อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 8 วันที่ 18 ก.พ. 56
อีกมุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้า นาวินเดินตามสุดนภาโดยแบกหนังสือถุงโตมาด้วย สุดนภาเดินมองเพื่อเลือกร้านอาหารอย่างใจเย็น“เอาร้านไหนดีนะ อาหารญี่ปุ่นก็ดี ไม่อ้วน เอ๊ะหรือว่าอาหารจีนก็น่าสน ทานอะไรดีล่ะ “
“ร้านไหนก็เลือกซักร้านเถอะคุณ ผมแบกของจนหลังแอ่นแล้ว” นาวินบอก
“อะไรแค่นี้ก็บ่นแล้ว ไม่มีอดทนซะเลย มาชั้นถือเองก็ได้”
สุดนภาเอื้อมไปรับ นาวินส่งถุงที่หนักมากให้ สุดนภาจ๋อย
“ทำไมมันหนักอย่างนี้หล่ะ”
“เชื่อรึยังล่ะ มา ผมถือเอง”
สุดนภายิ้มแล้วแกล้งเดินนำ นาวินมองแล้วส่ายหัวก่อนจะเดินตาม
เมรินเดินงอนนำปฐวีไป ปฐวีจ้ำตาม
“น้องเมย์ขา รอน้าวีด้วย งอนอะไรน้าวีคะ”
“ก็น้าวีน่ะ พอเห็นสาวๆเข้าหน่อย ลืมน้องเมย์เลยนะคะ”
“แหม ใครจะลืมหลานรักได้ลงคอ มาให้น้าวีจูงเดี๋ยวหลงหรอก”
ปฐวีจูงมือเมรินเดินเข้าร้านอาหารไป
นาวินและสุดนภาเดินมาหยุดยืนที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่น
“เอาร้านไหนดีนะ” สุดนภาหันซ้ายหันขวา
“อาหารญี่ปุ่น” นาวินเสนอ
“ไม่เอา กินอาหารเกาหลีดีกว่า”
นาวินบ่น “แล้วจะถามทำไมเนี่ย”
“นี่ บ่นเป็นคนแก่เลยนะ”
“แน่ใจแล้วนะ จะทานร้านนี้ ไม่เลือกอีกหน่อยหรือ”
“อ๊ะ งั้นจะเดินดูอีกรอบนึงมั๊ย”
นาวินทำลิ้นห้อย “ไม่ต้องแล้วครับ ร้านนี้ก็ร้านนี้แหละ ผมประชดน่ะ”
สุดนภาทำไม่รู้ไม่ชี้ “งั้นหรือ ชั้นมันคนซื่อ”
สุดนภาเดินเชิดเข้าร้านอาหารไป นาวินส่ายหน้าแล้วลากถุงตามไป
ที่โต๊ะของปฐวี ปฐวีส่งเมนูให้เมริน
“น้องเมย์อยากทานอะไร เลือกเลย”
เมรินเลือกอาหารเสร็จก็ส่งเมนูคืนให้บ๋อย
เวลาผ่านไป อาหารถูกนำวางเรียงเรียบร้อย
“น่าอร่อยจัง ทานนะคะ”
“รอเดี๋ยวก่อน”
ปฐวีจัดการอุปกรณ์การกินแล้วเลื่อนแก้วน้ำดูแลเมรินอย่างเรียบร้อย เมรินมองตามแล้วยิ้ม
“น้าวีนี่บริการสุดยอด นี่บริการใครมาแล้วบ้างน๊า”
ปฐวีกระซิบ “ความลับนะ บอกน้องเมย์คนแรกเลย เอียงหูมาสิ”
เมรินหลงเชื่อจึงยื่นหน้าไปจนชิด ปฐวีแอบหอมแก้ม เมรินถอยเพราะเขิน
“น้าวีทำอะไรเนี่ย อายเค้านะ”
“ค่าบริการไงล่ะ”
เมรินเช็ดแก้มแล้วยิ้มเขิน ปฐวีอมยิ้มแล้วจัดการเลื่อนแก้วน้ำ คีบอาหารใส่จานให้เมริน
เมรินมองดูยิ้มๆ
ตันหยงคิดในใจ “เค้าก็เป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นดีจัง”
“มีอะไรติดหน้าน้าวีหรือเปล่า”
เมรินสะดุ้ง “เปล่าค่ะ ทานได้หรือยังคะ”
“ลงมือได้เลย”
ปฐวีกับเมรินนั่งกินอาหารอย่างมีความสุข
อาหารถูกวางเรียงเต็มโต๊ะของนาวิน นาวินมองอย่างตะลึง
“แน่ใจนะว่าสั่งมาเนี่ยจะทานหมด”
“แน่ใจสิ” สุดนภาตอบ
“แหม กินไม่เกรงใจเจ้าภาพเลยนะ”
“ไหนว่าจะเลี้ยง ไม่กินก็ได้”
“โอ๊ย ผมเต็มใจเลี้ยงคุณเสมอ มามะทานอาหารเถอะ เดี๋ยวจะโมโหหิว”
สุดนภางอนแต่ก็เริ่มกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย นาวินมองตามแล้วยิ้มปลื้ม สุดนภามองหน้านาวินแล้วถาม
“ไม่ทานหรือ”
“เห็นคุณกินได้ ผมก็ดีใจ”
สุดนภากินต่อโดยไม่แคร์สายตานาวินที่จ้องอยู่ นาวินยิ้มปลื้ม
ปฐวีและเมรินเดินจูงมือกันมาหยุดหน้าร้านเครื่องประดับ ที่ตู้โชว์นอกร้านมีจี้รูปหัวใจโชว์อยู่ เมรินไปยืนมองอย่างสนใจ ปฐวีสังเกตเห็น
“น้องเมย์อยากได้เหรอคะ”
“มันน่ารักดีนะคะ”
“น้าวีซื้อให้เอามั๊ย”
เมรินมองปฐวีแล้วส่ายหน้า “ไม่ดีกว่าค่ะ มันไม่เหมาะกับวัยแบบน้องเมย์”
เมรินถอยออกจากตู้โชว์แต่ยังแอบมองอย่างเสียดาย
“ให้น้าวีเลี้ยงไอติมดีกว่า” เมรินบอก
“ได้เลย ไปกัน”
เมรินเดินไปอย่างร่าเริง
ถ้วยไอศกรีมที่เริ่มละลายวางอยู่บนโต๊ะ เมรินนั่งเท้าคางมองแก้วไอศกรีมเบื่อๆ
“ทำไมไปห้องน้ำนานนักนะ”
ปฐวีเดินยิ้มกริ่มเข้ามาในร้าน
“มาแล้ว สาวน้อย รอนานมั๊ยครับ”
เมรินงอน “น้าวีแอบไปไหนมาคะ น้องเมย์รอจนเบื่อเลย”
ปฐวียิ้มก่อนจะยื่นมือออกแล้วเปิดกล่องที่ถือมาจนเห็นว่าเป็นจี้รูปหัวใจ เมรินตะลึง
“น้าวี”
“สำหรับน้องเมย์ สาวน้อยของน้าวี”
เมรินเอื้อมมือไปแตะสร้อย ปฐวีแกล้งปิดกล่องงับนิ้ว เมรินหัวเราะกิ๊ก
ตันหยงนึกถึงตอนที่พิรามขอเธอแต่งงานซึ่งพิรามทำแบบนี้เปี๊ยบ
ปฐวีเห็นเมรินเหม่อก็เรียก “น้องเมย์ น้องเมย์”
“อะไรคะ”
“เป็นอะไรไป เหม่อทำไม ไม่ชอบหรือ”
“ชอบสิคะ ชอบมาก น้าวีใส่ให้เมย์ด้วยนะคะ”
“มาน้าวีใส่ให้”
ปฐวีหยิบจี้ออกมา เมรินยื่นมือไปให้ปฐวี
ปฐวีสวมจี้ให้ที่สร้อยแขนของเมริน
“ขอบคุณมากนะคะน้าวี”
ปฐวีอมยิ้มแล้วชี้ที่แก้มตัวเอง เมรินเขินแต่ก็ค่อยๆจุ๊บที่แก้มปฐวีอย่างเต็มใจ
นาวินยืนรอสุดนภาอย่างอดทนหน้าร้านขนม สุดนภาถือขนมเดินออกมากัดชิมอย่างอร่อย
“แหม คุณนี่ทำบุญด้วยอะไรน๊า กินได้กินอร่อยจริง..จริ๊ง” นาวินแซว
“ก็มันอร่อยจริงๆนี่นา ลองชิมมั๊ย”
สุดนภาดึงขนมยัดใส่ปากนาวิน นาวินเคี้ยวแล้วทำตาโต
“อร่อยจริงๆด้วยแฮะ ไหนขออีกคำซิ”
ทั้งสองคนเดินกินขนมอย่างสบายใจ
ปฐวีกับเมรินเดินมาจากอีกทาง ทั้งสองคู่มองหน้ากันแล้วชะงัก นาวินทำไมรู้ไม่ชี้เดินเข้ามาหาปฐวี
“เฮ้ย ไหนแกว่ามีนัดสำคัญไงวันนี้ แหม มีเดทกับครูบี๋ก็ไม่บอก” ปฐวีแซว
“ถ้าบอกก็ไม่ได้มากันสองต่อสองสิวะ” นาวินว่า
เมรินเดินไปหาสุดนภา
“หมายความว่ายังไงเนี่ย” เมรินถาม
“แค่กินข้าว ไม่มีอะไรซักหน่อย”
เมรินยิ้มล้อ “จริงเหรอ”
เมรินยิ้มขำ
ปฐวีกับเมรินเดินมาถึงที่รถ ปฐวีหัวเราะก๊าก
“ร้ายจริงๆ เจ้าวิน”
“น้าวีขำอะไรหรือคะ” เมรินถาม
“ก็น้าวินกับครูบี๋น่ะสิ สงสัยจะลงตัวซะแล้ว”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นก็คงดีนะคะ ครูบี๋เป็นคนน่ารัก ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข”
ปฐวีมองเมรินนิ่ง “งั้นหรือ น้องเมย์รู้จักครูบี๋ดีใช่มั๊ย”
“ค่ะ รู้จักดี”
เมรินเดินขึ้นรถ ปฐวีมองตามแล้วยิ้ม
ปฐวีเดินมาส่งเมรินที่หน้าบ้าน
“พรุ่งนี้จะสอบแล้วนะ พร้อมหรือยัง” ปฐวีถาม
“พร้อมตั้งแต่เกิดแล้วค่ะน้าวี”
“ขี้คุย เหมือนใครเนี่ย”
“เหมือนน้าวี”
สองน้าหลานหัวเราะให้กัน
“เมย์เข้าบ้านนะคะ”
ปฐวีพยักหน้า เมรินวิ่งเข้าบ้านแล้วหันมายิ้มให้ปฐวี ปฐวียิ้มอย่างมีความสุขแล้วเดินออก
ปฐวีเดินออกจากห้องน้ำมานั่งที่โต๊ะ เขาหยิบรูปเมรินที่ถ่ายตอนไปวัดมาดูแล้วนึกย้อนไปถึงภาพเมรินที่กำลังติวหนังสือให้เพื่อน นึกถึงตอนที่ครูใหญ่ชื่นชมเมริน นึกถึงตอนที่เมรินอ้อนให้ปฐวีใส่สร้อยให้ นึกถึงตอนที่เมรินหอมแก้มปฐวีแล้วทำท่าเอียงอาย
“เรานี่ถ้าจะบ้าแฮะ หลงหลานตัวเองซะแล้ว”
ปฐวีหัวเราะขำตัวเอง เขาวางรูปเมรินบนโต๊ะ
เมรินนั่งยิ้มปลื้มปริ่มกับจี้รูปหัวใจที่ปฐวีใส่ให้ เธอล้มตัวลงนอนแล้วชักผ้าห่มคลุมโปง สักครู่เธอก็เปิดผ้าห่มออกมายกมือมามองจี้อย่างชื่นชม
วันต่อมา เด็กๆ ที่อยู่หน้าห้องสอบตื่นเต้นและคุยกันเสียงดัง สุดนภายืนถือข้อสอบอยู่หน้าห้อง
“นี่นักเรียนหยุดคุยกันได้แล้วค่ะ พร้อมทำข้อสอบรึยังคะ”
นักเรียน ตอบพร้อมกัน “พร้อมแล้วค่ะ”
ครูเดินแจกข้อสอบ เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่
“หยุดก่อนค่ะ อย่าพึ่งลงมือทำข้อสอบนะคะ ฟังครูอธิบายก่อน ห้ามคุยกัน ห้ามถามกัน ถ้าใครทำเสร็จแล้วให้เดินมาวางไว้ที่โต๊ะครูหน้าห้อง เริ่มหยิบดินสอและลงมือทำได้แล้วค่ะ”
เด็กๆ หยิบอุปกรณ์เครื่องเขียนขึ้นมาแล้วลงมือทำข้อสอบ แคทนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดทำข้อสอบ มิ้งค์นั่งทำข้อสอบอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนเมรินนั่งทำข้อสอบแล้วก็วางดินสอนิ่งคิด
“ถ้าตั้งใจทำ ก็คงจะถูกหมด เราจะไปเอาเปรียบเด็กๆรึเปล่านะ แต่ถ้าแกล้งทำผิด มันก็จะเป็นการหลอกคนอื่นอยู่ดี รวมทั้งหลอกตัวเองด้วย เอาไงดีนะ” ตันหยงคิดในใจ
เมรินหยิบดินสองขึ้นมาแล้วลงมือทำข้อสอบช้าๆ สุดนภาเดินตรวจตั้งแต่หน้าห้องไปจนหลังห้อง นาวินเดินมาดูที่หนาห้องก็ยิ้มกับบรรยากาศในห้องสอบ นาวินพยักหน้าให้สุดนภา สุดนภายิ้มตอบ
ครูอีกคนแจกข้อสอบให้เด็กๆ เด็กๆรับข้อสอบไปแล้วก้มหน้าทำ เวลาผ่านไป เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น
เด็กๆ แตกฮือกันออกมาจากห้อง เมรินกับแคทยืนคุยกัน โดยแคททำหน้าเครียด
“เป็นยังไงบ้างแคท ทำได้หรือเปล่า” เมรินถาม
แคทนิ่งไม่ตอบแต่หน้าตาเป็นกังวล มิ้งค์ยิ้มร่าเริงเดินมา
“โหข้อสอบครั้งนี้ง่ายม๊ากมาก เราทำได้ทุกข้อเลยอ่ะ” มิ้งค์คุย
“โห น้องมิ้งค์เก่งจังเลยอ่ะ สงสัยได้ที่ 1 แน่เลย” เพื่อนๆ ชม
แคทหน้าเศร้า มิ้งค์มองเยาะเย้ย
“ทำไม่ได้ใช่ม๊า แคท”
“แคทไม่แน่ใจทำได้บ้างไม่ได้บ้าง กลัวคุณแม่ว่าจังเลย”
“ถ้าน้องแคทคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ก็ต้องมั่นใจ อย่ากลัว ถือว่าเราทำเต็มที่แล้วแม่คงไม่ว่าหรอก” เมรินบอก
“ทำไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้” มิ้งค์ย้ำ
พูดจบมิ้งค์ก็สะบัดหน้าเดินไป แคทมองตามหน้าเสีย
“เด็กร้ายกาจ” เมรินพูดกับแคท “ไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างที่เมย์ว่า แคททำดีที่สุดแล้ว”
แคทพยายามฝืนยิ้ม เมรินมองด้วยความสงสาร
ประภัสสรเดินมาตามทาง สุดนภาเห็นก็รีบวิ่งไปต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณภัส” สุดนภาหันไปเรียกเมริน “น้องเมย์คุณแม่มารับแล้วค่ะ”
เมรินเดินออกมา ประภัสสรรีบเข้าไปประคองเมริน
“เป็นไงคะลูก พอทำได้มั๊ยคะ”
“ไม่ใช่แค่พอทำได้ ทำได้สบายมากค่ะ” เมรินบอก
สุดนภาแอบทำตาดุใส่เมริน เมรินชะงัก
“เอ่อ...พอทำได้ค่ะ ข้อสอบยากมาก” เมรินเปลี่ยนคำพูด
“โถ..ลูกแม่ ไม่เป็นไรนะคะ ทำได้ก็ดีแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ระดับน้องเมย์แล้วไม่มีตกแน่นอน จริงมั๊ยน้องเมย์”
เมรินแอบเบ้ปากใส่สุดนภา
“กลับกันเถอะค่ะคุณแม่ สวัสดีค่ะครูบี๋”
ประภัสสรกับเมรินเดินลงจากรถ สายแก้วรีบเข้ามารายงาน
“คุณภัส คะคุณหญิงให้มาเรียนว่า เชิญคุณภัสกับคุณเมย์ที่บ้านโน้นค่ะ”
“มีเรื่องอะไรหรือจ๊ะ สายแก้ว” ประภัสสรถาม
“สายแก้วก็ไม่ทราบค่ะ แต่ทราบแค่คุณปรางค์คุณแก้ว คุณขวัญอยู่ครบ”
ประภัสสรถอนหายใจ แล้วมองลูกสาว อย่างสงสาร
ปรงทอง ปรางค์ทิพย์ ปรงแก้ว ปรงขวัญ นั่งพร้อมหน้าที่โถงบ้านปรงทอง ปรางค์ทิพย์มองเมรินที่เดินเข้ามาแล้วยิ้มเยาะ เมรินเดินเข้าไปสวัสดีปรงทอง ปรงทองสวมกอด
“คิดถึงคุณย่าจังเลย” เมรินบอก
“เอาปากมาเป็นกำนัลเชียวนะเจ้าเมย์ ได้ข่าวว่าวันนี้ไปสอบหรือ เป็นยังไงบ้างล่ะ พอทำได้บ้างมั๊ย” ปรงทองถาม
“ทำได้สิคะ” เมรินตอบ
“ทำได้ หรือได้ทำจ๊ะ” ปรางค์ทิพย์แขวะ
“แล้วเจ้าแก้วเจ้าขวัญล่ะ เป็นไงทำได้มั๊ยลูก” ปรงทองถามต่อ
ปรงแก้วกับปรงขวัญจะตอบ แต่ปรางทิพย์ชิงตอบก่อน
“ทำได้สิคะคุณยาย ไม่ใช่ธรรมดานะคะ ลูกแก้วลูกขวัญคงได้ที่ 1 อีก แหม แต่สองคนนี่ก็ได้จนเบื่อแล้วค่ะ”
ปรงทอง พูดกับเมริน “แสดงว่าเรียนพิเศษกับครูบี๋แล้วได้ผลใช่มั๊ยแม่ภัส”
“คงต้องรอดูผลสอบก่อนค่ะ เห็นน้องเมย์บอกว่าทำได้ ใช่มั๊ยคะ”
“ทำได้คะ” เมรินย้ำ
ปรางค์ทิพย์ หัวเราะเยาะ
“โถ โถ อุตส่าห์มีครูมาสอนพิเศษตั้งนานสองนาน มันก็น่าจะดีขึ้นบ้างนะคะ จริงไหมแม่ภัส”
ประภัสสร เงียบ ปรางค์ทิพย์แขวะต่อ
“แต่ถ้าเรียนพิเศษแล้วไม่ดีขึ้นเนี่ย จะทำยังไงดีน๊า แม่ภัสคิดไว้รึยัง”
ประภัสสรนิ่ง เมรินมองปรางค์ทิพย์แล้วคิดก่อนจะพูด
“คุณย่าคะ ปีนี้น้องเมย์ตั้งใจว่าจะเอาที่ 1 มาฝากคุณย่าให้ได้ค่ะ”
ปรงทอง และประภัสสรมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
ปรางค์ทิพย์หน้าเหรอ ก่อนหัวเราะขำ “ที่ 1 ข้างท้ายหรือเปล่าจ๊ะ แม่เมย์”
“ของแบบนี้ต้องรอดูกันไปนะคะป้าปรางค์” เมรินบอก
ปรางค์ทิพย์ขำ “จ๊ะ ชั้นจะรอดู แม่คนเก่ง”
ปรงทองมองปรางค์ทิพย์แล้วส่ายหน้า ประภัสสรมองเมรินอย่างเป็นห่วง
ประภัสสรส่งเมรินเข้านอน แล้วห่มผ้าให้เมริน
“น้องเมย์ ทำไมวันนี้หนูพูดกับป้าปรางค์แบบนั้นล่ะ”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 8 วันที่ 18 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager