@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/4 วันที่ 22 ก.พ. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/4 วันที่ 22 ก.พ. 56

ยังไม่ทันจะสิ้นคำ รำพึงก็จับหน้าขุนพิทักษ์ด้วยสองมือ เอาเลือดที่นิ้วโป้งแตะปากขุนพิทักษ์พร้อมบริกรรมคาถา “มนต์คาถารักแท้” ในทันที
“ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู!”
“เจ้าจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้ !”
ขุนพิทักษ์จะปัดมือรำพึงออกแต่รำพึงจับหน้าขุนพิทักษ์แน่น ใช้แรงทั้งหมดเท่าที่มีเอาชนะขุนพิทักษ์ให้ได้

“ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู !”
“หยุดเดี๋ยวนี้ !”
ขุนพิทักษ์ผลักรำพึงกระเด็นล้มไปบนพื้น
“ว้าย !”
เลือดในบริเวณริมฝีปากขุนพิทักษ์ซึมหายเข้าไปในปาก ร่างขุนพิทักษ์กระตุก รำพึงมองขุนพิทักษ์อย่างไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่
ขุนพิทักษ์ค่อยๆ ก้มลงมองรำพึง ดวงตาแข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนแล้ว ปราดลงไปประคองรำพึง



“น้องรำพึงเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรน้อง”
รำพึงยิ้มดีใจที่พิธีกรรมสำเร็จ
“คุณพี่บอกน้องมาก่อนสิคะ ว่าคุณพี่รักใคร”
ขุนพิทักษ์มองรำพึงตาเป็นประกายพลางจับมือรำพึงมาจูบ
“น้องรำพึงคือยอดดวงใจของพี่”
รำพึงยิ้มสมใจ กอดขุนพิทักษ์ จวงที่แอบดูอยู่เฮลั่นอย่างดีใจ
“เย้ ! สำเร็จแล้วโว้ย”
จวงรู้ตัวว่าเสียงดัง ปิดปากหมับทันที

ในเวลาต่อมา ชุ่มเดินงุ่นง่านไปมา
“ทำไมท่านขุนถึงยังไม่กลับมาอีก”
ชุ่มตัดสินใจวิ่งออกไปจากห้อง

ชุ่มวิ่งออกมาจากทางห้องนอน เห็นขุนพิทักษ์อุ้มรำพึงเข้าไปในห้อง รำพึงหันมายิ้มเย้ยใส่ชุ่ม ชุ่มอึ้ง
“ท่านขุน...”
ประตูห้องรำพึงปิด ชุ่มน้ำตารื้น ทั้งงงทั้งเสียใจ

ภายในห้อง รำพึงกับขุนพิทักษ์นอนเปลือยกายคู่กัน ขุนพิทักษ์หลับสนิท รำพึงยังไม่หลับลุกขึ้นมามองหน้าขุนพิทักษ์ ก่อนหลับตาพึมพำบริกรรมคาถา
“จิตตังสะมา กามากายะ สัพพะราคะ ชัยยะกาลี - ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู !”
รำพึงจูบลงบนหน้าผากขุนพิทักษ์
“คุณพี่จะต้องเป็นของน้องคนเดียวเท่านั้น”
ขุนพิทักษ์หลับไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

ภายในห้อง ชุ่มน้ำตาหยดติ๋ง
เช้าวันใหม่ ขุนพิทักษ์ค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นก่ายมือไปข้างตัวหมายจะกอดรำพึง แต่ไม่พบใครอยู่บนเตียง

“น้องรำพึง”
ขุนพิทักษ์ลุกมองหาไปรอบห้อง แต่ไม่พบรำพึงก็รู้สึกกระวนกระวายใจ
“น้องรำพึงอยู่ไหน”
รำพึงเปิดประตูเข้ามา
“น้องอยู่นี่ค่ะคุณพี่ น้องออกไปตักบาตรกับคุณแม่มาค่ะ”
ขุนพิทักษ์ปราดเข้าไปสวมกอดรำพึง
“คราวหลังอย่าหายไปอย่างนี้อีกนะ พี่ใจไม่ดี พี่กลัวน้องจะทิ้งพี่ไป”
“น้องทิ้งผัวตัวเองไม่ได้หรอกค่ะ จะมีก็แต่คุณพี่จะทิ้งน้อง”
“ต่อให้พี่ตาย พี่ก็จะไม่มีวันทิ้งน้อง”
“หรือคะ”
รำพึงทำงอนเดินไปยืนเศร้าริมหน้าต่าง
“น้องไม่เชื่อพี่”
“จะให้น้องเชื่อได้อย่างไร ในเมื่อที่ผ่านมาคุณพี่เห็นคนอื่นดีกว่าน้อง”
“ใคร”
รำพึงแสร้งบีบน้ำตา
“ก็ใครเล่าคะที่คุณพี่บอกว่ารักมัน คุณพี่ยกย่องเชิดชูมันให้ขึ้นมาเสมอน้องทั้งที่มันเป็นแค่ทาส”
ขุนพิทักษ์ทำท่าคิดๆ
“ชุ่ม”
รำพึงบีบน้ำตาบอก
“คุณพี่กลับไปหามันเถอะค่ะ น้องจะกลับไปที่เรือนคุณพ่อ”
รำพึงจะเดินไปที่ประตู แต่ขุนพิทักษ์ตามไปสวมกอดด้านหลัง
“ไม่ พี่จะไม่ให้น้องไปไหนทั้งนั้น น้องต้องอยู่กับพี่”
รำพึงดิ้นๆ ร้องไห้
“อยู่ให้นังเมียทาสของคุณพี่มาย่ำยีหัวใจน่ะหรือคะ”
รำพึงยกมือไหว้
“น้องไหว้ละคะ ถ้าคุณพี่ทำเพื่อน้องไม่ได้ก็ปล่อยน้องไปเถอะ”
ขุนพิทักษ์กอดรำพึงแน่น
“น้องอยากได้สิ่งใดบอกพี่ พี่ทำเพื่อน้องได้ทุกอย่าง”
“ทุกอย่างเลยหรือคะ”
รำพึงยิ้มร้าย

บริเวณหน้าบันได เรือนคุณหญิงมณี ชุ่มถูกผลักกระเด็นลงพื้น
“โอ๊ย !”
จวงยืนคร่อมร่างชุ่ม จวงปาเสื้อผ้าของชุ่มใส่
“ท่านขุนสั่งให้เอ็งไสหัวออกไป เอ็งไม่มีสิทธิ์อยู่ในเรือนนี้”
“ท่านขุนเหรอ? ไม่จริง”
รำพึงหมั่นไส้สุดขีด จิกผมชุ่ม
“เอ็งคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาจากไหน คุณพี่ถึงจะหลงจะรักเอ็ง ข้าจะบอกให้เอาบุญ คุณพี่เห็นเอ็งเป็นแค่นางบำเรอ พออิ่มรสสวาทจากเอ็งคุณพี่ก็เขี่ยทิ้ง คุณพี่ไม่มีวันรักทาสชั้นต่ำอย่างเอ็ง หัดสำเหนียกตัวไว้เสียด้วย! อีจวง ลากมันกลับไปที่เรือนทาสของมัน แล้วเอาน้ำมาล้างเสนียดตรงนี้ด้วย”
จวงจับดึงแขนชุ่ม
“เจ้าค่ะทูนหัวของบ่าว ไป !”
ชุ่มดิ้นสู้
“ปล่อยข้า !”
ชุ่มสะบัดมือจวงอย่างแรง จวงกระเด็นล้มกลิ้งไปบนพื้น
“ว้าย ! ตาเถร”
“ปล่อยข้า”
ทันใดเสียงขุนพิทักษ์ดังขึ้น
“นังชุ่ม! เอ็งออกไปจากเรือนข้าเดี๋ยวนี้”
ขุนพิทักษ์ยืนอยู่ที่หัวบันไดสีหน้าโกรธเกรี้ยว ชุ่มอึ้ง รำพึงกับจวงลอบยิ้มสะใจ
“ท่านขุน...”
“เอ็งใช้มารยาสาไถหลอกให้ข้าพาขึ้นมาอยู่บนเรือน ทำให้น้องรำพึงของข้าเสียใจ ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้ว เอ็งไสหัวกลับไปอยู่เรือนทาสของเอ็งเดี๋ยวนี้”
“ท่านขุน ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ทำไมถึง...”
ชุ่มน้ำตาไหลอาบแก้ม ส่ายหน้าอยากจะบอกขุนพิทักษ์ว่าตัวเองไม่ได้ทำอย่างที่ขุนพิทักษ์กล่าวหา
รำพึงแกล้งทำเป็นดี
“ไปเสียทีสิชุ่ม อย่าให้คุณพี่ต้องโมโห”

ขุนพิทักษ์คว้าเสื้อผ้าบนพื้นปาใส่ชุ่ม
“ดื้อนักใช่ไหม ออกไป”

ขุนพิทักษ์จะเข้าไปตีชุ่มด้วย รำพึงทำเป็นห้ามขุนพิทักษ์ เสียงคุณหญิงมณีดังขัดขึ้น คุณหญิงมณีกลับเรือนมากับแจ่มที่ถือของกลับมาจากวัด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ นี่มันอะไรกัน”
แจ่มเข้าไปประคองชุ่มที่กองอยู่กับพื้น
“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะคุณแม่ คุณพี่ก็เพียงได้สติ รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว แล้วก็เท่านั้นเจ้าค่ะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าลูกไม่เอานังชุ่มอีกต่อไปแล้วไงขอรับคุณแม่ ลูกรู้แล้วว่าคนที่ลูกรักที่สุดคือน้องรำพึง ไม่ใช่นังทาสชั่วคนนี้”
ขุนพิทักษ์มองไปที่ชุ่มอย่างเหยียดหยาม
“นังชุ่มมันทำอะไรผิด ก็ลูกเองที่เป็นคนให้นังชุ่มขึ้นมาอยู่บนเรือน”
“ผิดที่มันมักใหญ่ใฝ่สูง อยากได้ลูกเป็นผัวไงขอรับคุณแม่ นังแจ่ม พามันออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าให้เสนียดของมันมาแปดเปื้อนเรือนข้า ไป”
ชุ่มร้องไห้ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าผู้ชายที่ตนรัก จะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แจ่มมองหน้าคุณหญิงมณี
“พาชุ่มมันไปก่อน”
แจ่มประคองชุ่มไป ชุ่มมองขุนพิทักษ์ที่มีรำพึงโอบแสดงความเป็นเจ้าของอย่างหัวใจแตกเป็นเสี่ยง ขุนพิทักษ์เมินไม่มองชุ่ม
รำพึงโอบพาขุนพิทักษ์ ยิ้มเย้ยใส่ชุ่ม
“พ่อพิทักษ์ ไปคุยกับแม่ที่ห้องก่อน”
“คุณแม่เจ้าขา คุณพี่ตื่นมายังไม่ได้ล้างเนื้อล้างตัวเลย ยังไงรำพึงขอพาคุณพี่เข้าห้องก่อนนะเจ้าค่ะ เดี๋ยวรำพึงขอเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ก่อนจะได้อารมณ์เย็นๆ นะเจ้าคะ จวงเตรียมน้ำให้ข้า”
“เจ้าค่ะ”
รำพึงไม่ทันให้คุณหญิงอนุญาต ก็ประคองขุนพิทักษ์ไปเลย คุณหญิงมณีมีสีหน้าแปลกใจ

ที่หน้าเรือนทาส แจ่มประคองชุ่มมา เจอกับสมพอดี
“นังชุ่ม ทำไมเป็นแบบนี้”
“พี่สม”
“เอ็งไปทำอะไรห๊ะนังชุ่ม ท่านขุนถึงได้ลุกมาอาละวาดเอ็งแบบนี้” แจ่มถาม
“ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ...ไม่รู้จริงๆว่าข้าทำอะไรผิด”
“ท่านขุนทำอะไรเอ็ง” สมถาม
“อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาไล่ตะเพิดนังชุ่มลงจากเรือน ท่าทางท่านขุนเหมือนเกลียดมันมาเป็นสิบชาติ เฮ้อไม่รู้ผีอะไรเข้า...เฮ้ยหรือจะเป็นผีท่านพระยาเทวราช”
เสียงคุณหญิงปราม
“เพ้อเจ้อน่ะนังแจ่ม”
“อุ่ย...”
“นังชุ่ม...ยังไงตอนนี้เอ็งอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าขอพูดกับลูกข้าให้รู้ความก่อนแล้วจะจัดการให้”
“อย่าต้องลำบากเพราะบ่าวเลยเจ้าคะคุณหญิง ถ้าท่านขุนเลือกแบบนี้ บ่าวก็ขออยู่ในแบบที่ท่านขุนเลือก”
“แต่มันแปลกนะเจ้าคะคุณหญิง ทำไมอยู่ๆท่านขุนถึงเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้”
แจ่มมองซ้ายมองขวาดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น แล้วป้องปากกระซิบคุณหญิง
“หรือว่าคุณรำพึงจะทำเสน่ห์ท่านขุนเจ้าคะ”
คุณหญิงตกใจ
“นังแจ่ม ! ปากพล่อยจริงนะเอ็ง ใครได้ยินเข้า มันไม่งาม”
แจ่มยิ้มแหย
“หนูรำพึงเป็นถึงลูกสาวท่านพระยา ไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับของต่ำช้าเช่นนั้นหรอก พ่อพิทักษ์คงจะสงสารหนูรำพึงที่พ่อต้องมาตายไร้ญาติขาดมิตร ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นผัวเป็นเมียกัน ก็ต้องเห็นใจกันเป็นธรรมดาไม่น่าจะใช้เรื่องชั่วอย่างที่เอ็งว่า”
แจ่มยังสงสัยหนัก..บ่นเบาๆ
“แต่มันหน้ามือเป็นหลังตีนแบบนี้”
ชุ่มร้องไห้ สมกอดน้อง
“คุณหญิงขอรับ ถ้าน้องกระผมทำให้เรือนคุณหญิงไม่เป็นสุข ให้มันกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ก็ได้นะขอรับ”
“ไม่ได้นะไอ้สม ข้าเป็นผู้ปกครอง ข้าต้องดูแลคนในปกครองให้อยู่เย็น ยังไงนังชุ่มมันก็ยังมีข้า เอ็งไม่ต้องห่วง”

ชุ่มกับสมมองคุณหญิงอย่างซึ้งในน้ำใจ ทั้งที่ในตอนนี้ชุ่มเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน
งานสวดศพคืนที่สอง ขุนพิทักษ์นั่งฟังพระสวดอยู่ข้างรำพึง ขุนพิทักษ์หันไปเห็นรำพึงนั่งก้มหน้าน้ำตาไหลก็ปาดน้ำตาให้รำพึงอย่างอ่อนโยน รำพึงยิ้มละมุนแทนคำขอบคุณ แขกสองคนนั่งอยู่แถวหลังกำลังมองขุนพิทักษ์กับรำพึง

“ท่าทางขุนพิทักษ์ก็รักหนูรำพึงดีนี่หนา ข่าวลือเรื่องขุนพิทักษ์หลงเมียทาสคงจะไม่เป็นจริงกระมัง”
แขกคนที่สองพยักหน้าเห็นด้วย

ในเวลาเดียวกัน ชุ่มนั่งมองพระจันทร์ที่หน้าเรือนทาส
“ชาติที่แล้วลูกทำบาปทำกรรมอะไรมาเจ้าคะ ชาตินี้ลูกถึงต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้”
ชุ่มนึกถึงความฝัน
“ข้าฝันร้าย ข้าฝันเห็นท่านตกลงไปในแม่น้ำสีเลือด แล้วท่านก็ถูกน้ำพลัดหายไปจากข้า”
ชุ่มเห็นขุนพิทักษ์อุ้มรำพึงเข้าไปในห้อง รำพึงหันมายิ้มเย้ยใส่ชุ่ม

ชุ่มคิด
“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับท่าน”

แขกในงานกลับหมดแล้ว ขุนพิทักษ์กับรำพึงเดินมาส่งคุณหญิงมณีกับแจ่มที่หน้าเรือน คุณหญิงมณีนึกแคลงใจ
“นึกยังไงถึงจะนอนค้างที่นี่ เมื่อคืนแม่ให้นอนค้างเป็นเพื่อนแม่รำพึง ลูกทำท่าอยากจะตายเสียให้ได้”
ขุนพิทักษ์ตาหวานใส่รำพึง
“เมื่อคืนกับคืนนี้มันไม่เหมือนกันขอรับคุณแม่”
“ทำไมไม่เหมือน”
“เพราะคืนนี้รำพึงปวดหัวหนักเหลือเกินค่ะ สงสัยจะเป็นไข้ รำพึงก็เลยไม่อยากไปๆ มาๆ นอนค้างที่นี่ไปเลยดีกว่า”
“งั้นก็ตามใจเถอะ แม่กลับล่ะ”
ขุนพิทักษ์กับรำพึงไหว้ คุณหญิงมณีรับไหว้แล้วเดินออกไป แจ่มมองขุนพิทักษ์กับรำพึงที่ยิ้มหวานให้กันอย่างสงสัย แล้วตามคุณหญิงมณีไป
ขุนพิทักษ์กอดหอมรำพึงทันที
“ว้าย ! คุณพี่ น้องอายพวกบ่าวนะคะ”
“แต่พี่ไม่อาย พี่จะหอมเมียพี่ให้ชื่นใจ”
ขุนพิทักษ์หอมรำพึงชุดใหญ่ รำพึงหัวเราะคิกคักมีความสุข

ชุ่มเดินมาที่ท่าน้ำ เพื่อแอบดูเพราะอยากเจอขุนพิทักษ์ แต่เมื่อเรือแล่นเข้าท่า ไม่มีขุนพิทักษ์ มีเพียงคุณหญิงมณีกับแจ่มที่ขึ้นมาจากเรือ สมมัดเชือกกับเสา
“นังแจ่ม เอ็งเอายาฝรั่งให้ไอ้สมเอาไปให้ที่เรือนท่านพระยาเทวราชด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ”
คุณหญิงเดินขึ้นเรือนไป ชุ่มเข้าไปหาสม
“พี่สม ใครเป็นอะไรหรือจ๊ะ ทำไมถึงต้องกินยาฝรั่ง”
“คุณรำพึงไม่สบาย”
“เป็นอะไรจ๊ะ”
“น่าจะเป็นโรคอ้อนผัว กินยาฝรั่งของคุณหญิงไม่หายหรอก ต้องให้ท่านขุนรักษาให้เท่านั้น” แจ่มบอก
แจ่มเดินออกไป ชุ่มสีหน้าเศร้า
“ตัดใจเสียเถอะชุ่มเอ้ย”
“ท่านขุนจะไม่กลับมาหาข้า ข้าไม่ว่า ข้าแค่อยากแน่ใจว่าท่านขุนจะปลอดภัย”
“เอ็งพูดเหมือนท่านขุนจะเป็นอะไร”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 9/4 วันที่ 22 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager