพย์อย่างเมตตา เสียงรถวิ่งเข้ามาในบ้าน
“สงสัยตาวีพาเจ้าเมย์กลับบ้านแล้ว พักซะนะแม่ปรางค์ ยายจะไปดูเจ้าเมย์ซะหน่อย”
“ปรางค์อยากออกไปรับหลานด้วยค่ะ”
ปรงทองชะงักแล้วหันมามองปรางค์ทิพย์ ปรางค์ทิพย์ทำหน้าสำนึกผิด ปรงทองยิ้ม
“แม่ปรางค์ ไปด้วยกัน ไปกับยาย”
ปรางค์ทิพย์ประคองปรงทองเดินออกจากบ้านไป
ปฐวีเรียก “คุณตันหยง...”
ตันหยงหันมองอย่างตัดพ้อ ปฐวีไม่พูดอะไร
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ชั้นจะทำหน้าที่ในฐานะน้องเมย์ให้ดีที่สุด..” ตันหยงบอก
ตันหยงเดินลงจากรถ ปฐวีเอนพิงเบาะรถก่อนจะมองเมรินที่กำลังเดินไปข้างหน้า
“ผมขอโทษ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ...”
เมรินเดินลงมาจากรถ ประภัสสรกับเมธียืนรอรับอยู่ เมรินวิ่งเข้าหาอ้อมกอดของเมธี ปรางค์ทิพย์กับปรงทองเดินออกมารับ ปฐวีมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มเศร้า เขาเปิดประตูลงจากรถ
ขวดขี่รถมอเตอร์ไซด์มาจอดมองที่หน้าบ้าน ชัยยกปืนขึ้นเล็ง ปฐวีหันไปเห็นก็ตกใจ เขาหันไปมองครอบครัว แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น 3นัด ทุกคนร้องวี๊ดแล้วหลบกันวุ่นวาย มอเตอร์ไซด์แล่นออกไป ปฐวีได้สติก็ลุกขึ้นมองเห็นมอเตอร์ไซด์วิ่งออกไป ปฐวีวิ่งไปประคองปรงทองลุกขึ้น
“มีใครเป็นอะไรรึเปล่า” ปฐวีถาม
ทุกคนที่ล้มลงไปนอนตกใจ
ปฐวีเรียก “คุณย่า คุณย่าครับ”
ปรงทองตกใจ “ย่าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร มันเกิดอะไรขึ้น”
เมธีพลิกตัวขึ้นจากการบังเมริน ประภัสสรมองเห็นเลือดที่ตัวลูก
“กรี๊ดดดด...น้องเมย์”
ทุกคนหันมามองเมรินที่อยู่ในอ้อมกอดของเมธีซึ่งมีเลือดเต็มด้านหลัง เมรินซบหน้าหลับตากับบ่าเมธี ลุงสายวิ่งมา ปฐวีสั่งให้เอารถออก ประภัสสรจะเป็นลม ปรางค์ทิพย์เข้ามาประคอง ปฐวีวิ่งไปรับเมรินจากเมธี เมธีมองเลือดในมือแล้วก็ตกตะลึง เขามองไหล่ตัวเองที่โดนยิงด้วย ปฐวีอุ้มเมรินวิ่งไปที่รถพร้อมตะโกนสั่งการ
“ทุกคนตามไปที่โรงพยาบาลนะครับ น้องเมย์ น้าวีจะพาไปโรงพยาบาล อดทนไว้นะ อดทนไว้”
ประภัสสรร้องไห้ ปรางค์ทิพย์กอดปลอบใจ ปรงทองนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ปฐวีที่นั่งอยู่ในรถมองน้องเมรินแล้วขับรถออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว
รถปฐวีวิ่งไป ปฐวีคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“คุณทิพย์ เตรียมเลือด และห้องผ่าตัดไว้ หลานผมถูกยิง แจ้งหมอโจให้ผมด้วย”
ปฐวีวางสาย แล้วพยายามควบคุมสติก่อนจะเร่งความเร็ว
รถปฐวีวิ่งเข้ามาจอดหน้าโรงพยาบาล ปฐวีหันไปมองเมรินที่นั่งคอตกหน้าซีด ปฐวีจับแขนเมรินแล้วเรียก
“น้องเมย์ ถึงแล้วนะ อดทนไว้”
ปฐวีอึ้งนิ่งและหน้าซีด เพราะมือที่จับแขนเมรินไม่พบสัญญาณชีพจร ปฐวีก้มมองมือตนเองที่จับแล้วมองเมริน แล้วเขาก็ค่อยๆปล่อยเอามือขึ้นแตะสัญญาณชีพจรที่คอเมริน ปฐวีแทบวูบ บุรุษพยาบาลเปิดประตูข้างเมริน
“ผมพาเข้าห้องผ่าตัดเลยนะครับ คุณหมอวี”
ปฐวีอุ้มเมรินเดินออกไปใส่เตียงแล้วเข็นผ่านไป ปฐวีเปิดประตูออกมามองตาม แล้วขาอ่อนจึงพิงรถ เตียงถูกเข็นไกลออกไปเรื่อยๆ ปฐวีเงยหน้ามองแล้วตัดสินใจวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
ปฐวีวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งมาจนถึงทางเข้าห้องผ่าตัด รถเข็นถูกเข็นเข้าไปต่อหน้า ปฐวีจะตามเข้าไปแต่พยาบาลและจริญทิพย์เข้าห้าม
“คุณหมอปฐวีอย่าเข้าไปเลยค่ะ”
“คุณหมอวีคะ ปล่อยเป็นหน้าที่หมอโจเถอะนะคะ”
“ปล่อยผม คุณทิพย์” ปฐวีหันไปหาพยาบาล “ปล่อยผม”
พยาบาลทั้งสองหยุด ปฐวีเดินเข้าไปใส่เสื้อห้องผ่าตัดไปพร้อมกับเดินเข้าไปด้วย พยาบาลเตรียมถุงมือและหมวกให้
ปฐวีเดินเข้าไปถึงเตียง หนึ่งฤทัยหันมามองหน้า
“วี ใจเย็นๆนะคะ”
ปฐวีหันไปมองเมรินแล้วลงมือปั๊มหัวใจด้วยมือ เขาสั่งพยาบาลเปิดเครื่อง และให้ใส่เครื่องช่วยหายใจ หนึ่งฤทัยและหมอคนอื่นๆ ต้องมาดึงตัวปฐวีออก
“พอแล้วค่ะวี มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ปล่อยน้องเมย์ไปเถอะค่ะวีคะ พอแล้ว หยุดเถอะค่ะ”
หมอโจพูด “หมอวี หยุดเถอะครับ”
ปฐวีฝืนซักพักก็เริ่มหยุดแต่ก็รับไม่ได้ เขาเดินถอยหลังแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
ปฐวีเดินออกมาหน้าห้องผ่าตัด จนมาเจอทุกคน ปฐวีมองอย่างลอยๆ
เมธีถามขึ้น “วีน้องเมย์เป็นยังไงบ้าง วี”
ปฐวีไม่ตอบ
ปรงทองใจเสีย “โธ่ เจ้าเมย์”
ปฐวีหันหลังเดินออกไป
ปฐวีรู้สึกเจ็บปวด ทุกคนวุ่นวายจนแทบทรุด ประภัสสรร้องกรี๊ด เมธีเสียใจมาก ประภัสสรร้องไห้หนัก ปรางค์ทิพย์ประคองแล้วกอดกันร้องไห้ ปรงทองทรุดลงนั่งพยาบาลประคอง เมธีพิงกำแพงร้องไห้แล้วมือกุมหน้าผาก
ปฐวีเดินมาหยุดหันหน้าเข้ากำแพงแล้วทรุดลงกับพื้นก่อนจะร้องไห้เสียใจ เขาคิดถึงภาพ ต่างๆ ของเมริน ประภัสสรยังคงร้องไห้ เมธีเดินเข้ามาปลอบ
ปฐวีนั่งอยู่คนเดียวริมระเบียง ปรงทองเดินเข้ามาหา
พระอาทิตย์ยามเช้าโผล่ขึ้นบนท้องฟ้า พระเดินเป็นแถวมาบิณฑบาตร ปรงทอง ประภัสสร และเมธีที่สวมชุดดำยืนรอรับพระ ทุกคนตักบาตรและลงไปนั่งรับพร เมธีประคองปรงทองให้ลุกขึ้น
ปรงทอง เอ่ยถาม “เป็นยังไงบ้างแม่ภัส”
“เมื่อคืนภัสฝันถึงน้องเมย์ค่ะ”
“ฝันว่ายังไงบ้าง”
ประภัสสรมองหน้าเมธีแล้วลูบท้องตัวเอง
ประภัสสรรู้สึกสะเทือนใจ “น้องเมย์บอกว่าดีใจที่ได้มาอยู่กับภัสอีกค่ะ”
ปรงทองมองประภัสสรนิ่งแล้วซับน้ำตา
“งั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ใช่มั๊ย พ่อเมธี”
เมธีกอดประภัสสร ปรงทองซับน้ำตาเงียบๆ
ปรงทอง เมธี และประภัสสรเดินเข้ามาในบ้าน ปรางค์ทิพย์เดินออกมาในชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรม พอเจอปรงทอง ปรางค์ทิพย์ก็ยกมือไหว้
“คุณยายขา ปรางค์จะขอลาคุณย่าไปปฏิบัติธรรม เจ็ดวันนะคะ”
“ไปเถอะ อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำไป” ปรงทองบอก
“ภัสขออนุโมธนาบุญกับพี่ปรางค์ด้วยนะคะ”
“ขอบใจมากจ๊ะ พี่ไปละนะ” ปรางค์ทิพย์พูดกับเมธี “ดูแลแม่ภัสดีๆนะคุณเมธี”
“ครับคุณปรางค์ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”
“ขอบใจมาก ปรางค์ลาทุกคนนะคะ”
ปรางค์ทิพย์เดินไป บุญศรีกับปรงแก้วปรงขวัญในชุดขาวเดินตามเป็นแถว ปรงทองมองตาม
“ชั้นหวังว่าแม่ปรางค์ จะพบความสงบอย่างแท้จริง”
ทุกคนมองปรางค์ทิพย์
ปฐวีที่แต่งชุดดำยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงาน จริญทิพย์ถือแฟ้มเดินเข้ามาวางที่โต๊ะ จริญทิพย์มองแล้วพูด
“หมอวีคะ เลยเวลาอาหารแล้วนะคะ ทิพย์จัดเข้ามาให้ในห้องไหมคะ”
“ผมยังไม่หิว”
จริญทิพย์ถอนหายใจแล้วเดินออกจากห้องไป ปฐวียืนมองเหม่อเหมือนเดิม
รักสิกากับยมนายืนชะเง้อมองอยู่หน้าห้อง จริญทิพย์ถือถาดอาหารออกมาจากห้องปฐวี ทั้งสองคนรีบเข้าไปรุมถาม
“หมอวีเป็นยังไงบ้าง คุณทิพย์” รักสิกาถาม
จริญทิพย์ตอบ “ก็เหมือนเดิม”
“ตายจริง ไม่กิน ไม่นอน ไม่พูดแบบนี้ ร่างกายจะไหวมั้ยเนี่ย”
“ตั้งสองอาทิตย์แล้วนะ”
จริญทิพย์หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา รักสิกากับยมนาพลอยจะร้องไห้ไปด้วย
“อย่าทำแบบนี้สิคะคุณทิพย์”
“คุณทิพย์ต้องเข้มแข็งนะคะ เพื่อพวกเรา เพื่อหมอวี”
จริญทิพย์สูดลมหายใจแล้วสูดน้ำมูกเสียงดัง แล้วฮึด
“เราต้องเข้มแข็ง...เพื่อหมอวีของพวกเรา”
รักสิกากับยมนามองหน้ากันแล้วพยักหน้าสู้ด้วย
เวลาผ่านไป ตันหยงยังนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม ปฐวีเดินเข้ามาหยุดยืนมองร่างตันหยง โดยมีพยาบาลยืนถือแฟ้มอยู่ห่างๆ
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน คุณตันหยง อยู่กับน้องเมย์หรือเปล่า”
ปฐวีก้มหน้าด้วยความเศร้าใจ
ปฐวีเดินออกจากห้องตันหยงแล้วแยกกับพยาบาล สุดนภากับนาวินเดินมา พอเห็นปฐวี ทั้งคู่ก็ชะงักแล้วหลบไปอีกทางเพื่อรอจนปฐวีเดินผ่านไป
“คุณหลบทำไมเนี่ย” นาวินถาม
“แล้วคุณล่ะ หลบตามชั้นทำไม”
“อ้าว ก็ผมเห็นคุณหลบ ผมก็หลบตามน่ะสิ”
“บ้า...... ชั้นสงสารหมอวีจังเลย”
นาวินถามแบบไม่ได้พูดเล่น “สงสารแล้วจะทำไง จะไปปลอบใจมันหรือ”
“ปากเสียอีกแล้วนะ เดี๋ยวเหอะ...”
สุดนภางอนนาวิน นาวินรีบปิดปากตัวเองแล้วตามง้อ
สุดนภากับนาวินยืนจ้องมองร่างตันหยง
“นี่หยง ทำไมแกยังไม่ยอมฟื้นอีก”
“ถ้าเป็นอย่างที่เราเข้าใจ คุณตันหยงน่าจะรู้สึกตัวแล้ว” นาวินบอก
“หรือว่า.. แกจะไม่กลับมาแล้ว” สุดนภาปิดปากด้วยความตกใจ
สุดนภากับนาวินทำหน้าตาเลิ่กลัก นาวินมองตันหยง
“คุณตันหยงครับ ฟื้นเถอะครับ อย่ามัวเที่ยวเพลินเลย สงสารเพื่อนผม ไอ้วีมันคอยดูแลคุณตลอดเลย”
สุดนภาเงยหน้ามองนาวิน นาวินมองกลับเหมือนถามว่าพูดอะไรผิด
“หยง จริงของคุณนาวินนะ คุณพิรามก็ด้วย เค้ามาเฝ้าแกทุกเย็น แกรู้หรือเปล่า ว่ามีคนเป็นห่วงแกขนาดนี้ ฟื้นมาซะทีเถอะหยง”
พิรามเดินเข้ามาพร้อมถุงในมือ สุดนภากับนาวินชะงัก
“อุ่ย.. เกือบไปแล้ว”นาวินล้วงกระเป๋าทำไม่รู้ไม่ชี้
“มาเยี่ยม หยงหรือครับ ทานอะไรกันมาหรือยัง ผมซื้อมาเผื่อทุกคนเลยนะครับ” พิรามบอก
สุดนภายิ้มเจื่อนๆ “ขอบคุณค่ะ”
พิรามเดินไปมองตันหยง
“เป็นไงบ้างครับหยง ผมมาแล้วนะ”
สุดนภากับนาวินมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ
ปฐวีเดินเข้ามาในห้องเมรินแล้วหยิบรูปเมรินที่โต๊ะขึ้นมาดู ประภัสสรเดินเข้ามา
ปฐวียิ้มให้ “ผมคิดถึงน้องเมย์”
“พี่เข้าใจวี พี่ก็คิดถึง คิดถึงมาก แต่เราจะทำยังไงได้ มันเป็นพรหมลิขิต ใช่มั๊ยวี ถ้าเบื้องบนกำหนดไว้แล้ว ชีวิตของเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป”
“ผมดีใจ พี่ภัสเข้มแข็ง”
ประภัสสรลูบท้องตัวเอง “น้องเมย์ต่างหากวี น้องเมย์สอนให้พี่เข้มแข็ง”
ทั้งสองยิ้มให้กัน
ปฐวีเดินมานอนดูดาวที่ริมระเบียง เขานึกถึงตอนที่เข้าไปตรวจตันหยงโดยมีหมออีกท่าน มาคุยด้วย
“ช่วยคุณตันหยงด้วยนะน้องเมย์”
ปฐวีหน้าเศร้าลง
เช้าวันใหม่ สุดนภากับพิรามเดินคุยกันอยู่ในโรงพยาบาล
“คุณบี๋ คุณพ่อกับคุณแม่ส่งข่าวมาแล้วนะ” พิรามบอก
“เรื่องอะไรหรือ”
“ตอนนี้โรงพยาบาลที่เยอรมันตอบรับให้คุณหยงเข้ารักษาแล้ว”
สุดนภาชะงักแล้วหันไปมองหน้าพิราม
“แล้วคุณจะพาหยงไปเมื่อไหร่”
พิรามพยักหน้า “ผมกำลังทำเรื่องขอประวัติการรักษาของหยง คงใช้เวลาไม่นานหรอก”
“ตายจริง จะทำยังไงล่ะนี่”
สุดนภาวิตก พิรามมองสุดนภาอย่างแปลกใจ
ปฐวีถอนหายใจแล้วหันกลับมาวางแฟ้มการรักษาตันหยงในมือลงบนโต๊ะ ปฐวีนั่งลงแล้วยิ้มเศร้า เขาหยิบสร้อยของตันหยงที่เธอทำตกที่สนามบิน แล้วเขาเก็บได้ขึ้นมาดู ปฐวียิ้มเศร้า
“สายเกินไปหรือเปล่า”
ปฐวีเปิดลิ้นชักหยิบสร้อยของเมรินที่เป็นจี้รูปหัวใจออกมา เขานึกถึงตอนที่ใส่สร้อยให้เมรินที่ร้านอาหาร ปฐวีหยิบสร้อยสองเส้นมาเทียบกันแล้วยิ้มเศร้า
ร่างของตันหยงนอนอยู่บนเตียง ปฐวีค่อยๆ เอาสร้อยใส่ข้อมือให้
“วันนั้นผมหาคุณไม่เจอ วันนี้ผมเอามาคืนให้คุณแล้วนะ”
ปฐวีหยิบอีกเส้นนึงขึ้นมา
“ส่วนเส้นนี้ คุณบอกว่า อยากได้สร้อยจากน้าวี คุณบอกให้ผมใส่ให้ ผมขออนุญาตใส่ให้คุณอีกครั้ง”
ปฐวีใส่สร้อยให้ตันหยง
“คุณตันหยง ตื่นขึ้นมาคุยกับผมเถอะนะ กลับมาหาผม หรือกลับมาเป็นตัวคุณ ยังไงก็ได้ ผมเสียน้องเมย์ไปคนนึงแล้ว ผมไม่อยากสูญเสียคุณไปอีกคน”
น้ำตาของปฐวีหล่นลงที่แขนตันหยง ปฐวีหลับตานิ่งเพราะพยายามรวบรวมสติ ควบคุมตัวเอง ซักพักเขาก็มองตันหยงที่ยังนอนนิ่ง ปฐวีไม่มีหวังจึงตัดใจจะเดินออก ปฐวีหันไปเห็นพิราม
ปฐวีรู้สึกตัวจึงลุกขึ้น เขาสบตากับพิรามแว๊บหนึ่งก่อนจะเดินผ่านพิรามออกไป พิรามเดินเข้าไปหาตันหยง
ทันใดนั้นเสียงตันหยงก็ดังขึ้น “น้าวี.....”
ปฐวีชะงักแล้วหันหน้ากลับมามองตันหยงอย่างตกตะลึง
ปฐวีหันหน้ากลับมาเห็นตันหยงลืมตาขึ้น พิรามจับมือตันหยง
“หยง คุณฟื้นแล้ว คุณฟื้นกลับมาหาผมแล้ว”
พิรามประคองตันหยงขึ้นมากอด ตันหยงมองหน้าพิรามอย่างตื่นๆ
“หยง คุณฟื้นแล้ว ผมดีใจจริงๆ หยง”
ปฐวีจ้องมองทั้งคู่อยู่นานจนตันหยงเห็นปฐวี ตันหยงดีใจจึงจะเรียก แต่ปฐวีหันหลังกลับ
ตันหยงเศร้าอยู่ในอ้อมกอดของพิราม
ปฐวีเดินออกมาเจอหนึ่งฤทัยยืนอยู่ ปฐวีเดินออกไปคุยกันหน้าห้อง หนึ่งฤทัยปรับสีหน้า
หนึ่งฤทัยดีใจ “คุณตันหยงฟื้นแล้ว”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 12/2 วันที่ 27 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager