@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/2 วันที่ 12 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/2 วันที่ 12 ก.พ. 56

โทรหาบุหงาทันที
“ฮัลโหล” บุหงารับสาย
“คุณแม่ขา นี่หยงนะคะ”
บุหงาตะลึง “อะไรกัน หนูทำไมถึงทำแบบนี้ คนกำลังทุกข์อย่าล้อเล่นกันแบบนี้เลย มันบาปนะจ๊ะ”
บุหงากดตัดสาย ตันหยงชะงัก
“คุณแม่..คุณแม่ขา”

ตันหยงวางสายด้วยความเศร้า

ตันหยงเดินเศร้าๆมานั่งที่โต๊ะแล้วก็ถอนหายใจ
“นี่ชั้นต้องอยู่แบบนี้ตลอดไปรึเปล่าเนี่ย”
หนุงหนิงค่อยๆคลานมาหมอบที่ตักตันหยง
“แกรู้มั้ย เจ้าหนุงหนิง ชั้นไม่ใช่เจ้านายแกนะ”
หนุงหนิงประจบ
“เฮ้อ...อย่าถามนะว่านายแกอยู่ที่ไหน ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ทั้งแกกับชั้นเลือกไม่ได้ทั้งสองฝ่าย เอาเป็นว่าเราสงบศึกกันก่อนดีมั้ย”
หนุงหนิงยกขาเขี่ยตันหยง ตันหยงจับเท้าหนุงหนิง
“ก็ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้เราสงบศึกกันก่อน”
หนุงหนิงทำท่ากระดิกหางดีใจ
“ไม่อยากเชื่อเลย ชั้นต้องมานั่งปรับทุกข์กับหมา..เฮ้อชีวิต”



ปรงแก้วปรงขวัญที่กลับมาจากโรงเรียนนั่งกินของว่างอยู่ริมสระน้ำ ตันหยงกับสายแก้วเดินผ่านมา ปรงแก้วปรงขวัญตะโกนเรียกเมริน ตันหยงหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ
“เมย์ มาทานขนมด้วยกันมั้ย” ปรงแก้วชวน
“น้องแก้วขา อย่าไปเรียกเค้าเลย น้องเมย์คงไม่อยากทานกับคุณแก้วคุณขวัญหรอก” บุญศรีบอก
ตันหยงถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินไปนั่งกับปรงแก้วปรงขวัญ
“เมย์โชคดีจังเลย ไม่ต้องไปโรงเรียน แก้วนะเบื่อมากเลย ต้องทำแบบฝึกหัดที่โรงเรียนกลับมาต้องทำเพิ่มอีก” ปรงแก้วบอก
ปรงขวัญพูดจีบปากจีบคอ “พี่แก้ว ไปพูดกับมันทำไม คุณแม่บอกว่า คนไม่ไปโรงเรียนน่ะโง่ เหมือนควาย”
บุญศรียิ้มชอบใจ “แหม คุณขวัญนี่ฉลาดพูดจังเลยนะคะ”
“พี่บุญศรี ปล่อยให้คุณขวัญพูดจาแบบนี้ได้ยังไง ไม่น่ารักเลย” สายแก้วว่า
“มันเรื่องของคุณๆเค้า แกมายุ่งอะไรด้วย นังสายแก้ว”
ปรางค์ทิพย์เดินเข้ามา พอเห็นหน้าเมริน ปรางค์ทิพย์ก็แขวะ
“ไงแม่เมย์ หายแล้วหรือ ทำไมไม่ไปโรงเรียน เดี๋ยวก็ต้องไปไถนาหรอก”
บุญศรีหัวเราะชอบใจ สายแก้วหน้าเสีย
“เด็กอะไร แม่เป็นยังไงลูกเป็นอย่างนั้นจริงๆ” ตันหยงคิดในใจ
ตันหยงตัดสินใจพูด “น้องขวัญคะ น้องขวัญจะพูดจาอะไรให้นึกถึงคุณพ่อคุณแม่บ้างนะคะ”
ปรงขวัญงง “ทำไมหรือเมย์”
“อ้าว...เวลาเด็กพูดดี ทำดี คนก็จะชื่นชมว่าเด็กคนนี้น่ารัก แต่ถ้าลูกพูดจาไม่ดี คนฟังก็จะด่าว่า พ่อแม่ไม่รู้จักอบรมไงคะ”
พูดจบตันหยงก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปทันที สายแก้วปิดปากหัวเราะคิกแล้วเดินตามไป ปรางทิพย์โกรธจัด
“เอ๊ะ..คุณเมย์พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ คุณปรางค์” บุญศรีถาม
“แกมันโง่ มันด่าชั้นว่าไม่รู้จักสั่งสอนลูกไงล่ะ”
ปรางค์ทิพย์แค้น เธอหันไปมองปรงแก้วปรงค์ขวัญที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ไป กลับบ้าน ไม่ต้องเล่นแล้ว กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”

ตันหยงมองแล้วส่ายหัว
ตันหยงนั่งอาบน้ำอยู่ในอ่างน้ำ สายแก้วนั่งรออยู่ในห้องน้ำแล้วก็คุยผ่านม่าน

“แหม คุณเมย์น่ะตอกคุณปรางค์หน้าหงายไปเลย สายแก้วละสะใจ”
ตันหยงยิ้ม
“เมย์ไม่ได้พูดอะไรเกินซักหน่อย ปรงขวัญจีบปากจีบคอเหมือนป้าปรางค์ไม่มีผิด”
“จะว่าไป ตั้งแต่น้องเมย์ตกบันไดคืนนั้น น้องเมย์พูดจาฉะฉานขึ้นตั้งเยอะ พี่สายแก้วละชอบจริง..จริ๊ง”
“ไม่กลัวแล้วหรือ”
“ถ้าคุณน้องเมย์เป็นอย่างนี้ สายแก้ว ก็ไม่กลัวหรอกค่ะ แต่อย่าตกบ่อยก็แล้วกัน คอหักกันพอดี”
ตันหยงชะงัก “ตกบันไดหรือ”
ตันหยงนิ่งคิด

พัดชานั่งร้องไห้มองรูปพิรามบนโต๊ะในห้องนอน เธอหยิบโทรศัพท์โทรหาพิราม พิรามดูหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ถอนใจไม่รับสาย พัดชาเสียใจแต่ก็ยังกดโทรหาพิรามอีก
พิรามยอมรับสาย “คุณโทรมาทำไม คุณไม่ควรติดต่อกับผมอีก”
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณทิ้งพัดได้ยังไง คุณต้องมาคุยกับพัดให้รู้เรื่อง คุณต้องมาหาพัดเดี๋ยวนี้เลย”
“พัดชา พอเถอะ อย่าทำแบบนี้ ขอให้เราจบกันแบบดีๆนะพัดชา”
“พัดไม่ยอมจบ พัดไม่มีทางจบกับคุณ พัดรักคุณ”
พิรามเงียบ พัดชาพูดต่อ
“คุณหมดรักพัดแล้วเหรอคะ พิราม คุณหมดรักพัดแล้วใช่ไหม”
“พัดชา ฟังนะ ผมไม่เคยรักคุณ คุณก็รู้”
พัดชาอึ้ง “คุณจะมาหาพัดไหม” พิรามเงียบ “พัดถามว่าคุณจะมาหาพัดมั้ย”
“เลิกทำแบบนี้เถอะพัดชา มันไม่มีประโยชน์แล้ว”
“คุณจะไม่มาหาพัดอีกแล้วใช่ไม๊ ต้องการเลิกกับพัดใช่ไม๊ ถ้าพัดตายคุณก็ไม่สนใจใช่ไม๊ งั้นพัดจะตายให้ดู คุณจะได้จำพัดไปตลอดชีวิต พัดจะทำให้คุณรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต”
พัดชาวางหูใส่พิราม
“คุณจะบ้าหรือพัดชา พัดชา”
พิรามกดต่อสายกลับไปแต่ก็ติดต่อไม่ได้ พิรามกลุ้มใจแล้วตัดสินใจคว้ากุญแจรถออกไป

ตันหยงนอนคิด ส่วนสายแก้วหลับไปแล้ว
“ถ้าตกบันไดอีก ทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ชั้นก็จะได้กลับเข้าร่างตัวเอง”

พิรามขับรถมาด้วยความเร็วสูง พิรามจ้องทางข้างหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รถวิ่งไปตามถนนอย่างรวดเร็ว

สายแก้วยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง เตียงของเมรินไม่มีร่างของเมริน ในขณะที่ประตูเปิดแง้มไว้

เท้าเล็กๆ ของเมรินเดินไปหยุดตรงบันได ตันหยงยืนมองบันไดอย่างหวาดเสียว
“ถ้าเราโดดลงไป ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ตันหยงมองบันไดแล้วหลับตา
ตันหยงลังเล “แต่ถ้าร่างของน้องเมย์ไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ คุณประภัสสร กับคุณเมธี แล้วยังจะคุณหญิง กับน้าวีอีกล่ะ”
“ไม่ได้ แต่เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้”
ตันหยงหลับตาแล้วยื่นเท้าออกมาค้างไว้
“ก้าวออกไปสิตันหยง ก้าวออกไป” ตันหยงพูดกับตัวเอง
เสียงปฐวีดังขึ้นในหัว “ถ้าน้องเมย์เป็นอะไรไป น้าวีจะเสียใจมากที่สุด”
“ชั้นทำไม่ได้ ชั้นทำไมได้หรอก” ตันหยงหดขากลับ
ปฐวีเดินเข้ามาพอดี เขาเห็นเมรินยืนหลับตาอยู่บนบันได
ปฐวีตะโกน “น้องเมย์”

ตันหยงลืมตาด้วยความตกใจทำให้ก้าวพลาด ตันหยงร้องกรี๊ดเสียงดัง
ตันหยงในร่างเมรินก้าวพลาด ร้องกรี๊ดพร้อมๆ กับเซถลาลงจากบันได แต่ปฐวีพุ่งมารับไว้ได้

“น้องเมย์”
ตันหยงลืมตาขึ้นแล้วมองรอบๆ ตัวอย่างตื่นๆ
“น้าวี ....”
“น้องเมย์ น้องเมย์ทำอะไร”
ปฐวีกอดเมรินไว้แนบอก ตันหยงตกใจทำอะไรไม่ถูก
“รู้มั้ย ถ้าน้องเมย์เป็นอะไรไปอีก น้าวีต้องขาดใจแน่เลย โธ่น้องเมย์”
ตันหยงสำนึกผิด
“น้าวีขา น้องเมย์ขอโทษค่ะ น้องเมย์ไม่ได้ตั้งใจ”
“น้องเมย์ ทีหลังอย่าลงมาคนเดียวแบบนี้อีกนะคะ”
“ค่ะ น้องเมย์สัญญา น้องเมย์จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก”
“ไม่ทำอะไรแบบนี้อีก” หมายความว่ายังไง”.
“เอ่อ..หมายความว่า น้องเมย์จะไม่ลงมาคนเดียวดึกๆแบบนี้อีกแล้วไงคะ”
ปฐวีมองหน้าเมรินนิ่งแล้วค่อยยิ้มออก เขากอดหลานสาวไว้แนบอก
“น้องเมย์ของน้า เมื่อกี๊น้าวีประสาทเสียมากเลยรู้ไม๊ไหน บอกน้าวีซิ น้องเมย์จะลงไปเอาอะไรครับ”
ตันหยงคิดหาคำตอบ “น้องเมย์อยากดื่มนมค่ะ”
ปฐวีแอบถอนหายใจ แต่ตันหยงอึดอัดใจ

ปฐวีเทนมใส่แก้วใบใหญ่ที่วางตรงหน้าเมรินจนเกือบเต็มแก้ว เมรินทำหน้าตาเหยเกเพราะไม่อยากดื่มนม
ตันหยงคิดในใจ “ตายล่ะ ชั้นไม่ชอบดื่มนมซะด้วยสิ ทำไงดีล่ะ”
เมรินมองหน้าปฐวี ปฐวีมองตอบพร้อมกับยิ้มให้
“ดื่มให้หมดสิคะ แล้วจะได้รีบไปนอน”
เมรินมองแก้ว
ปฐวีขำ “นั่งมองเฉยๆ มันจะหมดได้ยังไงล่ะน้องเมย์ รีบดื่มเร็วเข้า”
ตันหยงตัดสินใจยกแก้วนมขึ้นดื่มจนหมด แล้วมองปฐวี
“เก่งมาก หลานน้า”
ตันหยงคลื่นไส้จนจะอ๊วก
“ไป ดื่มเสร็จแล้วก็ไปนอนได้ น้าวีอุ้มไป”
“ไม่ต้องค่ะ เดินเองได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไร น้าวีอุ้มไปนอนดีกว่า”
ปฐวีไม่ฟังคว้าตัวเมรินแล้วอุ้มเดินไป เมรินทำหน้าเซ็ง

ปฐวีอุ้มเมรินมาวางที่เตียง
“นี่ถ้าน้าวีไม่เห็น น้าวีคงมาช่วยน้องเมย์ไม่ทันแน่เลย ทีหลังอย่าลงไปข้างล่างคนเดียวอีกนะคะ”
ตันหยงรับคำ “ค่ะ”
“สัญญานะ”
ปฐวียื่นนิ้วก้อยให้เมรินเกี่ยวก้อยสัญญา ตันหยงมองสีหน้าจริงจังของปฐวีแล้วยื่นนิ้วไปเกี่ยวด้วย
“ค่ะ สัญญา”
ปฐวียิ้มแล้วจัดให้เมรินนอนลงแล้วห่มผ้าให้ ปฐวีก้มลงจูบเมริน ตันหยงหลับตายอมให้ปฐวีจูบแต่โดยดี
“ราตรีสวัสดินะคะน้องเมย์”
“ราตรีสวัสค่ะ น้าวี”
ตันหยงแกล้งหลับตา ปฐวีเดินออกไปจากห้อง ตันหยงลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าบนเตียงแล้วคิดหนัก
“นี่เราคิดจะทำอะไรลงไปเนี่ย ไม่น่าเลย เราเห็นแก่ตัวเกินไปใช่มั้ย.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คะ ช่วยหนูด้วย ขอให้พรุ่งนี้เช้า หนูตื่นขึ้นมา แล้วกลับคืนร่างของตัวเองด้วยเถอะค่ะ”
ตันหยงอธิษฐานอย่างมีความหวัง

พิรามเปิดประตูห้องพัดชาเข้ามาแล้วตะโกนเรียก
“พัดชา พัดชา”
พัดชาที่นั่งอยู่บนเตียงเต็มไปด้วยคราบน้ำตาเงยหน้ามองพิราม
“คุณต้องการทำให้ผมเป็นโรคประสาทใช่ไหมพัดชา”
“ถ้าพัดไม่ทำแบบนี้ คุณก็ไม่มา คุณจะทิ้งพัดไปใช่มั้ย”
พิรามโกรธ “นี่คุณทำตัวมีเหตุผลหน่อยได้มั้ย”
พัดชาโผเข้ากอดพิรามแน่น พิรามพยายามแกะจนหลุด
“อย่าทำแบบนี้พัดชา”
“พัดไม่อยากสูญเสียคุณ”
“ก่อนนี้ คุณไม่ได้พูดแบบนี้นะพัดชา”
“ก็พัดเปลี่ยนใจแล้ว พัดขาดคุณไม่ได้นี่”
“พัดชา... ผมไม่ได้รักคุณ”
พัดชาเสียใจ
“พัดรู้แล้ว คุณไม่ต้องย้ำหรอก คุณรักตันหยงใช่มั้ย รักมันมากใช่มั้ย”
พิรามเมินหน้าไม่ตอบ
“พัดมันส่วนเกินของคุณ งั้นคุณก็ไปอยู่กันให้สบายเลย”
พัดชาคว้าแก้วมาทุบกับกำแพงแล้วใช้เศษแก้วกรีดข้อมือตนเองจนเป็นแผลเลือดออก พิรามตกใจ
“พัดชา คุณจะบ้าเหรอ คุณทำบ้าอะไรเนี่ย”
พัดชาสะบัด “ปล่อยให้ชั้นตายไปเลย ดูซิคุณจะมีความสุขอยู่ได้ไหม ในเมื่อคุณไม่รักชั้น ก็ไม่ต้องมาห่วงชั้น”
พัดชาสะบัดจนหลุด พิรามโกรธแต่พยายามระงับ
“พัดชา ทำแบบนี้ทำไม ไปโรงพยาบาลกับผม”
“ปล่อยชั้น ปล่อยให้ชั้นตายไปเลย”
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำแบบนี้ ไปกับผมเดี๋ยวนี้นะ ไปกับผม”

พิรามลากพัดชาเดินออกไป
เช้าวันใหม่ สายแก้วเข้ามาปลุกเมรินที่นอนยิ้มอย่างมีความสุข

“คุณน้องเมย์ขา ตื่นได้แล้วค่ะ” สายแก้วมอง “สงสัยจะฝันดี นอนยิ้มเชียวคุณน้องเมย์”
เมรินลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“กลับมาแล้ว ชั้นเป็นคนเดิมแล้ว” ตันหยงพูดออกมา
สายแก้วตกใจ
“น้องเมย์คะ น้องเมย์เป็นอะไรไป”
ตันหยงหันมองสายแก้วแล้วมองมือมองขาตนเอง ก่อนจะจับแก้ม
“ไม่จริ๊ง....” ตันหยงคิดในใจ “นี่เราจะต้องอยู่ในร่างเด็กจริงๆหรือนี่” ตันหยงเบะจะร้อง เธอหงายหลังนอนคลุมโปง “ไม่จริง ไม่จริง”
“น้องเมย์ อะไรไม่จริงคะ ทำแบบนี้พี่สายแก้วตกใจนะ”
ตันหยงหยุดร้องแล้วเปิดผ้าออก เธอมองสายแก้วแล้วถอนหายใจยาว
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่ฝันไป”
“ฝันอะไรคะ”
ตันหยงขยับปากจะเล่าแล้วก็นึกได้ “ก็ฝันว่า” ตันหยงถอนใจ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
ตันหยงเศร้า สายแก้วมองเมรินด้วยความประหลาดใจ

ที่โรงพยาบาล พิรามนั่งเฝ้าพัดชาที่มือมีผ้าพันไว้ พิรามเดินไปหยิบน้ำพร้อมจัดยาให้พัดชากิน
“ทานยาซะก่อน จะได้ไม่ปวดแผล เดี๋ยวผมต้องไปทำงานแล้ว”
พัดชารับยามากินอย่างว่างง่าย
“พิรามคะ อยู่เป็นเพื่อนพัดหน่อยได้ไม๊คะ ขอเวลาให้พัดหน่อยได้มั้ย”
พิรามเดินหันหลังให้พัดชานิ่งๆ
“ได้โปรดเถอะค่ะ ให้เวลาพัดบ้าง สองปีที่ผ่านมาพัดมีแต่คุณ คุณคนเดียวเท่านั้น จู่ๆคุณจะทิ้งพัดไป ทำเหมือนไม่เคยรู้จัก พัดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง เห็นใจพัดบ้างเถอะนะคะ”
พัดชานั่งน้ำตาไหล พิรามหันมามองพัดชาด้วยความสงสาร
“คุณพักผ่อนก่อนดีกว่านะ อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย”
พัดชาโผกอดพิรามไว้แน่นแล้วรำพัน
“พัดอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ”
พิรามกลุ้มใจ

ประภัสสรกับเมรินอยู่ในห้องนั่งเล่น เมรินเปิดข่าวฟัง ประภัสสรมองหน้า
“น้องเมย์ดูข่าวเป็นด้วยเหรอคะ”
“เมย์ชอบฟังข่าวค่ะ”
สายแก้วหอบข้าวของเข้ามา
“เอกสารมูลนิธิค่ะ”
“คุณแม่จะไปหาคุณย่า น้องเมย์จะไปด้วยกันไหมคะ” ประภัสสรถาม
ปรางค์ทิพย์ส่งเสียงดังเข้ามา
“จะไปไหนกัน แล้วยายเมย์ไม่ไปโรงเรียนหรือ ท่าทางก็ไม่ได้เจ็บไม่ได้ป่วยอะไรนี่นา จะอยู่บ้านทำไม”
“พี่ปรางค์ ....ตาวีบอกให้รอดูอาการอีกหน่อย ค่อยไป”
“ระวังเถอะ อยู่แต่บ้าน ระวังจะเขางอกนะเรา” ปรางค์ทิพย์ว่า
“งอกเองดีกว่ามีคนมาสวมให้นะคะป้าปรางค์” ตันหยงสวน
ปรางค์ทิพย์ชะงัก “นี่แกพูดว่าไงนะ”
ตันหยงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“แล้วนี่จะไปหาคุณย่าหรือ จะประจบประแจงอะไรกันอีก” ปรางค์ทิพย์ถาม
“คุณย่าเรียกไปพบ คงจะสั่งงานเรื่องมูลนิธิฯน่ะค่ะ ภัสขอตัวก่อนนะคะพี่ปรางค์ น้องเมย์ไปกับคุณแม่นะคะ”
“น้องเมย์ไปส่งคุณแม่ค่ะ ไม่อยากอยู่แถวนี้แล้ว” ตันหยงบอก

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 4/2 วันที่ 12 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager