@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

พิรามกับสุดนภาวิ่งตามมา
“คุณหมอวี เห็นผู้หญิงวิ่งผ่านมารึเปล่าคะ” สุดนภาถาม
“ครับ เธอพึ่งวิ่งออกไปทางบันไดหนีไฟ” ปฐวีบอก
“ตายจริง รีบตามไปเร็วเข้า”
พิรามกลุ้มแต่ก็รีบวิ่งตามไป
“เกิดอะไรขึ้นครับ” ปฐวีถาม
“คุณหมอวีตามรีบไปดูก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวบี๋ค่อยเล่า”

พิราม ปฐวี และสุดนภาวิ่งตามบันไดหนีไฟขึ้นมามองหาพัดชา
“ไปไหนแล้ว” พิรามมองหา


ปฐวีเงยขึ้นไปเห็น
“อยู่ข้างบน”
พิรามกลุ้ม “จะขึ้นไปทำไมนะ”
พิรามวิ่งตามไป สุดนภาหันไปมองปฐวี ปฐวีคิด
“ผมว่าตาม รปภ.ดีกว่า ไปครับคุณบี๋”
ปฐวีหยิบโทรศัพท์มากดแล้ววิ่งตามไป
“โอ๊ย จะทำอะไรของเค้านะ” สุดนภากลุ้มใจ
พัดชาวิ่งไปที่ริมตึกแล้วตั้งท่าจะปีน พิราม สุดนภา ปฐวีวิ่งตามมา ปฐวีวิ่งเข้าไปก่อน พิรามตามเข้าไปช่วยกันจับพัดชาไว้
“ปล่อยชั้น ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ ปล่อย ปล่อย” พัดชาโวยวาย
“พัดชา คุณจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ” พิรามห้าม
“ไม่ต้องมาห้ามชั้น เราไม่เกี่ยวอะไรกันอีก”
“ใจเย็นๆนะครับ คุณ ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก่อนดีมั๊ย” ปฐวีเตือนสติ
รปภ.วิ่งตามขึ้นมาหลายคนเริ่มล้อมวงมามุงไกลๆ
พัดชายังคงดิ้นต่อ
“ปล่อยชั้น ปล่อยให้ชั้นตาย”
“ถึงคุณทำแบบนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงผมก็ไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม”
พิรามโมโหจึงเดินหนีออก พัดชาหยุดด้วยความเสียใจเธอจึงร้องไห้อีก ปฐวีมอง
“ใจเย็นก่อนนะครับ” ปฐวีบอก
“ชั้นรักคุณ พิราม ไม่มีคุณแล้วชั้นจะอยู่ได้ยังไง”
พัดชาทรุดลงกับพื้น ปฐวีมองก่อนก้มลงปลอบ
“ก่อนหน้านั้น คุณก็ไม่มีคุณพิรามไม่ใช่หรือ ผมรู้ว่ามันยากที่จะทำใจได้ แต่ผมเชื่อว่า คุณอยู่ได้โดยไม่ต้องมีเค้า”
“ไม่ชั้นอยู่ไม่ได้”
“พัดชา” พิรามมอง
พัดชาร้องไห้หนัก ทุกคนได้แต่ยืนมอง
ปฐวีนั่งลง “ชีวิตทุกคนมีคุณค่า เราต้องเห็นค่าของตัวเรา อย่างน้อยที่สุดคุณควรอยู่เพื่อตัวคุณเอง”
พัดชาเริ่มเงีบบลง
“คุณพัดชา” ปฐวีเรียก
พัดชามองหน้าปฐวี ปฐวีพยักหน้าให้
พัดชาร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง “ชั้นขอโทษ ขอโทษพวกคุณทุกคน”
ปฐวีแอบถอนหายใจโล่ง พัดชายังร้องไห้ต่อ พิรามสงสารจึงจะเข้าไปแต่สุดนภาดึงไว้
“ผมขอโทษนะพัดชา” พิรามพูด

พิรามยืนอยู่ข้างเตียงตันหยง
“ผมขอโทษนะหยง ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายที่นี่”
สุดนภายืนมองพิรามแล้วถอนหายใจ
“โชคดีที่ไม่มีเหตุร้าย คราวนี้ เค้าคงยอมจบกับคุณจริงๆ” สุดนภาบอก
“ขอบคุณหมอปฐวีด้วยนะครับ” พิรามพูด
“ไม่เป็นไรครับ หน้าที่หมอคือช่วยชีวิตคน”
สุดนภามองตันหยงแล้วถอนหายใจหนัก พิรามหน้าเครียด

วันต่อมา เด็กๆลุกขึ้นยืนทำความเคารพสุดนภา
“สวัสดีค่ะคุณครูบี๋”
“สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน วันนี้เราจะเรียนอะไรกันดีเอ่ย”
นักเรียนทุกคนแย่งกันยกมือ เมรินชูมือสูงกว่าใครเพื่อน สุดนภาเดินเข้ามาใกล้
“น้องเมย์อยากเรียนอะไรเอ่ย”
“ไม่อยากเรียนเลย ขอไปพักได้มั๊ยคะ” เมรินถาม
สุดนภางงก่อนจะเดินเข้ามากระซิบ
“ไม่ได้ค่ะ” สุดนภากระซิบขู่ “แกอย่าทำตัวมีปัญหา ไม่งั้นชั้นจะให้แกคาบไม้บรรทัดอวดเด็กทั้งห้อง แล้วถ่ายวีดีโอลงยูทูป”
“แกไม่กล้าหรอก”
สุดนภายิ้มหวาน “ลองดูมั๊ยคะน้องเมย์”
สุดนภายักคิ้วให้เมริน เมรินถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“หยิบกระดาษออกมา เราจะต่อเติมตัวอักษรภาษาอังกฤษ ให้เป็นสัตว์ในจินตนาการของเด็กๆ เร็วเข้า”
เด็กทุกคนตื่นเต้น แต่เมรินนั่งกอดอกมองสุดนภาอย่างสุดเซ็ง

สุดนภานั่งตรวจงานของเด็กๆ เมรินนั่งเท้าคางมองอย่างเบื่อหน่าย
“ตายจริง เด็กพวกนี้ เขียนรูปน่าเอ็นดู ดูสิหยง แมวจากตัวเอน่ารักมั๊ย” สุดนภาถามเพื่อน
“ถามจริงเหอะบี๋ แกทนอยู่ได้ยังไง วันละแปดชั่วโมง”
“อ้าว แกลืมไปแล้วหรือว่าชั้นเป็นครู ใช่สิ วันๆแกทำงานแต่กับคอมพิวเตอร์ไม่ค่อยได้เจอคน นี่แหละนะ เค้าเรียกว่าพรหมลิขิต”
“แกไม่ต้องมาตอกย้ำชั้นเลย คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย”
สุดนภาแอบมองเมรินเพื่อสังเกตอารมณ์เพื่อน
“นี่แก วันก่อนชั้นไปเจอพิรามที่โรงพยาบาล เค้าไปเยี่ยมแก” สุดนภาเล่า
เมรินอึ้ง “หยุดเลย บี๋ ถ้าแกยังเป็นเพื่อนชั้น ห้ามเอ่ยชื่อคนๆนี้ให้ชั้นได้ยินเด็ดขาด”
“นี่แก เป็นเอามากนะ ยังโกรธเค้าอยู่อีกหรือ”
“แกลองมาเป็นชั้นดูบ้างสิ แล้วแกจะรู้” เมรินบอก
“แล้วถ้าเค้าสำนึกผิดล่ะ แบบว่ากลับตัวกลับใจแล้ว”
“เค้าเป็นคนทำให้ชั้นตกในสภาพนี้ แกคิดว่าชั้นควรจะให้อภัยเค้าหรือบี๋”
เมรินทำหน้าแค้น สุดนภาส่ายหัวและไม่กล้าพูดต่อ

นาวินคุยงานอยู่กับครูผู้หญิงคนหนึ่ง
นาวินพูดจริงจัง “ผมอยากให้การเรียนการสอนเป็นแบบที่ผมวางไว้ ไม่อยากเห็นการลงโทษเด็กแบบเดิมๆ และผมหวังว่าครูจะเข้าใจ” นาวินแอบแหย่ “ขอความกรุณาด้วยนะครับ” นาวินยิ้ม
ครูผู้หญิงหน้าแหย “ดิชั้นจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” ครูผู้หญิงยกมือไหว้
นาวินยิ้มพอครูออกไปเขาก็ทำหน้าเซ็ง
“แม่นะแม่ ทำไมต้องให้ผมมาบริหารโรงเรียนด้วยนะ หือ เหมาะสม เหมาะสม ถามซักคำไหม ว่าชอบรึเปล่า”
นาวินพูดเลียนเสียงแม่ “เชื่อแม่” เขาจับแก้มตัวเอง “ลูกแม่น่ะ เหมาะสมที่สุดเลยค่ะ เพียงแต่ลูกน่ะ อาจจะยังไม่รู้จักตัวเอง ต่อไป ลูกจะรักมันมากเลยล่ะ”
นาวินเซ็ง
เสียงแม่ดังในหัวเขา “แล้วหนูสุดนภาน่ะ เค้าไม่ใช่ครูอย่างเดียวนะ เค้าเป็นหุ้นส่วนของเราด้วย ลูกสาวของป้าแต๋วไงล่ะ ดูแลเค้าดีๆนะ”
“ยัยบี๋”
นาวินมองไปเห็นดอกไม้บนโต๊ะ
“ไปแกล้งยัยบี๋คลายเครียดดีกว่า”
นาวินหยิบดอกไม้ออกไปอย่างร่าเริง

นนท์เดินเข้ามาหาเมริน
“ครูบี๋ครับน้องนนท์ขออนุญาต” นนท์พูดกับเมริน “น้องเมย์ น้องนนท์มีของจะให้”
นนท์หยิบดอกกุหลาบออกมาคาบไว้แล้วคุกเข่าต่อหน้าเมริน
“น้องเมย์ จะช่วยรับดอกไม้ของน้องนนท์ได้มั๊ยครับ ถ้าน้องเมย์ไม่รับ น้องนนท์จะคุกเข่าตรงนี้แหละ”
สุดนภากับเมรินมองหน้ากันแล้วหัวเราะ สุดนภาพยายามกลั้นไว้
“เอ๊ะมุกนี้มันมาจากหนังเกาหลีเรื่องอะไรนะ” เมรินถาม
นนท์เขิน “น้องเมย์ก็ดูด้วยหรือ น้องนนท์ก็เหมือนพระเอกนั่นแหละ เมื่อย ก็จะทน คนมีความรักก็ต้องมีความอดทน”
เมรินหันไปมองเห็นสุดนภายิ้มขำ

นาวินถือดอกกุหลาบเดินมาที่หน้าห้องสุดนภา เขาเห็นนนท์กำลังคุกเข่าถือดอกกุหลาบยื่นไปข้างหน้า
“เฮ๊ย มันมุกซ้ำนี่หว่า”
นาวินมองกุหลาบในมือแล้วแอบดูเหตุการณ์

เมรินกับสุดนภามองหน้ากัน
“แหม..จะแก่แดดไปไหนเนี่ย” เมรินพูดกับนนท์ “เอารับก็ได้”
เมรินเอื้อมมือไปรับดอกกุหลาบมาถือ ไว้ นนท์กระโดดดีใจ
“เป็นอันว่าน้องเมย์เป็นแฟนกับน้องนนท์แล้วนะ”
นนท์วิ่งไป เมรินกับสุดนภาหัวเราะขำ
“ขี้ตู่ชะมัดเลย แหม นี่ชั้นมีแฟนโดยประมาทหรือเปล่าเนี่ย” เมรินยิ้มๆ
“แสดงว่า สเน่ห์แรงเหมือนกันนะ ชั้นชักจะอิจฉาแล้วสิ แหมถ้ามีใครซักคนเอาดอกไม้มาให้ชั้นตอนนี้ ชั้นจะรับรักเลยดีมั๊ย หยง จะได้ไม่น้อยหน้าแกไง”
“แกแน่ใจนะ บี๋”
สุดนภาฝันหวาน “แน่สิยะ” สุดนภามองนาฬิกา “เดี๋ยวหมอวีก็มารับแกแล้วไม่พลาดแน่”
เมรินขำ “น้าวีคงมาไม่ทันแล้วละ บี๋”
เมรินเดินออกไป สุดนภามองตามอย่างงงๆ นาวินเดินถือดอกกุหลาบยืนยิ้มให้สุดนภาที่หน้าประตู สุดนภาทำหน้าเซ็ง
“ตายละ ขอถอนคำพูดได้มั๊ยเนี่ย”

สุดนภาเดินถือดอกไม้ของนาวินแล้วเดินจ้ำไป นาวินรีบเดินจ้ำตาม
“นี่คุณรอผมก่อนสิ”
“รอทำไม เดี๋ยวชั้นต้องรีบไปสอน”
“เดี๋ยวผมช่วยสอนก็ได้”
สุดนภาชะงักแล้วหันมามองหน้านาวินก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์
“แน่ใจนะ ว่าคุณรับมือไหว เหนื่อยนะคะ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
“โธ่ แค่ทำกิจกรรมกับเด็ก จะไปยากอะไร ผมเป็นผู้บริหารโรงเรียนนะทำได้อยู่แล้ว”
สุดนภาทำเป็นลังเล “งั้นหรือคะ แต่ชั้นว่ามันจะยากอยู่นะ”
นาวินทำฮึกเหิม “เอางี้ เดี๋ยวคุณไปพักนั่งดูเฉยๆ ผมจัดการเอง”
“ก็ได้ ตามใจนะคะ ท่านผู้บริหาร”

สุดนภาเดินนำนาวินเข้ามาในห้องเรียน
“นักเรียนทุกคน คงรู้จักผู้บริหารโรงเรียนของเรานะคะ คุณนาวิน”
นาวินเก๊ก “เรียกครูวินก็ได้นะครับ เด็กๆ”
“วันนี้ ครูวินจะมาทำกิจกรรมสันทนาการกับเด็กๆนะคะ เชิญค่ะ”
สุดนภาทำท่าจะเดินไป นาวินรีบเรียก
“อ้าว แล้วคุณจะไปไหนล่ะ”
“คุณทำกิจกรรมกับเด็กๆ แล้ว ชั้นก็จะไปพักน่ะสิคะ ท่านผู้บริหาร”
“เดี๋ยวก่อนสิ แล้วจะให้ผมทำอะไรล่ะ”
“กิจกรรมสันทนาการไงคะ”
สุดนภายิ้มหวานให้นาวินแล้วเดินไป นาวินเอ๋อ เด็กๆกรูเข้ามาหานาวิน
นาวินเล่นทอยตุ๊กตุ่นกับเด็กผู้ชาย
นาวินนั่งเล่นตุ๊กตาจิบน้ำชากับกลุ่มเด็กผู้หญิง
นาวินเดินนำหน้ากลุ่มเด็กผู้ชายถือหุ่นยอดมนุษย์เดินไถไปตามข้างห้องเรียน โดยมีเด็กเดินตามเป็นพรวน
เด็กหญิงมารุมล้อมนาวินแล้วร้องจะเอาโน่นเอานี่ นาวินวุ่นวายไปหมด ส่วนเด็กชายก็มารุมนาวิน

เวลาผ่านไป นาวินนั่งพิงกระดานเพราะหมดแรง สุดนภาที่ยืนแอบมองอยู่อมยิ้มอย่างสะใจก่อนจะเดินเข้ามา
“เป็นยังไงคะ กิจกรรมสันทนาการ”
นาวินเหนื่อยอ่อน “สบายมาก”
สุดนภายิ้มสะใจแล้วเดินไป นาวินมองตามในท่านั่งคอพับคออ่อน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ โอ๊ย...แทบแย่แน่ะเรา”
เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น

เลิกเรียน สุดนภาเดินจูงมือเมริน
“บี๋ชั้นว่า นายนาวินต้องมีใจให้แกแน่เลย ดูสิ เจอแกงี้เชื่องเป็นแมวเลย” เมรินบอก
“นี่แกหยุดพูดเลย ขนลุกไปหมดแล้ว...คนอะไรเพี้ยนสุดๆ จุกจิกจู้จี้ก็เท่านั้น เอาไว้เหลือเป็นคนสุดท้ายของโลกแล้วค่อยมาคุยกันดีมั๊ย”
“นี่หมายความว่า แกไม่สนเลยงั้นหรือ”
“ชั้นมีคนที่ใช่อยู่แล้ว”
ปฐวีเดินเข้ามา
เมรินรีบถาม “นี่เป้าหมายแกใช่มั๊ย”
“ใช่แล้ว แกต้องช่วยชั้นนะหยง”
เมรินงง “ช่วยอะไร”
“ไม่รู้ละ ช่วยอะไรก็ได้”
สุดนภารีบเดินไปรับปฐวี เมรินมองตามอย่างเซ็งๆ

สุดนภาเดินมาหาปฐวีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะคุณหมอวี มาเร็วจังเลย”
“วันนี้ไม่มีเคส เลยรีบออกมารับยายตัวแสบก่อน ไงเราทำไมหน้าไม่ยิ้มเลย สวัสดีกันหรือยังเนี่ย”
เมรินเดินเข้ามายกมือไหว้ปฐวี
“ก็มันเหนื่อยนี่คะน้าวี”
“โถน่าสงสารจังเลย ไป งั้นกลับบ้านดีกว่าป่านนี้คุณแม่คงตั้งโต๊ะไว้รอแล้ว” ปฐวีบอก
สุดนภาแอบสะกิดเมรินยิกๆ เมรินมองงงๆ แล้วก็นึกได้
“วันนี้น้องเมย์ขออนุญาตชวนครูบี๋ไปทานข้าวด้วยได้มั๊ยคะ”
“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้” ปฐวีพูดกับสุดนภา “ไม่ทราบครูบี๋จะว่างหรือเปล่า”
สุดนภาตื่นเต้นจนออกนอกหน้า “ว่างค่ะว่าง ยินดีค่ะ”
เสียงนาวินดังขึ้น “ชั้นก็ว่างนะ เจ้าวี ไม่ชวนชั้นมั่งหรือ”
สุดนภาหันไปเห็นนาวินก็ทำหน้าเซ็ง
“อย่างแกต้องชวนด้วยหรือ แกไปออกบ่อย” ปฐวีว่า
“งั้นดีเลย วันนี้ชั้นจะไปกินข้าวบ้านแก เดี๋ยวไปพร้อมกันเลย” นาวินสรุป
สุดนภาแอบเซ็ง “ไปน้องเมย์มาครูบี๋จูงดีกว่านะคะ”
สุดนภารีบจูงเมรินเดินไป ปฐวีหันไปมองหน้านาวิน
ปฐวีชำเลืองอย่างรู้ทัน “นี่แกนึกยังไงวะ อยากกินข้าวบ้านชั้น”
“บางเรื่อง ไม่เห็นต้องอธิบายเหตุผล” นาวินบอก
ปฐวีขำ
“ขำอะไร”
“ก็ขำ ไม่มีเหตุผล”
นาวินซัดไหล่เพื่อนเบาๆ ปฐวีขำ

สุดนภายืนมองรถตัวเองอย่างอารมณ์เสีย
“ตายจริง ยางแบนได้ยังไงเนี่ย”
“โอโห วิ่งไปเหล็กบดยางแน่” นาวินแซว “เดี๋ยวผมเรียกช่างมาจัดการให้ดีกว่า”
“ขอบคุณมากนะคะ ท่านผู้บริหาร งั้นเราไปกันเถอะค่ะน้องเมย์”
สุดนภาทำท่าจะจูงเมรินไปขึ้นรถปฐวี แต่นาวินดึงสุดนภาไว้
“คุณไปกับผมดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ชั้นไปกับน้องเมย์”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 6/2 วันที่ 15 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager