@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 5/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 5/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

คนอื่นๆ พากันมองด้วยความหวาดเสียว คิดว่าขุนไว ตายแน่ แต่ขุนพิทักษ์กลับค้างหมัดห่างจากใบหน้าขุนไว ไม่ถึงคืบ
“ข้าชนะเอ็ง!”
ขุนพิทักษ์ ลุกขึ้นจากร่างขุนไว ที่นอนหมดสภาพ
กรรมการบอก
“ขุนพิทักษ์เป็นผู้ชนะ!”
ฝั่งที่เชียร์ขุนพิทักษ์ เฮด้วยความดีใจ

คุณหญิงมณี พระยาเทวราชลงไปที่ลานประลอง รำพึงตามลงไป
“คุณแม่..ลูกชนะแล้ว”



คุณหญิงมณียิ้มด้วยความปลาบปลื้ม
พวกลูกน้องเข้ามาช่วยประคองขุนไวให้ลุกขึ้นมา ขุนไวมองขุนพิทักษ์ด้วยความแค้น
รำพึงเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาหาขุนพิทักษ์
“ยินดีด้วยนะคะคุณพี่”
ขุนพิทักษ์ เห็นขุนไวมองมา
“พี่บอกน้องแล้วว่าพี่จะต้องชนะ... เหงื่อเข้าตาพี่ น้องรำพึงช่วยเช็ดให้หน่อยได้ไหม”
รำพึงหันมองคุณหญิงมณีเป็นเชิงขออนุญาต ฝ่ายคุณหญิงมณียิ้มเป็นเชิงว่าช่วยหน่อยนะ
“ค่ะ”
รำพึงหยิบผ้าออกมาซับเหงื่อให้ขุนพิทักษ์
ขุนพิทักษ์มองขุนไวด้วยสายตาเย้ยหยัน ขุนไวมองอย่างแค้นเคือง พระยาเทวราชก้าวเข้ามา ขุนไวสบตากับพระยาเทวราชที่มองอย่างผิดหวัง
ขุนไวมองรำพึงที่ยืนเคียงอยู่ข้างขุนพิทักษ์ด้วยความเจ็บใจ

ชุ่มมองขุนพิทักษ์กับรำพึงแล้วรู้สึกเจ็บแปลบในใจ ตัดใจหันหลังเดินจากไป
มุมหนึ่งที่ลานประลอง ขุนพิทักษ์ เดินเข้ามาหาท่านเจ้ากรม
“เก่งมาก สมกับเป็นลูกชายท่านพระยา ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ”
“ขอบคุณขอรับ”
“ต่อไปนี้ผู้ที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้ากรมคือ ขุนพิทักษ์!”
“ไอ้ขี้โกง!”
ทุกคนหันไป ขุนไวพิชิตพลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเอาเรื่องมาก
“ผมยอมรับผลการประลองครั้งนี้ไม่ได้ เพราะผมถูกขุนพิทักษ์ใช้กลโกงในการต่อสู้”
ขุนพิทักษ์ชะงักกึก หวั่นใจว่าความจะแตก
ท่านเจ้ากรมหน้าตึง พระยาเทวราชเห็นท่าไม่ดีเข้ามาข้างขุนไว
“ขุนไว พอได้แล้ว”
“ไม่ ผมต้องการเรียกร้องความยุติธรรม”
ท่านเจ้ากรมบอก
“การต่อสู้ของท่านขุนอยู่ในสายตาของพวกเราทุกคน ฉันไม่เห็นว่าจะมีกลโกงอะไรเกิดขึ้นได้ ขุนไว...ลูกผู้ชายเมื่อแพ้แล้วยอมรับความพ่ายแพ้ มันถึงจะสมเป็นชายชาติทหาร”
“เป็นเพราะไอ้พิทักษ์เป็นลูกของเพื่อนท่าน ท่านถึงได้เข้าข้างมันใช่ไหมขอรับ ท่านไม่มีความยุติธรรมเลย”
“ขุนไว หยุดนะ!” พระยาเทวราชบอก
ท่านเจ้ากรมโกรธ
“บังอาจ! คนอย่างข้าไม่เคยลำเอียงเข้าข้างผู้ใด”
“แต่ตอนนี้ท่านกำลังทำ! เข้าข้างไอ้คนขี้โกงนี่”
“ทหาร! นำตัวขุนไวไปขัง” เจ้ากรมสั่ง
“ท่านเจ้ากรม ขุนไวไม่ได้มีเจตนานะขอรับ คงจะผิดหวังจนพลั้งปาก”
“ก็ให้ไปสงบสติในคุก!”
ทหารเข้ามาจับตัวขุนไวออกไป ขุนไวอาละวาด แต่ก็ไม่หลุดจากการจับกุม
“ปล่อยข้า ปล่อย! ไอ้พิทักษ์ ไอ้ขี้โกง!”
ทหารลากตัวขุนไว ผ่านขุนพิทักษ์ ขุนไว ยิ่งดิ้นรนโวยวายจะชกขุนพิทักษ์
“เอาตัวไป!”
ทหารมานำตัวขุนไว ไป ขุนไว มองขุนพิทักษ์ อย่างโกรธแค้น

ในเวลาต่อมา ขุนไวพิชิตพลถูกโยนเข้ามาในคุก ทหารปิดประตูคุก ขุนไว พุ่งขึ้นมาเขย่ากรงขัง
“ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้ เปิดประตู เปิดสิโว้ย!”
ขุนไวโกรธมากชก ๆ ๆ พื้นอย่างระบายอารมณ์
ขุนไวเห็นหมื่นประจักษ์เดินเข้ามาหยุดยืนที่หน้าประตูคุก เขาเห็นสายตาเยาะเย้ยของหมื่นประจักษ์
“ภูมิใจไหมขอรับท่านขุน ที่ความถูกต้องมันทำให้ท่านขุนต้องมีสภาพแบบนี้”
“ไอ้พิทักษ์มันเลว มันโกง!”
“แล้วท่านยังคิดใช้วิธีสะอาดกับคนเลวอย่างขุนพิทักษ์อีกอย่างนั้นหรือ หึ...กระผมบอกแล้วว่าท่านจะต้องเสียใจ”
หมื่นประจักษ์เดินกลับออกไป ขุนไว ชกกำแพงด้วยความโกรธแค้น แล้วตะโกนด้วยความแค้น
“ไอ้พิทักษ์!”
งานประลองสิ้นสุดลงแล้ว พระยาเทวราชกำลังพูดคุยร่ำลาอยู่กับท่านเจ้ากรม แต่รำพึงยังยืนรีๆ รอ ๆ มองหาขุนพิทักษ์ไมตรี ไม่นาน...ขุนพิทักษ์ เดินออกมา รำพึงรีบเดินไปหา
“น้องจะกลับแล้ว คุณพี่มีอะไรอยากคุยกับคุณพ่อน้องหรือเปล่าคะ”
รำพึงยิ้มพลางปรายตาไปทางพระยาเทวราช ก่อนจะใช้สายตาบีบบังคับขุนพิทักษ์ เป็นเชิงให้พูดเรื่องสู่ขอ ท่านขุนเข้าใจและจำใจเดินปลีกตัวเข้าไปหาพระยาเทวราช
“ท่านพระยาขอรับ ชัยชนะของกระผมในวันนี้...”
พระยาเทวราชรีบตัดบท
“ฉันมีราชการด่วน ไม่สะดวกคุย ขอตัวนะ”
รำพึงยังยืนนิ่ง พระยาเทวราชสั่ง
“รำพึงกลับ!”
“แต่คุณพ่อคะ...”
“เดี๋ยวนี้!”
รำพึงมีทีท่าละล้าละลัง
“พรุ่งนี้พี่จะไปหาที่เรือนนะ”
“ค่ะ”
รำพึงต้องรีบเดินตามพระยาเทวราชไปอย่างเสียไม่ได้ ขุนพิทักษ์ เริ่มจะหนักใจเรื่องรำพึง แต่อีกใจหนึ่งก็ดีใจที่ตนเองได้รับชัยชนะ

“จำไว้ไอ้ไว ข้าเท่านั้นคือผู้ชนะ!”
บริเวณเรือนทาส ชุ่มกำลังตากผ้าด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ พอตากผ้าเสร็จหันกลับมาก็ชะงักที่เห็นขุนพิทักษ์เดินเข้ามาพอดี

“ชุ่ม ข้าเอาชัยชนะมาฝากเอ็ง”
ชุ่มกลับหน้าเศร้ายิ่งกว่าเดิม สีหน้านิ่ง
“เจ้าค่ะ”
“นังชุ่ม เอ็งไม่ดีใจเหรอ นี่ข้าชนะตามที่สัญญากับเอ็งแล้วไง”
“ชนะด้วยการโกง มันน่าภูมิใจหรือเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ ตกใจที่ชุ่มรู้
“ท่านขุนบอกใคร ๆ ได้เต็มปากหรือเจ้าคะว่าชนะด้วยฝีมือตนเองจริง ๆ”
ชุ่มมองขุนพิทักษ์ อย่างตัดพ้อ เขาอึ้ง
“ข้า...”
ชุ่มมองขุนพิทักษ์ ด้วยสายตาแห่งความผิดหวัง
“ชุ่ม ชุ่ม!” เสียงชุ่มดังขึ้น
สมวิ่งมาถึงก็ชะงักที่เห็นขุนพิทักษ์ยืนอยู่ด้วย
“ท่านขุน...”
“เอ็งมีอะไร ทำไมต้องโวยวายด้วย”
“คุณหญิงให้เรียกบ่าวทุกคนไปที่เรือนเดี๋ยวนี้ขอรับ”
ชุ่มเดินผ่านหน้าขุนพิทักษ์ ไป โดยไม่หันหน้ากลับมามอง
“ชุ่ม...”
ขุนพิทักษ์ รีบตามไป สมมองอาการของคนทั้งสองก่อนเดินตามไป

คุณหญิงมณีกับขุนพิทักษ์ ยืนอยู่ด้านหน้าบ่าวทุกคน
“พวกเอ็งคงรู้แล้วว่า ผลการประลองวันนี้ลูกข้าเป็นผู้ชนะ”
พวกบ่าวต่างเซ็งแซ่ด้วยความยินดี
“เย็นนี้ข้าจะฉลองให้กับลูกข้า ทุกคนดื่มกินให้เต็มที่”
คุณหญิงมณีมองพวกบ่าวที่พากันเฮด้วยความดีใจ
“เอ้า แยกย้ายกันไปเตรียมงานได้แล้ว” แจ่มบอก
ทุกคนลุกขึ้นเดินออกไป ชุ่มนั่งนิ่งด้วยสีหน้าเศร้าก่อนจะลุกตามคนอื่น แต่คุณหญิงเรียกไว้
“ชุ่ม”
ชุ่มชะงักลงนั่ง
“เจ้าคะ”
“เอ็งเป็นอะไร ไม่ดีใจกับลูกข้าหรือ”
ชุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาขุนพิทักษ์ แล้วเลี่ยงตอบ
ชุ่มฝืนยิ้มบอก
“ยินดีสิเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ สะอึกกับคำตอบของชุ่ม
“บ่าวขอไปทำงานต่อนะเจ้าคะ” ชุ่มพูดกับคุนหญิงมณีก่อนคลานถอยออกไป
ขุนพิทักษ์ มองตามแล้วทนไม่ไหวจะเดินตามไป แต่คุณหญิงมณีเรียกไว้
“พ่อพิทักษ์!”
ขุนพิทักษ์ ชะงักหันกลับมา คุณหญิงมณีพูดเหมือนบังคับกลาย ๆ
“เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เข้าไปพักเถอะ”
“กระผมไม่เหนื่อย”
ขุนพิทักษ์ทำท่าจะไป
“บ่าวไพร่มันกำลังเตรียมงาน คงไม่เหมาะที่ลูกจะไปคุย”
ขุนพิทักษ์ หันมองอย่างอึ้งๆที่คุณหญิงมณีเหมือนจะรู้ว่า ขุนพิทักษ์จะไปคุยกับใคร
“เราเป็นนายก็วางตัวให้เป็นนาย ไม่เช่นนั้นบ่าวไพร่จะสิ้นความนับถือ”
ขุนพิทักษ์อึ้งไป
ขุนพิทักษ์จำต้องเดินกลับเข้าห้องตัวเองไป คุณหญิงมณีมองตามอย่างหนักใจ

บนเรือนท่านพระยาในเวลากลางคืน รำพึงยกชาฝรั่งมาให้พระยาเทวราชที่กำลังนั่งอ่านเอกสาร
“ชาค่ะคุณพ่อ”
พระยาเทวราชยกขึ้นมายังไม่ทันจิบก็วางคืนเหมือนเดิม
“เอาไปเปลี่ยนเป็นชาจีนมา”
“คุณพ่อสัญญากับลูกว่าถ้าผลออกมาว่าใครเป็นผู้ชนะ คุณพ่อจะรับผลตัดสินตามนั้น”
“แต่ขุนไวยืนยันว่าขุนพิทักษ์ชนะเพราะกลโกง”
“แล้วไหนล่ะคะหลักฐานที่บ่งบอกว่าคุณพี่พิทักษ์โกง”
พระยาเทวราชโกรธที่ลูกสาวออกรับแทน
“รำพึง!”
“ลูกแค่พูดความจริง คนตั้งมากมายเห็นว่าขุนไวแพ้ แต่กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แถมยังโยนความผิดไปให้คนอื่นอีก คุณพ่ออยากได้ลูกเขยที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้หรือคะ”

พระยาเทวราชสะอึกที่ลูกสาวพูดจี้จุดเข้าเต็ม ๆ รำพึงไม่หลบสายตาที่พ่อมมองมา พระยาเทวราชจำต้องดื่มชาฝรั่ง เธอมองอย่างสะใจที่ชนะพ่อได้
เวลาเดียวกัน ที่เรือนคุณหญิงมณี บ่าวไพร่พากันกินดื่มอย่างสนุกสนานเฮฮา โดยมีคุณหญิงมณีกับขุนพิทักษ์ไมตรีนั่งเป็นประธาน ชุ่มนำชามาให้คุณหญิงมณี

“ชาเจ้าค่ะคุณหญิง”
“ชุ่ม...” ขุนพิทักษ์ เรียก
ชุ่มไม่หันไป พอวางชาเสร็จ ชุ่มก็คลานถอยแล้วเดินออกไป ขุนพิทักษ์ อดรนทนไม่ได้รีบลุกจะตามไป คุณหญิงมณีมองตาม
คุณหญิงมณีพูดกับตนเองอย่างหนักใจ
“แม่ควรจะทำยังไงกับลูกดี”


ภายในสวน ขุนพิทักษ์เดินตามชุ่มเข้ามา
“ชุ่ม...”
ชุ่มได้ยินยิ่งรีบจ้ำหนี ขุนพิทักษ์ เข้ากอดชุ่มยั้งไว้ไม่ให้ไป ชุ่มพยายามจะสะบัดออก
“ชุ่ม เอ็งกับข้าต้องพูดกันให้รู้เรื่อง ข้าชนะไอ้ขุนไวแล้ว เอ็งยังต้องการอะไรอีก”
“ชนะโดยการใช้ก้อนหินทำร้ายท่านขุนไวอย่างนั้นหรือเจ้าคะ” ชุ่มโพล่งออกมา
ขุนพิทักษ์ตกใจ รู้ทันที
“เอ็งไปที่ลานประลอง”
ชุ่มอึกอักแล้วจำต้องยอมรับ
“เจ้าค่ะ”
“เอ็งไปที่นั่นทำไม”
ชุ่มหันหน้าหนี ขุนพิทักษ์จับที่ปลายคางชุ่มให้หันมามองตา
“เอ็งไป เพราะเอ็งเป็นห่วงข้า ใช่ไหม”
ชุ่มอึกอักคิดหาทางเอาตัวรอดจากการจับของขุนพิทักษ์ ชุ่มมองไปด้านหลังขุนพิทักษ์ แล้วทำเสียงตกใจ “คุณหญิง!”
ขุนพิทักษ์ สะดุ้งปล่อยมือรีบหันไป
“คุณแม่”
ขุนพิทักษ์ อึ้งที่หันไปแล้วไม่เจอใครมีแต่ความว่างเปล่า รู้ทันทีว่าถูกหลอก พอหันกลับมาไม่เห็นชุ่มแล้ว “ชุ่ม..นังชุ่ม!”


ขุนพิทักษ์ เข้ามาที่หน้าเรือนทาสเห็นประตูปิดสนิท ขุนพิทักษ์ ทุบเรียก
“ชุ่ม...เอ็งออกมาพูดกับข้าให้รู้เรื่องก่อน ชุ่ม!”
ชุ่มยืนมองประตูนิ่ง ยังไม่อาจยอมรับกับสิ่งที่ขุนพิทักษ์ทำได้ ท่านยังทุบเรียกต่อไป
“ท่านขุนขอรับ!”
ขุนพิทักษ์ชะงักหันมา เห็นสมยืนอยู่
“ท่านขุนกลับไปที่เรือนเถอะขอรับ”
“แม่ข้าให้ตามล่ะสิ”
“เปล่าขอรับ กระผมมาขอร้องท่านขุนเอง”
ขุนพิทักษ์ มองหน้าสมว่าหมายความว่ายังไง
“ละเว้นนังชุ่มมันสักคนเถอะขอรับ”
“ข้าไม่ได้ทำร้ายมัน มันไม่เข้าใจข้า ข้าต้องคุยกับมัน”
ด้านในชุ่มได้ยินก็ตกใจรีบฟังว่าสมจะพูดอะไรต่อ
“ชุ่มมันเป็นบ่าว ทำไมท่านขุนจะต้องสนใจว่ามันจะเข้าใจท่านขุนหรือไม่ มันไม่ได้สำคัญกับท่านขุนสักนิด”
ขุนพิทักษ์อึ้ง
“อย่าเสียเวลาของท่านขุนเลยขอรับ เพราะถ้าคุณรำพึงรู้เข้า...”
สมพูดแค่นั้นก็นิ่งไป ขุนพิทักษ์ สะดุดหูทันที
“ทำไม...น้องรำพึงรู้แล้วจะทำไม”
สมยังไม่ทันพูด ชุ่มรีบเปิดประตูออกมาทันที
“พี่สม!”
“ไอ้สม เอ็งยังไม่ได้ตอบข้า ถ้าน้องรำพึงรู้แล้วจะทำไม”
สมมองชุ่มที่พยายามส่งสายตาอ้อนวอน
“ก็..คุณรำพึงอาจจะเกลียดหน้านังชุ่มมันขอรับ”
“น้องรำพึงไม่ใช่คนไร้เหตุผลแบบนั้น”
ชุ่มยิ่งสะเทือนใจหนักที่ขุนพิทักษ์ เชื่อมั่นว่ารำพึงดี
“แต่อีกหน่อยคุณรำพึงก็ต้องแต่งงานกับท่านขุน ถ้าคุณรำพึงรู้ว่าท่านลดตัวมาเกลือกกลั้วกับพวก
ทาส คุณรำพึงคงไม่พอใจ”
ขุนพิทักษ์เห็นสายตาที่ตัดพ้อน้อยใจของชุ่ม

“ชุ่ม”
สมดึงชุ่มให้ห่างออกมาแล้วบอก

“ชุ่ม กลับเข้าไป”
ชุ่มเดินเข้าห้องไป แต่ขุนพิทักษ์จะไม่ยอม
“อีกประเดี๋ยวพวกบ่าวไพร่จะกลับมานะขอรับ”
สายตาสมแข็งกร้าวยืนยัน ขุนพิทักษ์จำต้องเดินจากไป สมมองตามแล้วหันมองที่ประตูห้องของชุ่ม
ภายในห้องชุ่มร้องไห้ เจ็บปวด ไม่อาจห้ามน้ำตาได้ สมยืนฟังเสียงสะอึกสะอื้นของชุ่มด้วยความกลุ้มและสงสารน้อง

ในเวลากลางคืน ขุนพิทักษ์ไมตรีเข้ามาในห้อง และมองไปที่ผ้าแพรของรำพึง ขุนพิทักษ์หยิบผ้าแพรขึ้นมามอง ก่อนเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปเบื้องหน้า เขาคิดถึงคำพูดของสม
“ชุ่มมันเป็นบ่าว ทำไมท่านขุนจะต้องสนใจว่ามันจะเข้าใจท่านขุนหรือไม่ มันไม่ได้สำคัญกับท่านขุนสักนิด”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 5/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager