อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/5 วันที่ 23 ก.พ. 56
ปรางค์ทิพย์หงุดหงิด เธอคว้าหนังสือนิทานในมือลูกมาขว้างทิ้ง“อย่าเรื่องมากนักเลย ไม่เห็นหรือไงว่าชั้นยุ่งอยู่”
ปรงแก้วกับปรงค์ขวัญมองหน้ากันจ๋อยๆ แล้วค่อยๆ เดินจูงมือกันไปนอนเงียบๆ ปรางค์ทิพย์มองตามแล้วหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกอีก
“ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ มีอะไรปิดบังชั้นงั้นหรือ คุณสรร”
ปรางค์ทิพย์แค้นจึงขว้างโทรศัพท์ทิ้งแล้วนั่งลงกุมขมับปวดหัว
ที่โต๊ะเลขาเสกสรร เลขารับสายโทรศัพท์
“คุณเสกสรรไม่อยู่ค่ะ ออกไปทานข้าวเดี๋ยวนี้เอง คุณปรางค์มีอะไรจะฝากไว้มั้ยคะ”
ปรางค์ทิพย์ยืนพูดโทรศัพท์อยู่ในตึก
“ไม่ต้อง”
ปรางค์ทิพย์กดปิดโทรศัพท์แล้วเดินมากดลิฟต์แล้วยืนรอ ปรางค์ทิพย์จะเดินเข้าไปแต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นเอกวิ่งออกมาหน้าลิฟต์
“พ่อครับ เร็วสิครับ เอกหิว” เอกพูด
เสกสรรเดินออกมาจากลิฟต์แล้วก้มลงพูดกับเอก
“มาแล้วครับ รอคุณแม่แป๊บนึงนะ”
ริสาเดินออกจากลิฟต์มาจับมือเอกกับเสกสรร
ปรางค์ทิพย์ตะลึง
ปรางค์ทิพย์ตะลึง
“คุณเสกสรร”
เสกสรรชะงัก “คุณปรางค์”
ปรางค์ทิพย์มองหน้าริสา ปรางค์ทิพย์เลื่อนสายตาไปดูกระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า นาฬิกาข้อมือของริสาที่เหมือนของเธอไม่มีผิด
“นังนี่เป็นใคร”
เสกสรรอึกอัก ปรางค์ทิพย์ชะงัก
“แกไอ้คนทรยศ แกกล้าเอาเงินของชั้นมาให้มันหรือ” ปรางค์ทิพย์ด่า
ปรางค์ทิพย์กระโดดเข้าตบริสาพัลวัล
เสกสรรเข้ามาห้ามก็โดนปรางค์ทิพย์ตบด้วย เสกสรรยื้อปรางค์ทิพย์ไว้
“หยุดซะที อายคนอื่นบ้างสิคุณปรางค์”
“ชั้นไม่อาย ไอ้คนขี้โกง ไอ้คนทุเรศ”
ปรางค์ทิพย์ตบเสกสรร เสกสรรโมโหจึงผลักปรางค์ทิพย์กระเด็นไปที่พื้น
“นี่แกกล้าทำชั้นหรือ........... ไอ้คนชั่ว ไอ้คนเลว” ปรางค์ทิพย์ด่า
“งั้นก็เชิญคุณสาธยายให้พอ แล้วเราค่อยคุยกัน” เสกสรรบอก
เสกสรรกวาดต้อนริสากับเอกให้เดินออกไป คนมากมายมามุงดูและวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่ ปรางค์ทิพย์มองตามด้วยความแค้นจนน้ำตาไหล
ปรางค์ทิพย์เดินเข้าบ้านอย่างหมดแรง หัวหูของเธอยุ่งไปหมด บุญศรี ปรงแก้วและปรงขวัญนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ พอเห็นปรางค์ทิพย์เดินเข้ามาก็กลัวจนลนลาน
“แม่ขา แก้วจะไปทำแบบฝึกหัดเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
“ขวัญกำลังจะเก็บแล้วค่ะคุณแม่ อย่าโกรธขวัญนะคะ”
ปรางค์ทิพย์ไม่สนใจใคร เธอเดินมานั่งหมดแรง บุญศรีเห็นท่าทางของปรางค์ทิพย์ก็ตกใจ
“คุณปรางค์เจ้าขา เป็นอะไรไปคะ ทำไมถึงได้”
ปรางค์ทิพย์นิ่งไม่ตอบ ปรงแก้วกับปรงขวัญขยับจะวิ่งเข้ามาหาแม่ แต่บุญศรีรีบดึงไว้
“อย่าค่ะคุณแก้วคุณขวัญ” บุญศรีกระซิบ “คุณแม่อารมณ์ไม่ดี ขึ้นไปข้างบนก่อนเถอะนะคะ”
ปรงแก้วกับปรงขวัญมองแม่ตัวเองอย่างกลัวๆ แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงขึ้นไปข้างบนกับบุญศรี ปรางค์ทิพย์มองดูรูปครอบครัวของตัวเองตรงหน้า
“คุณสรร คุณทำแบบนี้กับชั้นได้ยังไง”
ปรางค์ทิพย์ซบหน้าลงกับฝ่ามือเหมือนจะร้องไห้ แล้วปรางค์ทิพย์ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างเคียดแค้น
“ไม่ ชั้นต้องไม่ร้องไห้ ชั้นจะไม่แพ้ ไม่แพ้นังภัสเด็ดขาด”
ปรางค์ทิพย์นั่งนิ่งพยายามจะไม่ร้องไห้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
ปรงทองนั่งคุยกับแม้นวาด
“เจ้าเมย์ไม่อยู่ซะคน บ้านเงียบเชียบพิลึก” ปรงทองว่า
“โธ่ คุณหญิงก็น่าจะไปเที่ยวพักผ่อนบ้างนะคะ” แม้นวาดบอก
“ชั้นมันแก่แล้วเห็นอะไรมาก็มาก ปล่อยให้หนุ่มสาวๆเค้าเที่ยวกันน่ะดีแล้ว จะได้ไม่ต้องกังวลกับคนแก่อย่างชั้น”
“อิชั้นว่า ที่คุณท่านไม่ยอมไปเที่ยว เป็นเพราะคุณท่านเป็นห่วงคนที่อยู่มากกว่าใช่มั๊ยคะ”
“หล่อนนี้ช่างรู้ใจชั้นจริงๆนะแม่วาด”
“ในครัวโจษกันให้แซดว่า คุณสรรไม่กลับบ้านมาหลายคืนแล้ว อิชั้นหวั่นใจเหลือเกิน”
“หวั่นใจเรื่องอะไร”
“คุณท่านคะ นิสัยคุณปรางค์น่ะ ผิดพี่ผิดน้อง เฮ่อ”
ปรงทองถอนหายใจ “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราห้ามมันไม่ได้หรอกแม่วาด ถึงจะห่วงเท่าไหร่ก็เถอะ”
“อิชั้นก็คิดอย่างนั้นแหล่ะค่ะ”
“แม่ภัสน่ะชั้นหมดห่วงแล้ว เหลือแต่เจ้าวีอีกคน ชอบคิดอะไรเงียบๆ เดาใจยากเหลือเกิน”
ปรงทองวิตก แม้นวาดมองอย่างเห็นใจ
ประภัสสร เมธีและเมรินนั่งอยู่ในห้องอาหาร เมรินชะเง้อมองที่ประตู
“มองหาใครคะน้องเมย์” ประภัสสรถาม
“เปล่าค่ะ”
เมธีล้อ “มองหาน้าวีใช่มั๊ย ไม่ต้องห่วง ลงมาตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นว่าไปเดินเล่นกับหมอหนึ่ง คนมีความรักก็แบบนี้”
“คุณนี่ก็พูดอะไรไม่รู้”
“อ้าว ผมพูดความจริงนี่นา”
ประภัสสรค้อนเมธี ส่วนเมรินจ๋อยไป
ปฐวีกับหนึ่งฤทัยเดินเล่นริมชายหาด
“เสียดายจังเลย วันนี้ต้องกลับแล้ว” หนึ่งฤทัยบอก
“หนึ่งก็หาเวลาพักผ่อนบ้างสิครับ”
“วีนั่นแหล่ะค่ะ ไม่ค่อยยอมพัก คราวหน้าวีต้องพาหนึ่งมาเที่ยวอีกนะคะ”
ปฐวียิ้ม “ได้ครับ”
หนึ่งฤทัยยิ้มปลื้มใจ เธอเดินตามปฐวีไปแล้วสะดุด เท้าของหนึ่งฤทัยถูกเปลือกหอยบาดจนเลือดไหล
“ตายจริง หนึ่งซุ่มซ่ามไม่เข้าเรื่อง โดยเปลือกหอยบาดซะได้”
ปฐวีรีบเข้าไปประคอง
“ไม่เป็นไรครับ เอาผ้าอุดไว้ก่อน แผลเล็กแค่นี้ คงไม่ต้องเย็บหรอกครับ”
“ค่ะ แต่มันเจ็บนะคะ”
“งั้นผมพยุงดีกว่า”
ปฐวีพยุงหนึ่งฤทัย หนึ่งฤทัยแอบยิ้มเขินที่ได้ใกล้ชิดปฐวี
เมรินมองไปที่ประตูแล้วรีบก้มหน้า ปฐวีประคองหนึ่งฤทัยเดินเข้ามาที่โต๊ะ ประภัสสรเห็นก็รีบเข้าไปหา
“ตายจริง หมอหนึ่งเป็นอะไรไปคะ”
“หนึ่งซุ่มซ่ามเองค่ะ พี่ภัส เดินไม่ดูเลยโดนเปลือกหอยบาด” หนึ่งฤทัยบอก
ปฐวีประคองหนึ่งฤทัยให้นั่ง
“ไม่เป็นไรแล้วครับ เดี๋ยวทานยาแก้อักเสบกันซะหน่อย แต่อย่าใช้เท้าข้างนี้นะครับ เดี๋ยวจะอักเสบซ้ำ”
“แล้วหนึ่งจะขับรถกลับยังไงเนี่ย”
ปฐวีนิ่งคิด “เดี๋ยวผมขับให้เองครับ”
“ขอบคุณมากนะคะวี”
“เออจริงสิ หนึ่งจะทานอะไรเดี๋ยวผมไปตักให้” ปฐวีถาม
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“งั้นรอผมตรงนี้นะครับ”
ปฐวีเดินออกไป เมรินมองตามอย่างเซ็งๆ
สุดนภาที่อยู่อีกโต๊ะมองด้วยความหมั่นไส้
“แค่นี้ก็ต้องให้หมอวีขับรถให้ด้วยหรือ”
“แล้วไง คุณหึงหรือไง” นาวินถาม
สุดนภาทำเสียงคำรามดุ
นาวินจ๋อย “ขอโทษคร๊าบ”
สุดนภาค้อน
ประภัสสรยิ้มเอ็นดูหนึ่งฤทัยกับปฐวี
“แหมคู่นี้เค้าน่ารักเหมือนกันนะคะ เมธี”
“ผมก็ว่างั้นแหล่ะ” เมธีหันมาหาเมริน “อ้าว ทำไมไม่ทานล่ะลูก”
“ยังไม่ค่อยหิวค่ะ” เมรินตอบ
“งั้นหรือ ไว้ค่อยแวะหาอะไรทานกลางทางก็ได้นะ แล้วคุณล่ะคุณภัส ไม่เห็นทานอะไรเลย”
“ภัสเวียนหัวน่ะคะ ไม่รู้เป็นยังไง มึนๆอยากจะนอนอย่างเดียว”
เมธีเป็นห่วงจึงเอามือแตะหน้าผากภรรยา “ผมว่าคุณคงจะป่วยซะแล้ว”
ประภัสสรยิ้ม “ดูโน่นสิคะ”
ประภัสสรกับเมธีเห็นหนึ่งฤทัยกับปฐวียิ้มแย้มให้กัน
“ถ้าคู่นี้ลงตัว ภัสก็หมดห่วง ตาวีจะได้มีแฟนสะที”
เมรินมองหนึ่งฤทัยกับปฐวีแล้วก็เศร้า เธอรู้สึกเจ็บแปล็บจนไม่อยากมอง
ตันหยงคิดในใจ “ใครๆก็มองว่าคุณเหมาะสมกัน ก็คงเหมาะสมกันจริงๆ”
สุดนภากับนาวินกำลังเดินเลือกอาหาร
สุดนภากระซิบ “แน่ใจนะ ที่คุณว่า หมอวีชอบตันหยงเพื่อนชั้น”
“แน่ใจสิ” นาวินตอบ
“งั้นคุณดูนั่นก่อน”
นาวินกับสุดนภาเห็นปฐวีกำลังประคับประคองหนึ่งฤทัย
“เอ่อ..ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วแฮะ ..เอาเป็นว่าขอถอนคำพูดได้มั๊ย”
“บ้าจริง”
“ก็เวลาเปลี่ยน ใจคนอาจจะเปลี่ยนได้ไง”
“แล้วเพื่อนชั้นจะรู้สึกยังไงล่ะ”
“อ้าว ก็เพื่อนคุณนอนอยู่โรงพยาบาล จะมารู้เรื่องนี้ได้ไง หรือว่าคุณจะไปเล่าให้ฟัง เค้าก็ไม่น่าจะรู้เรื่อง”
สุดนภาฉุน “พนันกันมั๊ย ว่าหยงรู้เรื่องทั้งหมด”
“อะไรของคุณเนี่ย”
สุดนภามองเห็นเมรินกำลังมองปฐวีกับหนึ่งฤทัยนิ่ง
สุดนภากับนาวินเดินเข้ามานั่ง
“อ้าวน้องเมย์ เป็นอะไรไปคะ อิ่มแล้วหรือ” สุดนภาถาม
“นั่นน่ะสิ สงสัยจะคันผื่นมั๊ง ทาแป้งตัวลายเป็นแมวน่ารักเชียว” นาวินแซว
เมรินนั่งหน้าเซ็ง สุดนภาแอบหยิกนาวิน
“คุณน่ะทานได้แล้ว จะได้รีบกลับ”
นาวินมองสุดนภาแล้วลงมือกิน ปฐวีกับหนึ่งฤทัยเดินมานั่งที่โต๊ะ หนึ่งฤทัยหันมาทักเมริน
“เป็นยังไงบ้างคะน้องเมย์ สนุกมั๊ย”
“ค่ะ ก็ดี”
เมรินก้มหน้ากินอาหารไม่พูดไม่จา สุดนภามองเมรินแล้วหันไปมองหนึ่งฤทัยกับปฐวีแล้วก็เก็ททันที สุดนภาถอนหายใจเพราะสงสารเพื่อน
เมธี ประภัสสร และเมรินยืนรออยู่ที่รถ หนึ่งฤทัย ปฐวี นาวิน และสุดนภาเดินมา
“พี่เมธีครับ ผมขอตัวไปขับรถให้หมอหนึ่งนะครับ” ปฐวีบอก
“ได้เลยวี ไม่ต้องห่วง ทางนี้พี่จัดการเอง” เมธีรับคำ
“เกรงใจจังเลยค่ะ มารบกวนแล้วยังเป็นภาระให้วีขับไปส่งอีก” หนึ่งฤทัยพูด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณหมอหนึ่ง คนกันเองแท้ๆ” ประภัสสรบอก
หนึ่งฤทัยยิ้มให้ทุกคน
เมรินเอ่ยขึ้น “น้องเมย์ขอรอในรถนะคะ”
เมรินเดินขึ้นรถไปอย่างงอนๆ ทุกคนมองตาม
“น้องเมย์เป็นอะไรไป ท่าทางอารมณ์ไม่ดีเลย” ปฐวีงง
“สงสัยจะหงุดหงิดคันแผลนั่นแหละ พี่ขอตัวก่อนนะคะ วีดูแลหมอหนึ่งด้วยล่ะ ครูบี๋ นาวิน ไปก่อนนะคะ คราวหน้ามาเที่ยวด้วยกันใหม่นะ”
“ผมยินดีมาทุกงานเลยครับ สนุกจังตังค์อยู่ครบแบบนี้ ลงชื่อก่อนได้มั๊ยเนี่ย” นาวินถาม
สุดนภาแอบหยิกนาวินแล้วหันไปยกมือไหว้ลาประภัสสรเมธี
“ขอบคุณนะคะ บ๊ายบาย”
ประภัสสรกับเมธีขึ้นรถแล้วขับออกไป ปฐวีพาหนึ่งฤทัยไปที่รถแล้วเปิดประตูให้ เมรินที่นั่งมองอยู่ในรถถอนหายใจออกมา ปฐวีปิดประตูแล้วหันมามองรถเมริน เมรินนั่งนิ่งเงียบและมองตรงไปข้างหน้าไม่ยอมหันมามองปฐวีแม้แต่น้อย
สุดนภามองตามเพื่อนแล้วถอนหายใจ
“เป็นอะไรของคุณ เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆ กลุ้มอะไรนักหนา” นาวินถาม
สุดนภาค้อนนาวินแล้วมีสีหน้าไม่สบายใจ
รถของเมธีแล่นเข้าบ้าน ประภัสสรกับเมธีเดินลงจากรถ เมรินเดินลงตามมาแล้วเดินดิ่งขึ้นไปบนบ้านทันที
“น้องเมย์เป็นอะไรหรือเปล่า นั่งเงียบตลอดทางเลย”
“คงจะไม่สบายตัวนั่นแหละค่ะ” ประภัสสรพูดกับสายแก้ว “ของชุดใหญ่เดี๋ยวเอาไว้บนโต๊ะก่อนนะ อันนั้นของคุณย่ากับย่าแม้น จริงสิ ภัสจะเอาของไปให้พี่ปรางค์ก่อน คุณจะไปด้วยกันมั๊ยคะ”
“ผมขอตัวนะ ขอรอภัสตรงนี้ดีกว่า” เมธีบอก
ประภัสสรมองอย่างเข้าใจ “ค่ะ เดี๋ยวภัสไปเอง”
เมธีมองประภัสสรอย่างขอบคุณ ประภัสสรมองของในมือแล้วถอนหายใจหนัก
ปรางค์ทิพย์นั่งหน้าเครียดอยู่ในบ้าน ปรงแก้วกับปรงขวัญนั่งทำแบบฝึกหัดอยู่ห่างๆ อย่างกลัวๆ ประภัสสรเดินถือของเข้ามาหาแล้วพูด
“เด็กๆ น้ามีของมาฝากค่ะ”
ปรงแก้วกับปรงขวัญรีบวิ่งมารับของแล้วกรี๊ดกร๊าด
“แก้วกับขวัญน่าจะไปด้วยนะคะ สนุกมากเลย” ประภัสสรพูดกับปรางค์ทิพย์ “พี่ปรางค์คะ ภัสซื้อขนมไทยที่พี่ปรางค์ชอบมาฝากด้วยนะคะ”
ปรางค์ทิพย์เมินหน้า ประภัสสรสังเกตเห็น
“พี่ปรางค์ไม่สบายหรือเปล่าคะ หน้าซีดจังเลย”
“ชั้นไม่ตายง่ายๆหรอกแม่ภัส”
ประภัสสรผงะ “โธ่พี่ปรางค์คะ ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”
“ขอบใจทีหลังไม่ต้องเอาของมาฝากชั้นหรอก ชั้นไม่อยากได้ของของใคร”
ประภัสสรอึ้ง “ค่ะพี่ปรางค์ เอ่อ งั้นภัสขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญ”
ประภัสสรเดินออกไป ปรางค์ทิพย์มองตามด้วยสีหน้าแค้น
“ไปเที่ยวกันมา มีความสุขกันมากใช่ไหม”
ปรางค์ทิพย์หันมาเห็นปรงแก้วกับปรงขวัญหยิบของออกมาดูอย่างตื่นเต้น ปรางค์ทิพย์เดินมาคว้าของจากมือลูกๆ แล้วทิ้งลงที่พื้น
“ไม่ต้องไปอยากได้ของๆมัน นังศรีเอาไปทิ้งให้หมด อย่าให้ชั้นเห็นรกลูกตา”
ปรงแก้วกับปรงขวัญตกใจ ทั้งสองรีบวิ่งไปเก็บของขึ้นมาถือไว้ในมือ ปรางค์ทิพย์เดินมาที่ประตู เธอเห็นเมธีเดินประคองประภัสสรเข้าไปในบ้าน ปรางค์ทิพย์แค้น
“แกรักกันมาใช่มั้ย...”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 10/5 วันที่ 23 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager