@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9 วันที่ 1 มี.ค. 56


อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9 วันที่ 1 มี.ค. 56

ไตร่ตรองดูให้ดีนะคะ ว่าเรามอบอนาคตทั้งหมดของรัตนกิจให้คนที่เราไม่รู้จักทำไม” อนุชโต้อย่างไม่ยี่หระ พร้อมพูดด้วยหลักการ
ผู้บริหารทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วย กร้าวนิ่งไป หน้าตึงด้วยความไม่พอใจ

ครู่ต่อมา ตรงมุมส่วนตัวหน้าห้องประชุม ลลิตาเดินเข้ามาพูดกับอนุชด้วยความไม่พอใจ
“ทำอย่างนี้มันฉีกหน้ากันชัดๆ”

อนุชตอบโต้อย่างไม่สะทกสะท้าน
“คนอย่างพี่ต้องรอให้คนอื่นมาฉีกหน้าด้วยเหรอคะ”


“หมายความว่ายังไง”
“ไปไหนต่อไหนกับผู้ชายอื่น ทั้งที่ตัวเองมีสามีอยู่แล้ว อย่างนี้ไม่เรียกฉีกหน้าตัวเองแล้วจะเรียกว่าอะไร”
“นังนุช!”
ลลิตาตวาดแว้ด ปราดเข้าไปตบ แต่อนุชไวกว่ายกมือไว้ ก่อนจะตบสวนออกไปเต็มแรง จนร่างลลิตาเซถลาออกไป ลลิตาเจ็บใจจะปราดเข้าไปตบอีก แต่อนุชตะโกนสวนออกไป
“ถ้ายังไม่หายบ้าอีก ก็เอาสิ คนเขาจะได้รู้กันทั่วว่าพี่ทำยังไงถึงได้กลายมาเป็นผู้จัดการมรดก แล้วทำอีท่าไหนคุณกร้าวถึงขึ้นมาเป็นผู้บริหารของที่นี่”
“ไม่ต้องมาขู่ฉัน”
ลลิตาเงื้อมือจะตบเอาคืน อนุชสวนออกไป
“พี่คงรู้นะคะ ถ้าทุกคนรวมตัวกันต่อต้านจะเกิดอะไรขึ้น”
ลลิตาคิดตาม เริ่มกลัวคำขู่ ยอมลดมือลง แต่ยังฮึดฮัดท่าทีโกรธขึ้งด้วยความไม่พอใจ

อนุชเดินหนีมาด้วยความไม่พอใจ กร้าวที่ยืนอยู่ ตบมือเย้ยก่อนจะเดินเข้ามาหา เยาะหยันกวนๆ
“เดี๋ยวนี้ คุณเก่งขึ้นมาก”
อนุชหันมาประจันหน้า
“คุณคิดจะทำอะไรของคุณ คุณกร้าว”
“คุณลิต้าไม่มีความสามารถด้านการบริหารก็เลยขอให้ผมมาช่วย”
“แต่เราสัญญากันแล้ว ว่าคุณจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับวิชเวทย์ทุกคน”
กร้าวเดินมองไปรอบๆ ตัวอนุช ด้วยสายตาเจ้าชู้กรุ่มกริ่ม
“ผมเสียเงินร้อยล้านจ้างคุณมาเป็นเมีย หรือจะพูดให้ถูก...” กร้าวกระซิบข้างหูเน้นๆ “จ้างมาเป็นนางบำเรอ ในเมื่อคุณไม่ทำตามข้อตกลง ก็ต้องมีคนรับผิดชอบแทน”
อนุชสวนแรง
“แต่ต้องไม่ใช่พี่ลิต้า”
“ลิต้าก็เป็นวิชเวทย์คนหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคนในครอบครัวคุณไม่รับผิดชอบ แล้วจะให้ใคร”
อนุชสะบัดหน้าออกมาไม่พอใจ
“คุณต้องการอะไรกันแน่”
กร้าวลูบไล้เนื้อตัวอนุช ขณะบอก
“ตัวคุณ หัวใจคุณ แล้วก็ทั้งหมดที่คุณมี”
อนุชปัดมือกร้าวออก บอกเสียงแข็ง
“อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉันนะ”

อนุชสะบัดตัวเดินหนีไปทันที กร้าวมองตามสีหน้าไม่พอใจมาก
ค่ำนั้น เมื่อกลับมาถึงห้องพักที่คอนโด ลลิตาโวยกร้าวทันที

“ลิต้าทนไม่ไหวแล้วนะคะ ลิต้าไม่อยากทนอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้อีกต่อไปแล้ว”
“ถ้าคุณรอไม่ไหว ก็ไม่ต้องรอก็ได้ ผมไม่ว่า...”
กร้าวเดินหนีรำคาญ ลลิตาเข้าไปคลอเคลีย
“โธ่ ทำไมพูดกับลิต้าอย่างนั้นล่ะคะ ลิต้ารักคุณนะคะ”
“งั้นก็ใจเย็น ๆ จนกว่าคนของผมจะเข้าไปควบคุมกิจการทั้งหมด...ถึงตอนนั้นคุณอยากได้อะไร ผมไม่ปฏิเสธ”
ลลิตาใจอ่อน
“แล้วลิต้าต้องทำยังไง”
“ใช้สามีคุณให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยให้อนุชปลุกปั่นหุ้นส่วนที่เหลือได้สำเร็จ”
กร้าวยิ้มเจ้าเล่ห์

วันใหม่...อสิตนอนอยู่บนเตียงอย่างสิ้นหวัง อรชาป้อนข้าวให้
“ทานข้าวหน่อยนะคะพี่สิต “
“ลิต้าหายไปเลย เจอลิต้าบ้างรึเปล่า”
อรชาเหลือบมองปรารภที่ยืนอยู่ข้างๆ ปรารภช่วยพูด
“พี่ลิต้างานยุ่งครับ”
“พี่กินไม่ลง พี่ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ทำไม เป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิคะพี่สิต”
“ปล่อยให้พี่ตายไปเถอะ อยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมาย”
ทันใดนั้นเสียงลลิตาดังขึ้น
“ทำไมจะไม่มีความหมายล่ะคะ”
ทุกคนหันไปเห็นลลิตาเดินเข้ามากับกร้าว
“สิตยังมีลิต้าอยู่ทั้งคน”
อสิตดีใจ
“คุณหายไปไหนมา”
“ลิต้าไปดูแลงานแทนคุณที่บริษัทไงคะ ตอนนี้คุณกร้าวอาสามาช่วยงานด้วยนะคะ สิตพักผ่อนเยอะๆ
ไม่ต้องห่วงที่บริษัทนะ น้องเขยสิต ทำงานเก่งมาก ผู้บริหารชมกันทุกคน”
ลลิตาเห็นชามข้าวในมืออรชา ก็แย่งมา
“มาค่ะ เดี๋ยวลิต้าป้อนให้”
ลลิตาป้อนข้าวให้อสิต พอเขากินก็อดทำหน้าหมั่นไส้ไม่ได้
“ผมนี่แย่จริง ๆ ทำให้คุณลำบากอีกแล้ว” อสิตซึ้งใจ
ลลิตาเปลี่ยนหน้าทำเป็นยิ้มแย้ม
“ถ้ากลัวลิต้าลำบากสิตคุณก็ต้องหายเร็ว ๆ”
อสิตหนักใจ
“แต่ผ่าตัดใช้เงินมาก ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า ผมไม่อยากให้คุณกับน้องต้องลำบาก”
กร้าวยิ้ม
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการให้”
อสิตเกรงใจ
“อย่าดีกว่า ครอบครัวผมรบกวนคุณมามากแล้ว”
“รบกวนอะไรครับ เอาไว้ถ้ามีโอกาส คุณได้ตอบแทนผมแน่”

กร้าวยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ ส่อนัยยะถึงเรื่องในอดีต อรชามองอย่างไม่ไว้ใจ
อรชาเดินคุยกับกร้าวที่ทางเดินหน้าห้อง

“ยังไงฉันก็ไม่ยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวเรา เราจัดการเองได้”
กร้าวหันมาพูดดีน้ำเสียงอ่อนโยน
“อย่าลืมสิครับ ตอนนี้เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
“ฉันไม่ลืมแล้วก็ไม่มีวันลืมด้วย...เพราะฉะนั้นอย่าสร้างบุญคุณต่อกันอีก ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็นบุญคุณที่ไม่มีวันชดใช้หมด”
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษที่ทำไว้กับคุณล่ะครับ” กร้าวมองอย่างอ่อนโยน “อภัยให้ผมนะครับ”
อรชาเดินหนีอย่างถือดี
“ไม่จำเป็น ถ้าคุณสำนึกจริงๆ ก็ดูแลยัยนุชให้ดี อย่าให้เสียใจเหมือน...”
อรชาพูดได้แค่นั้นน้ำตาก็รื้นขึ้นมา เธอพยายามข่มไว้ กร้าวรู้ทัน
“คุณ...”
กร้าวยิ้มร้าย อรชาข่มอารมณ์หันมาประจันหน้า
“อย่าทำเหมือนเห็นวิชเวทย์เป็นของเล่น ฉันไม่ชอบ”
“ผมแต่งงานเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีคุณนุช ไม่ตั้งใจจะทำให้คุณเจ็บปวด”
อรชาจะร้องไห้
“พอเถอะ อย่าพูดอะไรอีก”
“ก็ได้ครับ ถ้ามันเป็นความต้องการของคุณ ผมจะดูแลนุชให้เหมือนที่ผมอยากดูแลคุณ แม้ว่าผมจะรักนุชไม่ได้เหมือนที่รักคุณ”
คำพูดของกร้าวทำให้อรชาน้ำตารื้นขึ้นมา หันมามองหน้าด้วยความรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ อรชาเดินหนีไป ซ่อนน้ำตา กร้าวรีบตามไป

อรชาเดินหนีมา พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แต่ก็ทำไม่ได้ กร้าวไม่ปล่อยให้โอกาสทองในการทำแต้มของเขาหลุด ตรงเข้าไปเช็ดน้ำตาให้
“อย่าร้องไห้สิครับคนดี...น้ำตาอาจเป็นเพื่อนคุณ แต่มันกรีดใจผมทุกครั้งที่เห็นมัน”
อรชากำลังจะใจอ่อนกับคำพูดและท่าทีที่อ่อนโยนของกร้าว ทันใดนั้นปรารภเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับคุณอร”
กร้าวผละออก อรชารีบเช็ดน้ำตาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไร กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
อรชาเดินออกไป ปรารภหันมามองหน้ากร้าวอย่างไม่เป็นมิตร
“อย่าให้ผมรู้นะว่าคุณทำร้ายจิตใจคุณอรอีก”

ปรารภพูดเสร็จเดินตามอรชาไป กร้าวยิ้มไม่ยี่หระ
ชายธงกับอนุชเดินคุยกันมาในสวน

“ผ่าตัดต้องใช้เงินมาก มีอะไรบอกผมได้นะ”
“อย่าดีกว่า เพราะแค่นี้คุณพ่อของชายธงก็มองนุชไม่ดีแล้ว”
“แต่จะให้ทนดูเฉยๆ ผมทำไม่ได้”
“เอาเป็นว่าถ้าอยากช่วยนุช หางานให้นุชทำงานดีกว่า แต่นุชขอไม่ทำกับชายธงนะ ไม่อยากมีปัญหากับคุณริน”
“ผมเข้าใจ ผมขอโทษแทนรินด้วย”
“นุชไม่ถือหรอก” อนุชถอนหายใจนึกถึงกร้าว “ใครๆจะได้เลิกโขกสับนุชซะที”
“นอกจากเรื่องพี่ลิต้าแล้ว คุณกร้าวยังทำไม่ดีกับนุชอีกเหรอ”
อนุชไม่อยากให้เป็นห่วง
“เปล่า นุชหมายถึงสายคาคนทั่วๆไปมองที่นุชไม่ดี”
ชายธงไม่ติดใจ
“เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรคับข้องใจบอกผมได้ โดยเฉพาะนายกร้าว ผมจะไม่มีวันยอมให้ดูหมิ่นเกียรตินุชเด็ดขาด”
อนุชยิ้มอ่อนโยน
“ขอบคุณนะชายธง...นุชเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าความยากลำบากทำให้เรารู้ว่ามีอย่างอื่นสำคัญกว่าเงิน...”
“อะไรเหรอครับ”
“มิตรภาพของเรายังไงล่ะ”
“ยินดีครับ ถึงแม้ผมจะเป็นได้แค่เพื่อนนุช”
ชายธงยิ้มอบอุ่นแฝงความขมขื่นใจ ในความรักที่เขามีต่ออนุช

กร้าวอยู่ในห้องทำงานนั่งดูเอกสาร และแบบแปลนบ้านกับทีมวิศวกรและฝ่ายข้อมูล
“คุณช่วยหาข้อมูลเกี่ยวกำลังซื้อและพฤติกรรมของคนในพื้นที่ให้ผม บางทีเราอาจจะต้องเปิดเฟสใหม่เพิ่มขึ้น”
ลูกน้องรับคำก่อนจะแยกย้ายเดินออกไป สวนกับกรวิกที่เดินเข้ามาหน้าตาท่าทางไม่ค่อยพอใจ
“ฝ่ายบัญชีบอกว่าอากร้าว สั่งเตรียมเช็คให้พวกวิชเวทย์อีกแล้วเหรอคะ”
กร้าวอ่านเอกสารโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“อือ”
กรวิกโกรธ
“ทำไมอากร้าวทำแบบนี้คะ เป็นเพราะยัยนุชขอร้องอากร้าวใช่มั้ยคะ”
กร้าวปิดเอกสารตอบอย่างหมดความอดทน
“อนุชไม่ได้ขอร้อง แต่อายินดีช่วย”
“แล้วทำไมต้องช่วย หรือว่าพวกวิชเวทย์มีบุญคุณกับเรา”
กร้าวลุกขึ้นตบโต๊ะไม่พอใจ
“หน้าอย่างพวกวิชเวทย์งั้นเหรอมีบุญคุณ พวกมันต่างหากที่ต้องชดใช้”
กรวิกตกใจแปลกใจ
“ชดใช้ อากร้าวหมายความว่าอะไรคะ”
กร้าวรู้ว่าหลุดรีบกลบเกลื่อน
“นกอย่ารู้เลย เอาเป็นว่าอาก็มีเหตุผลของอา และอาก็ไตร่ตรองเรื่องนี้ดีแล้ว”
กร้าวพูดจบเดินออกไป กรวิกมองตามด้วยความสงสัย

เธียรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องนั่งเล่น ชายธงเดินเข้ามา
“ไปไหนมา รู้มั้ยหนูรินมารอตั้งนานแล้ว”
ชายธงตอบห้วนๆ
“ผมไปบ้านเพื่อน”
“อย่าบอกนะว่าพวกวิชเวทย์ ยายผู้หญิงนั่นมาขอเงินอีกใช่มั้ย”
ชายธงพยายามอธิบายอ่อนใจ
“นุชไม่ได้ขออะไรทั้งนั้น แต่ผมอยากช่วยหางานให้เขา”
เธียรประชด
“ทำไมต้องหางาน ไหนออกข่าวใหญ่โตว่าแต่งงานกับเศรษฐีหรือว่าถูกเฉดหัวทิ้งแล้ว”
ชายธงเสียงดังไม่พอใจ

“ผมไม่เข้าใจ ทำไมพ่อต้องจงเกลียดจงชังนุชด้วย แค่บ้านเขาไม่รวยเหมือนเมื่อก่อน”
เธียรปาหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่พอใจ หันมามองหน้าลูกชาย

“ฉันเกลียดสิ่งที่พวกวิชเวทย์ทำ โดนเฉพาะเพื่อนตัวดีของแกเป็นผู้หญิงยิงเรือกลับให้ผู้ชายคนโน้นลากไปทีคนนี้ลากไปที”
“พ่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว”

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 9 วันที่ 1 มี.ค. 56

ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทประพันธ์ : บุษยมาส (จากเรื่องเดิม นางฟ้าซาตาน)
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทโทรทัศน์ : สิริกร
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กำกับการแสดง : ธนะสิทธิ์ อริยสินวีรกุล
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ออกอากาศ : เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager