อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 7/5 วันที่ 18 ก.พ. 56
เมรินยิ้มระอาในความแก่แดดของนนท์ เธอเปิดการ์ดออกดูแล้วนิ่งคิดก่อนจะเปลี่ยนใจส่งให้นนท์“ช่วยอ่านให้เมย์ฟังหน่อยสิ อ่านไม่ออก”
“เรื่องเล็ก” นนท์หยิบการ์ดมาอ่าน “ตอนแรก อ๊ะ กอไก่ วอแหวน ไม้เอก อ่านว่าอะไรเนี่ย อ่านยากชะมัดเลย”
นนท์ส่งคืนให้เมรินแล้วส่ายหน้า
“เอาเป็นว่า หมายความตามนั้นนั่นแหละ มันอ่านยากนี่นา”
“อ่านยังไม่เข้าใจแล้วซื้อมาได้ยังไง”
“ก็ น้องนนท์ดูหนัง เห็นพระเอกเอาการ์ดมาให้นางเอก แล้วนางเอกซึ้งน่ะ น้องนนท์อยากให้น้องเมย์ซึ้งบ้างไง”
เมรินถอนหายใจยาว เพื่อนๆ กรี๊ดเพราะชอบใจกันใหญ่
“โห น้องนนท์เท่ห์สุดยอด” แคทชม
นนท์ยิ้มภูมิใจ
ตันหยงคิดในใจ “ตัวแค่นี้ รู้แล้วหรือความรักน่ะมันเป็นยังไง”
นักเรียนทุกคนนั่งประจำที่ สุดนภายืนอยู่หน้าห้อง
“อีกสองอาทิตย์ เราก็จะสอบแล้วนะคะ นักเรียนต้องดูแลรักษาสุขภาพ อย่าเล่นซน ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ แล้วถ้าใครทำคะแนนดีกว่าเทอมที่แล้ว ครูบี๋จะมีรางวัลให้นะคะ”
เด็กนักเรียนทุกคนดีใจ
“รางวัลอะไรครับครูบี๋” นนท์ถาม
“เป็นความลับค่ะ ถ้าบอกก่อน ก็ไม่ตื่นเต้นสิคะ”
“ครูบี๋จะพาพวกเราไปดิสนี่ย์แลนด์หรือเปล่าคะ แคทอยากจับมือกับมิกกี้เม้าธ์ แล้วก็นั่งพรมอาละดินด้วย” แคทบอก
เด็กๆฮือฮา สุดนภาตาโต
“ถ้าเปลี่ยนจากดิสนีย์แลนด์ เป็นดรีมเวิลด์ ดีกว่าไหมคะ ไปง่ายดี ครูขอให้ทุกคน ตั้งใจกับการสอบครั้งนี้ให้ดี และถ้าใครทำคะแนนสูงสุดในชั้น ครูบี๋จะมีรางวัลให้ด้วย” สุดนภายิ้ม
สุดนภาเดินมาข้างเมรินแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูเมริน
“ยกเว้นแกนะ”
สุดนภามองหน้าเมรินแล้วเดินไป เมรินทำหน้าเบื่อหน่าย
นาวินดูเอกสารหลายรายการ สุดนภาเดินถือหนังสือมาหยุดมองสังเกต นาวินคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้า สุดนภามองอย่างชื่นชม
นาวินเงยหน้ามอง “ครูบี๋” นาวินก้มหน้าทำงานต่อ
“เอ่อ..ชั้นเอารายงานมาส่งค่ะ”
“วางไว้ได้เลยครับ ขอบคุณครับ”
สุดนภาพูดกวน “นานๆจะเห็นคุณคร่ำเคร่ง ฉันว่ามันดูขัดๆนะ”
นาวินยิ้มแล้วพูดโดยไม่มอง “มันก็ต้องมีบ้าง”
สุดนภาวางรายงานแล้วยืนมองเพราะคิดว่านาวินจะคุยด้วย แต่นาวินทำงานนิ่ง สุดนภาถอนใจแล้วเดินไปก่อนจะเดินออกนอกประตูนาวินเรียกไว้
“เดี๋ยว..” สุดนภาหยุดแล้วหันมา
“คิดถึงนะ” นาวินพูดโดยไม่เงยหน้า สุดนภาทั้งอายทั้งหมั่นไส้ เธอยิ้มแล้วเดินออกจากห้องไป
ครูคณิตศาสตร์กำลังอธิบายเรื่องการบวกเลข เด็กๆตั้งใจเรียน บางคนยกมือถาม ครูอธิบาย เมรินนั่งเท้าคางหน้าเศร้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“คุณพ่อกับคุณแม่ กำลังทำอะไรอยู่นะ” ตันหยงคิดในใจ
“น้องเมย์คะตอบคำถามหน่อยซิ 15+17 เป็นเท่าไรคะ” ครูถาม
เมรินตอบทันที “32 ค่ะ”
ครูอึ้ง “เก่งมากจ๊ะ ไหนลองอีกข้อซิ 94+36 เป็น”
เมรินตอบอย่างเบื่อๆ “130 ค่ะ”
เด็กๆ ปรบมือกันยกใหญ่ เมรินหันซ้ายหันขวาแล้วยิ้มรับ
“เก่งจังแฮะ นี่ยังไม่ได้สอนเลย น้องเมย์มีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าคะ” ครูถาม
เมรินอึกอัก “ เคล็ดลับทำแบบฝึกหัดทุกวันค่ะ”
ครูปรบมือ “สุดยอด นักเรียนทุกคน เห็นไหมน้องเมย์ขยัน เรียนเก่งขึ้นเยอะเลย เด็กๆต้องกลับไปทำแบบฝึกหัดกันเป็นประจำนะคะ เห็นไม๊คะว่ามันได้ผลจริงๆ”
เสียงออดดังขึ้น เมรินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ทุกคนน่ะค่ะ ถ้าขยันและตั้งใจก็จะเรียนเก่งแบบน้องเมย์นะคะ”
“อย่าลืมกลับไปทำการบ้านที่ครูให้ไว้นะคะ คณิตศาสตร์ไม่ยากอย่างที่คิด”
ครูเดินออกไป เพื่อนๆพากันมารุมล้อมเมรินด้วยความชื่นชม
นาวินประชุมครู เขาอธิบายแผนผังการสอบอย่างเอาจริงเอาจังโดยไม่มีวี่แววล้อเล่น ผู้ร่วมประชุมนั่งฟังอย่างชื่นชม
สุดนภาคิดในใจ “ไม่อยากเชื่อ ว่าพูดจาเป็นนักวิชาการก็ได้แฮะ”
“หลักสูตรการศึกษาของเราในปีต่อไป” นาวินพูด “ผมขอให้เรามุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้กิจกรรมที่ฝึกทักษะความคิด และจินตนาการ เน้นการสอนแบบบูรณาการ ผ่านการ ฟัง พูด อ่านเขียน ไปพร้อมๆกัน เตรียมความพร้อมโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ให้เด็กสนุกกับการเรียน ไม่ใช่ท่องตามตำรา”
“ดิฉันเห็นด้วยค่ะ สองปีที่ผ่านมา หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนพัฒนาไป เพราะการวางหลักสูตรของคุณนาวิน และผลที่ออกมาคือ เด็กมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น ไม่เคร่งเครียดเหมือนเมื่อก่อน” ครูใหญ่บอก
“จริงค่ะ มีผู้ปกครองหลายคนชมว่าหลักสูตรของเราทันสมัย เด็กไม่เคร่งเครียด และสามารถไปสอบต่อที่โรงเรียนอื่นได้อย่างสบาย”
“ช่วงนี้ก็ใกล้สอบกันแล้ว หวังว่าคุณครูทุกท่านคงจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออนาคตของชาตินะครับ” นาวินบอก
ครูใหญ่หันมากระซิบกับสุดนภาที่นั่งติดกัน
“คุณนาวินนี่สุดยอดจริงๆ ตั้งแต่มารับตำแหน่งนี่ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนทำให้มาตรฐานโรงเรียนของเราเป็นที่ยอมรับมากขึ้นนะคะครูบี๋”
“จริงหรือคะ” สุดนภาถามกลับ
“โธ่น้องบี๋ ไม่ทราบหรือคะ โรงเรียนเราได้รางวัลเสมาทองคำมาสองปีซ้อนเพราะนโยบายเด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของคุณนาวินนี่แหละค่ะ”
สุดนภาทำหน้างง ทุกคนปรบมือให้นาวิน นาวินโค้งรับแล้วหันมายักคิ้วให้สุดนภา
เมรินนั่งเซ็งอยู่ในห้อง แคทเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย
“จะเดินไปไหน มีอะไรไม่สบายใจหรือ” เมรินถาม
“แคทกลัวจะสอบได้คะแนนไม่ดี คราวนี้แคทโดนทำโทษแน่เลย”
ตันหยงคิดในใจ “ขนาดนั้นเชียวหรือ โธ่เด็กเอ๊ยเด็ก”
“แม่ชอบบอกว่าแคทโง่ ไม่เหมือนลูกของป้า สอบทีไรได้ที่ 1 ทู๊กที แคทจะทำไงดีล่ะเนี่ย”
“เอาน่า เราช่วยติวให้ก็ได้”
แคทงง “ติวหมายถึงอะไรหรือ”
“ก็หมายถึง ช่วยสอนทบทวนให้ไง”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว จะติวให้เราจริงๆหรือ น้องเมย์ใจดีจังเลย”
แคทกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เมรินมองแคทแล้วยิ้ม
ที่มุมหนึ่งในโรงเรียน เมรินชี้พร้อมกับอธิบายให้แคทฟัง แคทจดไป เกาหัวไป
เวลาผ่านไป เมรินสอนเพื่อนๆ หลายคนทำแบบฝึกหัด มิ้งค์มายืนมองเพราะอยากร่วมวงติวด้วย
มิ้งค์พูดเชิดๆ “ขยันกันไปก็แค่นั้นแหล่ะ ยังไงปีนี้เราต้องได้ของขวัญจากครูบี๋แน่นอน”
“แต่ครูบอกว่า เราต้องทำแบบฝึกหัดเยอะๆเราถึงจะเก่งเหมือนน้องเมย์นะ” นนท์บอก
“เก่งเหมือนเมย์เหรอ ปีที่แล้วยังเกือบไม่ได้ขึ้นชั้น ปีนี้จะเก่งได้ขนาดไหนเชียว” มิ้งค์งอนๆ
มิ้งค์เชิดหน้าแล้วเดินไป
“ไม่ต้องเสียใจนะน้องเมย์ ถ้านนท์ได้ของขวัญจากครูบี๋ น้องนนท์จะเสียสละให้น้องเมย์เอง”
เมรินขำ
วันต่อมา สุดนภาสอน นักเรียนในห้องตั้งใจเรียน สุดนภาชี้ให้แคทลุกขึ้นตอบคำถาม แคทลุกขึ้นนับนิ้วมือแล้วตอบคำถามถูกต้อง เพื่อนๆปรบมือชื่นชม นาวินที่ยืนแอบมองสุดนภาสอนนักเรียนอยู่หลังห้องยิ้มชื่นชม
เวลาผ่านไป เมรินอ่านภาษาอังกฤษให้เพื่อนๆกลุ่มใหญ่ฟัง เพื่อนๆอ่านออกเสียงตามอย่างตั้งใจ สุดนภายืนแอบดูเมรินติวหนังสือให้เพื่อนๆ ด้วยความปลื้มใจ
“น่าปลื้มใจจริงๆ เห็นนักเรียนตั้งใจแบบนี้ ครูก็ดีใจ”
สุดนภาหันหลังเดินออกมาเห็นนาวินยืนยิ้มมองเธออยู่
“อุ๊ย... มาแอบยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คุณนาวิน” สุดนภาแกล้งทำเป็นโกรธ
“มาตั้งแต่ น่าปลื้มใจแล้วครับ คุณครูคนเก่ง”
สุดนภาเขินจึงเดินชนนาวินออกไป นาวินเจ็บแต่ก็ขำแล้วมองตาม ก่อนจะหันมามองเด็กๆ อย่างชื่นชม
เด็กทุกคนนั่งทำแบบฝึกหัด มิ้งค์มีสีหน้าอึดอัดเดินเข้ามา
แคทกระซิบเมริน “มิ้งค์จะมาหาเรื่องเราอีกหรือเปล่าเนี่ย”
“บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องกลัว ห้ามกลัว” เมรินบอก
แคทพยักหน้ามองมิ้งค์อย่างเกรงๆ
“เรามีเรื่องจะพูดกับเมย์” มิ้งค์บอก
มิ้งค์เดินมาเผชิญหน้ากับเมริน ทั้งคู่สบตากัน
“มีอะไรก็ว่าไป” เมรินบอก
“เราจะขอทำแบบฝึกหัดด้วยได้มั๊ย”
ทุกคนได้ยินก็โล่งใจ
เมรินยิ้ม “ได้สิ เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่ได้”
มิ้งค์เดินไปนั่งข้างนนท์ เมรินมองตามแล้วยิ้ม
“คิดว่าจะมีเรื่องซะแล้ว” แคทบอก
“บอกแล้วไง คิดไปเองน่ะมันน่ากลัว ทำแบบฝึกหัดต่อไปเถอะ”
เมรินติวเพื่อนจนคนเพิ่มเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น เด็กคนอื่นๆ ตั้งใจฟังเมรินอธิบาย
ปฐวีเดินมาที่หน้าห้องเรียน ครูใหญ่เดินมาทักปฐวี
“สวัสดีค่ะคุณหมอปฐวี”
“นี่เด็กๆกำลังทำอะไรอยู่ครับ ดูท่าทางขยันเป็นพิเศษ” ปฐวีถาม
“อ๋อ น้องเมย์กำลังติวหนังสือให้เพื่อนๆค่ะ เดี๋ยวนี้น้องเมย์เก่งขึ้นนะคะ มีความรับผิดชอบ ไม่งอแงเหมือนเมื่อก่อน ไม่ทราบทางครอบครัวมีวิธีการสอนอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
ปฐวีงง “ก็เปล่านี่ครับ เหมือนปกติ”
“แหม ถ้ามีอะไรเป็นพิเศษก็กระซิบบอกทางโรงเรียนบ้างนะคะ เราจะได้เอามาใช้บ้าง เผื่อนักเรียนของเราจะพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเหมือนน้องเมย์ไงคะ”
ปฐวีมองไปที่เมรินด้วยความแปลกใจ
เมรินยังคงยืนอ่านหนังสือให้เพื่อนฟัง
ปฐวีกับเมรินเดินคุยกัน เมรินบิดตัวอย่างเมื่อยขบ
“เหนื่อยจังเลย แค่ติวหนังสือเด็กๆแค่นี้” เมรินบอก
“น้าวีไม่ยักรู้ ว่าเดี๋ยวนี้เก่งใหญ่แล้ว ติวให้เพื่อนๆด้วย”
เมรินอึกอึก “มันไม่มีอะไรนี่ค่ะ แค่ช่วยกันทำแบบฝึกหัด ไปเถอะค่ะ น้องเมย์หิวจะแย่แล้ว”
“หิวแล้วใช่ไม๊ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวน้าวีจะพาไป”
“จริงเหรอคะ”
ปฐวีพยักหน้า “เป็นรางวัลเด็กดี ที่ช่วยเหลือเพื่อนๆ”
นาวินเดินมา
ปฐวีชวน “อ้าว นาวิน ว่างหรือเปล่า ไปกินข้าวด้วยกันมั๊ย”
นาวินส่ายหน้า “ตามสบายเลยเพื่อน วันนี้ชั้นขอตัวว่ะ พอดีมีนัดแล้ว”
นาวินยิ้มอมภูมิ
“นัดอะไรของแก อย่าบอกนะว่านัดสาว”
นาวินทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ปฐวีมองเพื่อนแล้วส่ายหน้า
แม่ของนนท์จูงมือนนท์จะออกไปเรียกรถแท็กซี่ ปฐวีกับเมรินเดินมา นนท์รีบวิ่งมาทัก
“น้องเมย์” นนท์พูดกับแม่ “แม่คับ นี่น้องเมย์ แฟนของนนท์ไงครับ น่ารักมั๊ย”
เมรินตาโต แต่ก็มองนนท์แบบขำๆ ปฐวีเหล่มองเมรินแบบล้อๆ
“สวัสดีค่ะ” แม่นนท์พูดกับปฐวี “สวัสดีคุณพ่อด้วย”
“ไม่ใช่พ่อคับ นั่นแฟนใหม่น้องเมย์” นนท์บอก
ปฐวีขำก๊าก เมรินงอน
“ตายจริง นนท์ทำไมพูดแบบนั้น” แม่นนท์พูดกับปฐวี “ขอโทษนะคะ เด็กสมัยนี้แก่แดดแก่ลมเหลือเกิน”
“ไม่เป็นไรครับ นี่จะกลับบ้านหรือครับ”
“ค่ะ พอดีรถเข้าอู่ เลยต้องใช้แท็กซี่”
ปฐวีนิ่งคิดเมื่อมองเห็นข้าวของในมือแม่ของนนท์พะรุงพะรัง
“เดี๋ยวผมไปส่งให้ดีกว่าครับ”
แม่นนท์ลังเล “จะดีหรือคะ เกรงใจคุณ”
“ไม่เป็นไรครับ” ปฐวีล้อ “เราเป็นลูกผู้ชายต้องมีน้ำใจ ใช่มั๊ยนนท์”
ปฐวียิ้มให้นนท์แล้วหันไปหลิ่วตาล้อเมริน เมรินค้อน
“ดีใจจัง ได้กลับบ้านพร้อมน้องเมย์แล้ว”
นนท์กระโลดเต้นดีใจ เมรินยิ้มเซ็ง ผู้ใหญ่ทั้งสองมองแล้วยิ้มส่ายหน้า
รถของปฐวีแล่นมาจอดที่หน้าบ้านนนท์ แม่นนท์กับนนท์ก้าวลงจากรถ
“ขอบคุณมากนะคะ คุณปฐวี”
“ไม่เป็นไรครับ” ปฐวีพูดกับนนท์ “เราเป็นเพื่อนกันนะ”
นนท์นิ่งคิด “ก็ได้ เป็นเพื่อนกันแต่ถ้าทำให้น้องเมย์เสียใจละก็ เราเอาเรื่องนายแน่”
ปฐวีทำตาโต “รับรองได้ เราจะดูแลน้องเมย์อย่างดีเลย ไม่ต้องห่วงนะ”
นนท์พูดกับเมริน “ถ้าเค้าทำอะไรให้น้องเมย์เสียใจบอกนนท์นะ นนท์จะจัดการให้”
เมรินทำหน้าเหนื่อย
“น้องนนท์พูดอะไรก็ไม่รู้” แม่นนท์พูดกับปฐวี “จำมาจากในหนังน่ะคะ ดูจังเลยหนังเกาหลี ขอโทษนะคะ น้องเมย์ คุณปฐวีด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ปฐวีขึ้นรถแล้วขับออกไป นนท์กับแม่โบกมือให้จนลับตา
เมรินนั่งงอนจึงหันหน้ามองออกไปนอกรถ
“หิวแย่เลยสิ น้าวีขอโทษนะ”
เมรินแอบยิ้มที่ปฐวีห่วงใย
ตันหยงคิดในใจ “นึกว่าจะไม่สนใจ”
รถของเมธีจอดอยู่ที่หน้าบ้านของฉัตรพร ปฐวีมองเห็นแล้วก็อึ้งไป เมรินถามทันที
“น้าวีคะ นั่นรถคุณพ่อใช่มั๊ย”
ปฐวีตอบอย่างมีพิรุธ “ไหนไม่ใช่มั๊ง คุณพ่อจะมาทำอะไรแถวนี้”
เมรินหันมามองหน้าปฐวีอย่างจับผิด ปฐวีทำไม่รู้ไม่ชี้
“เหมือนจังเลย หรือว่าจะจำผิด”
“น้าวีว่าน้องเมย์จำผิดแล้วล่ะ ไม่ใช่หรอก”
เมรินนิ่งคิด ปฐวีแอบมองเมรินแล้วถอนหายใจก่อนจะคิดไปถึงเมธี
ปฐวีเดินจูงมือเมรินมาตามทางเดินในห้างสรรพสินค้า
“น้องเมย์อยากทานร้านไหนคะ” ปฐวีถาม
“ตามใจน้าวีค่ะ น้องเมย์ทานอะไรก็ได้”
“งั้นเดินดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าอยากทานร้านไหน”
ปฐวีจูงมือเมรินแล้วเดินไปชนกับสาวสองคน
“ขอโทษครับ”
สองทั้งสองมองเห็นปฐวีชัดๆ ก็ทำท่ากิ๊วก๊าว
“ไม่เป็นไรค่ะ ลูกหรือคะ แหมน่ารักจังเลย”
สาวอีกคนจับแก้มเมริน “มากับคุณพ่อเหรอคะ”
ปฐวีและเมรินมองหน้ากัน ปฐวียิ้มเจื่อน เมรินหน้าหงิก
“หลานสาวผมเองครับ” ปฐวีบอก
“อุ๊ย หน้าแตกเลยเรา ขอโทษนะคะนึกว่าเป็นคุณพ่อน่ะคะ”
สองสาวซุบซิบกัน
“หน้าคุ้นจังเลยนะคะ เหมือนเคยเจอที่ไหน แต่นึกไม่ออก”
ปฐวียิ้ม ส่วนเมรินหน้าคว่ำและดึงมือปฐวี
“ไปเถอะคะน้าวี น้องเมย์หิวแล้ว อาหารญี่ปุ่นก็ได้”
เมรินลากแขนปฐวีเดินไป ปฐวีมองสองสาวอย่างขอโทษ
“ขอโทษนะครับ ขอตัวไปก่อนนะครับ”
“ขอโทษทำไมคะ น้าวีทำอะไรผิด”
เมรินจ้องหน้าปฐวีแบบเอาเรื่อง ปฐวีหน้าเหวอ เมรินค้อนแล้วเดินลิ่วไป
ปฐวีเซ็ง “งอนอีกแล้ว”
อีกมุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้า นาวินเดินตามสุดนภาโดยแบกหนังสือถุงโตมาด้วย สุดนภาเดินมองเพื่อเลือกร้านอาหารอย่างใจเย็น
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 7/5 วันที่ 18 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager