@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/3 วันที่ 26 ก.พ. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/3 วันที่ 26 ก.พ. 56

ฉัตรพรนั่งคิดอยู่ในบ้านเงียบๆ ชัยเดินเข้ามาในบ้าน พอเห็นฉัตรพร ชัยก็ยิ้มประจบ
“พี่ฉัตร ขอตังค์หน่อยสิ จะเอาไปจ่ายค่างวดรถ”
ฉัตรมองน้องชายแล้วหยิบเงินส่งให้นิดหน่อย ชัยโวยวาย
“แค่นี้จะไปพออะไร ค่างวดรถนะ ไม่ใช่ค่าเติมลม”
“ถ้าอยากได้มากกว่านี้ ก็ต้องทำงาน ชั้นมีเรื่องให้แกช่วย สนใจไหม”
ชัยยิ้มประจบ “งานอะไรล่ะพี่ฉัตร ถ้าได้เงิน ก็บอกมาได้เลย”
ฉัตรพรมองชัยแล้วยิ้มร้าย

เช้าวันใหม่ ปรงทองกับเมรินเดินออกมาใส่บาตร ปฐวีเดินลงมาจะขึ้นรถ
“เจ้าวี มาใส่บาตรกับย่าก่อนมั๊ย” ปรงทองชวน


เมรินมองยิ้มให้ปฐวี ปฐวีทำเป็นไม่มอง
“วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อนครับ มีผ่าตัดแต่เช้าเลย” ปฐวีบอก
“งานยุ่งมากหรือ” ปรงทองถาม
“ครับคุณย่า” ปฐวีตอบ
เมรินมองหน้าปฐวี ปฐวีเมิน
“งั้นก็ไปเถอะ ย่าไม่กวนแล้ว” ปรงทองบอก
“ครับคุณย่า”
ปฐวีเดินไป ปรงทองมองตามอย่างแปลกใจ
“ทำไมช่วงนี้เจ้าวียุ่งเหลือเกิน ออกแต่เช้าทุกวันเลย”
เมรินเริ่มกังวล

ปฐวีนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีข้อมูลเรื่องตันหยงวางเต็มไปหมด ปฐวีนั่งเครียด
“เราจะทำยังไงดี”
หนึ่งฤทัยยื่นหน้าเข้ามา
“หมอวีคะ ไปทานข้าวด้วยกันนะ”
“เที่ยงแล้วหรือ ไปสิครับ”
ปฐวีรีบเก็บเอกสารใส่ลิ้นชักแต่เอกสารหล่น หนึ่งฤทัยสังเกตเห็นแต่ไม่พูด เธอหยิบแฟ้มส่งให้ปฐวี
“ไปค่ะ”
ปฐวีรับเอกสารไปวางบนโต๊ะ แล้วเดินออกไปพร้อมหนึ่งฤทัย

ปฐวีกับหนึ่งฤทัยนั่งกินอาหารอยู่ด้วยกัน ปฐวีนั่งกินอาหารแต่มีสีหน้าครุ่นคิด
“วีมีเรื่องอะไรไม่หนักใจหรือเปล่าคะ”
ปฐวียิ้มเหนื่อยแต่ส่ายหน้า เขาคิดแล้วถอนใจ “เราเรียนแทบตาย เมื่อก่อนผมคิดว่า อะไรที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ เป็นเรื่องเหลวไหล แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เราเรียนรู้มาทั้งชีวิต อาจตอบไม่ได้ทุกเรื่อง”
“วีพูดเรื่องอะไรคะ หนึ่งงงไปหมดแล้ว”
“บางสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ใช่ว่าจะไม่มีจริง”
หนึ่งฤทัยคิดตาม “เรื่องบางเรื่องวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ไม่ใช่มันไม่มีจริงนะคะ แต่อาจเป็นเพราะเรายังมีความรู้ไม่มากพอก็เป็นได้”
“งั้นหรือครับ”
“เช่นเมื่อก่อนนี้เราเข้าใจว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่ต่อมาเราได้รู้ว่า โลกเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบสุริยะในแกแลคซี่ของเรา และยังมีแกแลคซี่อื่นอีกมากมาย” หนึ่งฤทัยยิ้ม “มันเป็นเพราะเทคโนโลยีของเรายังก้าวหน้าไม่พอที่จะอธิบายได้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี ใช่ไหมคะ”
“แล้วถ้ามันไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องวิญญาณล่ะ เราจะเอาอะไรมาอธิบาย”
หนึ่งฤทัยงง “วีเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ”
“ผมก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทานเถอะครับ”
ปฐวีตัดบทก้มหน้ากินอาหาร หนึ่งฤทัยมองด้วยความสงสัย

ปรางค์ทิพย์ ฉัตรพร ชัยนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ปรางค์ทิพย์มองชัยอย่างไม่ไว้ใจ
“นี่ใคร ไว้ใจได้หรือเปล่า” ปรางค์ทิพย์ถาม
“น้องชายชั้นเอง ไว้ใจได้แน่นอน” ฉัตรพรบอก
“แล้วผมจะไว้ใจคุณนายได้หรือเปล่าเนี่ย” ชัยย้อนถาม
“ปากดีนักนะแก ทำงานให้ดีด้วยก็แล้วกัน” ปรางค์ทิพย์พูดกับฉัตรพร “คราวหน้าชั้นจะเอาเงินกับแผนที่มาให้ แล้วชั้นจะติดต่อไป”
ปรางค์ทิพย์เรียกเก็บเงิน ฉัตรพรมองตามปรางค์ทิพย์แล้วคิดก่อนยิ้มสะใจ

เมรินกับประภัสสรเดินถือของ ประภัสสรหยุดดูของรอบๆตัวอย่างเบื่อๆ เมรินชะงักเมื่อเห็นปรางค์ทิพย์กำลังจ่ายสตางค์ โดยปรางค์ทิพย์นั่งอยู่กับฉัตรพรและชัย
เมรินนึกถึงเหตุการณ์หน้าบ้านฉัตรพร ชัยเบรครถเกือบชนเมริน
“อีเด็กบ้า เดี๋ยวกูตบให้คว่ำเลย....” ชัยว่า
เมรินตะลึง
เมรินคิดในใจ “ป้าปรางค์ไปคุยอะไรกับคนพวกนั้นนะ”
ประภัสสรหันมาพูด “ไปค่ะน้องเมย์”
ประภัสสรจูงเมริน เมรินเหลียวมามอง

ประภัสสรกำลังจัดของเก็บอยู่ที่ลานจอดรถ เมรินยืนอยู่ใกล้ๆ ฉัตรพรกับน้องชายเดินผ่าน เมรินหันไปเห็นก็จ้องมอง
“ผู้หญิงที่มาราวีที่บ้านจริงๆด้วย” เมรินคิดในใจ
ชัยหันมาเห็นเมริน ชัยมองจ้องขณะที่เดินผ่านหน้าเมรินไป
“ไปค่ะน้องเมย์ ลุงสายมาแล้ว ไปขึ้นรถกันเถอะ หนูมองอะไรคะ” ประภัสสรถาม
“เปล่าค่ะ คุณแม่”
ประภัสสรจูงเมรินเดินออกไป เมรินเหลียวมองจนลับตา

ปฐวีกับหนึ่งฤทัยเดินผ่านมาที่หน้าร้านดอกไม้
“หนึ่งขึ้นไปก่อนนะครับ ผมขอทำธุระชั้นนี้ก่อน”
“งั้นหนึ่งไปก่อนนะคะ”
หนึ่งฤทัยเดินไป ปฐวีเดินเข้าไปที่ร้านดอกไม้ หนึ่งฤทัยยืนแอบมองอยู่ที่มุมหนึ่ง

เวลาผ่านไป ปฐวีเอาดอกไม้มาเสียบใส่แจกันให้ตันหยง
“จริงๆคุณฟื้นแล้ว แต่ไปฟื้นในร่างของหลานสาวผม แล้วหลานของผมล่ะ อยู่ที่ไหน”
ปฐวีจ้องมองตันหยงนิ่ง หนึ่งฤทัยแอบมองอยู่ด้วยสีหน้ากังวลใจ เธอค่อยๆปิดประตูที่แง้มลง

เมรินนั่งชะเง้อคอมองหาปฐวี ปฐวีเดินเข้ามา เมรินรีบยืนด้วยความตื่นเต้น
“น้าวี”
ปฐวีมองหน้าเมรินนิ่ง เมรินชะงักเริ่มใจไม่ดี
“ดึกแล้วยังไม่นอนหรือ” ปฐวีถาม
“เมย์ยังไม่ง่วงค่ะ เมย์รอน้าวี”
ปฐวีฝืนยิ้ม “ไปนอนเถอะครับ น้าวีขอตัวไปพักก่อน”
ปฐวีจะเดินไป เมรินเรียกไว้
“น้าวี น้าวีเป็นอะไรไปคะ โกรธน้องเมย์เหรอคะ”
ปฐวีอึ้งเพราะตอบไม่ได้ เขาไม่หันมาแต่ยืนด้วยความสับสน เมรินยืนรอคำตอบอย่างลุ้นๆ จากด้านหลัง ปฐวีตัดสินใจเดินไป เมรินอึ้ง
ตันหยงคิดในใจ “เขารู้ความจริงแล้ว”
เมรินทั้งตกใจกลัวทั้งเศร้า

เมรินเดินไปนั่งทบทวน เธอนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
ตันหยงนึกถึงตอนที่ปฐวีสั่งให้เสริชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพร้อมสั่งปริ้นต์
ตอนที่ปฐวีถามเมรินว่าจะดื่มชาหรือกาแฟ
“คุณรู้ความจริงแล้วใช่ไหม แล้วทำไมเราต้องมานั่งเสียใจล่ะ”
ตันหยงนึกถึงตอนที่ปฐวีบอกเมรินว่า รักหลานคนนี้มากที่สุด
ตันหยงเศร้าแต่ก็พยายามยิ้ม
“ชั้นควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ”
ตันหยงยิ้มเศร้าแล้วน้ำตาก็ไหล
“แต่ทำไมชั้นถึงไม่รู้สึกแบบนั้นล่ะ”
ตันหยงมองดวงจันทร์แล้วยกนิ้วขึ้นปิดดวงจันทร์

ปฐวีเดินออกไปที่ระเบียงชั้นสอง เขานึกถึงตอนที่เมรินร้องเพลงในงานวันเกิดปรงทอง
ปฐวรนึกถึงตอนที่คุยกับเมริน
“น้าวีรักน้องเมย์คนนี้มั๊ย” เมรินถามแล้วก็งอน ปฐวีง้อ ทั้งสองคุยกันในรถ
“น้าวีรักน้องเมย์คนนี้ที่สุด เพราะเป็นหลานน้าวี” ปฐวีตอบ
ปฐวีนึกถึงตอนที่เขาได้ยินเมรินพูดในโรงพยาบาล
ปฐวีน้ำตาซึมด้วยความเจ็บปวด

เช้าวันใหม่ ปฐวี เมริน เมธี ประภัสสร ปรงทองนั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร เมรินมองหน้าปฐวี แต่ปฐวีกินโดยไม่สนใจ เสียงปรงทองคุยกับประภัสสรดังแว่วมา เมรินจ๋อยจนกินไม่ลง
“นานๆจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ชื่นใจจริงๆ เป็นไงบ้างแม่ภัส หายแพ้หรือยัง” ปรงทองถาม
ประภัสสรเขิน “ดีขึ้นแล้วค่ะ ตอนนี้ทานได้ทุกอย่างไม่เหม็นเลย น้ำหนักขึ้นด้วยค่ะคุณย่า”
“ต้องทานให้เยอะๆกว่านี้อีก ลูกออกมาจะได้แข็งแรงนะ” เมธีบอก
“กลัวคลอดแล้วจะไม่ลงสิคะ” ประภัสสรบอก
“คุณจะอ้วนจะผอมยังไง ผมก็รัก”
ปรงทองมองประภัสสรกับเมธีแล้วยิ้ม
ปฐวีกับเมรินจ้องหน้ากัน ปฐวีเมินหน้า เมรินก้มหน้า
“เห็นพวกเจ้ามีความสุขย่าก็ดีใจ แล้วเมื่อไหร่จะถึงตาวีบ้างล่ะ เจ้าวี” ปรงทองถาม
ปฐวีชะงัก “คุณย่าว่าอะไรครับ”
“เป็นอะไรไป ย่าถามว่า เมื่อไหร่วีจะมีข่าวดีให้ย่าบ้างล่ะ”
ปฐวีมองหน้าเมริน เมรินก้มหน้า
“คงยังหรอกครับคุณย่า ผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจ” ปฐวีบอก
เมรินเงยหน้ามอง ปฐวีกับเมรินมองหน้ากัน ปฐวีเมินหน้าแล้วพูด
“ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
ปรงทองมองสองน้าหลานอย่างประหลาดใจ

หนึ่งฤทัยยืนมองแฟ้มในมือแล้วคิดอยู่ที่หน้าห้องพักของตันหยง
“เราทำเพื่อคนไข้...ทำเพื่อนคุณตันหยง”
หนึ่งฤทัยสูดลมหายใจลึกแล้วตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องทันที

พินิจ บุหงา และพิรามนั่งมองตันหยงด้วยสีหน้าเครียด หนึ่งฤทัยเดินเข้ามา เธอเหลือบมองพิรามนิดนึงแล้วยิ้ม
หนึ่งฤทัยเดินไปดูตันหยง “วันนี้คุณตันหยงหน้าตาดูสดใสดีนะคะ หนึ่งขอตรวจสักครู่นึงนะคะ”
หนึ่งฤทัยตรวจตันหยงตามขั้นตอน พินิจกับบุหงามองหน้ากัน
บุหงาดูหนึ่งฤทัยตรวจ “แม่คงต้องถามหมอเหมือนทุกวัน ว่าลูกแม่ดีขึ้นไหม”
“หมอทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ลงความเห็นคุณตันหยงไม่รู้สึกตัวเป็นเวลานาน โอกาสที่คุณตันหยงจะกลับมาเป็นปกติคงเป็นไปได้ยาก”
บุหงาซับน้ำตา พินิจกอดบุหงาไว้
“คุณแม่ครับ อย่าเพิ่งวิตกนะครับ” พิรามให้กำลังใจ
“นี่เป็นแฟ้มที่คุณหมอปฐวีค้นคว้า เกี่ยวกับอาการคนไข้ที่คล้ายกรณีคุณตันหยง มีหลายกรณีที่คนไข้ฟื้นขึ้นมา แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ รักษาโดยวิธีการอื่นๆแตกต่างกันไปในต่างประเทศ หนึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณอาทั้งสองบ้าง”
พินิจรับแฟ้มมาอย่างมีความหวัง “ขอบคุณมากครับคุณหมอหนึ่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
พินิจกอดปลอบบุหงา หนึ่งฤทัยกับพิรามมองอย่างสงสาร
“ผมเชื่อว่าหยงจะฟื้น ถ้าต้องไปรักษาตัวที่ไหน ผมอาสาจะพาหยงไปเองครับ”
หนึ่งฤทัยยิ้มโล่ง

ปฐวีมองหาแฟ้มตันหยงบนโต๊ะ จริญทิพย์เดินเข้ามา
“หมอวีหาอะไรคะ”
“ผมวางแฟ้มกรณีศึกษาคนไข้ ที่เหมือนเคสคุณตันหยงไว้ ไม่รู้อยู่ที่ไหน”
“ทิพย์จำได้ค่ะ ทิพย์เคยเห็น” จริญทิพย์ช่วยหา “เอ๊ อยู่ไหนน๊า อยู่ไหนเอ่ย”
ปฐวีกับจริญทิพย์ช่วยกันค้นหา หนึ่งฤทัยเดินเข้ามา
“หนึ่งหยิบไปเองค่ะ”
ปฐวีงง “คุณหนึ่งหยิบไปหรือ เอาไปทำอะไรครับ”
“หนึ่งแจ้งให้ทางครอบครัวคุณตันหยง ทราบเรื่องผลการวินิจฉัยคุณตันหยงแล้ว หนึ่งคิดว่า แฟ้มพวกนั้นอาจจะมีประโยชน์ เผื่อเค้าจะเลือกรักษาด้วยวิธีอื่น หนึ่งเลยให้พวกเค้าไปแล้ว วีโกรธหนึ่งหรือเปล่าคะ”
ปฐวีอึ้งแล้วก็ยิ้ม
“หนึ่งทำถูกต้องแล้วครับ”
“หนึ่งดีใจที่วีไม่โกรธ หนึ่งคิดอยู่แล้วถ้าเป็นวี วีก็ต้องทำแบบนี้”
หนึ่งฤทัยโล่งใจ ปฐวีนิ่งแล้วคิดหนัก

พิรามกับหนึ่งฤทัยนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ
“คุณพ่อคุณแม่หยงท่านจะรีบบินไปติดต่อแพทย์ทางโน้นก่อน ให้ผมดูแลหยงอยู่ทางนี้ เรียบร้อยแล้วผมค่อยเดินทางไปพร้อมหยง ผมขอบคุณที่หมอหนึ่งช่วยเป็นธุระเรื่องหาแพทย์ให้นะครับ” พิรามบอก
“หนึ่งไม่ได้ทำอะไรเลย หมอวีต่างหากค่ะ หนึ่งทำตามหน้าที่แพทย์เท่านั้นค่ะ”
“นั่นแหละครับ ถ้าคุณหมอหนึ่งไม่แนะนำ พวกเราคงไม่มีหวัง”
“อย่าหมดหวังกันนะคะ หนึ่งขอให้คุณตันหยงฟื้นกลับมาเหมือนเดิมค่ะ”
พิรามยิ้มอย่างมีกำลังใจ “ขอบคุณครับ”
หนึ่งฤทัยก้มหน้าลงจิบกาแฟแล้วนิ่งคิด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หนึ่งฤทัยกดรับ
“อยากพบหนึ่งหรือคะ”
หนึ่งฤทัยกดปิดโทรศัพท์
“ขอตัวก่อนนะคะ หมอวีตามตัวหนึ่งแล้วค่ะ”
“ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
หนึ่งฤทัยลุกขึ้นแล้วเดินไป พิรามมองตามแล้ว ยิ้มโล่งใจ


ปฐวียืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ถ้าคุณตันหยงฟื้น แสดงวิญญาณที่อยู่ในร่างน้องเมย์ ต้องกลับคืนร่างเดิม ...แล้ววิญญาณน้องเมย์ก็จะกลับเข้าร่างเดิมเหมือนกัน...”
ปฐวีถอนหายใจแบบมีความหวัง
หนึ่งฤทัยเดินยิ้มเข้ามา
“วีเรียกหนึ่งด่วน มีอะไรคะ”
“หนึ่งนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา”
“..เป็นทางการจังเลย มีอะไรคะ”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 11/3 วันที่ 26 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager