อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 6 วันที่ 12 ก.พ. 56
รำพึงพยายามจะแกะมือชุ่มออก ชุ่มไม่ปล่อย รำพึงกางมือจิกลงที่ใบหน้าชุ่ม ในขณะที่จวงจิกหัว ชุ่มเผลอปล่อยข้อมือรำพึง แต่ก็ยังโผเข้าคว้าขารำพึงไว้“คุณรำพึงเจ้าขา ข้าขอร้อง ไปห้ามท่านขุนนะเจ้าคะ”
รำพึงโมโหตบ
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!ปล่อย”
รำพึงเมื่อได้ตบหนึ่งครั้งก็เหมือนความแค้นที่เก็บไว้ปะทุออกมา รำพึงตบตีชุ่มด้วยความโกรธแค้น
ในป่า ขุนพิทักษ์โดนขุนไว ใช้ดาบฟันรุกไล่ต้อนจนขุนพิทักษ์เกือบเพลี่ยงพล้ำจะโดนฟัน
บริเวณศาลาวัด คุณหญิงมณีพนมมือเตรียมถวายสังฆทาน แจ่มขยับของมาไว้ตรงหน้าคุณหญิง
คุณหญิงพนมมือกล่าวคำถวายสัฆทาน - - อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ
โอโณชะยามะ สาธุโน ภันเต...
ขุนพิทักษ์ หลบดาบของขุนไว ที่ฟันลงมาได้อย่างเฉียดฉิว ขุนพิทักษ์ก้าวถอยหนึ่งก้าวก่อนจะก้าวเท้าแล้วกระหน่ำเข้าฟันขุนไวแทบไม่มีช่องว่างให้ได้พัก ขุนไว ต้องตกเป็นฝ่ายรับจนถอยไม่เป็นกระบวน ขุนไว ตัดสินใจเตะขุนพิทักษ์จนล้มลงไป
รำพึงมองอย่างสะใจที่เห็นชุ่มล้มลงไปกระแทกพื้น จวงยกเท้าหมายจะกระทืบชุ่มตกใจแต่หลบไม่ทันแล้ว
แต่ก่อนที่เท้าจวงจะถึงตัวชุ่ม สมก็พุ่งตัวเข้าไปถีบจนจวงกระเด็นหน้าทิ่ม
“โอ้ย!”
“ไอ้สม!” รำพึงร้องเรียก
สมรีบเข้าไปประคองชุ่มให้ลุกขึ้น จวงลุกขึ้นชี้หน้าสมก่อนลุกขึ้นมาในสภาพเอวเคล็ด
“ไอ้สม ไอ้เลว เอ็งถีบข้า!”
“ใครทำน้องข้าเจ็บ พวกมันต้องเจ็บยิ่งกว่า” สมบอก
จวงจะเข้าไปเล่นงาน
“ไอ้!”
“อยากตายก็เข้ามา! ลูกพระยาหน้าไหนข้าก็ไม่กลัวหรอกเว้ย”
จวงสะดุ้งถอยหลังมาอยู่หลังรำพึง แล้วบอก
“คุณเจ้าคะ ไอ้สมมันกำลังบ้าอย่าไปเสี่ยงเลยเจ้าค่ะ ตีนมันหนักจริง ๆ เจ้าค่ะ”
“พวกเอ็งไม่ตายดีแน่ จำไว้!” รำพึงบอก
รำพึงจ้องสมกับชุ่มอย่างโกรธแค้นก่อนสะบัดหน้าจะเดินกลับไปที่เรือน
“คุณรำพึง แล้วไม่ไป...”
“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น!” รำพึงพูดเสียงดัง
“คุณรำพึงเจ้าคะ ไปช่วยท่านขุนก่อน คุณรำพึง!”
รำพึงเดินไปไม่หันกลับมา ชุ่มพยายามจะตามแต่สมคว้าแขนชุ่มไว้
“นังชุ่ม! นี่มันเรื่องอะไรกันวะ”
ชุ่มแทบไม่ได้สนใจที่สมถามเลย
“พี่สม รีบไปช่วยท่านขุนเร็ว ท่านขุนอยู่ในอันตราย!”
ขุนไว ฟันจนดาบขุนพิทักษ์ฯ หลุดมือกระเด็นไป ขุนไวจะฟัน ขุนพิทักษ์เตะจนดาบขุนไวหลุดไปเหมือนกัน ทั้งคู่เข้าแลกหมัด ขุนพิทักษ์ซัดจนขุนไวเสียหลักลงไปนอน ขุนไวจะลุกแต่ขุนพิทักษ์ชักกริชออกมาจ่อคอขุนไว
“เอ็งแพ้แล้วไอ้ไว”
ขุนไวเจ็บใจที่แพ้
“จะฆ่าก็ฆ่า!”
“ข้าต้องการชัยชนะ ไม่ใช่ชีวิตเอ็ง”
ขุนพิทักษ์ลุกขึ้นแล้วดึงผ้าแพรของรำพึงออกมาให้ขุนไวเห็น
“ข้าชนะเอ็งแล้ว น้องรำพึงก็ต้องเป็นของข้า อย่าลืมสัญญาว่าเอ็งจะไปให้พ้นจากเมืองนี้!”
ขุนพิทักษ์ เก็บผ้าแพรมองขุนไวอย่างเย้ยหยัน ขุนไว มองตามอย่างเจ็บใจ แววตาคมกริบ
ขุนพิทักษ์เดินมาตามทางเพื่อออกจากป่าตะวันออก ทันใดนั้นโจรป่า 3 คน ซึ่งใช้ผ้าปิดปาก ปกปิดใบหน้าไว้ ก้าวเข้ามาขวางขุนพิทักษ์
“พวกเอ็งเป็นใคร!”
โจรป่ามองหน้ากัน ไม่มีใครตอบ ทั้งสามคนพุ่งเข้ารุมฟัน ขุนพิทักษ์ตั้งรับอย่างเต็มความสามารถ แต่เมื่อโดนรุมสามต่อหนึ่ง ขุนพิทักษ์ก็ตกเป็นฝ่ายเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
ระหว่างทางในป่า ชุ่มวิ่งสุดแรงนำสมอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
“เร็วสิพี่สม”
ชุ่มวิ่งบุกดงไม้โดยไม่สนใจกับกิ่งไม้ที่เกี่ยวเนื้อตัว จิตใจคิดถึงแต่ขุนพิทักษ์ฯ ชุ่มวิ่งจนสะดุดล้มหัวฟาดกับรากไม้
“ชุ่ม!”
สมรีบเข้าไปประคองชุ่มให้ลุกขึ้น
“เอ็งเป็นยังไงบ้าง” สมถาม
“ข้าไม่เป็นไร”
ชุ่มลุกขึ้นข่มความเจ็บแล้วออกวิ่งต่อไป สมรีบตามไป
ขุนพิทักษ์ใช้ดาบตั้งรับโจรคนที่หนึ่งที่ฟันลงมา แล้วถีบโจรคนที่สองซึ่งเข้ามาทางด้านข้างจนกระเด็นไป ขุนพิทักษ์ใช้ดาบยันดาบของโจรคนที่หนึ่งแล้วผลักออกไป ขุนพิทักษ์พุ่งตามไปฟันเข้าที่แขนโจรคนที่หนึ่งและโจรคนที่สาม โจรร้องลั่น ขุนพิทักษ์โยนดาบเปลี่ยนท่าจะแทงโจร แต่แค่ง้างมือ เมื่อโจรคนที่สองร้อง
“เฮ้ย!”
ขุนพิทักษ์ชะงัก ทันใดนั้น โจรคนที่หนึ่งที่ตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้ามาฟันหน้าอกขุนพิทักษ์
“อ๊าก”
ขุนพิทักษ์หน้าคว่ำล้มลง เลือดไหลริน โจรคนที่สามเข้ามากระทืบซ้ำอย่างไม่ยั้ง
“เก่งนักเหรอ”
ขุนพิทักษ์เจ็บปวด เลือดไหลออกมามาก เมื่อมองโจรทั้งสามคนเห็นเป็นภาพเบลอ โจรใช้ขากระแทกเข้าหน้าขุนพิทักษ์จนสิ้นสติ
“เฮ้ย! ฆ่ามันซะจะได้รีบไป” โจรคนแรกบอก
โจรคนที่สองขยับมีดตั้งท่าจะแทงขุนพิทักษ์ที่หมดทางดิ้นรน
“หยุดก่อน!”
โจรป่าหันไปตามเสียง ขุนไวสีหน้าขึงขังก้าวเข้ามา ในมือถือดาบ ก้าวเข้าไปหาขุนพิทักษ์
พวกโจรป่าก้าวถอยเปิดทางให้ ขุนไวยืนมองขุนพิทักษ์ที่เลือดไหลจากร่างจนพื้นสีแดงฉานจนน่ากลัว
ขุนไวหันมายิ้มอย่างสะใจ
“ไม่ต้องฆ่ามัน ปล่อยให้มันตายแบบนี้ คนจะได้คิดว่ามันตายเพราะการประลองกับข้า”
ขุนไวโยนถุงอัฐให้กับโจรป่าที่มองหน้ากันแล้วยิ้มก่อนเดินจากไป ขุนไวพลิกตัวขุนพิทักษ์แล้วดึงผ้าแพรจากขุนพิทักษ์
ขุนไวมองผ้าแพรอย่างสะใจ
“ชาตินี้ข้าจะไม่ปล่อยให้น้องรำพึงเป็นของเอ็ง”
ขุนไวลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ทิ้งขุนพิทักษ์นอนรอความตายอยู่ดายเดียว
บริเวณศาลาวัด คุณหญิงมณีที่กำลังกรวดน้ำ โดยมีหลวงตามั่นสวดบทกรวดน้ำ คุณหญิงใจไม่รู้กับเนื้อกับตัว จนทำชุดกรวดน้ำ หล่น เคร้ง! น้ำหกกระจาย ทุกคนมองคุณหญิงมณี
“ขอโทษเจ้าค่ะ”
“ตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร บุญกุศลจะช่วยผ่อนกรรมหนักให้เป็นเบา”
แจ่มรีบเอาชุดกรวดน้ำชุดใหม่มาให้คุณหญิงมณี แล้วรีบเก็บชุดเก่าเช็ดน้ำที่หกพื้น
หลวงตามั่นเริ่มสวดบทกรวดน้ำอีกครั้ง คุณหญิงมณีพยายามตั้งสติกรวดน้ำอย่างตั้งใจ
ขุนพิทักษ์ได้สติ มองไปรอบข้าง ทุกอย่างรอบข้างล้วนเป็นภาพเบลอ เสียงในหูของขุนพิทักษ์มันวิ้งอยู่ในหัว อื้ออึง
ในหัวขุนพิทักษ์เป็นภาพในอดีตต่างๆ ที่ไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้ง รำพึง ชุ่ม ขุนไวที่มีเรื่องกันครั้งแล้วครั้งเล่า ย้อนไปจนถึงภาพที่ทะเลาะกับพระยาสุรเดชไมตรีและจบภาพที่คุณหญิงมณี
ที่มองขุนพิทักษ์อย่างห่วงใย
“แม่...แม่!”
ขุนพิทักษ์พยายามกระเสือกกระสนทั้งที่ไร้เรี่ยวแรง วาระนั้นใกล้จะหมดสติเต็มที่
“ข้าจะตายไม่ได้ ไม่...”
ขุนพิทักษ์ยื่นมือพยายามจะไขว่คว้าไปในอากาศเหมือนต้องการที่พึ่ง ชุ่มมาถึงพอดี เข้าจับมือขุนพิทักษ์ไว้
“ท่านขุน!”
ขุนพิทักษ์ฯ หันมามอง
“ท่านขุนทำใจดีๆ ไว้นะเจ้าคะ”
“ชุ่ม...”
สิ้นเสียงขุนพิทักษ์ก็หมดแรง สติเหลือน้อยเต็มที
“ท่านขุน! ท่านขุน”
ชุ่มวิ่งนำ สมแบกร่างขุนพิทักษ์ที่ร้องครางด้วยความเจ็บปวด เข้ามาทางท้ายสวน
“โอย”
“อดทนหน่อยนะเจ้าคะ จะถึงเรือนแล้ว พี่สม เร็ว” ชุ่มบอกพลางก้าวข้ามเนินดิน
สมพยายามจะกระโดดข้ามเนินดินที่กีดขวาง ทำให้ร่างของขุนพิทักษ์กระเทือนกระอักเลือดออกมา
“อ๊าก”
เลือดขุนพิทักษ์ไหลเปื้อนบนร่างสม ชุ่มหันมาเห็นก็ตกใจ
“พี่สม ทำยังไงดี!”
สมมองซ้ายมองขวาเห็นเรือนท้ายสวน ก็รีบนำร่างของขุนพิทักษ์มาวางที่หน้าเรือน ขุนพิทักษ์พยายามหายใจด้วยความยากลำบาก
“ข้า...ไม่ไหว”
ชุ่มใช้มือเช็ดเลือดให้ก็ใจหาย ถึงกับจะร้องไห้
“ท่านขุน !”
“ถ้าแบกไปถึงเรือน ท่านขุนคงจะทนไม่ไหวแน่ ต้องตามหมอมาที่นี่”
“ถ้างั้นพี่ดูแลท่านขุนอยู่ที่นี่นะ ข้าจะรีบไปบอกคุณหญิง”
ชุ่มจะไป แต่มือขุนพิทักษ์ที่จับกระชับมั่น ทำให้ชุ่มชะงัก
“ชุ่ม...ชุ่ม”
“อดทนนะเจ้าคะท่านขุน ข้าจะรีบกลับมา”
ชุ่มปลดมือขุนพิทักษ์แล้วรีบวิ่งไป สมมองท่านขุนอย่างเป็นห่วง
บนเรือน เวลาเย็น … คุณหญิงมณีตกใจมากที่รู้ข่าวจากชุ่ม
“ลูกข้าบาดเจ็บ! แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“เรือนท้ายสวนเจ้าค่ะ”
“แจ่มไปตามหมอมาเร็วที่สุด!”
“เจ้าค่ะ!”
คุณหญิงมณีรีบลงจากเรือน ชุ่มรีบตามไป
คุณหญิงมณีเข้ามาในเรือนท้ายสวน ชุ่มตามเข้ามาเห็นขุนพิทักษ์ซึ่งนอนหงายเลือดกรังติดเสื้อ มีสมนั่งเฝ้าไม่ห่าง
“พิทักษ์ลูกแม่”
“คุณแม่...”
คุณหญิงมณีน้ำตาร่วง จับมือขุนพิทักษ์แน่น
“อดทนไว้นะ หมอกำลังมาแล้วลูก”
แจ่มวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“หมอมาแล้วเจ้าค่ะคุณหญิง”
หมอสมุนไพรตามแจ่มเข้ามา หมอรีบเข้ามาดูแผลของพิทักษ์แล้วพูดขึ้น
“ไปเตรียมน้ำร้อนมาล้างแผลเร็วเข้า”
ชุ่มกับแจ่มรีบวิ่งออกไป หมอบอกสม
“ช่วยเอาเสื้อออกที จะได้ล้างแผลง่ายๆ”
สมกับหมอช่วยกันถอดเสื้อขุนพิทักษ์ คุณหญิงมณียืนมองด้วยความเป็นห่วง
บริเวณหน้าเรือนพระยาเทวราช จวงมองท่าทีกระวนกระวายของรำพึง
“คุณรำพึงเจ้าคะ”
รำพึงหันมาแหวใส่
“ทำไมคุณพี่ยังไม่มาหาข้าอีก นี่มันเย็นมากแล้วนะ”
“น้องรำพึง!”
“คุณพี่!”
รำพึงดีใจรีบหัน ขุนไวก้าวเข้ามา รำพึงชะงักหน้าเสีย รำพึงเห็นผ้าแพรที่เคยให้ขุนพิทักษ์ไว้อยู่ในมือของขุนไว
“คุณพี่...ผ้าแพรนั่น”
ขุนไวยิ้มบอก
“น้องคงจำผ้าแพรผืนนี้ได้ว่าน้องเคยให้ใครไป”
รำพึงกับจวงตกใจ
“นี่หมายความว่า...”
“พี่ชนะและพี่มีสิทธิ์ในตัวน้องแต่เพียงผู้เดียว พี่จะพูดเรื่องสู่ขอน้องกับท่านพระยาให้เร็วที่สุด”
รำพึงตกใจ พลางสบตากับจวงให้ช่วย จวงอึ้งไม่รู้จะทำยังไง
“เอ่อ...”
พระยาเทวราชเดินขึ้นเรือนมา
“อ้าว!ขุนไว... มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า มาเอาป่านนี้”
ขุนไวยิ้มแล้วบอก
“คือกระผมมีเรื่อง...”
“ท่านขุนก็กำลังจะกลับพอดีน่ะค่ะคุณพ่อ” รำพึงมีแววตาบังคับรีบพูดแทรกขึ้น
ขุนไวฯ มองรำพึงแต่ยังไม่ยอมวางมือ
“ท่านพระยาขอรับ”
รำพึงยิ้มใจดีสู้เสือ
“คนจะครหาคุณพ่อของน้องได้ว่า รั้งตัวคุณพี่ไว้ทำให้ราชการเสีย”
ขุนไวหันมองรำพึง ไม่เข้าใจว่าขวางทำไม
“รีบไปเถอะท่านขุน มีอะไรไว้คุยกันวันหลัง”
ขุนไวอึ้งๆ จะดื้อดึงอีกก็ดูว่า พระยาเทวราชจะไม่สบอารมณ์
“ขอรับ”
รำพึงหันไปหาพระยาเทวราช
“คุณพ่อเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ลูกว่าคุณพ่อไปพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวลูกจะเตรียมจัดสำรับไว้ให้”
“ก็ดีเหมือนกัน”
พระยาเทวราชเดินขึ้นเรือนไป พอลับสายตา ขุนไวก็โพล่งกับรำพึงทันที
“ทำไมน้องต้องขวางไม่ให้พี่คุยกับท่านพระยา”
“คุณพ่อไม่ได้รับรู้เรื่องการดวลของคุณพี่ทั้งสองในครั้งนี้ ท่านคงไม่พอใจ หากจู่ๆมารู้ว่า คุณพี่ใช้ลูกสาวของท่านเป็นเครื่องเดิมพันลับหลังท่าน ขอเวลาน้องชี้แจงท่านก่อนเถอะค่ะ”
ขุนไวพยายามพูดข่มอารมณ์
“น้องมีเวลาแค่คืนนี้ เพราะวันพรุ่งพี่จะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอน้อง”
รำพึงหันมอง ขุนไวยิ้มอย่างยืนยันก่อนเดินจากไป รำพึงสีหน้าเครียดหนัก จวงรีบเข้ามาสาระแน
“คุณรำพึงเจ้าคะ ท่านขุนพิทักษ์แพ้ขุนไวจริงๆเหรอเจ้าคะ”
“นังจวง เอ็งรีบไปดูสิว่าคุณพี่ของข้าเป็นอย่างไร”
จวงรีบลงจากเรือนไปทันที รำพึงเริ่มกังวล
ที่เรือนท้ายสวน ขุนพิทักษ์นอนหงาย บาดแผลที่หน้าอกมียาสมุนไพรพอกบนแผลที่ถูกฟัน หมอลุกขึ้นหันมาหาคุณหญิงมณี
“ตอนนี้ ต้องให้ท่านขุนนอนพัก เพื่อให้แผลสมานกัน กระผมจะจัดยาหม้อให้เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น ให้คนตามไปรับยาด้วยขอรับ”
“แจ่มออกไปส่งท่านหมอ สม เอ็งตามไปเอายานะ”
“ขอรับ”
หมอเดินออกไป คุณหญิงมณีมองขุนพิทักษ์อย่างเป็นห่วง
“คุณหญิงเจ้าคะ ท่านขุนจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ” ชุ่มถาม
ขุนพิทักษ์ค่อย ๆลืมตาขึ้นมองคุณหญิงมณีที่หันไปคุยกับชุ่ม
“ชุ่ม เอ็งไปเจอลูกข้าที่ไหน”
“ที่ชายป่าตะวันออกเจ้าค่ะ”
“พ่อพิทักษ์ไปทำอะไรที่นั่น”
“เอ่อ...”
คุณหญิงมณีคาดคั้น
“เอ็งรู้ใช่ไหมว่าลูกข้าไปทำอะไรที่นั่น”
“ท่านขุน...”
“บอกข้ามา!”
ขุนพิทักษ์เห็นคุณหญิงมณีที่กำลังกดดันชุ่มก็พูดขึ้นอย่างอ่อนแรง
“ลูกท้าดวลกับไอ้ขุนไวขอรับคุณแม่”
คุณหญิงมณี หันมาหาด้วยความเป็นห่วง
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 6 วันที่ 12 ก.พ. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager