อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 5/5 วันที่ 12 ก.พ. 56
ประตูเปิดผัวะเข้าไปตามแรงเคาะ ชุ่มมองเข้าไปในห้องเห็นว่า ภายในห้องไม่มีใครอยู่ ชุ่มตัดสินใจก้าวเข้าไปมองหา ชุ่มคิด ๆ แล้วตกใจ“หรือว่า...”
ชุ่มคิดว่าขุนพิทักษ์ไปดวลแล้วจะหันหลังกลับ แต่สายตาของชุ่มมองเห็นผ้าแพรของรำพึง แล้วเห็นแหวนพิรอด ดาบ กริช วางอยู่ที่มุมหนึ่ง ชุ่มขยับเข้าไปมองยิ่งแปลกใจ
“ดาบก็ยังอยู่...แล้วท่านขุนหายไปไหน”
แจ่มเดินเข้ามาในห้อง
“นังชุ่ม!”
“น้าแจ่ม...”
“ทำไมเข้ามานานนัก แล้วท่านขุนล่ะ”
“ไม่อยู่จ๊ะ”
บนเรือน คุณหญิงรับรู้ด้วยความชินชา
“งั้นก็ช่างเถอะ ลูกข้าไม่เคยสนใจเรื่องไปวัดอยู่แล้ว”
คุณหญิงมณีกับแจ่ม ตามด้วยชุ่มเดินลงมาจากเรือน คุณหญิงมณีชะงัก พลอยทำให้ชุ่มกับแจ่มที่ตามลงมาชะงักไปด้วย ชุ่มกับแจ่มมองตามสายตาคุณหญิงมณีเห็นว่า ขุนพิทักษ์ยืนอยู่ที่ทางเดินไปท่าน้ำ
ขุนพิทักษ์ หันมายิ้มให้กับทุกคน
“คุณแม่ ลูกรอตั้งนาน”
“รอ”
“กระผมจะไปวัดกับคุณแม่ จะไปกันหรือยังขอรับ”
คุณหญิงมณีจะเดินไป ขุนพิทักษ์ยังรีรอจนแจ่มกับชุ่มกำลังจะเดินผ่าน ขุนพิทักษ์ จงใจเดินไปตีคู่กับชุ่ม
ชุ่มเห็นขุนพิทักษ์ เข้ามาใกล้
ขุนพิทักษ์พูดเบาๆ
“ชุ่ม...ข้า...”
ชุ่มไม่ฟังรีบเร่งเดินก้มตัวแซงหน้าคุณหญิงมณีไปที่ท่าน้ำ
“ชุ่ม!”
ชุ่มไม่หันกลับมา ขุนพิทักษ์ รีบเดินตามไป แจ่มเข้ามาใกล้คุณหญิงอย่างอยากรู้
“คุณหญิงเจ้าคะ ท่านขุนกับนังชุ่ม”
คุณหญิงมณีพูดเสียงเรียบ ๆ แต่เด็ดขาด
“รีบไปได้แล้ว”
แจ่มปิดปากทันทีแล้วเดินตามเงียบๆ คุณหญิงมณีเดินตามไปอย่างหนักใจ
บนเรือ สมอยู่ตำแหน่งคัดท้ายเรือด้านหลังสุด ถัดมาเป็นชุ่ม และแจ่ม และเป็นคุณหญิงที่หันหลังให้กับท้ายเรือ ส่วนขุนพิทักษ์ นั่งอยู่ที่หัวเรือ แต่หันหน้ามาทางชุ่ม
ขุนพิทักษ์ อยู่หน้าเรือหันหน้าเข้าหาคุณหญิงมณี
เรือแล่นไป ขุนพิทักษ์ มองไปทางชุ่มอย่างรอคอย พยายามจะสบตาและอยากจะพูดด้วย แต่ชุ่มเมื่อหันมาสบตาปุ๊บก็จะเมินไปทางอื่นตลอดเวลา ขุนพิทักษ์ หงุดหงิดงุ่นง่าน
บนศาลาวัด ขุนไวพิชิตพลกราบหลวงตามั่น
“กระผมมากราบขอพรจากหลวงตาขอรับ”
“การให้พร คือการให้สิ่งดี ๆ เพื่อต่อยอดคุณความดีของผู้ที่ได้รับพร แต่หากจะนำพรนั้นไปต่อยอดการกระทำที่เกิดจากโลภะ โมหะ โทสะ ก็ไม่มีพรอะไรจะบังเกิดผลแก่เอ็งได้”
“สิ่งที่เป็นของกระผม มันก็ต้องเป็นของกระผม กระผมจะไม่ยอมเสียมันไปเพราะวิธีการของคนชั่ว”
“ตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว บาปกรรมก็ไม่มีวันหมดสิ้น!”
ขุนไว สะอึก
“หากเห็นคนอื่นชั่วแล้วเรายังเดินตามรอยเขา เรานั้นย่อมเลวร้ายกว่า เข้าใจไหมเจ้าไว”
ขุนไว สายตาสับสนสลับกับแข็งกร้าวมาก แต่สุดท้ายคงไม่มีใครเปลี่ยนความตั้งใจได้
ขุนไว ไม่ตอบก้มกราบหลวงตาก่อนเดินออกไป หลวงตามั่นมองตามอย่างหนักใจ
คุณหญิงมณี ขุนพิทักษ์ เดินนำ แจ่ม ชุ่ม สมที่ถือของตามเข้ามาที่หน้าศาลา ขณะนั้น ขุนไวพิชิตพลเดินลงมาจากศาลาก็ชะงักที่เห็นคุณหญิงมณีกับขุนพิทักษ์
แจ่มพูดกับชุ่มและสม
“เสือพบสิงห์ วัดคงไม่แตกนะ”
ขุนไว ไหว้สวัสดีคุณหญิงมณี
“เป็นอย่างไรบ้างขุนไว”
“ก็...สบายดีขอรับ”
“เรื่องเก่าๆ ลืมได้ก็ลืมมันไปนะพ่อนะ”
“ขอรับ..หลวงตาอยู่บนศาลาน่ะขอรับ คงรอคุณหญิงอยู่”
คุณหญิงมณีเดินขึ้นไป แจ่มกับสมรีบถือของตามขึ้นไป ชุ่มเห็นขุนไว เดินเข้าไปหาขุนพิทักษ์ ก็รีรอยังไม่ตามขึ้นไป
“ข้าจะไปรอเอ็งตามที่นัดหมาย อย่าตาขาวจนมุดหัวอยู่แต่ในกระดองล่ะ”
ขุนพิทักษ์ โกรธ
“เอ็งเตรียมคอรอรับดาบข้าได้เลย!”
ทั้งคู่ต่างยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตาคลั่งแค้น ชุ่มมองอย่างกังวล
บนศาลา คุณหญิงมณีสนทนากับหลวงตา ขุนพิทักษ์ นั่งอยู่ข้างคุณหญิง ชุ่ม แจ่ม สมนั่งอยู่ด้านหลัง
หลวงตามั่นมองขุนพิทักษ์
“อาตมายินดีที่เห็นโยมพิทักษ์มาร่วมทำบุญกับคุณหญิง”
“กระผมก็แค่มาเป็นเพื่อนคุณแม่...” ขุนพิทักษ์ตอบอย่างเซ็งๆ
คุณหญิงมณีปราม
“พิทักษ์...”
หลวงตามั่นพูดกับขุนพิทักษ์
“เพียงได้มาอนุโมทนาบุญ ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุใด ก็ถือว่าได้ร่วมบุญ”
“ขอรับ...”
“แล้วเรื่องบวช...ได้ตัดสินใจแล้วหรือยัง”
ขุนพิทักษ์ ชะงักกึกด้วยความอึดอัด คุณหญิงมณีพยายามพูด
“พ่อพิทักษ์ ถ้าลูกยอมบวช”
“กระผมมีธุระ”
ขุนพิทักษ์ชักสีหน้า ลุกเดินออกไปเลย
“พิทักษ์!”
คุณหญิงมณีหันมาหาหลวงตามั่น
“อิฉันต้องกราบขอโทษแทนลูกของอิฉันด้วยนะคะ”
หลวงตามั่นนิ่งไม่ถือโทษ ชุ่มละล้าละลัง อยากลงไปแล้วตัดสินใจ ชุ่มบอกกับแจ่ม
“ข้าลงไปเอาจานมาใส่ของถวายนะจ๊ะ”
“อืม...แล้วรีบขึ้นมาล่ะ”
ชุ่มรีบลงไปจากศาลา
ชุ่มเดิน ๆ ตามหาขุนพิทักษ์
“หายไปไหนแล้วนะ หรือว่าจะกลับไปที่เรือน”
ชุ่มรีบเดินจะกลับไปที่เรือน ขณะที่วิ่งผ่านครัว ได้ยินเสียงเมียสัปเหร่อพูดขึ้น
“ที่ชายป่าตะวันออกน่ะเหรอพี่ นี่พวกโจรป่ามันเข้ามาปล้นถึงแถวนั้นแล้วเหรอพี่”
ชุ่มชะงักที่ได้ยินคำว่า ชายป่าตะวันออก
“มันไม่ได้ไปปล้น ข้าแอบได้ยินพวกมันว่าจะไปเล่นงานท่านขุน... ขุนไหนสักคนที่ไปประลองกันที่ชายป่าตะวันออก”
“ท่านขุน!”
สัปเหร่อกับเมียหันมาเห็นชุ่มรีบวิ่งออกไปเลย
ขุนไว ก้าวลงจากเรือนกระชับดาบในมือ สายตามุ่งมั่น
“วันตายของเอ็งมาถึงแล้ว ไอ้พิทักษ์!”
ภายในห้อง ขุนพิทักษ์ หยิบกริชขึ้นมาพกกับตัว พลางมองที่ผ้าแพรและแหวนพิรอด
“ท่านขุน สัญญากับข้าได้ไหมว่าท่านจะสวมแหวนไว้ตลอด”
ชุ่มในอาการเหนื่อย รีบฝืนวิ่งเข้ามาที่เรือนอยู่ไม่ไกลด้วยความหวัง
ภายในห้อง ขุนพิทักษ์ มองแล้วตัดสินใจ มือของขุนพิทักษ์ยื่นลงไปตรงกลางระหว่างผ้าแพรกับแหวนพิรอดนั้น
ชุ่มเปิดประตูเข้ามา
“ท่านขุนเจ้าคะ”
ภายในห้องไม่มีร่างขุนพิทักษ์ ชุ่มหันไปมองตรงมุมที่วางดาบ กริช ดาบ และผ้าแพรของรำพึงหายไป เหลือเพียงแหวนพิรอดของชุ่มไว้
ชุ่มหยิบแหวนขึ้นมา แล้วนึกถึง
“แล้วถ้าข้ามองแหวนแล้วคิดถึงเอ็งล่ะ ได้ไหม”
ขุนพิทักษ์ ดึงผ้าแพรของรำพึงออกมาเย้ยขุนไว
“ยังไงเอ็งก็ไม่มีทางแย่งน้องรำพึงไปจากข้าได้!”
ชุ่มกำแหวนในมือแน่น น้ำตาร่วง
“ท่านคงรักคุณรำพึงมาก..ใครก็คงห้ามท่านไม่ได้ … คุณรำพึง!”
ชุ่มได้สติวางแหวนไว้แล้วรีบวิ่งออกไปทันที
บนเรือนพระยาเทวราช เวลากลางวัน รำพึงสีหน้าใจเย็นนั่งปักผ้าอยู่ ขณะที่จวงถูบ้านด้วยอาการกระสับกระส่ายส่งเสียงฟึดฟัด กระแทกผ้าลงที่พื้นอย่างหงุดหงิด รำพึงหันไปถาม
“นังจวง เอ็งเป็นอะไร”
“ก็บ่าวร้อนใจนี่เจ้าคะ บ่าวอยากจะรู้ว่าใครจะชนะ ได้ครอบครองคุณรำพึงของบ่าว”
“ไม่ต้องมาร้อนใจแทนข้า ยังไงคุณพี่ก็ต้องมาบอกข้าอยู่ดีว่าคุณพี่เป็นผู้ชนะ”
รำพึงยิ้มอย่างมั่นใจ
“แล้วถ้าขุนไวเป็นผู้ชนะล่ะเจ้าคะ คุณรำพึงจะทำยังไง จะไม่ไปดูการประลองจริงๆเหรอเจ้าคะ”
รำพึงได้ยินจวงพูดอย่างนั้นก็ชักร้อนใจเริ่มปักผ้าไม่เป็นสุข จวงเหลือบมองเห็นรำพึงเริ่มปักผิดปักถูกจนหงุดหงิด ทนไม่ไหวลุกขึ้นพรวด จวงยิ้มสนุกถาม
“จะไปดูการประลองใช่ไหมเจ้าคะ”
“ข้าจะไปดูคุณพี่พิทักษ์ชนะให้เห็นกับตา”
รำพึงรีบเดินลงจากเรือน จวงยิ้มที่แยงสำเร็จรีบตามไป
ขุนพิทักษ์ก้าวเข้ามาที่จุดนัดประลองยังป่าด้านตะวันออก ขุนไวยืนรออยู่แล้วหันหลังกลับมา
สมกำลังจะเดินกลับไปที่เรือนคุณหญิงมณี สมเห็นชุ่มอยู่ไกลๆกำลังวิ่งไปอีกทาง
“ไปไหนของมันวะ นังชุ่ม”
“ชุ่ม!” สมร้องเรียก
ชุ่มวิ่งไป ไม่ได้ยินเสียงเรียก สมวิ่งตามไป
หน้าเรือนพระยาเทวราช รำพึงกับจวงกำลังรีบเร่งจะออกไป ก็ชะงักที่เห็นชุ่มวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
“คุณรำพึงเจ้าคะ”
รำพึงแปลกใจ
“เอ็งมาที่นี่ทำไม”
“คุณรำพึงช่วยไปห้ามท่านขุนทีเถอะเจ้าค่ะ อย่าให้ท่านขุนทั้งสองประลองกัน”
จวงขึ้นเสียงทันที
“ชะช้า นังชุ่ม เอ็งกล้ามาสั่งคุณรำพึงของข้าเหรอ”
ชุ่มไม่สนจวง อ้อนวอนรำพึง
“คุณรำพึงคนเดียวเท่านั้นที่จะห้ามพวกเขาได้”
ชุ่มลืมตัวเสียงดังเพราะห่วงขุนพิทักษ์
“รีบไปห้ามสิเจ้าคะคุณรำพึง !”
รำพึงโกรธ
“สะเออะ! ทาสชั้นต่ำอย่างเอ็งไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า”
“ขอร้องเถอะเจ้าค่ะคุณรำพึง ท่านขุนกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“เพ้อเจ้อ! เอ็งอิจฉาข้าใช่ไหมอีชุ่ม ที่คุณพี่พิทักษ์กำลังจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงข้า ไม่ใช่เอ็ง! จำใส่กะลาหัวไว้ด้วยว่าข้าคือคนที่คุณพี่ยอมถวายชีวิตให้ ไม่ใช่ทาสต่ำๆอย่างเอ็ง”
ชุ่มชักโมโหบอก
“แต่ทาสอย่างข้าก็ไม่ทำให้ใครต้องมาฆ่ากัน หัวใจของคุณรำพึงทำด้วยอะไรหรือถึงอยากเห็นคนฆ่ากัน”
จวงเสียงแหลมขึ้นมาทันที
“อ๊าย อีชุ่ม มันด่าคุณรำพึงเจ้าคะ”
รำพึงพูดด้วยความแค้น
“กำเริบนัก!”
จวงตบหน้าชุ่ม เพี๊ยะ! รำพึงมองอย่างสะใจจะไป ชุ่มเข้ามาจับข้อมือรำพึง
“คุณรำพึง ต้องรีบไปห้ามท่านขุนนะเจ้าคะ”
“ปล่อยข้านะ นังชุ่ม!”
จวงเข้ามาจะแกะมือชุ่มออก แต่ชุ่มพยายามจับไว้อย่างแน่น
“คุณรำพึง ไปห้ามเถอะนะเจ้าคะ จะให้ข้ากราบข้าก็ยอม”
รำพึงขืนตัวอย่างเต็มที่
“ปล่อยข้านะ นังจวง! ลากมันออกไป”
จวงโกรธที่แกะมือชุ่มไม่ออก ตัดสินใจใช้มือจิก กระชากหัวชุ่ม
“ปล่อยคุณรำพึงเดี๋ยวนี้! ปล่อย”
ชุ่มเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่ไม่ยอมปล่อยมือ
“นังชุ่ม ปล่อยสิวะ!”
ป่าด้านตะวันออก ขุนพิทักษ์กับขุนไวเข้าปะทะกัน ต่างใช้ดาบฟันผลัดกันรุก ผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใคร ขุนไวดูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ขุนพิทักษ์รับมืออย่างยากลำบาก
รำพึงพยายามจะแกะมือชุ่มออก ชุ่มไม่ปล่อย รำพึงกางมือจิกลงที่ใบหน้าชุ่ม ในขณะที่จวงจิกหัว ชุ่มเผลอปล่อยข้อมือรำพึง แต่ก็ยังโผเข้าคว้าขารำพึงไว้
“คุณรำพึงเจ้าขา ข้าขอร้อง ไปห้ามท่านขุนนะเจ้าคะ”
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 5/5 วันที่ 12 ก.พ. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager