@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9 วันที่ 20 ก.พ. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9 วันที่ 20 ก.พ. 56

“ค่ะ” สุดนภาตอบ
หนึ่งฤทัยยืนมองทุกคน
“นี่หมอหนึ่ง คุณหมอประจำเคสของคุณตันหยงไง นี่คุณบี๋เพื่อนสนิทของคุณตันหยง”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ สวนกันไปสวนกันมา ไม่ได้คุยกันซักที” สุดนภาบอก
“สวัสดีครับหมอหนึ่ง” นาวินพูดกับปฐวี “จะไปไหนวะ งานการไม่ทำหรือ ไอ้หมอ”
“งานด่วน จะพาหลานสาวไปช๊อปปิ้ง” ปฐวีบอก

สุดนภาหูผึ่ง
“แน่ใจนะคะ ว่าไม่ให้หนึ่งไปช่วยเลือก” หนึ่งฤทัยถาม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเกรงใจ”



หนึ่งฤทัยจ๋อย
“ไปก่อนนะไอ้วิน ขอตัวก่อนนะครับ”
แล้วปฐวีก็เดินไป หนึ่งฤทัยมองตามไปแล้วแอบถอนหายใจ สุดนภาสะกิดนาวิน
หนึ่งฤทัยเอ่ยขึ้น “งั้นหนึ่งก็ขอตัวก่อนนะคะ”
หนึ่งฤทัยเดินไป
นาวินกับสุดนภาเดินคุยกัน
“นี่หมอหนึ่งเค้าเป็นแฟนคุณวีหรือเปล่า” สุดนภาถาม
“ไม่รู้แฮะ แต่ดูท่าทางหมอหนึ่งจะชอบเจ้าวีมันอยู่” นาวินนึกได้ “ถามทำไมเนี่ย หรือสนใจไอ้วีมัน”
สุดนภาแยกเขี้ยวใส่ “บ้า เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ไม่งั้นชั้นเปลี่ยนใจจริงๆด้วย”
สุดนภางอนไป นาวินมองตามแล้วนิ่งคิดก่อนจะยิ้มออก

ปฐวีกับเมรินจูงมือกันเดินไปตามร้านต่างๆ ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ปฐวีกับเมรินมาอยู่ในร้านขายของกุ๊กกิ๊ก ปฐวีเดินไปหยิบหมวกมาใส่แล้วสะกิดให้เมรินดู เมรินส่ายหน้า ปฐวีเปลี่ยนหมวกใบใหม่ เมรินหัวเราะขำ ปฐวีทำท่าเซ็ง
ปฐวีหยิบของกุ๊กกิ๊กของผู้หญิงขึ้นมา เมรินส่ายหน้า เมรินหยิบของจากมือปฐวีไปวางที่เดิม ปฐวียักไหล่
เวลาผ่านไป เมรินเดินมอง ปฐวีชะงักแล้วดึงมือเมรินไปดูที่ชั้นวางโมเดลรถ
“อันนี้เป็นยังไง”
เมรินพยักหน้า “น้องนนท์ต้องชอบแน่”
เมรินหยิบโมเดลรถขึ้นมาดู ทั้งสองคนมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน

ปฐวีกับเมรินเดินออกมาจากร้าน ปฐวีถือกล่องใส่ของขวัญออกมาด้วย
“ได้ของขวัญแล้ว ยังขาดอีกอย่างนึง” ปฐวีบอก
“อะไรหรือคะ”
“ก็ชุดสวยๆของสาวน้อยคนนี้ไง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ น้องเมย์ใส่อะไรก็ได้ เสื้อผ้ามีเยอะแยะ”
“ไม่ได้สิ หลานน้าวีต้องสวยที่สุด เอาให้น้องนนท์ตะลึงไปเลย”
“น้าวีน่ะ ล้อน้องเมย์อีกแล้ว”
เมรินทำงอน ปฐวีมองด้วยความเอ็นดู


ที่ร้านขายเสื้อผ้า ปฐวีเลือกชุดเสร็จแล้วกำลังจะจ่ายเงิน เมรินยืนมองหุ่นโชว์เสื้อ ชายและหญิงที่ยืนคู่กัน หุ่นผู้หญิงสวมชุดสวย
“ชุดนั้นสวยจังเลยนะคะน้าวี”
“น้าว่าคงไม่มีไซด์ของน้องเมย์มั๊ง” ปฐวีว่า
เมรินงอน “เมย์หมายถึงสำหรับคุณแม่ต่างหาก”
ปฐวีชะงักมองหน้าเมรินแล้วหันไปมองชุดก่อนจะยิ้ม
“น้องเมย์ว่างั้นหรือ”
“ค่ะให้คุณแม่ใส่เวลาออกงานคงจะสวยมาก รับรองคุณพ่อเห็นจะต้องตะลึง”
ปฐวีมองที่หุ่นโชว์แล้วพยักหน้า
เวลาผ่านไป พนักงานเดินมาพร้อมถุงในมือแล้วส่งให้ปฐวี ปฐวีส่งบัตรเครดิตให้ ปฐวีกับเมรินเดินถือถุงพะรุงพะรังออกมาจากร้าน
“คราวนี้ครบแน่นะ”
“รับรองค่ะ ครบแน่นอน”
“ไม่ครบน้าวีต้องล้มละลายแน่งานนี้”
เมรินหัวเราะ ทั้งสองเดินจูงมือกันไป


เมธีกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเมธีหยิบขึ้นมาดู หน้าจอโทรศัพท์เป็นชื่อฉัตรพร เมธีถอนหายใจแล้วกดรับ
ฉัตรพรคุยโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน
“คุณเมธี คุณเป็นยังไงบ้างคะ เห็นคุณหายไป ฉัตรเป็นห่วง”
“ช่วงนี้งานผมยุ่งมาก”
“งั้นหรือคะ ถ้าว่างคุณแวะมาหาฉัตรบ้างนะคะ ฉัตรคิดถึงคุณ”
เมธีอึดอัด “ครับ”
เมธีกดปิดโทรศัพท์แล้วถอนหายใจยาว
เมธีคิดแล้วตัดสินใจโทรหาปฐวี
“วี นี่พี่นะ วันนี้พี่ฝากน้องเมย์ด้วยนะวี”


เมธีส่งดอกไม้ช่อโตให้ประภัสสร
“ภัสครับ”
ประภัสสรดีใจแต่พยายามระงับอาการ
“เนื่องในงานอะไรคะ”
“ครบรอบแต่งงานของเรา ไปทานข้าวกับผมนะ ผมจองโต๊ะไว้แล้ว”
ประภัสสรมองหน้าเมธีแล้วอึ้ง


เมรินกับปฐวีนั่งกินอาหารที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า
“คุณพ่อจะพาคุณแม่ไปทานข้าวเหรอคะ” เมรินถาม
“ใช่แล้ว วันนี้คุณพ่อจะพาคุณแม่ไปทานข้าว เลยต้องฝากน้องเมย์ไว้กับน้าวี น้าวีก็จำใจรับไว้”
“ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องเลยค่ะ”
ปฐวีขำหลาน “เลิกงอนน้าวีได้แล้ว เดี๋ยววันเกิดน้องนนท์ น้าวีจะไปส่งน้องเมย์ด้วยตัวเองเลยดีมั๊ย”
“จริงหรือคะ สัญญาแล้วนะ”
“สัญญา” ปฐวีมองหลานสาว “น้อยใจไหม ไม่ได้ไปทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ ต้องอยู่กับน้าวี”
“ไม่ค่ะ ครบรอบแต่งงานก็ต้องไปทานข้าวกันสองต่อสองสิคะ ไม่ใช่เอาลูกไปเป็นก้าง จะโรแมนติคมั๊ยเนี่ย”
“เข้าใจคำว่าโรแมนติคด้วยหรือ ชักจะรู้เยอะนะเราเนี่ย”
“รู้เยอะกว่าที่น้าวีคิดแล้วกันค่ะ” เมรินยิ้ม
ปฐวียิ้มแล้วมองหลานสาว


ฉัตรพรเดินไปเดินมาในบ้านสลับกับชะโงกหน้ามองไปหน้าบ้าน เสียงรถวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ฉัตรพรรีบทำหัวยุ่งแล้วล้มตัวลงนอนป่วยที่โซฟา
เสียงแม่ฉัตรดังขึ้น “เข้ามาเลย ประตูไม่ต้องปิดหรอก เดี๋ยวยัยพรกับเพื่อนตามมาอีก”
ฉัตรลุกพรวดขึ้นมาก็เห็นแม่กับขาไพ่หลายคนเดินเข้ามา ฉัตรพรอารมณ์เสีย
“อะไรกันนี่แม่ ขนกันมาทำไม”
“จะเปิดวงไพ่” แม่บอก
“แถวนี้มันเงียบ” เพื่อนแม่เสริม
“บ้านนังอร ตำรวจมันรู้แล้ว คราวก่อน กูหนีเกือบตาย”
“ไม่ได้นะแม่ เดี๋ยวคุณเมธีมา ชั้นอายเค้าตายเลย” ฉัตรพรว่า
“อายเอยอะไรกัน เชื่อเหอะผัวแกไม่กลับมาแล้วล่ะ ถ้าจะมามันมานานแล้ว” แม่หันไปบอกเพื่อน “มา ๆ ขึ้นข้างบนเลย”
แม่ฉัตรพรกับเพื่อนๆ วางอุปกรณ์ตั้งวงโดยไม่สนใจฉัตรพร
“...แม่นะแม่ ไม่ช่วยแล้วยังมาซ้ำเติมอีก นึกว่าจะทิ้งกันง่ายๆเหรอ...”

เมธีกับประภัสสรนั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียนภายใต้บรรยากาศโรแมนติก เมธีมองหน้าประภัสสร
“ผมอยากบอกว่า ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับคุณ ผมมีความสุข ผมรักคุณนะภัส แต่ผมก็ทำผิดพลาดไป” เมธีคิด “ผมจะแก้ไขทุกอย่าง ให้มันกลับมาเหมือนเดิม”
ประภัสสรพูดเศร้าๆ “ภัสก็อยากให้เราเป็นเหมือนเดิมค่ะ”
“ผมให้สัญญา ต่อไป ผมจะพยายามแบ่งเวลาให้ถูกต้อง เพื่อคุณและครอบครัว ให้โอกาสผมนะภัส”
“ภัสให้โอกาสคุณเสมอค่ะ เมธี”
ทั้งสองสบตากัน ประภัสสรยิ้มแล้วพยักหน้า เมธียิ้ม ทั้งสองเริ่มตักอาหาร เมธีชวนคุย ประภัสสรฟังแล้วยิ้มมีความสุข

สินค้าแบรนด์เนมทั้งกระเป๋า รองเท้า นาฬิกาวางอยู่บนโต๊ะ ปรางค์ทิพย์กำลังชื่นชมกับข้าวของบนโต๊ะเหล่านั้น เสกสรรมองปรางค์ทิพย์ยิ้มๆ
“นี่บริษัทเรากำไรดีขนาดนี้เชียวหรือ” ปรางทิพย์ถาม
“ไม่ใช่แค่นี้นะคุณปรางค์ ผมยังทำนี่ให้คุณด้วย”
เสกสรรหยิบบัตรเครดิตออกมาส่งให้ปรางค์ทิพย์ ปรางค์ทิพย์ตาโตรับไปอย่างตื่นเต้น
“ผมเปิดวงเงินไม่จำกัดให้คุณ เผื่อคุณอยากจะช๊อปปิ้งจะได้ไม่ต้องกังวล”
ปรางค์ทิพย์ตื่นเต้น “ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างงี้ ชั้นให้คุณออกมาเปิดบริษัทตั้งนานแล้ว ทีนี้แหล่ะ ชั้นก็จะเหนือกว่านังภัสทุกอย่าง”
เสกสรรมองปรางค์ทิพย์แล้วยิ้ม
“ผมขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวต้องสังสรรค์กับลูกค้าอีก เฮ้อ เหนื่อยจัง”
เสกสรรลุกขึ้นเดินออก ปรางค์ทิพย์เรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน ...แล้วเรื่องรายงานการเงินที่จะส่งคุณยายล่ะ เตรียมหรือยัง” ปรางค์ทิพย์ถาม
เสกสรรชะงัก “เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งตัวเลขเลย”
“บ้าจริง พูดดังไปได้ เดี๋ยวใครมาได้ยิน ก็เป็นเรื่องหรอก”
ปรางค์ทิพย์มองซ้ายมองขวาอย่างระแวง เสกสรรยักไหล่แล้วเดินไป

ตกกลางดึก ประภัสสรกับเมธีเปิดประตูห้องเมรินเข้าไปชะโงกมองเมรินที่นอนหลับ เมธีกอดประภัสสรไว้ ประภัสสรซบลงที่ไหล่ ทั้งสองสบตากันอย่างเข้าใจก่อนจะเดินจูงมือกันออกจากห้องไป เมรินลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างมีความสุข

วันต่อมา เมธีนั่งทำงาน เลขาเข้ามารายงาน
“คุณเมธีคะ คุณฉัตรพรโทรมาสาย 2 ค่ะ”
เมธีพูดโดยไม่เงยหน้า “บอกผมติดประชุม”
“เธอโทรมาทุก 5 นาทีเลยค่ะ บอกว่าเธอจะรอสาย”
เมธีถอนหายใจ “บอกว่าผมออกไปแล้ว”
เลขารับคำ “ค่ะ”
เลขาเดินไป เมธีเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจหนัก

ฉัตรพรยืนพูดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“อะไรกัน เมื่อกี้บอกติดประชุม ตอนนี้บอกออกไปแล้ว โกหกชัดๆ”
ฉัตรพรวางหูโทรศัพท์แล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิด แม่ฉัตรพรที่นั่งถอดไพ่อยู่มองฉัตรพรยิ้มๆ
“ไงล่ะนังฉัตร ข้าว่า ผัวเอ็งเค้ากลับไปรังเดิมแล้วหล่ะ สงสัยคราวนี้เอ็งคงต้องหาเป้าหมายใหม่แล้วมั๊ง”
“เงียบไปเลยแม่ ยังไงคุณเมธีเค้าก็ทิ้งชั้นไม่ได้หรอก”
“เฮ้อ..นังฉัตรเอ๊ย ตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาเอ็งบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่เตือน สารรูปเอ็งน่ะเป็นแค่นักร้องกระจอกๆ จะเอาอะไรไปสู้กับลูกผู้ดีมีสกุลเค้าได้”
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษแม่นั่นแหละ ทำไมไม่มีผัวเป็นผู้ดีบ้างล่ะ ดันไปมีผัวเป็นนักเลง แล้วไงติดคุกตลอดชีวิตมันน่าสรรเสริญมั๊ยล่ะ ก่อนจะด่าชั้นดูตัวเองซะก่อน”
“หนอยนังนี่ ด่ากระทั่งแม่ เดี๋ยวเหอะ นรกจะกินกระบาลเอ็ง ข้าให้เอ็งเกิดมาก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“ให้เกิดมา แต่ลำบากลำบนแบบนี้ ไม่เกิดซะดีกว่า”
“หนอยอีนี่กูแค่เตือน เออ ระวังไว้เหอะ ถ้าผู้ชายมันทิ้งเอ็งจะเจ็บกว่านี้อีก”
แม่ฉัตรพรลุกเดินไป ฉัตรพรมองตามแค้นๆ
“ไม่มีทางหรอก คิดจะทิ้งชั้นกลับไปหานังเมียผู้ดีของคุณน่ะหรือ ชั้นคงยอมง่ายๆหรอก คุณเมธี”
ฉัตรพรทำหน้าร้าย

ร่างตันหยงนอนอยู่บนเตียง สุดนภายืนมองตันหยงแล้วถอนหายใจยาว สุดนภาหันไปมองปฐวี ปฐวีนิ่งมองตันหยงอย่างหนักใจ พิรามเดินเข้ามาพร้อมหนังสือในมือ
“คุณหมอมาตรวจหยงหรือครับ” พิรามเห็นสุดนภา “อ้าวคุณบี๋ มานานหรือยังครับ”
สุดนภาตอบแบบมึนตึง “ซักพักแล้วละ เดี๋ยวชั้นก็จะกลับแล้ว”
พิรามหันไปหาตันหยง
“ผมมาแล้วนะหยง”
สุดนภามองพิรามอย่างเคืองๆ ปฐวีมองพิรามและตันหยงนิ่งๆ

สุดนภาเปิดประตูพรวดออกมาจากห้องตันหยง
“รีบไปจากที่นี่เหอะ ชั้นอึดอัดใจจะแย่แล้ว”
สุดนภาลากแขนนาวินเดินออกไปทันที นาวินงง
“เป็นอะไรของคุณเนี่ย” นาวินถาม
“เปล่านี่”
“ไม่จริงหรอก คุณจะมีอาการผิดปกติ”
“คุณคิดไปเอง”
“มันเกิดเรื่องอะไร”
“นายพิรามอยู่ข้างใน เพราะนายพิรามนั่นทำ ให้หยงเป็นแบบนี้” สุดนภาบอก
นาวินงง “เค้าเป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่หรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ ทีนี้จะมาทำเป็นดี”
สุดนภาทำท่าแค้น นาวินมองสุดนภาอย่างไม่เข้าใจ
“คุณกับเพื่อนนี่รักกันมากนะ ถึงแค้นแทนกันขนาดนี้”
สุดนภามองหน้า “พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก”

นาวินเดินมาส่งสุดนภาที่หน้าห้อง
“ขอบใจมากนะ”
สุดนภาจะเดินเข้าห้อง นาวินเรียกไว้
“คุณบี๋ นี่คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ชั้นไม่เป็นอะไร คุณกลับเถอะ”
สุดนภาเดินเข้าห้องเงียบๆ นาวินมองตามอย่างเป็นห่วงแล้วก็เดินออกไป

สุดนภาเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู แล้วเธอก็นึกได้จึงเปิดออกไปใหม่
“เดี๋ยวก่อน ขอบคุณนะ” สุดนภาพูดกับนาวิน
นาวินหันกลับมายิ้มให้ ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน

ยามดึก เมธีเดินออกมาจากออฟฟิศและกำลังจะไขกุญแจขึ้นรถ
เสียงฉัตรพรดังขึ้น “คุณเมธีคะ”
เมธีชะงักแล้วหันกลับไปก็เห็นฉัตรพรยืนอยู่
“คุณฉัตร คุณมาทำไม”
ฉัตรพรอ้อน “ขอโทษนะคะ ฉัตรทนคิดถึงคุณไม่ไหว ฉัตรไม่สบายมาหาหมอ เลยแวะมาดูคุณที่นี่”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ฉัตรอ่อนเพลียพักผ่อนไม่เพียงพอค่ะ หมอให้ยามาทาน นี่เวียนหัวมากเลย คุณช่วยไปส่งฉัตรที่บ้านหน่อยได้มั๊ยคะ”
ฉัตรพรทำท่าเซเหมือนจะเป็นลม เมธีเข้ามาประคองไว้
เมธีรู้สึกอึดอัด
ฉัตรพรแอบยิ้ม เมธียิ่งอึดอัด

เมธียืนเครียดอยู่ริมสระน้ำ ปฐวีเดินเข้ามา
“วี วันนี้กลับดึกนะ งานยุ่งหรือ” เมธีเอ่ยถาม
“ครับพี่ เจ้าตัวยุ่งหลับแล้วหรือ”
“เห็นวุ่นๆเรื่องงานวันเกิดเพื่อนอยู่”
เมธีถอนหายใจหน้าเครียด ปฐวีสังเกตเห็น
“พี่เมธีมีเรื่องไม่สบายใจหรือครับ คุยให้ผมฟังก็ได้นะครับ” ปฐวีบอก
“พี่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน เพราะตอนนี้มัวพัวพันไปหมด เป็นความผิดของพี่เอง” เมธีเครียด “วันนี้เค้ามาหาพี่ที่ออฟฟิศ”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 9 วันที่ 20 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager