@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/4 วันที่ 12 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/4 วันที่ 12 ก.พ. 56

สายแก้วประภัสสรแท็คทีมกันเข้ามาปลุกเมริน เมรินดิ้นไม่ยอมไปโรงเรียน
“เมย์ไม่ไปโรงเรียน บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไป ปวดหัวอยู่”
“น้าวีก็บอกว่าน้องเมย์ไปโรงเรียนได้แล้ว แต่ทำไมน้องเมย์งอแงแบบนี้คะงั้นพรุ่งนี้คุณแม่จะให้น้าวีเป็นคนมาปลุกน้องเมย์ไปโรงเรียนถ้าน้าวีดุ คุณแม่ไม่รู้ด้วยนะ”
เมรินหน้าคว่ำแล้วล้มลงนอนคลุมโปง

เมรินนอนพลิกตัวไปมากระสับกระส่ายบนเตียง สายแก้วนอนหลับอุตุอยู่ที่พื้น
“ทำไงดีต้องหาทางก่อนไม่งั้นต้องไปเรียนกับเด็ก ชั้นเฉาแน่งานนี้”
ตันหยงนิ่งคิดแผนแล้วก็คิดออก เธอลุกไปค้นลิ้นชัก hot page แล้วบอกสายแก้ว
“พี่สายแก้วขา น้องเมย์ขอกระติกน้ำร้อน มาไว้ในห้องนอนหน่อยนะคะ เมย์อยากดื่มน้ำอุ่น”
“น้ำอุ่นหรือคะ ได้ค่ะ”
สายแก้วที่หลับไปแล้วแล้วเดินหลับตาออกไป


เช้าวันต่อมา เมรินเอา hot page แช่ในกะลังมังที่อยู่ในห้องน้ำ แล้วจับขึ้นมารู้สึกว่าร้อนจี๊ดจนมือหด
“ร้อนชะมัดเลย กว่าจะเสร็จสงสัยเป็นหมูต้มแน่เลย”
เมรินเอา hot page จุ่มน้ำร้อนมามาวางแปะหน้าผาก แปะแก้ม และแปะคอ

เมรินรีบออกจากห้องน้ำมาที่เตียงนอน โดยยังแปะhot pageไว้ที่หน้าผาก สักพักปฐวีก็เปิดประตูเข้ามากับประภัสสร
“ไง คนเก่ง ได้ข่าวว่าดื้อไม่ยอมไปโรงเรียน”
“วันนี้เมย์ตั้งใจจะไป แต่ไม่สบายค่ะ” ตันหยงรีบซ่อน hot page
“น้องเมย์ไม่สบายเหรอคะ” ประภัสสรถาม
ปฐวียิ้มเพราะรู้ทันหลาน
“ตัวร้อนจริงๆด้วยวี”
ปฐวีงง “ร้อนนิดหน่อย เมื่อวานน้องเมย์ไปตากแดดหรือเปล่าครับ”
“เปล่านี่คะ เมย์รู้สึกปวดหัว”
“พี่ว่า ให้น้องเมย์พักก่อนดีกว่า”
“ก็ได้ครับ รอดูอาการอีกวันสองวัน เดี๋ยวผมจัดยาให้ น้องเมย์ต้องนอนพักอย่างวิ่งเล่นซนนะครับ จะได้หายไวๆ”
“ค่ะน้าวี”
ปฐวีลุกขึ้นเดินไป ประภัสสรรีบเดินตามไป พอทั้งสองคนลับตา เมรินก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที สายแก้วงง
“...รอดไปอีกวัน” ตันหยงคิดในใจ “ลูกไม้แบบนี้ ตอนเด็กชั้นทำบ่อย”
สายแก้วงง “น้องเมย์คะ อะไรรอดหรือ”
เมรินรีบล้มตัวลงนอนทำท่าป่วยต่อไป สายแก้วมองเมรินงงๆ

ตันหยงออกมาเดินเล่นคนเดียวเพราะรู้สึกเหงาๆ หนุงหนิงคลานเข้ามาใกล้แล้วทำท่าประจบ
“เจ้าหนุงหนิง ทำไมชั้นต้องมาติดอยู่ในร่างเด็กแบบนี้ด้วย แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไปนะ ชั้นกลุ้มใจจังเลย”
หนุงหนิงคลานมานอนบนตักเมริน
“ใครใช้ให้แกมานอนตักชั้น อยากจะปลอบชั้นใช่ไม๊ ขอบใจนะ หนุงหนิง”
ตันหยงเกาคอหนุงหนิง แล้วถอนหายใจยาว

ในห้องพักตันหยงที่โรงพยาบาล พินิจนั่งจับมือบุหงาที่มีทำท่าร้อนใจเอาไว้
“ผมอยากจะขออนุญาติทำการตรวจคุณตันหยงอย่างละเอียดอีกครั้ง ผมไม่อยากให้เราพลาดอะไรไปแม้แต่สาเหตุเล็กน้อย” ปฐวีบอก
“ไม่มีปัญหาครับ อะไรที่จะทำให้ลูกของผมฟื้นขึ้นมาได้ ผมยินดี” พินิจพูด
“คุณหมอต้องช่วย ลูกดิชั้นนะคะ” บุหงาร้อนใจ
“ผมจะทำให้ทุกวิถีทาง เพื่อให้คุณตันหยงฟื้นครับ ผมสัญญา”
ปฐวีลุกเดินไป พินิจกับบุหงามองตาม หนึ่งฤทัยจับมือบุหงาเพื่อปลอบใจ
“ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอวีเป็นหมอที่เก่งมาก และคุณหมอวีก็เป็นห่วงคนไข้มากด้วย ใจเย็นๆนะคะ หนึ่งขอตัวก่อน”
หนึ่งฤทัยเดินไป พินิจกับบุหงามองตามอย่างซึ้งใจ
“หยงจะฟื้นมั้ยคะคุณ”
“ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมเชื่อหมอปฐวีว่าเค้าพยายามช่วยลูกเราอย่างเต็มที่จริงๆ”

เมริน ปรงแก้ว ปรงขวัญนั่งรวมกันอยู่ที่ริมสระว่ายน้ำ สายแก้วดูแลเมรินแบบเอาใจใส่มาก เมรินหยิบแก้วน้ำหวานจะดื่ม สายแก้วรีบห้าม
“คุณน้องเมย์คะ อย่าทานน้ำเย็นเลยนะคะ เดี๋ยวไข้จะกลับ”
ปรางค์ทิพย์หมั่นไส้ “กินๆเข้าไปเถอะ ท่าทางไม่ได้เจ็บป่วยซักหน่อย”
ปรงแก้วกับปรงขวัญมาดึงมือเมริน
“ไปว่ายน้ำแข่งกันนะเมย์ คราวนี้แก้วต่อให้ก่อน”
“ขอแข่งด้วยคนนะ แต่ขวัญไม่ต่อให้เมย์นะ”
“อย่าดีกว่านะคะ คุณแก้วคุณขวัญ คุณน้องเมย์เพิ่งฟื้นไข้ ไว้คราวหน้านะคะ” สายแก้วปัด
ปรางค์ทิพย์เยาะเย้ย “ใช่ ขืนแข่งไปก็แพ้อีก พาลจะจมน้ำเอาซะเปล่าๆ” ปรางค์ทิพย์หัวเราะ
ตันหยงโกรธ “ตกลงค่ะ มาแข่งกัน” ตันหยงหันมาหาสายแก้ว “น้องเมย์หายดีแล้ว แต่ถ้าแก้วกับขวัญแพ้ อย่าร้องไห้นะ”
ปรงแก้วได้ยินก็ขำมาก ปรงขวัญมองพี่แล้วขำตาม ปรางทิพย์หัวเราะก๊าก
“ต๋าย ปากเก่งซะด้วยนะ เอาซี่ แม่แก้ว แม่ขวัญ โชว์ให้ยายเมย์เห็นหน่อยซิ ว่าแบบไหน ที่เรียกว่า แข่งว่ายน้ำ”
“เอาสิคะ” เมรินบอก
“คุณน้องเมย์พี่สายแก้วว่าอย่าเลยค่ะ” สายแก้วเตือน
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่สายแก้ว”

เมรินมีสีหน้ามุ่งมั่นมาก เธอหันไปมองหน้าปรางค์ทิพย์ ขณะที่ปรางค์ทิพย์มองตอบในท่าทีเย้ยหยัน
ปรงแก้ว ปรงขวัญ และเมรินว่ายน้ำแข่งกัน ประภัสสรเดินออกมามองด้วยความตกใจ ปรางทิพย์ทำไมรู้ไม่ชี้ ประภัสสรห่วงลูก เมรินว่ายแซง สายแก้วตะโกนเชียร์

ปรางทิพย์ไม่เชื่อสายตา เมรินว่ายเข้าฝั่งก่อนเล็กน้อย สายแก้วรีบเอาผ้าขนหนูไปรับตัวเมรินขึ้นจากน้ำ
“น้องเมย์ชนะ เก่งจังเลยมาค่ะ พี่สายแก้วดีใจจังเลย มาค่ะ เอาผ้าคลุมไว้ก่อน จะได้ไม่หนาว”
ประภัสสรโล่งใจ ปรางค์ทิพย์เดินไปลากลูกสองคนขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
“ไป รีบกลับบ้านไปอาบน้ำทำการบ้านเดี๋ยวนี้เลย เสียเวลาจริงๆ”
ปรางค์ทิพย์ลากปรงแก้วปรงขวัญไป บุญศรีรีบวิ่งตามไป
“น่าสงสารแก้วกับขวัญนะ กลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของป้าปรางค์ตลอดเลย” เมรินพูด
“คุณปรางค์ก็แบบนี้แหละค่ะ ทำไมน้องเมย์ของพี่สายแก้วเก่งอย่างนี้นะ”
“แค่ว่ายน้ำ น้องเมย์เป็นแชมป์เก่านะคะ”
สายแก้วงง
“น้องเมย์ไม่น่ามาเล่นน้ำเลยนะคะ ถ้าป่วยขึ้นมาอีกจะทำยังไง สายแก้ว ทำไมปล่อยให้น้องเมย์ลงน้ำ” ประภัสสรดุ
“เอ่อ..อ่า....ก็” สายแก้วอึกอัก
“อย่าตำหนิพี่สายแก้วเลยค่ะ เมย์แข็งแร็งดีแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”
“โถลูกแม่ ไป เข้าบ้านดีกว่านะ เดี๋ยวจะป่วยไปอีก”
ประภัสสรประคองเมรินเดินเข้าบ้านไป
“ดี ทีนี้จะได้รู้ซะบ้าง ว่าน้องเมย์ของพี่สายแก้วน่ะ ไม่ใช่ธรรมดาว่าแต่คุณน้องเมย์เคยเป็นแชมป์ว่ายน้ำตอนไหนนะ”
สายแก้วทำหน้าสะใจมาก

ปรางค์ทิพย์กำลังดุปรงแก้วปรงขวัญที่นั่งก้มหน้าอยู่
“แค่ว่ายน้ำแค่นี้ก็แพ้ แกมันไม่ได้เรื่องทั้งสองคน”
“แก้วแค่ชวนว่ายน้ำแข่งกันเล่นๆ ไม่ได้จริงจังซะหน่อยนะคะคุณแม่”
“ไม่ต้องมาเถียง แค่นี้ชั้นก็เสียหน้าพอแล้ว แพ้ใครไม่แพ้ แพ้นังเมย์ ชั้นอายจริงๆ”
“แก้วขอโทษค่ะคุณแม่”
“ทำไมเราถึงแพ้เมย์ล่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้ลองแข่งอีกมั้ย”
“พอแล้ว ไม่ต้องไปแข่งกับมันอีกแล้ว ต่อไปงดว่ายน้ำ เปลี่ยนเป็น แบบฝึกหัดเพิ่มขึ้นอีกวันละร้อยข้อ” ปรางค์ทิพย์สั่ง
ปรงแก้วปรงค์ขวัญมองหน้ากันแล้วโวย
“แต่ที่ทำอยู่ทุกวัน มันก็ตั้ง 500 ข้อแล้วนะคะ” ปรงแก้วบอก
“ถ้าเพิ่มอีก ก็เป็น 600 ข้อ” ปรงขวัญเสริม
“ถ้าแกยังขืนต่อรองอีกละก็ ชั้นจะเพิ่มไปเรื่อยๆ จนกว่าแกจะหยุดเถียง”
ปรงแก้วปรงขวัญเอามือปิดปากตัวเองด้วยอาการขวัญเสีย ปรางค์ทิพย์แค้น

ประภัสสรส่งเมรินเข้านอน เธอจับเนื้อจับตัวลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“แม่คะ น้องเมย์ไม่เป็นอะไรจริงๆ แค่ว่ายน้ำ แค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ซะหน่อย” เมรินบอก
“เมย์ลูกแม่ หนูไม่ต้องพิสูจน์อะไรหรอกนะคะ ไม่ว่ายังไงแม่ก็ภูมิใจในตัวลูกเสมอ”
“ขอบคุณค่ะ คุณแม่ไปนอนเถอะค่ะ น้องเมย์ง่วงแล้ว”
ประภัสสรจูบลูก
ปฐวียืนมองอยู่ที่หน้าประตู
“อ้าว วี ทำไมมาเงียบๆ”
“อยากมาส่ง คนเก่งเข้านอนก่อนน่ะครับพี่ภัส ไงคะน้องเมย์ ได้ข่าวว่าวันนี้แข่งว่ายน้ำหรือ”
“ค่ะ น้าวีรู้ได้ยังไงเนี่ย” เมรินถาม
“ก็พี่เลี้ยงของน้องเมย์น่ะสิ คุยฟุ้งไปทั่ว ถ้าส่งข่าวให้หนังสือพิมพ์ได้คงลงไปแล้วล่ะ แล้วเป็นยังไงบ้าง”
“ชนะขาดอยู่แล้ว” เมรินคุยโว
ปฐวีมองเมรินนิ่งแล้วยิ้ม
“แข็งแรงขนาดนี้ พรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนได้ใช่มั้ย งั้นรีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะคะ”
เมรินรีบแสดงอาการ “โอ๊ย...น้องเมย์ยังปวดหัวอยู่”
ประภัสสรรีบเดินมาจับตัวลูก
“ตายจริง เป็นไข้หรือเปล่า ตัวก็ไม่ร้อน” ประภัสสรถามปฐวี “ต้องทานยากันไว้ก่อนมั้ยวี”
“ไม่ต้องหรอกครับพี่ภัส” ปฐวีกระซิบกับเมริน “ไม่มีคำว่าแต่ พรุ่งนี้ให้คุณแม่พาไปส่งที่โรงเรียนนะคะน้องเมย์”
ปฐวีเดินออกไปพร้อมประภัสสร ก่อนออกจากห้องปฐวีหันมายิ้มให้

เมรินมองตามทั้งโกรธและงอนปฐวี
ประภัสสรกับปฐวีเดินคุยกันลงมาจากข้างบน

“วันนี้นอกจากแข่งว่ายน้ำชนะแล้ว น้องเมย์ก็ไม่มีอาการป่วยอะไรเลยใช่มั้ยครับพี่ภัส”
“ใช่จ้ะวี พี่ยังประหลาดใจเลย น้องเมย์ดูเหมือนจะแข็งแรงขึ้น”
“ผมกำลังสงสัยว่าเราจะถูกหลานตัวแสบหลอกน่ะสิ”

สายแก้วเล่าให้ปฐวีฟัง ปฐวีพยักหน้า
“ก็มีแต่ให้สายแก้วเอากระติกน้ำร้อนขึ้นไปให้ แล้วให้เอาไปไว้ในห้องน้ำแต่เห็นมีกะละมังวางอยู่ด้วยค่ะ ไม่รู้คุณน้องเมย์จะเอาไปทำอะไร”
ปฐวีพยักหน้า

เมธีถือดอกไม้เดินเข้าห้องนอน
“ภัสครับ” เมธีส่งดอกไม้ให้ภรรยา
“ให้ภัสเหรอคะ” ประภัสสรถาม
“ครับ ผมอยากขอโทษ ที่ผมไม่คอยมีเวลาให้ภัส คุณชอบรึเปล่า”
“สวยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ผมดีใจที่คุณชอบดอกไม้นะ ช่วงนี้งานผมยุ่งมากจริงๆ ยิ่งโปรเจ็คใหม่เริ่มสร้าง ยิ่งต้องดูแลให้ดี งานโครงสร้าง ถ้าผิดนิดเดียว อาจจะมีปัญหาทั้งโครงการ”
ประภัสสรนั่งฟังเมธีตาแป๋ว
“คุณเบื่อหรือเปล่าเนี่ย ผมพูดแต่เรื่องงาน” เมธีถาม
“ภัสไม่เบื่อหรอกค่ะ คุณเล่าต่อสิคะ ภัสชอบฟัง”
“มีแต่เรื่องงานก่อสร้างน่าเบื่อจะตาย คุณเล่าให้ผมฟังบ้างดีกว่า วันนี้ทำอะไรบ้าง”
“ก็เหมือนเดิมค่ะ ภัสไปช่วยคุณย่าดูเอกสารมูลนิธิ ดูแลน้องเมย์”
“คุณอยู่แต่บ้าน คงจะเบื่อ”
“ไม่เบื่อหรอกค่ะ ภัสก็มีน้องเมย์เป็นเพื่อน หรือคุยกับพี่ปราง” ประภัสสรถอนใจ
“ภัส อย่าไปฟังคุณปรางให้มากนะ ผมว่าเค้าไม่ค่อยหวังดีกับเรานักหรอก”
“พี่ปรางเป็นคนแบบนั้นเอง แต่ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เค้าก็เหมือนพี่สาวภัส”
เมธีถอนหายใจเรื่องปรางทิพย์ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ประภัสสรมองตาม แล้วถอนหายใจ

เช้าวันใหม่ เมรินนั่งอยู่บนเตียงโดยเอาผ้าพันตัวไว้พร้อมกับกอดหัวเตียงแน่น ประภัสสรกับเมธีมองหน้ากันอย่างจนปัญญา
“เมย์ยังไม่ไปโรงเรียน ปวดหัวจะแตกอยู่แล้ว” เมรินโวยวาย
ประภัสสรมองเมธี “เอาไงดีคะคุณ ลูกยังปวดหัวอยู่”
“ผมว่าลูกงอแง ไม่อยากไปโรงเรียนมากกว่า” เมธีบอก
“แต่น้องเมย์ไม่เคยงอแงเลยนะคะ แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้”
“วันนี้วันพฤหัสแล้ว เอางี้ ให้พักอีกสองวัน แต่วันจันทร์หน้า น้องเมย์ต้องไปโรงเรียนนะครับ”
เมรินเปิดผ้ามายิ้มให้ ประภัสสรกับเมธีมองหน้ากันเพราะงงลูก

ปฐวีเดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง เขาเห็นนาวินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองก็หัวเราะ
“นี่งานการไม่ทำหรือ ไอ้วิน”
“ทำแล้วโว๊ย วันนี้ชั้นไปประชุมคณะกรรมการการศึกษามา เสียอารมณ์ ไม่รู้จะยัดเยียดความรู้กันไปถึงไหน สมัยนี้เด็กมันต้องเรียนรู้แบบมีความสุข เรียนในสิ่งที่อยากรู้ ไม่ใช่ ต้องรู้ทุกอย่างที่ผู้ใหญ่คิดว่าดี ยัดเยียดกันเข้าไป หัวระเบิดพอดี”
“เฮ้ย ชั้นไม่ยักกะรู้ ว่าแกจริงจังเรื่องงานขนาดนี้”
“ถ้าทำงานก็ต้องจริงจังโว๊ย นอกเวลางานก็ต้องเต็มที่”
ปฐวีหัวเราะ “อันนั้นชั้นพอมองออก แล้วแกมาทำไมวะ”
“ครูบี๋เค้าถามถึงน้องเมย์ ชั้นเลยเป็นตัวแทนมาถามข่าว”
“อ้าว วันนี้ยังไม่ไปอีกหรือ สงสัยพี่ภัสจะหลงกลยายเมย์อีกแล้ว”
“นั่นน่ะสิ สงสัยวันนี้ชั้นต้องไปบ้านแก ไปกราบคุณย่าขอ ข้าวตังหน้าตั้งกินซะหน่อยแล้ว”
“สรุปว่า แกจะมาทำงาน หรือว่ามาหาของกินกันแน่วะ เจ้าวิน”
“ทั้งสองอย่างแหละ”
ปฐวีมองหน้านาวินแล้วยิ้มขำ

ตกเย็น นาวินกราบปรงทอง ในห้องที่ปฐวีกับเมรินนั่งอยู่ด้วย
“พ่อวิน ทีหลังมาเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องหอบหิ้วอะไรมาฝากหรอก” ปรงทองบอก
“ไม่เป็นไรครับคุณย่า ผมมารบกวนคุณย่าบ่อยๆ แหม ข้าวตังหน้าตั้งที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าฝีมือคุณย่าแม้นนะครับ”
“ว่าไป ป่านนี้ยายแม้นลอยออกนอกหน้าต่างไปแล้วมั๊งเนี่ย ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะเรา ย่ายังนึกถึงตอนเรากับเจ้าวี เกเรไม่ยอมไปโรงเรียน แกล้งทำเป็นไม่สบาย ร้ายทั้งคู่”
ทุกคนหัวเราะขำ เมรินสะดุ้ง ปฐวีนิ่งมองเมริน
“เดี๋ยวนี้ผมกลับตัวแล้วครับคุณย่า ผมสำนึกแล้ว” นาวินบอก
“ว่าไงเรา ทำไมวันนี้ไม่ไปโรงเรียน บอกน้าวีซิ” ปฐวีพูดกับหลาน
เมรินหลบตาปฐวีและไม่ยอมตอบ
“นี่ยังไงเจ้าเมย์ ครูใหญ่มาตามกลับไปโรงเรียนแล้ว” ปรงทองว่า
“คราวนี้คงป่วยแบบเดิมไม่ได้แล้วมั๊ง จริงมั้ยน้องเมย์” ปฐวีถาม
“ก็เมย์ปวดหัวนี่นา”
“คืออย่างนี้ครับคุณย่า ครูสุดนภา เป็นห่วงว่าน้องเมย์หายไป” นาวินพูดกับประภัสสร “ครูบี๋สุดนภาน่ะครับ”
ตันหยงตะลึง “ยายบี๋”
“อ๋อ ปกติ พี่ก็เรียกแต่ ครูบี๋ ครูบี๋ตามน้องเมย์” ประภัสสรบอก
“ว่าไง น้องเมย์ จะไปเรียนเมื่อไหร่ครับ เพื่อนๆคิดถึงนะ” นาวินถาม
“ครูบี๋ สุดนภา เป็นครูประจำชั้นของเมย์หรือคะ” เมรินถามย้ำ
“ก็ใช่น่ะสิ น้องเมย์จำไม่ได้หรือ”
ปฐวีมองจ้อง เมรินเกิดไอเดียขึ้นทันที

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/4 วันที่ 12 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager