อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/6 วันที่ 24 ก.พ. 56
เห็นเมธีเดินประคองประภัสสรเข้าไปในบ้าน ปรางค์ทิพย์แค้น“แกรักกันมาใช่มั้ย...”
ปรางค์ทิพย์หันมากระชากของในมือปรงแก้วปรงขวัญโยนลงที่พื้นแล้วกระทืบซ้ำ
ปรงแก้ว ปรงขวัญร้องไห้ “คุณแม่ขา อย่าค่ะ”
บุญศรีผวาไปจับตัวปรงแก้วกับปรงขวัญไว้
“คุณปรางค์ขา ใจเย็นๆนะคะ”
ปรางค์ทิพย์กระทืบของจนเละ
ปฐวีเดินถือข้าวของของหนึ่งฤทัยเข้ามาในห้องของหนึ่งฤทัย ปฐวีวางของแล้วนั่งลงมองรอบๆ ห้อง หนึ่งฤทัยเดินกระเผลกถือแก้วน้ำมาส่งให้ปฐวี
“ก็คันๆนะคะ เจ็บนิดหน่อย”
“เดี๋ยวผมทำแผลให้อีกทีดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนึ่งจัดการเองก็ได้”
“ทำแผลเองไม่ถนัดหรอกครับ เดี๋ยวผมทำให้ดีกว่า”
ปฐวีนั่งคุกเข่าลงที่พื้นเพื่อทำแผลให้หนึ่งฤทัย
หนึ่งฤทัยมองตามแล้วยิ้มปลื้ม
“คืนนี้ทานข้าวด้วยกันนะคะ” หนึ่งฤทัยชวน
“ผมไม่รบกวนดีกว่าครับ”
“อย่าพูดอย่างงี้สิคะ หนึ่งอยากตอบแทนคุณจริงๆ วันนี้หนึ่งจะแสดงฝีมือทำอาหารให้วีทาน”
“ไปเที่ยวมาเหนื่อยๆ ผมอยากให้หนึ่งพักมากกว่า เท้าก็ยังเจ็บอยู่”
“โธ่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นะคะ หนึ่งจะได้มีเพื่อนทานข้าว ตกลงนะคะ”
ปฐวีนิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
“ตกลงครับ งั้นผมช่วยหนึ่งแล้วกันนะ”
หนึ่งฤทัยยิ้มดีใจ
นาวินขนของมาส่งสุดนภาที่หน้าห้อง สุดนภาไขกุญแจห้องแล้วทำท่าลังเลเหมือนตัดสินใจว่าจะชวนหรือไม่ชวนนาวินเข้าห้องดี นาวินทำเนียนจะเดินผ่านเข้าไป สุดนภาผลักนาวินออก
“อะไรอีกล่ะ ผมจะขนของเข้าไปให้ไง”
สุดนภาพูดจริงจัง “อย่ามาเนียน แค่นี้พอแล้ว”
สุดนภาดึงของจากมือนาวินแล้วจะเดินเข้าห้องไป
“คุณบี๋ หิวไหม เดี๋ยวผมเข้าไปทำอะไรให้กินเอาไหม” นาวินทำเป็นถาม
“อย่าดีกว่า ชั้นไม่หิว”
“ผมหิว”
“ชั้นไม่มีอาหาร”
“บะหมี่สำเร็จรูป”
“หมด”
นาวินถอนใจบ้าง “ตกลงไม่สบายใจเรื่องอะไรเนี่ย เหม็นหน้าผมเหรอ”
สุดนภามองนาวินแล้วยิ้มส่ายหัว ก่อนจะเดินเข้าห้องแล้วปิดประตู นาวินมองตามแล้วยิ้มมีความสุขที่ได้แกล้งสุดนภา
เมรินเดินไปเดินมาพร้อมกับชะเง้อคอมองหาปฐวีแต่ก็ไม่มีวี่แวว ประภัสสรเดินมามองเมรินแล้วยิ้ม
“น้องเมย์คะ ไปทานข้าวกับคุณแม่นะคะ”
“เมย์ยังไม่หิวหรอกค่ะ” เมรินบอก
“รอน้าวีรึเปล่า น้าวีไปส่งหมอหนึ่ง คงจะกลับช้าหน่อย มาทานข้าวกันเถอะ คุณพ่อรออยู่นะคะ”
ตันหยงคิดในใจ “ใช่สิ ไปส่งหมอหนึ่ง เค้าคงไม่อยากกลับเร็วหรอก...”
เมรินหงอยแล้วเดินตามประภัสสรเข้าบ้านไป
ปฐวีกับหนึ่งฤทัยยืนอยู่ที่ครัวที่มีผลไม้กับผักวางอยู่เต็มเคาท์เตอร์ หนึ่งฤทัยผสมเครื่องปรุง ปฐวียกหม้อไปเทสปาเกตตี้ออกมาใส่ที่กรอง หนึ่งฤทัยยิ้มมองปฐวีอย่างชื่นชม ปฐวีหั่นผักอย่างทะมัดทะแมง หนึ่งฤทัยปรุงอาหารในเตาแล้วตักป้อนให้ปฐวีชิม ปฐวีชิมแล้วยิ้มพยักหน้า
เวลาผ่านไป อาหารทุกอย่างเสร็จแล้วถูกนำมาวางบนโต๊ะ ปฐวีกับหนึ่งฤทัยนั่งมองอย่างชื่นชม
“หนึ่งนี่ฝีมือไม่ตกเลยนะครับ”
“วียังจำได้หรือคะ ตั้งนานแล้วนะ”
“จำได้สิครับ ตอนนั้นเรานั่งติวสอบกายวิภาคกัน แล้วหนึ่งทำอาหารให้กิน อร่อยมาก ผมทานซะพุงกางเลย ผลสุดท้ายก็หลับไม่ได้อ่านหนังสือ” ปฐวีหัวเราะ
หนึ่งฤทัยปลื้ม “หนึ่งไม่คิดเลยว่าวีจะจำได้ หนึ่งจำเรื่องสมัยเรียนได้ทุกเรื่อง จะว่าไปก็เรื่องที่เกี่ยวกับวีนั่นแหละค่ะ หนึ่งไม่เคยลืม”
ปฐวีชะงัก หนึ่งฤทัยยิ้ม
“หนึ่งยังจำได้อีกด้วย .........” หนึ่งฤทัยเริ่มเล่าย้อนไปในอดีต
ภาพในอดีตย้อนกลับมา หนึ่งฤทัยในชุดนักศึกษาถูกอาจารย์ตำหนิ ปฐวีเดินผ่านมองหนึ่งฤทัยด้วยความเห็นใจ
หนึ่งฤทัยนั่งร้องไห้ ปฐวีเดินเข้ามายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ หนึ่งฤทัยเงยหน้าแล้วรับมาเช็ดน้ำตา ปฐวีทำท่าให้เธอสู้แล้วเดินไป หนึ่งฤทัยมองตามแล้วยิ้ม เธอก้มมองผ้าเช็ดหน้าในมือแล้วยิ้มก่อนจะเงยหน้ามองตาม
หนึ่งฤทัยเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตต่อเนื่อง
“ตอนนั้นหนึ่งคิดจะลาออกซะแล้ว แต่เพราะวี ทำให้หนึ่งอดทนจนมีวันนี้ได้”
ปฐวียิ้มจริงใจ
“ผมดีใจ ที่มีส่วนช่วยเป็นกำลังใจให้หนึ่ง ทำให้มีหมอเก่งๆ เพิ่มอีกคนนึง หนึ่งเป็นหมอที่เก่งมาก”
“แต่เก่งยังไง ก็ไม่เท่าหมอปฐวีหรอกค่ะ”
ปฐวียิ้ม
หนึ่งฤทัยเดินมาส่งปฐวีที่หน้าห้อง
“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้ออร่อยนะครับ”
“เช่นกันค่ะ หนึ่งมีความสุขมาก”
ทั้งคู่สบตากัน ปฐวีจูบที่หน้าผากหนึ่งฤทัย
“อย่าลืมทานยานะครับ”
ปฐวีเดินไป หนึ่งฤทัยยืนหลับตาพิงประตูแล้วฝันหวาน
เมรินนั่งมองสร้อยข้อมือด้วยสีหน้าเครียด เธอนึกถึงคำพูดของสุดนภาที่บอกกับเธอ
“หมอปฐวีเค้าชอบผู้หญิงที่ชื่อตันหยง”
ตันหยงนึกถึงตอนที่เห็นหนึ่งฤทัยจูบแก้มปฐวี
ตันหยงคิดในใจ “เค้าอาจจะเคยชอบ แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้ว”
ตันหยงถอนหายใจเศร้า เธอมองไปทั่วห้องแล้วรู้สึกเหงามาก
“ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ชั้นควรจะกลับไปอยู่กับครอบครัวของชั้น ชั้นต้องหาทางกลับไปเป็นตันหยงคนเดิม”
สีหน้าของเมรินมุ่งมั่นมาก
เช้าวันใหม่ ป้าแก้ว บุญศรี คนรับใช้คนอื่นๆ กำลังนั่งกินข้าวกัน บุญศรีนั่งกินข้าวด้วยสีหน้าไม่สบาย
“เป็นอะไรอีกล่ะ แม่บุญศรีทำยังกะโลกแตก” ป้าแก้วว่า
“ชั้นหนักใจจังเลยป้าแก้ว คุณปรางค์เป็นอะไรก็ไม่รู้ ซึมๆเศร้าๆ อารมณ์เหวี่ยงยังกะรถไฟเหาะตีลังกา ใครก็เข้าหน้าไม่ติด”
“อ้าว ปกติคุณปรางค์ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ แกยังไม่ชินอีกหรือ”
“ชั้นรู้อยู่หรอก แต่ช่วงหลังมานี่คุณสรรไม่ค่อยกลับบ้านเลย คุณปรางค์ยิ่งเป็นหนัก”
“เฮ้อ..เรื่องของผัวเมียเค้า ก็ต้องแก้กันเอง เราคนนอกไปยุ่งไม่ได้หรอก”
“สงสารคุณแก้วคุณขวัญ จะโดนหางเลขไปด้วยน่ะสิ” บุญศรีบอก
สายแก้วเดินถือสำรับเข้ามาในครัว
“อ้าว นังแก้ว ทำไมกับข้าวไม่แหว่งเลยวะ คุณๆไปทานข้างนอกหรือ” ป้าแก้วถาม
“เปล่าหรอกแม่ คุณภัสเธอไม่สบาย กินเหมือนแมวดม นี่สั่งให้มาบอกแม่ด้วย ต่อไปอาหารคุณภัสห้ามใส่กระเทียมเจียว เธอได้กลิ่นแล้วคลื่นไส้”
“เฮ้อ..เป็นอะไรกันไปหมดทั้งบ้านเลย คุณปรางค์ก็หงุดหงิดจนเข้าหน้าไม่ติด คุณภัสก็พลอยมาไม่สบายไปซะอีกคน เฮ้อ ข้าชักจะกลุ้มแล้วสิ” ป้าแก้วว่า
ป้าแก้ววิตก
เมธีประคองให้ประภัสสรค่อยๆนอนลง เมธีหันไปวุ่นวายกับการหายาดมมาให้ประภัสสรดม
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย ไปหาหมอกันมั้ย” เมธีถาม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นอนพักเดี๋ยวก็หาย” ประภัสสรบอก
“หมู่นี้คุณดูซูบๆไปนะ ทานอาหารไม่ค่อยได้ หรือว่าจะเป็นโรคกระเพาะ”
“ภัสไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่เวียนหัวเท่านั้นแหละค่ะ”
“งั้นผมจะอยู่ดูแลคุณนะ”
เมธีจับมือประภัสสร ประภัสสรยิ้ม ทั้งสองสบตากันอย่างมีความสุข
เมรินนั่งเครียดอยู่ริมสระน้ำ
“ชั้นควรจะทำยังไงดี บอกความจริงเค้าจะดีมั๊ย” ตันหยงคิดในใจ
ปฐวีเดินเข้ามา
“น้องเมย์ ดีจังเลยที่ยังไม่นอน”
“น้าวีกลับดึกจังเลย” เมรินว่า
ปฐวีมอง “น้องเมย์รอน้าวีเหรอ”
“ค่ะ”
ปฐวีนั่งลงข้างๆ เมรินมองหน้าปฐวีเพราะอยากสารภาพ
“น้าวีคะ”
ปฐวีหันมองเป็นเชิงถาม
เมรินอึกอัก “ถ้าน้องเมย์ทำอะไรผิดพลาด น้าวีจะยกโทษให้น้องเมย์มั้ยคะ”
“ทำผิดเรื่องอะไร น้องเมย์พูดแปลกๆ แบบนี้กับน้าวีหลายครั้งแล้วนะ”
เมรินมองหน้าปฐวีก่อนจะหลบตา
“เปล่าค่ะ เมย์แค่ถามดูเท่านั้น ดึกแล้ว เมย์ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
เมรินลุกขึ้นแล้วเดินไป ปฐวีมองตามแล้วเรียกเมริน เมรินหันกลับมามอง
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ถ้ารู้สึกว่าเราทำผิด ต้องยอมรับความจริง ห้ามโกหกปิดบังเด็ดขาด เข้าใจไหม”
เมรินจ๋อย
“ค่ะน้าวี เมย์เข้าใจแล้ว”
เมรินหันหลังแล้วเดินไป แล้วน้ำตาของเธอก็ไหล ปฐวีมองตามด้วยความสงสัย
เมรินเดินเข้ามาในห้องก่อนจะทุ่มตัวลงนั่งที่เตียงแล้วร้องไห้ เธอหยิบสร้อยขึ้นมาดูแล้วร้องไห้
“ชั้นขอโทษ ชั้นเองก็ไม่รู้จะทำยังไง”
ปฐวีนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด เขามองไปบนโต๊ะ ปฐวีหยิบรูปเมรินตอนไปเที่ยววัดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ปฐวีหยิบสมุดพกของเมรินขึ้นมาดู
“น้องเมย์”
ปรงทองเคาะประตูห้องปฐวี ปฐวีลุกขึ้นไปเปิด
“คุณย่าครับ”
ปรงทอง ไปเที่ยวมาเป็นยังไงบ้าง
“ก็สนุกดีครับดีครับ”
ปรงทอง มองปฐวีอย่างสังเกต “ย่ารู้สึกเจ้าเหมือนมีเรื่องในใจ”
“ครับ ผมบอกไม่ถูก มันเหมือนมีอะไรรบกวนจิตใจ”
“บอกแล้วไง ให้หาคู่มาช่วยคิด หมอหนึ่งก็น่ารักดีนี่ เจ้าไม่สนใจบ้างหรือ”
ปฐวีนิ่งคิด “ครับ หมอหนึ่งเป็นคนน่ารัก”
“พูดอย่างนี้ แสดงว่ายังไม่ใช่คนที่เจ้าสนใจจริงๆใช่มั๊ย หรือว่า กลัวจะมีปัญหาเหมือนพวกพี่ๆ”
ปฐวียิ้มแต่มีสีหน้าวิตก
ปรงทอง สอน “วี ชีวิตเป็นของเจ้า จะคิด จะทำอะไร จงอย่าวิตก ทุกคนมีทางเดินในชีวิตของตัวเองเสมอ บางครั้ง เราต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิต ถ้าเจ้าเจอคนที่ใช่ ความรู้สึกจะบอกเจ้าเองนั่นแหละ”
ปฐวีนิ่งคิด
นาวินแบกของมาส่งสุดนภาที่หน้าห้อง สุดนภาไขกุญแจห้องแล้วทำท่าลังเลเหมือนตัดสินใจว่าจะชวนหรือไม่ชวนนาวินเข้าห้อง แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น สุดนภากดรับ
“อ้าว หยงเหรอ พรุ่งนี้เช้าเลยหรือ ก็ได้ๆ ชั้นจะรีบไป”
สุดนภาถอนใจเพราะสงสารเพื่อน
เช้าวันใหม่ สายแก้วเอากาแฟมาเสริฟต์ให้สุดนภาที่นั่งกับเมรินที่โต๊ะในสวนแล้วเดินออกไป สุดนภานั่งอ้าปากหาว เมรินนั่งหน้าเครียด
“แกเรียกชั้นมาแต่เช้าทำไมเนี่ย วิญญาณชั้นยังไม่เข้าร่างเลยนะ”
เมรินเครียด “ชั้นอยากพบตัวชั้นเอง ซักครั้ง”
สุดนภาสำลักกาแฟพรวดแล้วมองหน้าเมริน
“แกแน่ใจแล้วนะ หยง ว่าแกจะทำใจได้”
“ชั้นแน่ใจว่าพร้อม”
“แล้วคิดหรือยัง ว่าเจอพ่อกับแม่แกแล้วจะบอกว่ายังไง จะพูดอะไรกับท่าน แล้วท่านจะเชื่อแกหรือเปล่า”
“ชั้นไม่รู้ ชั้นไม่รู้หรอกบี๋ ชั้นรู้แต่ว่า ชั้นต้องไป แกต้องช่วยชั้นนะบี๋”
“โธ่หยง ชั้นรู้ว่าแกสับสน แต่ แกคิดดีๆนะหยง”
“ชั้นคิดดีแล้วบี๋ ยังไงชั้นก็ต้องกลับไป เพราะมันอาจเป็นหนทางเดียวที่ทำให้ชั้นกลับคืนร่างได้”
สุดนภามองเมรินหน้าเครียด
หนึ่งฤทัยนั่งดื่มกาแฟกับพิราม ในร้านกาแฟที่ ร.พ
“ถึงคณะแพทย์ยังไม่ได้ลงความเห็นว่าคุณตันหยงจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่จากสภาพการณ์แล้ว มีความเป็นไปได้สูง” หนึ่งฤทัยบอก
พิรามตกใจ “หมายความว่า...”
“ทำไมไม่ลองพาคุณตันหยงไปรักษาที่ต่างประเทศดูล่ะคะ”
“ที่ไหนล่ะครับ คุณหมอหนึ่งช่วยแนะนำผมด้วย ไม่ว่าที่ไกลแค่ไหน ถ้ามีความหวัง ผมจะพาเธอไปเอง”
“หนึ่งไม่มีข้อมูลเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ แต่คนที่พอจะช่วยได้ก็มีนะคะ”
“ใครครับ ใครที่มีข้อมูลเรื่องนี้”
“หมอปฐวีไงคะ หมอวีสนใจเคสคุณตันหยงเป็นพิเศษ หนึ่งแน่ใจว่าหมอวีต้องมีข้อมูลเรื่องนี้แน่นอน แต่หนึ่งคงพูดแทนให้ไม่ได้ เพราะจะเป็นการก้าวก่าย”
“งั้น...ผมควรจะทำยังไงดีล่ะครับ” พิรามถาม
“เอาอย่างนี้ หนึ่งจะลองเกริ่นดูให้นะคะ แล้วคุณพิรามก็ปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณตันหยง แล้วค่อยให้ท่านคุยกับคุณหมอวีดีมั้ยคะ”
“ได้ครับ ผมจะรีบปรึกษากับท่านเลย ท่านคงดีใจมาก”
“จริงๆไม่ใช่หน้าที่ของหนึ่งเลย แต่หนึ่งเข้าใจและเห็นใจในความรักที่คุณมีกับคู่หมั้น”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ ขอบคุณจริงๆ”
“งั้นหนึ่งขอตัวก่อนนะคะ ขอให้โชคดีนะคะ”
หนึ่งฤทัยลุกขึ้นแล้วเดินไป พิรามนิ่งคิด
ปฐวีกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง จริญทิพย์เดินเข้ามาพร้อมกับแจกันดอกไม้
“มาแล้วค่ะ ดอกไม้สวยๆ”
ปฐวียิ้มพร้อมกับมองดอกไม้ “สวยมากเลยครับ คุณทิพย์”
จริญทิพย์เขิน “ต๊าย...ตาย หมอวีชมทิพย์ซึ่งหน้าแบบนี้ ทิพย์ก็เขินแย่สิคะ”
ปฐวีขำ “อ้อ ...ผมมีของฝากคุณทิพย์ด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/6 วันที่ 24 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager