@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/4 วันที่ 16 ก.พ. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/4 วันที่ 16 ก.พ. 56

“ช่างมันเถอะค่ะ เมื่อคืนเป็นอดีตไปแล้ว เรามาพูดกันเรื่องวันนี้ดีกว่า”
เมธีอ้ำอึ้ง “ผมขอโทษ คือ ผม...”
“ฉัตรบอกแล้วไงคะ มันผ่านไปแล้ว คุณเองก็ไม่ได้บังคับใจฉัตรนี่นา ฉัตรมากับคุณเพราะฉัตรเต็มใจ .... และฉัตรก็ไม่ได้เรียกร้องให้คุณรับผิดชอบฉัตรนะคะ..... ขอแค่อย่างทิ้งกันง่ายให้ฉัตรต้องเสียใจก็พอ”
ฉัตรพรซบหน้าลงกับอกเมธี เมธีหนักใจ ฉัตรพรผละออกจากอกเมธี
“ฉัตรขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

ฉัตรพรลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ เมธีมองตามอย่างหนักใจ
เมธีคิดในใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้แล้วก็หงุดหงิด



ฉัตรพรส่องกระจกในห้องน้ำแล้วยิ้ม
“พวกผู้ชาย...ได้แล้วก็พูดแบบนี้ทุกราย”
ฉัตรพรยิ้มอย่างมุ่งมั่น

ประภัสสรลืมตาโพลงอยู่บนเตียง เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ประภัสสรสะดุ้งมองนาฬิกา เธอถอนหายใจแล้วลูบหน้าตัวเองอย่างอ่อนเพลีย ก่อนจะหันไปมองหมอนด้านข้างซึ่งไม่มีร่องรอยคนนอน
ประภัสสรคิดในใจ “คุณไม่กลับมาหาภัสจริงๆด้วย คุณเมธี”
ประภัสสรลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำอย่างเศร้าสร้อย

ประภัสสรทาเนยบนขนมปังให้เมรินแล้วนั่งเหม่อ เมรินมองประภัสสรแล้วแอบส่ายหน้า
“คุณแม่ขา เมย์ขอขนมปังทาแยมนะคะ”
ประภัสสรสะดุ้ง “อ้าว น้องเมย์ว่าไงนะคะ นี่ขนมปังของน้องเมย์ได้แล้วค่ะ”
ประภัสสรส่งขนมปังให้เมริน เมรินมองแล้วถอนหายใจ
“คุณแม่เป็นอะไรคะใจลอยไม่อยู่กับตัวเลย เมื่อคืนหลับบ้างหรือเปล่าคะเนี่ย ขอบตาคล้ำไปหมดแล้ว”
ประภัสสรอ้ำอึ้ง “หลับสิจ๊ะ แม่หลับรวดเดียวจนถึงเช้าเลย”
ตันหยงคิดในใจ “เฮ้อ..จะโกหกทั้งทีก็ไม่เนียน ตาดำเป็นหมีแพนด้าเชียว”
“วันนี้ใครจะไปส่งน้องเมย์คะ แล้วทำไมคุณพ่อยังไม่ลงมา” เมรินถาม
“เอ่อ เดี๋ยวแม่ไปส่งเองค่ะ สายแก้ว ไปบอกให้ลุงสายเตรียมรถด้วย ชั้นจะไปส่งน้องเมย์ที่โรงเรียน”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
สายแก้วเดินไป ประภัสสรหันมามองเห็นเมรินจ้องอยู่ ประภัสสรหลบตา
“เมื่อคืนคุณพ่อคงยุ่ง ป่านนี้ยังไม่กลับเลย” ประภัสสรพูด
“งั้นก็แสดงว่า คุณแม่รอคุณพ่อทั้งคืนเลยใช่มั๊ยคะเนี่ย งั้นคุณแม่พักดีกว่า วันนี้ น้องเมย์หยุดเรียนอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ก็ได้”
เสียงปฐวีดังขึ้น “มีใครบางคนขี้เกียจ จะแอบหยุดเรียนอีกแล้วใช่มั๊ย”
ปฐวีเดินเข้ามา เมรินทำหน้าเซ็ง

เมธีเดินกระวนกระวายอยู่ในออฟฟิศ เขามองโทรศัพท์อย่างลังเลเพราะตัดสินใจไม่ถูกจะโทรไปหาประภัสสรดีไหม ลูกน้องเมธีเดินเข้ามาในออฟฟิศ พอเห็นเมธี ลูกน้องก็ตกใจ
“อ้าว หัวหน้า มาแต่เช้าเชียวครับ อ๊ะหรือยังไม่ได้กลับบ้าน”
เมธีทำหน้าตาอึดอัด

เมรินนั่งหน้าหงิกอยู่ในรถ ปฐวีแอบมองเมรินแล้วอมยิ้ม ปฐวีเอื้อมมือไปเปิดเพลงแล้วชวนเมรินคุย
“จะฟังเพลงแบบไหนดีนะ น้องเมย์ช่วยน้าวีเลือกหน่อยสิ”
เมรินทำงอนๆ แล้วกดหาคลื่นเป็นเพลงฝรั่งเบาๆ
ปฐวียิ้มแล้วร้องคลอตาม
ปฐวีงง “ไม่ยักรู้ว่าน้องเมย์ชอบเพลงแบบนี้ เหมือนน้าวีเลย หลานน้าช่างรู้ใจน้าจริง...จริ๊ง”
ปฐวีร้องเพลงตาม เมรินเชิดหน้าทำงอนแต่แอบยิ้ม
“เออจริงสิ คุณแม่เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า น้องเมย์พอรู้มั๊ยคะ” ปฐวีถาม
“แหม..น้าวีขา อยากรู้เรื่องอะไรก็ถามกันตรงๆก็ได้ค่ะ ไม่ต้องมาหลอกล่อถามหรอกค่ะ”
ปฐวีขำสำนวนของเมริน
“อ่ะก็ได้ ก็ได้ เหลือรับจริงๆหลานน้าวี เมื่อคืนคุณพ่อกับคุณแม่ทะเลาะกันรึเปล่าคะ”
“จะทะเลาะกันได้ยังไงคะ ในเมื่อคุณพ่อไม่ได้กลับบ้านน่ะคะ”
“จริงหรือ” เมรินบ่น “พี่เมธีไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา”
“นั่นสิคะ ทำไมคนรักกัน ต้องมีปัญหาและทะเลาะกันด้วย”
ปฐวีนิ่งนึก “มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะน้องเมย์ มันมีช่วงที่สุข แล้วก็ต้องมีช่วงที่ทุกข์ ปนๆกันไป”

“แสดงว่าความรักมันไม่ได้สวยงามทุกมุม”
“ก็จริง แต่คนเราอยู่โดยปราศจากความรักไม่ได้หรอก”
“แล้วถ้าเราอยากมีความรักดีๆ ต้องทำยังไงคะ”
“ถ้าสำหรับน้าวีนะ เราก็ต้องเป็นผู้ให้ และไม่หวังอะไรตอบแทน”
เมรินแอบมองหน้าปฐวี

ปฐวีเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งอ้อมไปเปิดประตูรถให้เมริน แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยให้
“เชิญครับ คุณผู้หญิง”
เมรินยิ้มเขิน “ขอบคุณค่ะ น้าวีทำอย่างนี้ให้กับผู้หญิงทุกคนรึเปล่าคะ”
“กับหลานสาวของน้าวีโดยเฉพาะ”
“แหม น้าวีนี่ปากหวานจังนะคะ มิน่ามีแต่สาวๆมารุมตอม”
ปฐวีทำหน้าประหลาด “รุมตอมหรือ ฟังดูเหมือนอะไรเหม็นๆ”
“น้องเมย์ดมหน่อยซิ น้าวีหอมหรือเหม็น”
ปฐวียื่นแก้มมาให้เมริน เมรินถอยห่าง
ตันหยงคิดในใจ “บ้า ทำอะไรก็ไม่รู้”
“ไม่เอาค่ะ” เมรินขำ “กลัว...” เมรินทำมือโบกว่าเหม็น
ปฐวีหยิกแก้มเมริน
“โอ๊ย...แก่แดดจริงนะเรา”
ปฐวียิ้มขำ
“ไป เข้าโรงเรียนได้แล้ว”
ปฐวียื่นมือมาให้เมรินจับแล้วเดินจูงเดินเข้าไปในโรงเรียน

เด็กนักเรียนวิ่งเล่นวุ่นวายอยู่ที่สนามเด็กเล่น
“น้องเมย์จะไปวิ่งเล่นกับเพื่อนหรือเปล่า” ปฐวีถาม
เมรินส่ายหน้า “ไม่ไหวหรอกค่ะ เวียนหัวเด็ก”
ปฐวีมอง
บรรดาครูสาวเดินมาทักทายปฐวี
“สวัสดีค่ะ คุณหมอปฐวีมาส่งน้องเมย์แต่เช้าเลยนะคะ”
ปฐวียิ้มกับครู เมรินบ่นดังๆ ด้วยความหมั่นไส้
“สงสัยดาวหางแห่งความรัก กำลังพุ่งชนน้าวีเข้าแล้ว”
ปฐวีขำ “น้าวีตามสำนวนน้องเมย์ไม่ทันจริง.ๆ”
สุดนภาเดินเข้ามาโดยมีเด็กๆวิ่งตาม
“สวัสดีครับ” ปฐวีมองเด็กๆ “ครูบี๋นี่ขวัญใจเด็กๆเลยนะครับ ใจดีแบบนี้เอง เด็กถึงรักครูบี๋กันหมดเลย”
สุดนภาเขิน “ก็เด็กๆน่ารักนี่คะ” สุดนภาพูดกับเมริน “มาค่ะน้องเมย์ มาหาครูบี๋ดีกว่า”
เมรินเดินไปหาสุดนภา
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ บี๋จะดูแลน้องเมย์เป็นพิเศษเลยค่ะ”
“ได้ยินครูบี๋พูดแบบนี้ผมก็หมดห่วงครับ”
เมรินมองสุดนภากับปฐวีด้วยความหมั่นไส้
ตันหยงคิดในใจ “ชักเยอะแล้วนะเนี่ย ยัยบี๋”
“ครูบี๋ขา จะเข้าห้องเรียนได้รึยังคะ” เมรินถาม
สุดนภายิ้มค้าง
“งั้นน้าวีไปก่อนนะคะ น้องเมย์” ปฐวีบอก
เมรินโบกมือบ๊ายบายปฐวี ปฐวีเดินไป เมรินหันมามองสุดนภาที่มองปฐวีอย่างอาลัย
“แกสนใจชั้นหน่อยดีมั๊ย”
“เออน่า ชั้นรู้แล้ว” สุดนภาพูดสายตายังมองปฐวีอยู่
สุดนภานึกได้จึงหันมาสนใจเพื่อน
“เอาล่ะ” สุดนภาทำร่าเริง “แกพร้อมจะเป็นเด็กอีกวันแล้วใช่ไม๊”
ตันหยงหมั่นไส้เพื่อน “ชั้นมีทางเลือกอื่นหรือ”
สุดนภาจ๋อย เมรินถอนหายใจเฮือก แล้วเดินเข้าห้องเรียนไป

เมรินเดินเข้ามาในห้อง เด็กกลุ่มหนึ่งยืนมุงอะไรอยู่ เมรินเดินเข้าไปดูก็เห็นแคทยืนร้องไห้ ส่วนมิ้งค์ยืนกอดอกมองแคทหน้าตาเฉย
“แคทเป็นอะไรหรือ” เมรินถาม
แคทสะอื้น “น้องเมย์มิ้งค์ชนเราจนนมหกหมดเลย เสื้อก็เปื้อนกระโปรงก็เปื้อน”
“ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวเมย์พาไปล้างออก”
“นั่นน่ะสิ เรื่องแค่นี้ก็ต้องร้องไห้ด้วย”
มิงค์พูดจบก็เดินเชิดออกไป เมรินมองตาม
“อะไรนี่ ตัวแค่นี้ยังทำนิสัยเสีย นี่ถ้าโตขึ้นจะเป็นขนาดไหนเนี่ย” เมรินพูดกับแคท “มาค่ะ เมย์จะพาไปล้างตัว ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี”
แคทพยายามหยุดสะอื้น
“ดีมาก เราต้องเข้มแข็งนะคะ” เมรินบอก
เมย์จูงมือแคทไป

แคทยังคงสะอึกสะอื้น เมรินเช็ดเสื้อให้แคทแล้วเช็ดน้ำตาให้
“เลิกร้องได้แล้วนะคะ เดี๋ยวตาบวมไม่สวยนะ”
“น้องแคทกำลังพยายามแต่มันหยุดไม่ได้” แคทบอก
“ต้องหยุดได้สิคะ ถ้าคิดว่าทำได้เราก็ทำได้”
แคทพยายามหยุด เมรินยิ้ม
“นั่นไงเห็นมั๊ย ทำได้แล้ว”
“ทำยังไงแคทจะเก่งแบบเมย์บ้างนะ เมย์เก่งขึ้นตั้งแยะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย”
เมรินงง “แล้วเมื่อก่อนเมย์เป็นแบบไหนหรือ”
“ก็แบบว่า อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้ ไม่สบาย พอโดนมิ้งค์แกล้ง ก็ร้องอย่างเดียว ฟ้องครูยังไม่กล้าเลย”
เมรินเบ้หน้า “แย่อย่างงั้นเชียวหรือ”
“ใช่แล้ว แต่ตอนนี้น้องเมย์เก่งขึ้นตั้งแยะ เรามาเป็นเพื่อนซี้กันนะน้องเมย์”
“ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแม้นะ”
“อะไรหรือ”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องไม่อ่อนแอ ห้ามร้องไห้เด็ดขาด นิดเดียวก็ห้าม”
แคทนิ่งคิด “ก็ได้ เราจะพยายาม ถ้าเราเก่งเหมือนน้องเมย์ น้องมิงค์คงไม่กล้าแกล้งเราแล้วละ”
“ดีมาก ปะ”
เมรินจูงแคทออกเดินไป

ที่หน้าห้องเรียน นนท์เดินมองชะเง้อหาด้วยท่าทางกระวนกระวาย เมรินกับแคทเดินจูงมือกันมา นนท์เห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหา
“น้องเมย์ไปไหนเนี่ย นนท์มารอตั้งนานแล้ว”
“รอทำไม มีอะไรหรือ”
นนท์ยื่นกุหลาบพร้อมการ์ดทำเองให้พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวา
“น้องนนท์เอามาให้น้องเมย์”
เมรินมองการ์ดขำๆ ส่วนแคทตาโต
“มีกุหลาบแล้วยังมีการ์ดอีก นี่น้องนนท์จีบน้องเมย์หรือ” แคทถาม
“ไม่ต้องจีบแล้ว น้องเมย์เป็นแฟนน้องนนท์ตั้งแต่วันก่อนแล้ว” นนท์บอก
เมรินขำเด็ก “ขี้ตู่ชะมัด แค่ะเอาดอกไม้มาให้ดอกเดียวก็เหมาว่าเป็นแฟนกันแล้วหรือ”
“ไม่ใช่ดอกเดียวนะ นี่ดอกที่สองแล้ว แถมการ์ดด้วย”
เมรินหัวเราะขำๆ นนท์จับดอกไม้ยัดใส่มือเมริน
“ยังไม่ได้บอกว่าจะรับซะหน่อย แล้วดอกไม้ทำไมมีรอยหนอนเจาะด้วยล่ะ ดูสิ”
“ไหนๆ” นนท์ดูดอกกุหลาบ “ว๊า น้องนนท์อุตส่าห์เลือกดอกที่สวยที่สุดแล้วนะเนี่ย สงสัยต้องให้คุณแม่ฉีดยาฆ่าหนอนซะแล้ว”
“ที่แท้ก็แอบเด็ดของแม่มานี่เอง จะฟ้องคุณแม่น้องนนท์” เมรินบอก
นนท์เก๊ก “แม่ไม่ว่านนท์หรอก แม่บอกว่าอะไรที่นนท์มีความสุข แม่ก็มีความสุขด้วย”
เมรินซึม “นั่นสินะ ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ”
“การ์ดนี่นนท์ทำเองกะมือเลย น้องเมย์อ่านสิ”
เมรินรับการ์ดจากนนท์ แคทรีบเข้ามาขอดูด้วย
เมรินอ่าน “รักน้องเมย์นะ จุ๊บๆ คำว่ารัก ต้องใช้ร.เรือนะคะ ไม่ใช่ล.ลิง”
นนท์เขิน “เอาน่า เอาเป็นว่ารักก็แล้วกัน”
นนท์เขินก่อนจะวิ่งไป เมรินขำ
“อายุแค่นี้ยังขนาดนี้ โตขึ้นจะขนาดไหนเนี่ย”
แคทกรี๊ด “น้องนนท์เท่ห์จังเลย”
เมรินหันมองแคทแล้วคิดในใจ “เฮ้อ เด็กหนอเด็ก”

เมรินเรียนวิชาวาดเขียนจึงก้มหน้าวาดรูป
เวลาผ่านไป รูปของเด็กมากมายติดบนกระดาน ครูชี้ไปที่ภาพของเมริน เมรินลุกขึ้นยืน เพื่อนๆปรบมือ
ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์เขียนโจทย์เลขบนกระดาน เมรินเดินออกไปหน้าห้องแล้วแสดงวิธีทำและตอบคำถามอย่างรวดเร็ว เธอเขียนสูตรเลข x y ยกกำลังโชว์
ครูชาวต่างชาติยืนตะลึงเมื่อได้ยินเมรินพูดตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เพื่อนๆ พากับปรบมือให้เมริน
เมรินยักไหล่ “เรื่องแค่นี้ เด็กป.1ก็ทำได้”
เพื่อนๆมารุมล้อมแสดงความสนใจเมริน

ครูสอนวิชาต่างๆ สุมหัวกันนินทาเมรินอยู่ในห้องพักครู ครูสอนวาดเขียนหยิบรูปของเมรินขึ้นมาโชว์
“ดูสิ ลายเส้นชัดเจนมาก นี่ถ้าไม่เห็นกับตาว่าน้องเมย์เขียนเอง ต้องคิดว่าเป็นผู้ใหญ่เขียนแทนแน่เลย”
“จริงด้วย แล้วคิดเลขเก่งมากทั้งเร็วแถมยังถูกต้องอีกด้วย จากที่เมื่อก่อนแค่บวกหลักเดียวยังยากเลยค่ะ” ครูคณิตศาสตร์บอก
“หรือว่า ...จะจริงอย่างที่เค้าว่ากัน”
“อะไรหรือคะ”
“อ้าว ไม่เคยได้ยินหรือ เมืองนอกน่ะมีการใช้สเต็มเซลสร้างเนื้อเยื่อใหม่ หรือว่าพ่อแม่ของน้องเมย์อาจจะพาน้องเมย์ไปทำแบบนั้นก็ได้นะ”
“งั้นก็ใช่เลย แสดงว่าต้องเป็นตอนที่น้องเมย์ประสบอุบัติเหตุ หยุดไปตั้งนาน ดูสิ พอกลับมา กลายเป็นอัจฉริยะในพริบตาเลย”
สุดนภาที่ยืนแอบฟังอยู่ถอนหายใจ
สุดนภาบ่น “หาเรื่องแล้วมั๊ยล่ะ หยงเอ๊ย”
สุดนภากระแอมแล้วเดินเข้ามาในห้อง ครูคนอื่นรีบมารุมสุดนภา
“ครูบี๋รู้สึกว่าน้องเมย์แปลกๆมั๊ยคะ แบบว่าฉลาดขึ้น เก่งขึ้นผิดปกติ”
“คือพวกเราสงสัยว่า ครอบครัวน้องเมย์เป็นเจ้าของโรงพยาบาล อาจจะ..”
“อาจจะอะไรคะ” สุดนภาถาม “ผ่าตัดสมองให้เก่งขึ้นน่ะหรือ เหลวไหล มันมีแต่ในการ์ตูนวิทยาศาสตร์เท่านั้น ถ้ามีจริง ชั้นจะให้คุณผู้บริหารไปทำเป็นคนแรกเลย”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/4 วันที่ 16 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager