อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9/4 วันที่ 21 ก.พ. 56
ฉัตรพรยกมือไหว้ “ท่านคงเป็นคุณหญิงปรงทอง หนูมาเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นเมียค่ะ”ปรงทองถาม “หล่อนเป็นเมียของใคร”
“หนูเป็นเมียของคุณเมธี หนูต้องการให้คุณเมธีรับผิดชอบไม่ใช่ทิ้งขว้างกันไปแบบนี้”
“ตาเมธี! ทำไมเป็นคนแบบนี้” ปรงทองตกใจ
ปรางค์ทิพย์สะใจมาก
“คุณรับเงินไปแล้วยังกล้ามาวุ่นวายอีกหรือ กลับไปเดี๋ยวนี้นะ” ปฐวีไล่
ปฐวีดึงแขนฉัตรพร แต่ฉัตรพรฝืนไว้
ทุกคนแปลกใจที่ปฐวีรู้เรื่องนี้ด้วย
“นี่เจ้าก็รู้เรื่องนี้ด้วยหรือวี” ปรงทองถาม
“ครับย่า” ปฐวีพูดกับเมริน “น้องเมย์พาคุณแม่ขึ้นไปพักผ่อนก่อน ตรงนี้น้าวีจัดการเอง”
“ค่ะน้าวี ไปค่ะคุณแม่”
เมรินประคองประภัสสรขึ้นไปข้างบนทันที ปรางทิพย์เสียดายและเจ็บใจ ทุกคนมองตาม
“อย่ามายุ่งกับครอบครัวผม กลับไปซะ” ปฐวีเสียงแข็ง
ฉัตรพรมองปฐวี ก่อนจะหันไปมองปรงทองแล้วคิด
“คุณหญิงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉัตรด้วยนะคะ ฉัตรไม่มีที่พึ่งที่ไหนแล้วฉัตรถึงต้องทำแบบนี้”
ฉัตรพรทำฟูมฟาย ปรงทองข่มใจแล้วนั่งลง
“ไหนเล่ามาซิตาวี”
“ครับย่า พี่เมธีพยายามจะยุติเรื่องนี้ ผมเลยอาสาไปเคลียร์ให้” ปฐวีพูดกับฉัตรพร “คุณก็รับเงินไปแล้ว ยังจะมาหาเรื่องอีก แสดงว่าคุณต้องการจะมีเรื่องใช่มั๊ย”
ฉัตรพรลืมตัว “คุณคิดว่าเงินแค่นั้นจะพอเหรอ ดูสิคุณพรั่งพร้อมขนาดไหน ชั้นคิดว่า มันควรจะรับผิดชอบกันให้เหมาะสมหน่อยนะ”
ปรงทองมองหน้าฉัตรพรนิ่ง ฉัตรพรรู้ตัวจึงหลบตา
“ผู้หญิงอย่างเธอน่ะ เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอหรอก .. แต่ชั้นมีวิธีจัดการ ตาวีตามตำรวจให้ย่าที” ปรงทองบอก
ฉัตรพรตกใจ
“ชั้นจะแจ้งความ ว่านังคนนี้มันบุกรุก ขู่กรรโชก แล้วยังเป็นชู้กับสามีคนอื่น”
ฉัตรพรมองทุกคน แล้วมองปรงทอง “...ขู่ชั้นหรือ”
“ชั้นไม่ได้ขู่ คนอย่างชั้นพูดจริงทำจริงทุกอย่าง เธอยังมีเวลาคิดนะ จะไปตอนนี้หรือจะรอตำรวจมาลากคอไป”
ฉัตรพรแค้นจึงมองจ้อง “ฝากไว้ก่อนแล้วกัน”
ฉัตรพรคว้ากระเป๋าลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออก
“เดี๋ยว ถ้าเธอยังไม่หยุด ชั้นนี่แหละ จะเป็นคนสอนบทเรียนให้เธอเอง” ปรงทองบอก
ปรงทองมองฉัตรพรนิ่ง ฉัตรพรหลบตาแล้วรีบเดินออกไปทันที ปรงทองถอนหายใจอย่างเหนื่อยหนัก ปฐวีหนักใจ ปรางทิพย์ยิ้มสะใจ
ประภัสสรที่อยู่ในห้องนอนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา เมรินส่งแก้วน้ำให้
“คุณแม่ขา ดื่มน้ำหน่อยนะคะ”
ประภัสสรรับแก้วมือสั่น เมรินรับดึงกลับไปวางไว้ที่โต๊ะ ประภัสสรมองมือตัวเอง
ประภัสสรช็อคจนร้องไม่ออก
“คุณแม่คะ อย่าคิดมากเลยนะคะ เรื่องมันจบไปแล้ว”
ประภัสสรน้ำตาร่วงและไม่ได้ฟังลูก
เมรินย้ำ “คุณพ่อเลิกกับเค้าแล้วนะคะ”
ประภัสสรเงยมอง “หนูรู้ได้ยังไง”
“เค้ามาหาเรื่องที่นี่ เพราะคุณพ่อไม่ไปหาเค้าแล้วไงคะ”
ประภัสสรชะงักแล้วนิ่งคิด
“ถึงเวลานี้แล้วคุณแม่ต้องทำใจนะคะ เรื่องมันเกิดไปแล้วเราแก้ไขอะไรไม่ได้”
ประภัสสรเสียใจ
“คุณแม่คะ คุณแม่” เมรินเรียก
ประภัสสรก้มหน้าร้องไห้ เมรินสงสาร
ปฐวีนั่งอยู่ในบ้าน เขามองนาฬิกาแล้วถอนหายใจ เมธีเดินเข้ามาในบ้านอย่างเร่งร้อน
“วี ขอบใจมากนะที่โทรบอกพี่ นี่พี่รีบมาที่สุดแล้ว”
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”
เมธีถอนหายใจด้วยสีหน้าเครียด
“พี่ไม่คิดเลยว่าฉัตรพรจะกล้ามาถึงที่นี่”
เมรินเดินลงมาจากข้างบน เมธีรีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างน้องเมย์” เมธีถาม
“คุณพ่อคุยกับคุณแม่ดีๆนะคะ”
“พ่อขอโทษ ที่ทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อ ขึ้นไปดูคุณแม่เถอะค่ะ”
เมธีมองเมรินอย่างขอบคุณแล้วเดินไป เมรินมองตามแล้วถอนหายใจก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงบันได
“ไม่อยากเชื่อเลย ทำไมชีวิตเราถึงได้ยุ่งยากแบบนี้นะ” เมรินเปรย
ปฐวีมองเมรินด้วยความสงสารก่อนจะเดินเข้าไปหาหลานแล้วดึงหลานสาวมาซบไหล่
“ขอบคุณค่ะ น้าวี หยงเหนื่อยจังค่ะ” ตันหยงคิดในใจ
ประภัสสรนั่งนิ่งอยู่ในห้อง เมธีเดินเข้ามานั่งข้างประภัสสร เมธีเอื้อมมือจับมือประภัสสร
“ภัส ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่าเค้าจะกล้ามาถึงนี่”
ประภัสสรเงียบ
“ผมคิดว่าทุกอย่างมันจบไปแล้ว ภัสผมขอโทษ ผมทำร้ายคุณ ทำร้ายลูก”
เมธีรู้สึกผิดและเสียใจเป็นอย่างมาก
“อภัยให้ผมนะ ผมจะไม่ทำผิดพลาดแบบนี้อีก”
ประภัสสรมองเมธีนิ่ง
ประภัสสรยกมือที่สั่นขึ้นมาอย่างคิดหนัก จนเมธีต้องกุมมือของเธอไว้
ประภัสสรเงยหน้ามองเมธี “ภัสกลัว ภัสไม่อยากสูญเสียคุณไป ภัสกลัวค่ะเมธี ภัสกลัว”
“ผมขอโทษนะภัส ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสียใจ”
เมธีค่อยๆ ดึงประภัสสรมากอด ประภัสสรกอดแน่นแล้วสะอื้นร้องไห้อีกครั้ง
เมรินกับปฐวีนั่งเอาเท้าแช่น้ำในสระข้างบ้าน
“น้าวีคะ น้าวีคิดว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมมั๊ยคะ”
“เหมือนเดิมสิ คุณพ่อกับคุณแม่น่ะรักกันมาก คุณแม่ต้องให้อภัยคุณพ่อแน่ๆ”
“การให้อภัยกัน เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคนสองคน ใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้วจ๊ะน้องเมย์”
“เมย์รู้ว่ามันพูดง่าย แต่มันทำได้ยากมาก”
“น้องเมย์ยังโกรธคุณพ่ออยู่เหรอ”
“เมย์ไม่ได้หมายถึงคุณพ่อค่ะ”
“อย่าบอกนะ ว่าหมายถึงน้าวี”
“เปล่าค่ะ ไม่เกี่ยวกับน้าวีเลย”
เมรินเศร้าลง
ตันหยงคิดในใจ “เฮ่อ เราจะอภัยให้พิรามได้ไหมนะ”
เมรินคิดหนัก ปฐวีมองหลานอย่างสังเกต
วันต่อมา เมธีกับประภัสสรก้มลงกราบปรงทอง
“ผมขอโทษที่ทำให้ยายผิดหวัง ขอให้ยายยกโทษให้ผมด้วย” เมธีบอก
“ใช่ ชั้นผิดหวังจริงๆ เคยเห็นเรามาแต่เล็กแต่น้อย ไม่น่ามาพลาดเรื่องแบบนี้เลย จำไว้ทั้งสองคน มีปัญหาครอบครัว ก็ต้องแก้ที่ครอบครัว ไม่ใช่วิ่งหนีปัญหาออกไป คิดว่าพ้นหรือ ท้ายที่สุดก็เอาปัญหากลับเข้ามาที่บ้านอีก เห็นหรือยังว่ามันเดือดร้อนไปหมด” ปรงทองสอน
“เป็นเพราะตัวผมเอง ที่ไม่หนักแน่นพอกับสิ่งเย้ายวน ไม่ใช่ความผิดของคุณภัสเลยครับ”
“ยายขา อย่าโทษคุณเมธีเลยนะคะ ภัสเองก็มีส่วนผิด” ประภัสสรบอก
“คุณภัสไม่ผิดหรอกครับ ผมผิดเอง”
ปรงทองมองทั้งสองคน
ปรางค์ทิพย์นั่งกระหยิ่มอยู่ในบ้าน โดยมีบุญศรีนั่งบีบนวดเอาใจ
“แหม...เมื่อวานชั้นสะใจจริง..จริ๊ง งามหน้ามั๊ยล่ะ หลานเขยคนโปรดทำเรื่องเข้าให้ เดาะไปมีเมียน้อย แถมยังกล้ามาราวีถึงบ้าน รู้ถึงไหน อายเค้าถึงนั่น มันน่าจะส่งปี๊บไปให้แม่ภัสซัก2-3 ใบ”
“เอาไปทำไมคะ คุณปรางค์” บุญศรีถาม
“ก็เอาไปคลุมหัวไงล่ะ นังโง่”
บุญศรีจ๋อยเพราะถูกด่า ปรางค์ทิพย์ยิ้มสะใจ บุญศรีก็ยิ้มด้วย
“คราวนี้คุณเมธีคงโดนคุณท่านเทศน์แน่เลย เมื่อกี้ศรีเห็นคุณภัสกับคุณเมธีไปหาด้วยค่ะ”
“งั้นหรือ” ปรางค์ทิพย์นิ่งคิดแล้วก็ดีใจ “งั้นชั้นต้องไปเป็นสักขีพยานหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีส่วนร่วม”
ปรางค์ทิพย์ลุกขึ้นแล้วเดินไปทันที บุญศรีมองตามอย่างงงๆ
ปรงทองยังคงพูดกับเมธีและประภัสสรต่อ
“ไม่ต้องเกี่ยงกันหรอกทั้งคู่ เอาเป็นว่าแม่ภัสเค้ายกโทษให้เธอ ชั้นก็ไม่โกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น”
ทั้งคู่ก้มลงกราบปรงทองอีกครั้ง
“ชั้นจะขอให้พวกเธอสองคนรักใคร่กลมเกลียวกัน ให้อภัยถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้กับคนแก่อย่างชั้นจะได้มั๊ย”
ประภัสสรมองหน้าเมธีแล้วยิ้มให้กัน
“ได้แน่นอนครับ ยาย” เมธีบอก
ทั้งสองคนมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ปรงทองยิ้มโล่งใจ
ปรางค์ทิพย์เดินเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว
“สงสัยโดนชุดใหญ่ ดีสมน้ำหน้า”
ปรางค์ทิพย์รีบเดินไปทางห้องปรงทองทันที
ปรางทิพย์โผล่มากลางห้องปรงทองแต่ไม่เห็นเมธีกับประภัสสร ปรางค์ทิพย์งง
“อ้าว ไม่เห็นมีใครเลย ไปไหนกันหมดแล้วคะคุณยาย”
ปรงทองพูดอย่างรู้ทัน “จะมาดูความร้าวฉานของครอบครัวคนอื่นใช่ไหมแม่ปราง”
ปรางค์ทิพย์อึ้งที่ปรงทองรู้ทัน
“เสียเวลาเปล่า เอาเวลาไปดูแลเรื่องของครอบครัวเราไม่ดีกว่าหรือผัวเมียน่ะเค้าเข้าใจกันแล้ว มันไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างจบลงด้วยดี หมดปัญหา หมดเคราะห์หมดโศก” ปรงทองยิ้ม “ชั้นเสียใจด้วยนะแม่ปรางค์ ที่ทำให้แม่ปรางค์น่ะ..หมดสนุก”
ปรางค์ทิพย์อ้าปากค้างแล้วเดินกลับออกมา
“อ๊ะ...นี่คุณยายจงใจว่ากระทบเราหรือเปล่าเนี่ย” ปรางค์ทิพย์โกรธ
ปรงทองมองแล้วส่ายหัว
เช้าวันใหม่ ภายในบ้านปรงทองมีการจัดเตรียมงาน นาวินกับสุดนภาเดินถือกระเช้าดอกไม้เข้ามาในบ้าน ปฐวีกับเมรินเดินจูงมือกัน พอเมรินเห็นสุดนภา เมรินก็รีบวิ่งไปหา
“คิดถึงจังเลย หายไปตั้งนาน”
“ยุ่งๆน่ะ เป็นไงบ้าง” สุดนภาถาม
เมรินจูงมือสุดนภาแล้วเดินแยกออกมา
“เกิดเรื่องเยอะมาก เล่าทั้งวันไม่รู้จะจบไหม เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”
เมรินจูงมือสุดนภาเดินไป ปฐวีกับนาวินมองตามทั้งสองคน
“ครูบี๋กับน้องเมย์นี่สนิทกันจริงๆ เหมือนเพื่อนกัน มากว่าครูกับนักเรียนแกว่ามั๊ยเจ้าวิน”
“เออ ใช่ ชั้นก็คิดอย่างงั้นแหล่ะ” นาวินเห็นด้วย
นาวินพูดจบก็ไม่ได้สนใจจึงเดินเข้าไป ปฐวีนิ่งคิด
ทุกคนนั่งฟังพระเก้ารูปสวด ปรงทองหน้าตามีความสุข ประภัสสรกับเมธีนั่งฟังพระสวดอย่างสงบ ปฐวีฟังพระสวด เขามองเมรินที่ตั้งใจฟังจริงจังแล้วก็ยิ้ม ปรางค์ทิพย์บงการให้เสกสรรเขยิบเข้าไปใกล้ๆพระพร้อมหันไปดุปรงแก้วกับปรงขวัญ สุดนภากับนาวินนั่งฟังพระสวดอย่างเรียบร้อย
เวลาผ่านไป ปรงทองกำลังถวายของพระ ปฐวีกับเมรินกำลังช่วยกันถวายของพระ ปรงทองมองลูกหลายช่วยกัน ถวายของด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พระกำลังพรมน้ำมนต์ให้ทุกคน พอถึงคู่ของเมรินกับปฐวี ทั้งสองก็ก้มรับน้ำมนต์ ปรงทองมองปฐวีกับเมรินรับน้ำมนต์จากพระ
ปรงทองเห็นร่างของเมรินซ้อนด้วยร่างของตันหยงก็ผงะ แม้นวาดมองปรงทองอย่างแปลกใจก่อนจะเข้ามาประคอง
“คุณท่านคะ มีอะไรหรือ”
ปรงทองขยี้ตามองอีกครั้งแล้วเห็นปฐวีกับเมรินก็เห็นเป็นปกติ
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”
แม้นวาดมองปรงทองด้วยความเป็นห่วง
พระเดินออกจากบ้าน เมธีกับลุงสายเดินออกมาส่งพระที่หน้าบ้าน
“ลุงสายจัดการส่งพระคุณเจ้าที่วัดด้วยนะ” เมธีสั่ง
“ครับคุณเมธี”
ลุงสายกับพระเดินไป เมธีมองตาม
ปรงทองนั่งมองเมรินด้วยสีหน้าวิตก
เสกสรรอวยพร “ขอให้ยายสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญหลานๆไปอีก ร้อยปีเลยนะครับคุณยาย”
“อืม ขอบใจ ขอบใจมาก เจ้าเมย์เอ๊ยมาหาทวดหน่อยสิ” ปรงทองเรียก
เมรินค่อยๆคลานเข้ามาหาปรงทอง ปรางค์ทิพย์มองค้อนเพราะไม่พอใจที่ปรงทองไม่สนใจครอบครัวตน ปรงทองถอดสร้อยพระออกจากคอแล้วสวมให้เมริน
“ใส่ติดตัวไว้นะลูก พระจะได้คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย”
ปฐวียิ้ม ปรางค์ทิพย์ตาลุกด้วยความอิจฉา
เมรินมองปรงทองอย่างซึ้งใจแล้วก้มกราบปรงทองอีกครั้ง ปรางค์ทิพย์รีบผลักลูกสองคนเข้าไป
ปรางค์ทิพย์กระซิบกับลูกทั้งสอง “ลูกแก้วลูกขวัญ เข้าไปกราบคุณทวดเร็วเข้าสิ คุณทวดจะได้ให้รางวัลแบบยัยเมย์บ้าง” ปรางค์ทิพย์ดันหลังลูกให้เดินเข้าไป
ปรงทองมองเหลนสองคนแล้วก็รู้ทันที จึงเอามือลูบหัวเหลนทั้งสองแล้วก้มลงคุยด้วย
“ไม่ต้องห่วงนะ ทวดยุติธรรมเสมอ ให้เสร็จงานก่อนนะ”
ปรางค์ทิพย์เจ็บใจที่ปรงทองแค่ลูบหัวแต่ไม่ให้อะไร “เห็นไหมคุณ ต่อหน้าต่อตาทุกคน คุณยายยังลำเอียงเห็นๆ ไม่มีอะไรให้ยัยแก้วกับยัยขวัญเลย เจ็บใจนัก”
ปรางค์ทิพย์จ้องเมรินด้วยความโกรธ
ปฐวีกับเมรินเดินออกมาพร้อมกัน
“น้องเมย์ต้องรักษาพระองค์นี้ไว้ให้ดีๆนะ รู้มั๊ยคุณยายใส่ติดตัวเป็นประจำ ไม่เคยถอดเลย” ปฐวีบอก
เมรินดีใจ “งั้นหรือคะ” เมรินนึกได้ “เมย์เอาไปฝากคุณแม่ดีกว่าค่ะ” เมรินบ่นอย่างเศร้าๆ “จะได้เก็บไว้ให้เจ้าของตัวจริง”
ปฐวียิ้ม “แล้วคนนี้เป็นตัวปลอมรึยังไง”
เมรินชะงักมองแล้วสลดลง
ปฐวีย้ำ “ใส่ติดตัวไว้นะ ไม่งั้นยายท่านจะเสียใจ”
เมรินเดินหงอยๆ จากไป ปฐวีมองด้วยความสงสัย
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9/4 วันที่ 21 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager