อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 8/2 วันที่ 17 ก.พ. 56
“นี่มันอะไรกัน จู่ๆ ก็มีคำสั่งให้ข้าไปตรวจราชการที่นอกเมืองพรุ่งนี้โดยไม่ มีกำหนดกลับ มีใครได้รับคำสั่งนี้อีกบ้างนอกจากข้า”“ไม่มีขอรับ มีท่านขุนไวเพียงคนเดียว”
“ไม่น่าจะปกติ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ”
ในเวลาต่อมา พระยาเทวราชเสียงเขียวใส่
“เจ้าพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ขุนไว”
ขุนไวอึ้งไปนิดก่อนจะลุย
“จู่ๆ ก็มีคำสั่งให้กระผมไปตรวจราชการที่นอกเมืองโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย กระผมก็เลย...”
พระยาเทวราชลั่น
“ไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่เจ้ากำลังตำหนิคำสั่งของข้าว่าไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างนั้นเรอะขุนไว”
“กระผมมิบังอาจ”
“มิบังอาจ แค่เจ้าบุกมาโวยวายใส่ข้าแค่นี้ มันก็บังอาจมากแล้วขุนไว”
“กระผมเพียงแต่มีข้อข้องใจว่า ทำไมถึงต้องเป็นกระผม ทำไมถึงไม่ใช่ขุนพิทักษ์”
พระยาเทวราชสวน
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นขุนพิทักษ์ ทำไมถึงจะเป็นเจ้าไม่ได้ห๊า...ขุนไว”
ขุนไวอึ้ง
“รอให้ข้าตายก่อนนะขุนไว แล้วเจ้าค่อยเป็นผู้ออกคำสั่ง ถึงเวลานั้น ถ้าเจ้าอยากจะสั่งอะไร อยากจะให้ใครทำอะไรตามแต่ใจเจ้าก็เชิญตามสบาย แต่เวลานี้..มันไม่ใช่ เจ้าต้องเป็นฝ่ายฟังคำสั่งของข้าแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น”
พระยาเทวราชโกรธ ลุกเดินพรวดออกไป ฝ่ายขุนไวทั้งอึ้ง ทั้งโกรธ มองตามพระยาเทวราชที่เดินออกไป รำพึงแอบมองอยู่มุมหนึ่งอย่างสมใจมาก
ในเวลาต่อมา ขุนไวฟันดาบระบายอารมณ์กับลูกน้องอย่างหนัก เหงื่อโทรมกาย ขุนไวซัดซะลูกน้องคนหนึ่งหมดสภาพ เงื้อมือจะฟันจริงๆ
ลูกน้องยกมือไหว้
“ท่านขุน ไว้ชีวิตข้าเถอะขอรับท่านขุน”
ขุนไวเงื้อดาบค้าง ได้สติ ก่อนจะโมโหลงดาบฟรึ่บ ขณะที่ลูกน้องแหกปากร้องลั่นด้วยความกลัว
“อย่า!”
ต้นกล้วยใกล้ๆ นั้นขาด 2 ท่อน ลูกน้องค่อยๆ ลืมตา ชีวิตยังอยู่แต่ฉี่ราด
ขุนไวยืนหอบยืนคิดอยู่ด้วยความโกรธ ลูกน้องที่เหลือรีบเข้ามาหิ้วปีกลูกน้องคนที่หนึ่งออกไป
“รอให้ข้าตายก่อนนะขุนไว แล้วเจ้าค่อยเป็นผู้ออกคำสั่ง ถึงเวลานั้นถ้าเจ้าอยากจะสั่งอะไร อยากจะให้ใครทำอะไรตามแต่ใจเจ้าก็เชิญตามสบาย”
“ขอบคุณท่านพระยาที่ชี้แนะ!”
วันใหม่ เวลากลางวัน บริเวณมุมทำงานแถวเรือนทาส ชุ่มและทาสทุกคนนั่งทำงานกระจุกกระจิก บางกลุ่มก็มองๆ ชุ่มแล้วแอบเมาท์แล้วส่ายหน้า
“นังชุ่มนะนังชุ่ม ไม่เจียมกะลาหัวก็เงี้ย อยู่ก้นครัวดีๆ ไม่ชอบ สะเออะจะขึ้นวอ เฮ้อ สุดท้ายกลายเป็นคางคกตกวอซะยังงั้น”
สมเข้ามาได้ยินพอดี ทิ้งกระจาดข้าวของ โครม วงแตก
“เอ็งว่าใครนังผ่อง”
ทาสทำเนียน
“ปะ...ปะ...เปล่า ว่าใคร้ ว่าใคร ข้าเปล่าว่า”
“ตอแหล! ข้าได้ยินเต็ม 2 หู ต่อไปอย่านินทาว่าน้องสาวข้าอีก อีชุ่มมันไม่เคยอยากขึ้นวอ มีแต่คนอื่นที่อยากจะมาพามันขึ้นไป จำไว้!”
ชุ่มปรี่มาหาสม
“อะไรกันน่ะพี่สม”
สมหันมามองน้องสาวอย่างเวทนา ชุ่มมองหน้าพี่ชาย
ในเวลาต่อมา อีกมุมหนึ่ง ชุ่มกับสมยกข้าวของเดินคุยกันมา
“พี่สมนี่ก็ไม่น่าไปว่าพี่ผ่อง...สงสารเค้า”
“จะสงสารมันทำไม มันนินทาเอ็ง ข้าได้ยินเต็มหู ข้าทนไม่ได้หรอกนังชุ่ม เอ็งมันน้องสาวข้านะเว๊ย! น้องสาวข้า ข้ารักของข้า”
ชุ่มอึ้ง ชะงักกึก มองหน้าพี่ชายอย่างซึ้งใจ
“พี่สม...”
“อะไร เป็นพี่น้องกัน จะไม่ให้รักกันรึไงวะ”
ชุ่มยิ้มน้ำตาซึม
“รักสิ...ต้องรักสิ...ฉันก็รักพี่ชายของฉันมาก”
ชุ่มโผกอดสม สมอึ้ง
“ขอบใจนะพี่สม ฉันดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นน้องสาวพี่สม”
สมถอนใจ ค่อยๆ ลูบหัวน้อง
“แต่ข้าเสียใจว่ะ...เสียใจที่ข้าไม่ได้มีวาสนาเกิดมาเป็นขุนน้ำขุนนางกับเค้าบ้าง เอ็งจะได้มีศักดิ์มีศรีเป็นน้องสาวท่านขุนไม่ต้องโดนผู้คนมันย่ำยีอย่างนี้”
ชุ่มซึ้งแต่ก็อดยิ้มไม่ได้
“พี่สม คนเราไม่จำเป็นต้องเกิดมาเป็นขุนน้ำขุนนางหรอกถึงจะมีศักดิ์ศรี เกิดเป็นทาสอย่างเรามันก็มีศักดิ์ศรีได้เหมือนกัน หรือพี่ว่าไม่จริง”
“อืม ข้าก็ขอให้เอ็งรักศักดิ์ศรีของเอ็งไว้ อย่าปล่อยให้ใครมันย่ำยี”
ชุ่มหลบตา สมลูบผมน้อง
“ข้ารู้ว่าเอ็งเจ็บปวดเสียใจ แต่ก็อดทนไว้นะ เจ็บได้ก็หายได้”
ชุ่มสะอื้นโผกอดพี่ชาย สมสงสารน้อง ซักพักชุ่มชะงักมองเห็นขุนพิทักษ์เข้ามาก็สะดุ้ง สมแปลกใจหันมองเห็นขุนพิทักษ์ก็ไม่พอใจเท่าไหร่เลยรีบกันท่า
“ท่านขุนมีอะไรให้กระผมรับใช้”
“ข้ามีเรื่องจะคุยกับชุ่ม”
“เรื่องอะไรขอรับ”
“ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง”
“แต่...”
“พี่สม”
“งั้นก็คุยไป ข้าจะนั่งรอตรงนี้” สมทรุดนั่งยองๆ
“เออ..งั้นก็นั่งไป ข้าจะไปคุยตรงโน้น”
พูดจบขุนพิทักษ์ก็คว้าข้อมือชุ่มกระชากตัวปลิวไปอีกทาง
“ว๊าย!”
“เฮ้ย!” สมจะลุกขึ้นแต่ขุนพิทักษ์ชี้หน้าให้หยุด สมหงุดหงิด “โธ่เว๊ย”
สมเจ็บใจ
ขุนพิทักษ์จับมือชุ่มเดินต่อเนื่องมาแถวมุมสวยในบริเวณเรือน ชุ่มเบรกไว้
“ปล่อยข้าได้แล้ว”
ชุ่มกระชากมือหลุด หน้าตามึนตึง
“เอ็งโกรธอะไรข้าเหรอชุ่ม”
“เปล่า...ข้าจะไปบังอาจโกรธอะไรท่าน”
ขุนพิทักษ์รวบตัวชุ่มมากอดแล้วมองหน้า
“ข้ารักเอ็งจริงๆ นะชุ่ม ข้าควรจะเป็นฝ่ายโกรธเอ็งมากกว่าที่ผลักใสไล่ส่งข้าให้แต่งงานกับน้องรำพึง”
ชุ่มมองอึ้ง
“ข้าบอกอย่างไม่อาย ข้าแอบสงสัยว่า….หรือจริงๆ แล้ว เอ็งจะไม่รักข้า”
ชุ่มรีบบอกประสาซื่อ
“ไม่ใช่นะเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ยิ้มบอก
“เอ็งรักข้า!”
“ท่านขุน...ท่านเจ้าเล่ห์”
“ได้ยินแค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว”
ขุนพิทักษฺดึงชุ่มมากอดแล้วพูดต่อ
“ชุ่ม เอ็งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ข้ารัก ต่อให้ข้าต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกเป็นร้อยเป็นพัน แต่ผู้หญิงคนเดียวที่ข้ารักก็คือเอ็ง”
ชุ่มชื่นใจ สองคนกอดกัน
“เจ้าค่ะ...ข้าจะจำไว้”
บนเรือน คุณหญิงมณีนั่งให้แจ่มบีบนวด
“เฮ้อ! นึกแล้วก็เวทนานังชุ่มมันนะ ต้องฝืนใจบอกผู้ชายที่ตัวมันรักให้ไปแต่งงานกับหญิงอื่น”
แจ่มตกใจ ยกมือไหว้ปะหลกๆ
“คุณหญิงเจ้าขา อภัยนังชุ่มมันเถอะนะเจ้าคะ ที่มันไม่เจียมกะลาหัว บังอาจไปตีเสมอเจ้านาย”
“นังแจ่ม! หูตึงแล้วนะเอ็ง ข้าก็พูดออกจะชัดว่า ข้าเวทนามัน ข้านี่ก็ใจร้ายเหลือเกิน สั่งให้เอ็งไปพูดกับมัน ให้มันเกลี้ยกล่อมให้พ่อพิทักษ์แต่งงานกับแม่รำพึง”
“คุณหญิงเจ้าขา มันเป็นเรื่องสมควรแล้วล่ะเจ้าค่ะ เจ้านายก็ต้องคู่ควรกับเจ้านาย อีกอย่างไม่ว่าเจ้านายต้องการอะไร บ่าวทาสทั้งหลายก็ต้องสนองนาย”
“เอ็งนี่มันจงรักภักดีต่อข้าจริงๆ นังชุ่มหลานเอ็งมันก็คงได้เลือดเอ็งมาสินะ เลือดใคร..มันก็อย่างคนนั้นจริงๆ”
“คุณป้าเจ้าขา”
คุณหญิงมณีหันตามเสียง
“อ้าว...หนูรำพึง”
รำพึงเข้ามากับจวงและยกมือไหว้
“กราบคุณป้าเจ้าค่ะ”
“จ้ะ...คุณพระคุ้มครองเถอะจ้ะ”
รำพึงหยิบห่อของจากจวง
“เจ้าคุณพ่อฝากขนมฝรั่งมาให้คุณป้าเจ้าค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ ฝากขอบคุณท่านเจ้าคุณด้วยนะ”
รำพึงลอบมอง
“พ่อพิทักษ์ไม่ได้อยู่บนเรือน เห็นว่าจะออกไปเดินเล่นแถวๆ นี้”
รำพึงแอบอายที่โดนจับได้
“อ๋อ...เจ้าค่ะ”
จวงสาระแนแทนนาย
“ไปแวะหาก่อนจะกลับซักหน่อยดีมั้ยเจ้าคะคุณรำพึง”
รำพึงทำเป็นเอ็ดเบาๆ
“นังจวง...ไม่งาม”
คุณหญิงมณีจำใจบอกตามมารยาท
“มาทั้งทีแล้วก็แวะหาพ่อพิทักษ์เค้าซะหน่อยสิจ๊ะ”
รำพึงทำท่างดงาม ยิ้มหวาน จวงแอบยิ้ม
“เจ้าค่ะ...คุณป้า”
ขุนพิทักษ์เอาดอกไม้เล็กๆ แซมผมให้ชุ่มพลางมองๆ แล้วดึงออก
“อ้าว!ทำไมล่ะเจ้าคะ”
“เอาออกเถอะ ไม่สวย”
ชุ่มหน้างอ
“เจ้าค่ะ...ข้ารู้ตัวดี”
ขุนพิทักษ์ยิ้ม
“ดอกไม้มันก็สวยอยู่ แต่พอต้องมาเทียบกับเจ้า ดอกไม้ก็หมองไปเลย สวยสู้เจ้าไม่ได้”
“ท่านขุน...”
เสียงรำพึงเรียกดังเข้ามา
“คุณพี่!”
ขุนพิทักษ์กับชุ่ม ต่างชะงักหัน
รำพึงเดินตาวาวเข้ามาเลย
“น้องรำพึง!”
“ค่ะ น้องเอง คุณพี่มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ไม่ทราบคะ”
“คือ...”
“คนอย่างคุณพี่ควรจะขึ้นไปอยู่ข้างบนเรือนกับน้อง กับคุณป้า ไม่ใช่ลงมาอยู่ข้างล่างกับนังทาสแบบนี้”
“พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับชุ่ม”
“เรื่องสำคัญ ว่าที่สามีของน้องมีเรื่องสำคัญจะคุยกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา ยิ่งไปกว่านั้น..มันยังเป็นนังทาสชั้นต่ำอีกด้วย”
“แล้วยังไง นังชุ่มมันเป็นทาสชั้นต่ำแล้วยังไง”
“จะแล้วยังไง คุณพี่ก็ไม่ควรลดตัวลงมายุ่งกับมัน”
“น้องรำพึงเองก็ควรจะกลับขึ้นไปอยู่บนเรือนโน่นเหมือนกัน จะลงมาทำไมให้ต่ำ”
“คุณพี่!”
“พี่ไม่เคยคำนึงถึงเรื่องสูงหรือต่ำ เพราะฉนั้น พี่จะอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ทำให้พี่มีความสุข ไม่ว่ามันจะสูงหรือต่ำ ที่สำคัญ...มันต้องเป็นที่ๆ พี่มีความสุข”
รำพึงหันขวับ
“คุณพี่! นังชุ่ม ข้าจะไปฟ้องคุณป้า”
“ฝากฟ้องคุณแม่ด้วยว่า ข้ารักชุ่ม”
รำพึงกรี๊ดลั่น
“คุณพี่!”
“ท่านขุน” ชุ่มปราม
รำพึงโกรธมาก
“ได้! คุณพี่จะรักใครก็เชิญรักไป แต่ถึงยังไง...ผู้หญิงที่คุณพี่จะต้องแต่งงานด้วยก็คือน้อง น้องเพียงคนเดียวเท่านั้น”
ทั้ง 3 คนคนจ้องตาจ้องหน้ากันระทึก
“นังจวง!” รำพึงเรียก
“เจ้าขา”
“กลับ”
รำพึงสะบัดออก จวงรีบตามไป
“ทำไมท่านขุนถึงพูดกับคุณรำพึงอย่างนั้นเจ้าคะ คุณรำพึงจะต้องโกรธมาก” ชุ่มว่า
“โกรธก็ช่าง”
“ท่านขุน...เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะเจ้าคะ”
“ใหญ่ก็ช่าง!”
“ท่านขุน”
“ก็ข้าพูดเรื่องจริง ข้ารักเจ้าคนเดียว”
ชุ่มอ่อนใจ
“ท่านขุน”
ขุนพิทักษ์รวบตัวชุ่มมากอดไว้ ขณะที่ชุ่มหนักใจ
รำพึงก้าวพรวดๆ ๆ เข้ามาในเรือน น้ำตานองหน้า
“คุณป้าเจ้าขา...คุณป้า”
รำพึงโผเกาะขาคุณหญิงมณี
คุณหญิงมณีตกใจถาม
“เกิดอะไรขึ้น หนูรำพึง เกิดอะไรขึ้น”
รำพึงสะอื้นไห้
“คุณพี่ค่ะ...คุณพี่พิทักษ์”
“พ่อพิทักษ์ ทำอะไรหนูรำพึง”
“คุณพี่พิทักษ์ไม่ให้เกียรติรำพึง คุณพี่แอบไปพลอดรักกับนังชุ่ม”
“ห๊า”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะเจ้าคะ ท่านขุนยังพูดใส่หน้าคุณรำพึงว่า ข้ารักชุ่ม อีกด้วยเจ้าค่ะ” จวงบอก
คุณหญิงมณีถอนใจแล้วอุทาน
“ห๊า พ่อพิทักษ์”
“คุณป้าต้องจัดการให้รำพึงนะคะ หากเรื่องนี้รู้ถึงหูเจ้าคุณพ่อล่ะก็...”
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 8/2 วันที่ 17 ก.พ. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager