อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/4 วันที่ 23 ก.พ. 56
เมรินงอนจึงเมินหน้าหนี สุดนภามองปฐวีแล้วชะงัก“อยากคุยก็ไม่ทันแล้ว หมดเวลา” สุดนภาบอก
เมรินชะงักมองหน้าสุดนภา สุดนภาพยักเพยิดให้เพื่อนดูเอง หนึ่งฤทัยเดินเข้ามาหาปฐวี
“วีคะ”
ปฐวียิ้มแล้วเดินไปรับ
“หนึ่งจะมา ทำไมไม่โทรบอกก่อนล่ะครับ” ปฐวีถาม
“หนึ่งอยากมาเซอร์ไพสวีไงคะ”
ทั้งสองยิ้มแย้มให้กันแล้วชวนกันเดินชื่นชมทะเล ปฐวีถามไถ่หนึ่งฤทัยในเรื่องต่างๆ เมรินอึ้ง สุดนภามองแล้วส่ายหน้า
ประภัสสรกับเมธีนั่งคุยกันชื่นมื่นอยู่ที่โต๊ะอาหารบาร์บีคิวริมทะเล สุดนภากับนาวินเดินชี้ชวนกันชิมอาหาร สุดนภาป้อนอาหารให้นาวิน นาวินชิมแล้วชอบใจ ทั้งคู่หัวเราะกันคิกคัก สุดนภาป้อนอีก นาวินอ้าปากรับ
ปฐวีกับหนึ่งฤทัยช่วยกับปิ้งบาร์บีคิว หนึ่งฤทัยจับกุ้งแล้วร้อนจึงทำหล่น ปฐวีรีบเอาผ้ามาเช็ดให้ หนึ่งฤทัยมองปฐวี แล้วทั้งคู่ก็ยิ้มให้กัน
เมรินนั่งอยู่ที่โต๊ะมองทุกคนอย่างเซ็งๆ เธอเกาตัวยุกยิกเพราะแพ้แอลกอฮอล์
“จะมีอะไรน่าเบื่อกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย ชีวิตชั้น”
เมรินนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย
หนึ่งฤทัยกับปฐวีเดินคุยกันอยู่ที่ริมหาด ปฐวีเดินคิด หนึ่งฤทัยแอบมอง
“วีคิดอะไรอยู่คะ เบื่อหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ผมดีใจนะ ที่หนึ่งมาด้วย”
“งั้นหรือคะ ดีใจจัง หนึ่งคิดว่าหมอวีกำลังคิดถึงสาวไหนอยู่หรือเปล่าน๊า”
ปฐวียิ้มเจื่อนก่อนจะเมินหน้ามองไปทางอื่น หนึ่งฤทัยมองอย่างสังเกต
เมรินยืนชะเง้อคอมองอยู่ที่บ้านพัก
“ทำไมน้าวียังไม่กลับมาอีกนะ มีความสุขล่ะสิ”
เสียงประภัสสรดังขึ้น “น้องเมย์ บ่นอะไรคะ”
ประภัสสรกับเมธีเดินจูงมือกันเข้ามา
“เปล่าค่ะ น้องเมย์เหนียวตัว อยากอาบน้ำ” เมรินบอก
“งั้นกลับห้องดีกว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปส่งนะคะ”
เมรินมองไปทางหนึ่งฤทัยกับปฐวีอีกครั้งแล้วถอนหายใจ
เมรินพูดเศร้าๆ “ก็ได้ค่ะ”
เมธีกับประภัสสรเดินมาส่งเมรินที่หน้าห้อง เมรินทำรีรอไม่ยอมเข้า
“ไปอยู่ห้องแม่ก่อนมั้ยคะ” ประภัสสรถาม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ น้องเมย์อยู่ได้ เดี๋ยวครูบี๋ก็มา”
“แน่ใจนะว่าอยู่ได้”
“แน่ใจสิคะ เมย์โตแล้วค่ะ”
เมธีกับประภัสสรมองหน้ากัน
เมธีแซว “จะรีบโตไปไหน อยู่เป็นลูกสาวพ่อกับแม่แบบนี้ไปนานๆก็ได้”
เมรินงอน “คุณพ่อก็”
เมรินงอนจึงเข้าห้องไป ประภัสสรกับเมธีหัวเราะให้กัน
“คุณก็ ล้อลูกอีกแล้ว”
“จะว่าไป ผมรู้สึกว่า บางทีน้องเมย์ก็ดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ เพียงแต่งอยู่ในร่างเด็กน้อยเท่านั้นเอง” เมธีบอก
ประภัสสรกับเมธียิ้มให้กัน
เมรินเข้าห้องมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงอย่างเซ็งๆ เธอนึกถึงตอนที่ปฐวีบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับหนึ่งฤทัย
“น้าวีชอบหมอหนึ่งรึเปล่านะ”
เมรินลุกพรวดขึ้นแล้ววิ่งออกไปที่ระเบียง
เมรินเห็นหนึ่งฤทัยกับปฐวียืนคุยกันที่ริมชายหาดไกลๆ เมรินจ๋อยและเศร้าลง
เมรินเอามือถูบริเวณหัวใจ “เฮ่อ เจ็บจัง”
หนึ่งฤทัยกับปฐวีเดินผ่านหน้าสุดนภากับนาวินไป สุดนภาสะกิดนาวิน
“ถามจริงเหอะ หมอหนึ่งนี่เป็นแฟนหมอวีหรือเปล่า”
“ให้ตอบจริงๆใช่มั้ย” นาวินถามกลับ
“กวนอีกแล้ว เดี๋ยวเหอะ”
“ตอบก็ได้ หมอหนึ่งน่ะมีใจให้ไอ้วีแน่นอน แต่ไอ้วีน่ะ ท่าจะยาก คงยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้นหรอก”
สุดนภางง “ผู้หญิงคนไหน”
“อ้าว คุณดูไม่ออกหรือ คุณตันหยงเพื่อนคุณนั่นแหละ”
สุดนภาอ้าปากค้าง “ว่าไงนะ” สุดนภางง “อย่ามาอำนะ ชั้นซ้อมคุณแน่เลย”
“คุณนี่ประหลาด พูดจริงก็ซ้อม อำก็บ่น ข้าพเจ้าขอสาบานว่าที่พูดมานี่เป็นจริงทุกคำพูด”
สุดนภาลุกพรวดแล้ววิ่งออกไปทันที
“เฮ้ย....จะไปไหน”
นาวินวิ่งตามสุดนภาไป
สุดนภาวิ่งหน้าเริ่ดมาที่หน้าห้องตัวเอง นาวินวิ่งตามมาจนทัน
นาวินหอบ “เดี๋ยวก่อน จะไปไหน”
สุดนภาหอบ “ง่วง จะรีบนอน”
“ไม่ได้ อยู่ๆจะง่วงแบบนี้ไม่ได้”
“นี่” สุดนภาดันตัวนาวินออก “คุณไปหาเพื่อนคุณไป๊ หมอวีน่ะ”
“ก็หมอหนึ่งอยู่ แล้วผมจะไปอยู่กับเค้าได้ไงเล่า”
“แล้วจะมาอยู่กับชั้นได้ไง ชั้นจะนอนแล้ว”
สุดนภาไม่ฟังเสียงรีบเปิดเข้าไปในห้อง นาวินมาขวางไว้แล้วทำหน้าตาจริงจังมาก
“เดี๋ยวก่อน ผมมีอะไรจะบอกคุณ”
สุดนภาชะงักมองหน้านาวิน สุดนภาเริ่มระแวงว่านาวินจะบอกรักหรือเปล่า
“อะไร”
“ราตรีสวัสดิ์ นอนหลับฝันดีนะ”
นาวินยิ้มให้สุดนภาแล้วเดินไป สุดนภาถอนหายใจเฮือก
“ตาบ้า ทำเอาตกอกตกใจหมดเลย”
สุดนภารีบเข้าห้องไป
เมรินนอนหันหลังให้สุดนภา เมรินปากคว่ำ สุดนภาวิ่งเข้ามาหา
“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ชั้นรู้ว่าแกยังไม่หลับหยง เร็วเข้า”
เมรินแกล้งเงียบ สุดนภาทนไม่ไหวจึงลากผ้าห่มออกแล้วดึงมือเมริน เมรินลุกขึ้นนั่ง
“อะไรของแกอีก”
“ชั้นมีเรื่องจะบอกแก ตั้งใจฟังนะ คุณนาวินเค้าบอกชั้นเมื่อกี้นี้เอง ว่าหมอวี มีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว”
เมรินเซ็ง “แล้วไงล่ะ ชั้นรู้แล้ว”
“อ้าว รู้แล้วเหรอ”
“ไม่ต้องบอกชั้นก็เห็นอยู่เต็มสองตานั่นแหละ หมอหนึ่งนั่นไง”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่หมอหนึ่ง คนที่หมอวีชอบอยู่คือ ตันหยง แกรู้จักมั้ย”
ตันหยงตะลึงก่อนจะหันมามองหน้าสุดนภา สุดนภาพยักหน้า ตันหยงอึ้ง
ปฐวีกับหนึ่งฤทัยกำลังเดินคุยกันมา ปฐวีล้วงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาจามฟืด หนึ่งฤทัยมองแล้วยิ้ม
“ว๊า คราวนี้หมอจะกลายเป็นคนไข้แล้วมั๊ง”
ปฐวียิ้ม “สงสัยจะจริงแล้วล่ะ วันนี้ตากแดดโต้ลมทั้งวัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนึ่งมียามาด้วย เดี๋ยวหนึ่งหยิบให้นะคะ”
“ของผมก็ติดมา” ปฐวีขำ “อ่อนแอซะแล้ว ตลกจังเลย”
“หมอก็เป็นคนปรกตินี่คะวี ป่วยได้เหมือนคนทั่วไปนั่นแหละค่ะ”
ปฐวียิ้มให้หนึ่งฤทัย
เมรินเดินไปเดินมาด้วยความกังวลใจ สุดนภานั่งมองเมรินแล้วส่ายหน้า
“เลิกเดินได้แล้ว ชั้นเห็นแล้วเวียนหัว”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เมรินกับสุดนภามองหน้ากัน
“แกไปเปิด เผื่อเป็นน้าวีของแกจะได้คุยกันไง”
เมรินวิตกจึงส่ายหัวแล้วดึงสุดนภาให้ลุก ทั้งสองเกี่ยงกัน สุดท้ายทั้งสองก็ไปเปิดพร้อมกัน
นาวินโผล่เข้ามา สุดนภากับเมรินตกใจก่อนถอนหายใจเฮือก
“อะไรกัน เห็นหน้าแล้วถอนหายใจ หมายความว่าไงเนี่ย” นาวินถาม
“มีอะไรว่าไป ไม่ต้องเข้ามานะ นี่ห้องผู้หญิงผู้ชายห้ามเข้า” สุดนภาบอก
นาวินชะงักแล้วจาม
“ผมมาขอยากินหน่อยสงสัยจะเป็นหวัด ปวดหัวรุมๆด้วย ลองจับดูสิ”
นาวินคว้ามือสุดนภามาอังหน้าผากตัวเอง สุดนภาหัวเราะ
“สมน้ำหน้า วิ่งเล่นทั้งวัน ไม่ป่วยก็แปลกแล้ว รอตรงนี้เดี๋ยวชั้นหยิบให้”
นาวินค้อนสุดนภา สุดนภาเดินไปหยิบยามาส่งให้ นาวินไม่ยอมรับ
เมรินเดินออกมาที่หน้าประตู แล้วมองหาปฐวี เมรินเห็นปฐวีกับหนึ่งฤทัยยืนอยู่ที่หน้าห้องหนึ่งฤทัย ทุกคนหันไปเห็น นาวินจุ๊ปากให้เงียบๆ หนึ่งฤทัยจูบแก้มปฐวี เมรินอ้าปากค้าง ทั้งสามเห็นพร้อมกัน สุดนภามองหน้าเมริน
“หยง”
เมรินวิ่งพรวดกลับเข้าไปในห้องแล้วกระโดดขึ้นเตียงแล้วชักผ้าห่มคลุมโปงทันที สุดนภามองนาวินโกรธๆ
“เพราะนายคนเดียวหาเรื่องมาเคาะห้อง หาช็อตเด็ดให้ชั้นจริงๆ ไปได้แล้ว”
“อ้าว อยู่ๆก็เป็นอะไรล่ะเนี่ย ป่วยหนักกว่าผมอีกนะเนี่ย” นาวินแตะหน้าผากสุดนภา
สุดนภาผลักนาวินออกไปจากห้องแล้วปิดประตู นาวินยืนมองยาในมืออย่างงงๆ ปฐวีเดินมา นาวินหันไปมอง ปฐวียิ้มแล้วทักนาวิน
“มาทำอะไรหน้าห้องหลานชั้น” ปฐวีถาม
“มาขอยาคุณบี๋กิน ปวดหัว” นาวินบอก
“อ้าว ยาชั้นก็มี ทำไมไม่หยิบกินวะ”
“ยาแกมันไม่อร่อย กินแล้วติดคอ”
“ยาของคุณบี๋อร่อยกว่าว่างั้นเหอะ...”
นาวินพยักหน้าแล้วยิ้มให้ปฐวี ปฐวีส่ายหน้า
หนึ่งฤทัยที่อยู่ในห้องหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า หนึ่งฤทัยนิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
ปฐวีเดินมาส่งหนึ่งฤทัยที่หน้าห้อง
“ฝันดีนะครับ”
“ค่ะ ฝันดีเช่นกันนะคะ”
หนึ่งฤทัยเขย่งตัวขึ้นจุ๊บแก้มปฐวี ปฐวีมองหน้าหนึ่งฤทัยแล้วยิ้มเขิน
หนึ่งฤทัยคิดถึงเหตุการณ์นั้นแล้วก็พูดขึ้นมา
“หนึ่งรักคุณค่ะวี”
หนึ่งฤทัยทำหน้ามุ่งมั่นมาก
เมรินนอนคลุมโปงร้องไห้เงียบๆ สุดนภานั่งมองด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“หยง แกเป็นอะไร บอกชั้นมาเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย ชั้นเป็นห่วงนะ”
เมรินลุกขึ้นเช็ดน้ำตา
“บี๋ ชั้นอึดอัดใจจริงๆ ชั้นอยากกลับไปเป็นตัวเอง อยากกลับคืนร่างเดิม ชั้นไม่รู้ต้องทำยังไง”
“ชั้นเข้าใจหยง ชั้นเข้าใจแก ใจเย็นๆนะ”
สุดนภาลูบไหล่เพื่อปลอบตันหยง
“อยู่ต่อไปก็กลัวหมอวีจะรู้ความจริง กลัวเค้าจะโกรธจะเกลียดชั้น กลัวเค้าจะคิดว่า ชั้นหลอกลวงเค้า แกเข้าใจมั้ย บี๋ ชั้นไม่รู้จะทำยังไง ชั้นไม่รู้ว่าชั้น ต้องทำยังไง”
เมรินร้องไห้ สุดนภากอดด้วยความสงสารเพื่อน
ปฐวียืนอยู่ริมหน้าต่างแล้วคิดถึงหนึ่งฤทัย
ปฐวีนึกถึงตอนที่หนึ่งฤทัยคุยกับเขาที่ริมทะเล ในขณะที่เมรินนั่งง่อย
ปฐวีส่ายหน้า นาวินยืนมองปฐวีแล้วหัวเราะ
“ไงล่ะ คิดหนักหรือไงเจ้าวี คิดถึงหมอหนึ่งใช่มั้ยล่ะ จะว่าไปหมอหนึ่งก็โพรไฟล์ใช้ได้เชียวแหละ แกไม่หวั่นไหวบ้างหรือ”
ปฐวียิ้ม “ไอ้บ้า ชั้นกำลังคิดถึงน้องเมย์ต่างหาก ดูแกแปลกๆไป”
“งั้นแกบ้าจริงแล้วไอ้วี มีสาวมาหาถึงที่นี่ ดันคิดถึงหลานสาว ไปเช็คสมองตัวเองบ้างไป๊ คุณหมอ”
“ชั้นไม่โชคดีเหมือนแกนี่หว่า มีคุณบี๋อยู่ใกล้ตลอด”
“ข้อนั้นแกต้องทำใจ ใครใช้ให้แกขี้เหร่กว่าชั้นล่ะวะ”
ปฐวีขำ นาวินถามหน้าตาย
“ถามจริงๆนะ แกยังไม่ลืมคุณตันหยงใช่มั้ย”
ปฐวีนิ่งไม่ตอบ
“ถึงแกไม่ตอบ ชั้นก็รู้ เจ้าวี เรื่องบางเรื่องน่ะเราฝืนพรหมลิขิตไม่ได้หรอก”
นาวินเดินไปล้มตัวลงนอน ปฐวีถอนหายใจยาว
ปรางค์ทิพย์นั่งหน้าเครียดอยู่ที่หน้ากระจก
“ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับนะ มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนเนี่ย”
ปรางค์ทิพย์ถอดเครื่องประดับเก็บใส่กล่องด้วยสีหน้าเครียด
ปรงแก้วกับปรงขวัญนั่งดื่มนมอยู่ในบ้าน โดยมีบุญศรีคอยดูแลอยู่ ปรางค์ทิพย์เดินลงมาจากบันไดด้วยหน้าตาหงุดหงิด
“บุญศรี คุณสรรโทรมารึเปล่า” ปรางค์ทิพย์ถาม
“โทรเรื่องอะไรคะ”
“ก็โทรว่าจะกลับมากี่โมง”
“ศรีไม่ทราบค่ะ คุณสรรไม่ได้โทรมาบอกนะคะ”
ปรางค์ทิพย์มองหน้าบุญศรีแบบจับผิด แต่บุญศรีไม่รู้เรื่อง ปรางค์ทิพย์หน้าเครียด เธอหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาเสกสรร
โทรศัพท์ของเสกสรรดังขึ้น เสกสรรหยิบขึ้นมาดูพอเป็นปรางค์ทิพย์ เสกสรรก็กดตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่อง ปรางค์ทิพย์มองโทรศัพท์ตัวเอง
“ปิดเครื่องเลยหรือ หนอยแน่ะ ทำอะไรอยู่ ทำไมต้องปิดเครื่องด้วย”
ปรางค์ทิพย์เดินวนไปวนมาด้วยความหงุดหงิด
ปรงแก้วกับปรงขวัญดื่มนมเสร็จก็ลุกขึ้นมาเกาะแขนปรางค์ทิพย์ ปรางค์ทิพย์ชะงัก
“คุณแม่ขา หนูดื่มนมเสร็จแล้วค่ะ”
“เสร็จแล้วก็ไปนอนสิ”
“คุณแม่ขา คุณแม่ช่วยส่งหนูเข้านอนได้มั้ยคะ”
“อ่านนิทานให้หนูฟังด้วยนะคะคุณแม่”
ปรางค์ทิพย์หงุดหงิด เธอคว้าหนังสือนิทานในมือลูกมาขว้างทิ้ง
“อย่าเรื่องมากนักเลย ไม่เห็นหรือไงว่าชั้นยุ่งอยู่”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/4 วันที่ 23 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager