อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 9 วันที่ 18 ก.พ. 56
เจ้าอาวาสมองมาด้วยความเมตตาและทักทายอย่างคุ้นเคยกันดี สุบรรณแนะนำตัวเอง แสดงเจตจำนงค์ว่าต้องการฝึกสมาธิ เจ้าอาวาสยิ้มรับและเปรยเสียงอ่อน“ความสงบฝึกกันยากนะโยม โดยเฉพาะคนที่จิตใจวุ่นวาย โยมจะสู้ได้หรือ ยิ่งอยากรู้ยิ่งฝึกยากนะ”
สุบรรณตัดสินใจปฏิบัติธรรมอย่างไม่มีกำหนดกลับจนกว่าจะได้คำตอบ นาถสุดากับพันเอกนรินทร์ไหว้พระและนั่งคุยกันที่ท่าน้ำ นาถสุดาไม่เข้าใจที่ญาติหนุ่มต้องมาฝึกสมาธิถึงริมโขง พันเอกนรินทร์ยิ้มอ่อนโยน อธิบายว่าพามาที่ที่เหมาะสมแล้ว พูดเป็นนัยๆเหมือนรู้ว่าใครกำลังค้นหาความจริงในอดีตชาติบ้าง
เวลาเดียวกันที่วังนาเคนทร์...นารีวรรณเห็นพี่ชายเครียดเรื่องครุฑธิการกับเจ้าอุรคา ตั้งหน้าตั้งตาค้นหาตำนานพญานาคีจากอินเตอร์เน็ตแต่หาไม่เจอ ภุชคินทร์เดินมาทัก นารีวรรณบอกว่าอยากช่วยเพราะเชื่อว่าเขาอาจมีอดีตเกี่ยวข้องกับพญานาค ภุชคินทร์ส่ายหน้าอ่อนใจ คิดเหมือนน้องสาวทุกอย่างแต่จนปัญญาไม่รู้จะหาความจริงจากไหน ได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนให้คำตอบได้
ภุชคินทร์ไม่ต้องรอนาน คนที่สามารถให้คำตอบมาถึงเร็วกว่าที่คิด...ภิงคารแนะนำวิชัยสิงห์ นักเทววิทยา นักเขียนชื่อดังและเพื่อนนักเรียนทุนของเขาจากประเทศอินเดีย มาเมืองไทยเพราะได้ยินข่าวมณีนาคสวาท ภุชคินทร์อึ้ง เช่นเดียวกับภิงคารที่แกล้งถามว่าอัญมณีนั้นสำคัญอย่างไร วิชัยสิงห์ตอบเสียงเคร่ง
“ไม่ใช่ใครจะครอบครองมณีนาคสวาทได้ง่ายๆ ผู้ที่ครอบครองได้ต้องสืบเชื้อสายมาจากพญานาคเท่านั้น”
“ทำไมคุณถึงรู้ว่าคนที่ครอบครองต้องสืบเชื้อสายจากพญานาคเท่านั้น” ภุชคินทร์ถาม
“มีหลายอย่างที่ผมศึกษามาแต่บอกใครไม่ได้ เพราะหลักฐานจากศิลาจารึกไม่สมบูรณ์ ที่ผมมาเมืองไทยเพราะต้องการหาหลักฐาน และผมทราบมาว่าเจ้าอุรคา ณ ภูจำปาเป็นเจ้าของมณีนาคสวาทนั้น”
สองน้าหลานมองหน้ากันเครียดๆ วิชัยสิงห์มั่นใจมากว่าหญิงสาวสืบเชื้อสายโดยตรงจากพญานาค
“เพราะพญานาคแปลงร่างมามีสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ ผมมั่นใจว่าเจ้าอุรคาต้องเป็นทายาทอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่ใช่จะเกิดอาถรรพณ์เลวร้ายแก่ผู้ครอบครอง”
นักเทววิทยาหนุ่มอยากพบเจ้าอุรคา สองน้าหลานอึกอัก ภุชคินทร์ตัดสินใจถามให้ ถ้าหญิงสาวยินยอม เขาก็พร้อมพาไป วิชัยสิงห์ไม่พอใจแต่เก็บอาการ แววตาวาววับอย่างมีเลศนัย
ooooooo
เจ้าอุรคาตัดสินใจพักเรื่องภุชคินทร์ รักษาศีลเตรียมรับวันสัตตนาคาที่ผู้คนมาขอรับบารมีจากพญานาค ชรายุเห็นใจเจ้านายสาวที่ตัดเรื่องคำสาบานของพญานาคาไม่เด็ดขาด เจ้าอุรคายิ้มเศร้าสร้อย ค่อยๆเลือนร่างหายไปพร้อมกับเฮือนภูจำปา ชรายุมองตามแล้วหายตัวไปอีกคน
เวลาเดียวกันที่หน้าเฮือน...ภุชคินทร์ขับรถมาหาเจ้าอุรคา มีวิชัยสิงห์นั่งแท็กซี่ตามมา เบิกตากว้างเมื่อได้ยินราชนิกุลหนุ่มตะโกนร้องเรียกเจ้าอุรคาอย่างหัวเสีย
“เจ้าอยู่ที่ไหน เจ้ากำลังทำให้ผมกลัว ทำให้ผมเป็นบ้า ออกมาหาผมเดี๋ยวนี้นะเจ้าอุรคา เลิกพรางบ้านได้แล้ว!”
วิชัยสิงห์ตาโต ถลันไปหาด้วยความตื่นเต้น เปรยอย่างยินดีว่ามาเมืองไทยไม่เสียเที่ยวจริงๆ
“เจ้าอุรคาผู้สืบเชื้อสายจากพญานาคต้องร่ายมนต์ให้บ้านหายไปทั้งหลัง ถ้าคุณชายให้ความร่วมมือ ผมเชื่อว่าผมจะได้เจอกับพญานาคในร่างของเจ้าอุรคาแน่ๆ”
วิชัยสิงห์เนื้อเต้นแบบปิดไม่มิด เช่นเดียวกับภุชคินทร์ที่มีความหวัง...จะได้รู้เรื่องของราชนิกุลสาวเสียที!
คืนเดียวกันที่วัดธาตุพนม...สุบรรณตั้งหน้าตั้งตาฝึกสมาธิ เช่นเดียวกับเจ้าอุรคาและชรายุ เจ้าอาวาสเห็นภาพครุฑซ้อนร่างสุบรรณและภาพนาคซ้อนร่างเจ้าอุรคากับชรายุ ถอดจิตตัวเองและเดินมาหยุดตรงหน้าพญานาคสาวเจ้าอุรคาลืมตา ถอดกายทิพย์และยกมือไหว้ เจ้าอาวาสจึงทักทายอย่างปรานี
“การถือศีลเป็นวิสัยผู้อยู่ในภพภูมิสูง แม้ชั้นภุมมานังของท่านจะมีราคะ โทสะ โมหะ แต่ท่านก็เพียรภาวนา”
“เราอยากปัดเป่าทุกข์ให้หมดจากใจเรา เราอยากให้จิตเราสะอาด”
“ถ้าเช่นนั้น...ท่านก็ไม่ควรปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นมาครอบงำให้เสียความตั้งใจ อาตมาในฐานะผู้ปฏิบัติก็ถือสนทนาประสากัลยาณมิตร แต่สิทธิ์ในการเลือกเป็นของท่าน”
เจ้าอุรคามองอย่างซาบซึ้งใจ ก้มลงกราบเจ้าอาวาส... ตั้งใจจะตัดใจจากเรื่องภุชคินทร์ให้ได้
ooooooo
วิชัยสิงห์เล่าเรื่องเฮือนภูจำปาหายไปทั้งหลังให้ภิงคารฟังด้วยความตื่นเต้น ตัดสินใจนัดพบภุชคินทร์เพื่อนัดแนะเรื่องตามหาเจ้าอุรคา ยืนยันหนักแน่นว่าสามารถช่วยราชนิกุลหนุ่มพิสูจน์เรื่องเจ้าอุรคาเป็นพญานาคได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากเขาด้วย
“ดวงจิตที่ยังยึดมั่นถือมั่นกับจิตอีกดวง แม้สังขารแปรเปลี่ยนและข้ามเวลายาวนานสักเพียงใด ก็จะเฝ้าส่งสัญญาณจิตเชื่อมกับดวงจิตที่ผูกพันทุกวิถีทาง เจ้าอุรคาคงผูกพันกับคุณชายมาก ไม่งั้นคงไม่แสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น”
ภุชคินทร์ชะงัก วิชัยสิงห์เฉลยว่าทราบทุกอย่างจากภิงคาร อาสาช่วยถ้าเขายินดี ภุชคินทร์นิ่งไปอึดใจและตัดสินใจยอมร่วมมือเพราะอยากรู้ความจริงเต็มแก่...ในที่สุดเราก็จะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเสียทีเจ้าอุรคา
เวลาเดียวกันที่วัดธาตุพนม...ดวงตาเจ้าอุรคาเบิกกว้างด้วยความปลื้มปีติ มีความหวังอีกครั้งที่รู้ว่าจิตภุชคินทร์ยินยอมฟื้นอดีต เธอค่อยๆเลือนร่างหายไป เจ้าอาวาสมองตามด้วยแววตารับรู้...เราคงไม่อาจฝืนลิขิตกรรมของใครได้
ฟากภุชคินทร์เล่าให้ไพศิษฐ์ฟังเรื่องร่วมมือกับวิชัยสิงห์ อ้างว่าอยากรู้เรื่องราชนิกุลสาวจนแทบคลั่ง ผู้กองหนุ่มไม่เห็นด้วยเพราะทุกอย่างดูรวดเร็วเกินไปแต่ไม่อยากค้าน...ได้แต่หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรง
หลังแยกจากภุชคินทร์...วิชัยสิงห์กลับที่พักอย่างอารมณ์ดี ความฝันสูงสุดที่จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิคนดังของโลกกำลังจะเป็นจริง เขาล้มตัวลงนอน ทันใดนั้น...ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เหลือบเห็นสตรีในชุดขาวยืนหันหลังที่ริมระเบียง วิชัยสิงห์ผุดลุก เดินไปหาและถามว่าคือใคร เจ้าอุรคาหันมายิ้ม แนะนำตัวและบอกว่ายินดีเปิดทางถ้าเขาทำให้ภุชคินทร์ระลึกชาติได้ โดยมีข้อแม้ให้เก็บทั้งหมดเป็นความลับ วิชัยสิงห์ลังเลแต่ความอยากดังมีมากกว่าจึงรับปาก เจ้าอุรคาพอใจ พูดเสียงหวานแต่จริงจัง
“ขอบใจที่ท่านรู้ว่าควรทำสิ่งใด อย่าลืมสัญญา...หากท่านแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป มันหมายถึงชีวิตของท่าน”
วิชัยสิงห์สะดุ้งตื่นเช้าวันถัดมา เสียงเจ้าอุรคายังก้องในหัว ชายหนุ่มโล่งอก...ในที่สุดเราก็ได้พบกันเจ้าอุรคา
ด้านไพศิษฐ์กลุ้มเรื่องภุชคินทร์ สั่งจ่าชิดให้ค้นข้อมูลเพชรของเจ้าประกายคำที่โดนโจรกรรมแต่ไม่ทันขยับ ผู้กำกับมาบอกให้ตามเรื่องนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ผู้กองหนุ่มอ่านรายงานแล้วรีบรุดไปโรงแรมของผู้ต้องสงสัย เห็นชายหนุ่มจากเมืองแขกปรากฏตัวด้วยท่าทีแปลกๆ ตามไปดูแล้วชะงัก เห็นเขาทำท่าเหมือนพูดคนเดียว
วิชัยสิงห์ไม่รู้ตัวว่าโดนไพศิษฐ์สะกดรอยตาม เห็นสาวสวยคุ้นตาจึงเดินไปทัก เจ้าอุรคายิ้มพอใจ พูดคุยอย่างถูกคอและไม่ปิดบังว่าคือพญานาค นักเทววิทยาหนุ่มเนื้อเต้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นจนแทบคุมไม่อยู่
“ถ้าชาวโลกได้รู้ว่าพญานาคมีตัวตนจริงๆ ทุกคนจะต้องตื่นเต้น”
“เรื่องของพญานาคจะรู้เห็นได้เฉพาะผู้มีจิตเกี่ยวเนื่องเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ทั่วโลกจะรู้ได้ เราจะช่วยท่านเกี่ยวกับนาคสวาท แต่มีข้อแม้...ห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม”
“ได้ผมรับปาก...ผมจะไม่จดบันทึกใดๆ ความลับเรื่องนี้จะตายไปกับผมแต่เพียงผู้เดียว”
วิชัยสิงห์รับปากอย่างขอไปทีเพราะความอยากดัง ไพศิษฐ์ลอบมองอย่างสงสัย ท่าทางประหลาดเหมือนพูดคนเดียวทำให้ผู้กองหนุ่มหนักใจ...คนแบบนี้หรือที่ภุชคินทร์ไว้ใจให้ช่วย
ไพศิษฐ์ไปที่วังนาเคนทร์หลังจากนั้น เห็นภุชคินทร์ถือกระเป๋าใบใหญ่เตรียมออกไปข้างนอกก็พยายามรั้ง เล่าเรื่องข้อสงสัยและเบาะแสว่าวิชัยสิงห์อาจเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ ภุชคินทร์ชะงักแต่ไม่ยอมเปลี่ยนใจเรื่องเจ้าอุรคา ดึงดันไปหาวิชัยสิงห์และรับปากจะระวังตัว ไพศิษฐ์กุมขมับด้วยความเป็นห่วง กลับไปปรับทุกข์กับยายที่บ้าน อติศรีเห็นใจหลาน ปลอบไม่ให้คิดมากเพราะราชนิกุลหนุ่มน่าจะเอาตัวรอดได้
อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 9 วันที่ 18 ก.พ. 56
ละครเรื่อง มณีสวาท บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์ละครเรื่อง มณีสวาท บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์
ละครเรื่อง มณีสวาท กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง มณีสวาท แนวละคร : ตื่นเต้น ลึกลับ
ละครเรื่อง มณีสวาท ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด โดย สมจริง ศรีสุภาพ
ติดตามชมละครเรื่อง มณีสวาท ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ