@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4/2 วันที่ 6 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4/2 วันที่ 6 ก.พ. 56

“สักครู่แล้วค่ะ คุณพี่มีธุระกับนังชุ่มเหรอคะ”
ขุนพิทักษ์ รีบหาทางออกทันที
“อ๋อ... แม่ฝากให้ข้ามาเรียกเอ็ง รีบไปหาแม่ข้าเร็ว”
ชุ่มรีบออกไป
“คุณป้าให้คุณพี่มาเรียกบ่าวเหรอคะ”
ขุนพิทักษ์ แก้ตัว

“ข้างบนไม่มีบ่าวสักคน ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด”
รำพึงมองอย่างพินิจ ขุนพิทักษ์ รีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“สาย ๆ แบบนี้ แดดไม่ค่อยร้อนไปเดินเล่นกันดีไหม”
รำพึงยิ้มเก็บท่าทีไม่เซ้าซี้
“ค่ะ”
ขุนพิทักษ์ พารำพึงเดินออกไป

จวงเดินตามแล้วหันมามองสมด้วยท่าทีเคียดแค้น สมทำเมินไปทางอื่นเก็บของไปตามเรื่องตามราวไม่สนใจ
ไม่นานนัก ขุนพิทักษ์ไมตรีก็มาเดินเล่นอยู่กับรำพึงที่บริเวณสระบัว มีจวงตามมาห่างๆ



“ขอบใจน้องรำพึงมากนะที่อาสามาช่วยแม่พี่”
รำพึงเงียบไม่ตอบ ส่งสายตาให้จวงออกไป จวงรู้หน้าที่รีบฉากออกไปทันที
ขุนพิทักษ์ หันมองเห็นรำพึงกรีดน้ำตาไหลอาบแก้ม ขุนพิทักษ์จับรำพึงหันมาถาม
“น้องรำพึง เจ้าร้องไห้ทำไม พี่ทำอะไรให้ขุ่นเคืองใจรึ”
“จวงบอกกับน้องว่า บ่าวที่เรือนนี้ต่างพากันพูดให้เซ็งแซ่ว่า น้องเป็นถึงลูกพระยาแต่ด้อยค่ากว่าทาสอย่างนังชุ่ม”
“ไม่จริง”
“ถ้าไม่มีมูล พวกบ่าวมันก็คงไม่ลือหรอกค่ะ มันคงรู้คงเห็นการกระทำของคุณพี่ มันถึงเอามาพูดกันได้”
ขุนพิทักษ์ ร้อนตัว
“นังคนไหนมันพูด บอกพี่มา พี่จะลงหวายให้หลังมันขาด!”
“คุณพี่ทำแบบนั้น น้องก็จะยิ่งตกเป็นขี้ปากบ่าวไพร่ว่า สิ่งที่พวกบ่าวมันพูดเป็นความจริง เราถึงต้องโกรธ ต้องลงโทษพวกมัน”
รำพึงร้องไห้ ขุนพิทักษ์ บอก
“ในเมื่อมันไม่เป็นความจริง น้องจะเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้ทำไม”
“น้องทนไม่ได้ค่ะที่รู้ว่า น้องไม่ใช่คนที่สำคัญที่สุดของคุณพี่”
“ไม่จริง ไม่มีใครสำคัญกับพี่เท่าน้องรำพึง”
รำพึงน้ำตาร่วงไม่หยุด
รำพึงหันหลังเดินไปที่ขอบสระ ขุนพิทักษ์ เข้าไปกอดไว้จากด้านหลัง
“บางทีกอดของพี่อาจทำให้น้องอุ่นใจ”
รำพึงปลดมือของขุนพิทักษ์
“น้องไม่อยากเจ็บไปกว่านี้อีกแล้ว ถ้าน้องไม่ได้มีค่าในสายตาคุณพี่ น้องก็จะไม่ฝืนเจ็บอีกต่อไป บางทีน้องควรจะมอบหัวใจให้กับคนที่รักและเห็นค่าของน้องจริง ๆ”
“น้องจะให้พี่ทำยังไงน้องถึงจะเชื่อว่าพี่มีน้องเพียงคนเดียว เชื่อพี่นะ...พี่รักน้องรำพึง”
รำพึงสงบลง ขุนพิทักษ์ ค่อยๆบรรจงจูบลงที่ริมฝีปาก แต่ยังไม่ทันได้จูบ เสียงชุ่มดังขึ้นมาขัดจังหวะ
“ท่านขุนเจ้าคะ”
ชุ่มยืนอยู่ห่างออกไปไม่มาก ขุนพิทักษ์ หันมาตามเสียงเรียก รำพึงมีสีหน้าโกรธจัด
“มีอะไรรึ”
“คุณหญิงเป็นลมเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ”
ขุนพิทักษ์ วิ่งไปที่เรือน ทิ้งรำพึงไว้ให้อยู่กับชุ่ม ทั้งคู่มองหน้ากัน ชุ่มชิงเดินหนีรำพึงไปเสียก่อน รำพึงยิ่งโมโห จวงรีบเข้ามาปลอบ
“ทำไมเอ็งไม่เข้าไปกันนังชุ่มไว้หะ !”
“นังนี่มันร้ายกาจมากเจ้าค่ะ จวงไม่เห็นเลยว่ามันมาตั้งแต่ตอนไหน จวงว่ามันตั้งใจจะเข้ามาขัดจังหวะคุณรำพึงแน่ๆเจ้าค่ะ”
รำพึงแค้น
“นังชุ่ม!”
รำพึงรีบเดินตามไป จวงเดินตาม

ขุนพิทักษ์ วิ่งขึ้นมาบนเรือนตรงเข้าไปหาคุณหญิงมณี แจ่มกำลังถือยาดมให้คุณหญิง บ่าวอีกคนกำลังใช้พัดสานพัดวีคุณหญิงมณีอยู่ข้างหลัง ชุ่มตามหลังมาด้วย
รำพึงกับจวงเดินตามขึ้นมา ขุนพิทักษ์ ตรงเข้าไปจับมือคุณหญิง
“คุณแม่เป็นอะไรไปขอรับ”
รำพึงเห็นว่าคุณหญิงมณีเป็นลมจริงก็รีบเข้าไปช่วยประคองอีกด้าน
“คุณป้า”
คุณหญิงมณีลืมตาขึ้นมาหันไปทางขุนพิทักษ์ แล้วถาม
“จริงรึที่ว่าลูกจะประลองกับพ่อไว”
“ขอรับ กระผมกำลังจะมาแจ้งให้คุณแม่ทราบ”
รำพึงมองขุนพิทักษ์ อย่างอึ้ง ๆ ที่รู้เรื่อง
“แล้วลูกจะบอกแม่หรือเปล่า เรื่องที่ลูกเดิมพันกับพ่อไวไว้”
“เดิมพันอะไรเหรอคะคุณพี่”
“ถ้าใครชนะจะได้ตำแหน่งผู้ช่วยกรม ส่วนคนแพ้จะต้องออกไปจากเมืองนี้”
รำพึงตกใจ
“คุณพี่ แล้วถ้าคุณพี่แพ้ล่ะคะ”
“พี่ไม่มีวันแพ้ไอ้ไว คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะขอรับ ลูกจะนำชัยชนะมาฝากคุณแม่เอง”
รำพึงกับคุณหญิงมณีมองขุนพิทักษ์ อย่างไม่มั่นใจ ชุ่มมองอย่างหวั่นๆ

ในเวลาต่อมา รำพึงเดินหน้าบึ้งตั้งแต่ลงจากเรือมาถึงหน้าเรือนพระยาเทวราช จวงวิ่งตามมา
รำพึงมองไปเห็นขุนไวพิชิตพลเดินลงบันไดมาแล้ว รีบเดินเข้ามาหารำพึง ขุนไว เดินคุยโดยที่รำพึงไม่สนใจ
“น้องคงรู้เรื่องที่พี่เดิมพันกับไอ้พิทักษ์แล้ว”
“ค่ะ”
“อันที่จริงท่านพระยายกตำแหน่งให้พี่แล้วด้วยซ้ำ”
รำพึงหยุดแล้วถาม
“แล้วทำไมคุณพี่ยังต้องแข่งกันอีก”
“พี่จะให้น้องได้เห็นว่าพี่ชนะไอ้พิทักษ์อย่างขาวสะอาด วันที่มันแพ้แล้วต้องระเห็จออกจากเมืองนี้ ถึงตอนนั้นน้องจะได้ยอมรับพี่อย่างเต็มใจ แล้วทันทีที่พี่ได้ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้ากรมพี่จะให้ท่านเจ้ากรมมาสู่ขอน้อง”
“ให้คุณพี่ชนะอย่างแท้จริงก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้”

รำพึงเดินขึ้นเรือนไป จวงรีบวิ่งตามขึ้นไป ทิ้งให้ขุนไว ยืนคิดเรื่องผู้ชนะอยู่คนเดียว
คุณหญิงมณียังนอนเอนอยู่บนตั่ง มีชุ่มคอยพัดวี แจ่มเอายาหอมส่งให้ ขุนพิทักษ์ นั่งอยู่ข้างๆ

“ทำไมต้องเดิมพันเช่นนี้ ลูกน่าจะคิดถึงใจแม่บ้าง”
“ที่ลูกทำก็เพื่อความฝันของคุณพ่อและเป็นความต้องการของคุณแม่นะครับ”
“แล้วถ้าลูกแพ้ แม่จะทำอย่างไร โทสะมันจะพาลูกไปสู่ทางลำบากนะ”
“ถ้าลูกไม่ท้ามัน ลูกก็คงเสียตำแหน่งนี้ไปแล้ว นี่ไม่ว่าลูกจะทำเช่นไรก็ไม่เคยถูกในสายตาคุณแม่เลยสักครั้ง”
คุณหญิงมณีอึ้ง
“พิทักษ์”
ขุนพิทักษ์ เสียใจที่ว่าแม่ แต่ก็ไม่พูดอะไรเดินออกไป คุณหญิงมณีก็เสียใจเช่นกัน ชุ่มมองตามอย่างสงสาร

บนเรือนพระยาเทวราช จวงตามเข้ามาในห้องนอน รำพึงจับหมอนเขวี้ยงมาที่หน้าจวง
“ว้าย!” จวงร้องแล้วหลบอย่างหวุดหวิด
“คุณรำพึงเจ้าคะ”
จวงมองรำพึงที่ยืนกำมือแน่นด้วยความแค้น
“แค้นเรื่องอะไรเจ้าคะ”
“แค่เรื่องขุนไวกับคุณพ่อที่คอยกีดกันข้ากับคุณพี่ก็หนักหนาแล้ว ยังมีนังชุ่มที่จ้องจะแย่งคุณพี่ของข้าอีก”
“นังนี่มันอึดยิ่งกว่าควายนะเจ้าคะ โดนตบไปคราวที่แล้วยังไม่รู้จักกลัวเกรง”
“งั้นข้าจะต้องซ้ำให้มันสำนึก!”
รำพึงยิ้มร้าย จวงมองอย่างรอคำบัญชา

ผ่านเวลามาในช่วงเย็น ชุ่มลงมาจากเรือน สมก็รีบเข้าไปหา
“พี่สม ท่านขุนกลับมาหรือยังจ๊ะ”
“ออกไปโรงเหล้าตั้งแต่บ่าย กว่าจะกลับก็คงใกล้รุ่งล่ะมั้ง เอ็งถามทำไม”
“ก็เป็นห่วง”
“นังชุ่ม ข้าเตือนเอ็งแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับท่านขุน ข้าไม่อยากให้เอ็งต้องเสียตะ(ตัว).....เสียใจ”
“ทำไมข้าจะต้องเสียใจ ข้าห่วงเพราะท่านขุนเป็นลูกคุณหญิงผู้มีพระคุณของเรา”
สมมองนิ่งแล้วบอก
“ถ้าเอ็งคิดได้แบบนั้นก็ดี”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าไปช่วยงานในครัวก่อนนะ”
ชุ่มพูดจบก็รีบเดินเลี่ยงไป สีหน้าชุ่มสับสนกับคำพูดของพี่ชาย สมมองตามน้องสาวด้วยสีหน้าเครียด

ในเวลากลางคืน บริเวณหน้าเรือนคุณหญิงมณี ชุ่มยังเดินวนเวียนอยู่ที่หน้าเรือน ชะเง้อมองรอขุนพิทักษ์ไมตรีอย่างเป็นห่วง
ขุนพิทักษ์ เดินเมามาแต่ไกลจนเข้าที่หน้าเรือน แล้วเซจะล้มชุ่มรีบไปประคองไว้
ขุนพิทักษ์ เสียงอ้อแอ้ด้วยความเมา
“ไม่ต้องๆข้าเดินเองได้ ข้าทำอะไรด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องมาช่วย!”
“ไม่ช่วยได้ไงเจ้าคะ แค่เดินก็จะล้มอยู่แล้วเนี่ย” ชุ่มบอก
“แม้แต่เจ้าก็ไม่เชื่อข้าเหรอว่าข้าชนะไอ้ขุนไวได้ ไม่มีใครเชื่อข้าสักคน ตั้งแต่แม่ข้า แล้วก็เอ็ง”
ขุนพิทักษ์ เอาหน้ามาใกล้แล้วยิ้ม ชุ่มเหวอแล้วเขิน
“จะว่าไปเจ้าก็งามเหมือนกันนะ”
ขุนพิทักษ์ ทำท่าจะจูบชุ่ม ชุ่มตกใจผลักขุนพิทักษ์ ร่วงลงไปกับพื้น ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่
ขุนพิทักษ์ มองชุ่มด้วยสายตาเบลอและเห็นลาง ๆ แต่ได้ยินทุกคำพูดของชุ่ม
“ถึงใครจะบอกว่าท่านเลว แต่ข้ารู้ว่า เนื้อแท้ของใจท่านก็รักและพยายามทำทุกอย่างเพื่อคุณหญิง ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน ข้าเชื่อท่าน”
ขุนพิทักษ์ยิ้มนิด ๆ เหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจ ชุ่มนั่งมองขุนพิทักษ์หลับไปอยู่อย่างนั้น

เช้าวันใหม่ รำพึงกับจวงขึ้นจากเรือ เจอขุนไวพิชิตพลยืนอยู่บนท่าน้ำบ้านคุณหญิงมณี รำพึงอึ้งทันที
“พี่เอาเครื่องเทศจากพระคลังเมืองมาให้คุณหญิง”
“ไม่น่าเชื่อนะเจ้าคะว่าคุณพี่จะกล้ามาหาคุณหญิง ทั้งที่เดิมพันกับลูกชายท่านไว้อย่างนั้น”
“คุณหญิงท่านเป็นผู้ใหญ่พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ท่านยังอนุญาตให้พี่อยู่เป็นเพื่อนน้องรำพึงจนกลับเลย”
รำพึงหน้าเหวอ
“อย่าเลยค่ะ คุณพี่พิทักษ์มาเห็นเข้าคงได้วางมวยกันอีก”
ขุนไว หัวเราะ
“ไอ้พิทักษ์น่ะเหรอจะทำอะไรพี่ได้ ป่านนี้มันยังเมาไม่ตื่นเลยล่ะมั้ง”
รำพึงถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วเดินไป ขุนไว เดินตาม รำพึงหันกลับมาต่อว่าทันที
“หยุดทำให้น้องลำบากใจเสียทีเถอะค่ะ”
ขุนไว อึ้งไป
“พี่ทำให้น้องลำบากใจตรงไหน”
“ก็ตรงที่คุณพี่มากับน้องนี่ไงคะ พวกบ่าวไพร่มันจะคิดยังไง ที่น้องพาคนที่เป็นศัตรูกับเจ้าของบ้าน เข้ามาเย้ยถึงที่”
“พี่ว่าน้องคิดมากไป”
รำพึงทำน้อยใจ
“น้องทราบแล้วว่าคุณพี่มีความรักและห่วงใยเกียรติของน้องเพียงแค่นี้”
รำพึงเดินไป ขุนไว จะตามแต่ชะงักไปด้วยรู้สึกผิด แล้วกลับลงเรือไป

รำพึงแอบมองแล้วยิ้มอย่างผู้มีชัย
บ่าวไพร่ในเรือนคุณหญิงมณีกำลังพากันเตรียมงานกันอย่างวุ่นวาย ทั้งกวาดลานบ้าน ถูพื้น ร้อยมาลัย จัดดอกไม้ เตรียมเครื่องปรุงอาหาร

ที่โรงครัว รำพึงกำลังยืนดูบ่าวคนหนึ่งกวนน้ำเชื่อมอยู่ โดยมีจวงคอยพัดวี ดูแลอยู่ไม่ห่าง
รำพึงพูดกับบ่าวคนหนึ่งว่า
“เตาเอ็งไฟมันแรงไป เอาไฟออกอีกหน่อย เวลากวนน้ำเชื่อมมันจะได้เหนียวได้ที่”
“เจ้าค่ะ”
รำพึงเดินออกจากเตากวนน้ำเชื่อมมาดูบ่าวอีกคนร้อยมาลัย รำพึงหยิบมาลัยพวงหนึ่งขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นมาลัยที่ใช้ดอกพุดร้อย
รำพึงพูดกับบ่าวคนที่สอง
“นี่มันมาลัยอะไรของเอ็ง ทำไมถึงใช้ดอกพุดร้อย”
“ทำไมล่ะเจ้าคะ...บ่าวก็ร้อยเหมือนทุกทีล่ะเจ้าค่ะ”
รำพึงพูดเสียงอ่อนโยน
“เอาไปทิ้งนะ... แล้วต่อไปนี้ให้ใช้ดอกมะลิร้อยเท่านั้น”
“แต่ที่เรือนนี้ใช้ดอกพุดร้อยมาตลอดนะเจ้าคะ”
รำพึงยิ้มสบตาจวง
“คุณรำพึงสั่ง เอ็งก็ต้องทำตาม!” จวงตะคอกใส่ทันที
บ่าวที่ทำงานอยู่แถวนั้นต่างซุบซิบที่รำพึงทำตัวเหมือนเจ้าของเรือน จวงสังเกตเห็นก็เบ่งใส่ทาสพวกนั้นทันที
“รึพวกเอ็งมีปัญหากับว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่ของเรือนนี้”
พวกบ่าวมองจวงอย่างหมั่นไส้
บ่าวคนที่สองพูดอย่างจำใจ
“เปล่าจ้ะ ฉันจะเอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้ล่ะ”
จวงมองดูบ่าวคนอื่นที่ทำงานอยู่รอบๆ ทุกคนต่างพากันหลบหน้าจวง จวงยิ้มอย่างเหนือกว่า รำพึงเหลือบไปเห็นชุ่มที่ลับมีดเสร็จแล้วถือถาดมีดกำลังเดินมาทางรำพึง รำพึงสะกิดให้จวงดู จวงมองรำพึงอย่างรู้กัน
รำพึงได้ทีแกล้งเอาขาขัด ทำให้ชุ่มเสียหลักล้มลงจนถาดมีดคว่ำลง มีดกระจายเต็มพื้น รำพึงยิ้มเยาะชุ่มอย่างซะใจ จวงทำโวยวาย
“นังชุ่ม! เอ็งตั้งใจจะฆ่าคุณรำพึงของข้ารึ”
จวงพูดจบก็เอาตีนกระทืบขาชุ่มทันที ชุ่มทั้งเจ็บ ทั้งตกใจและอึ้งไป บ่าวคนอื่นจะเข้ามาช่วยแต่จวงขวางไว้
“ไม่ใช่เรื่องของพวกเอ็ง”
พวกบ่าวมองรำพึงอย่างโกรธแค้น
“จวงพอเถอะ ฉันไม่อยากเอาเรื่อง”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณรำพึงใจดีเกินไป มันจะได้ใจนะเจ้าคะ”
จวงจะกระทืบซ้ำ แต่คราวนี้ชุ่มหลบได้และไม่ยอม ถีบขาของจวงกลับจนเสียหลักล้มลง
“นังนี่! เอ็งสู้ข้าเหรอ”
จวงเข้าไปจะซ้ำ ชุ่มสู้จวง ทั้งสองยื้อยุดกันไปมา รำพึงยืนดูอยู่อย่างใจเย็น จนกระทั่งชุ่มได้จังหวะแล้วผลักจวงกระเด็นไปโดนรำพึง จนทำให้รำพึงล้มไปโดนถ้วยน้ำพริก ถ้วยน้ำพริกที่วางอยู่คว่ำใส่ รำพึงรำพึงกรีดร้องลั่น
“บ่าวขอโทษเจ้าค่ะคุณหนู...นังชุ่มมันผลักบ่าวมา”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4/2 วันที่ 6 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager