@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4 วันที่ 6 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4 วันที่ 6 ก.พ. 56

ชุ่มมองมือตัวเองที่โดนจับอย่างเขินๆ
“เจ้าค่ะ ท่านขุนก็...”
ขุนพิทักษ์มองตามเห็นมือตัวเองจับมือชุ่มอยู่ ก็รีบปล่อยมือและเปลี่ยนเรื่องพูด
“เอ็งรักพ่อกับแม่ดีนะ”
“เจ้าค่ะ อะไรที่ทำให้พ่อกับแม่สบายใจข้าจะทำสิ่งนั้น เห็นพ่อแม่มีความสุข ข้าก็สุขไปด้วย เหมือนท่านขุนที่ทำทุกอย่างเพื่อคุณหญิงไงเจ้าคะ”

ขุนพิทักษ์ทำหน้างงว่า ตนเองทำอะไรเพื่อคุณหญิงมณี
“ก็พรุ่งนี้ท่านขุนต้องไปคัดเลือกที่กรมไม่ใช่เหรอเจ้าคะ”
“สู่รู้! เอ็งสอดรู้สอดเห็นเรื่องของข้างั้นรึ”
ชุ่มกลัวโดนดุ ทำหาวใส่
“ดึกแล้ว ข้าไปนอนก่อนนะเจ้าคะ”
ชุ่มยิ้มให้ขุนพิทักษ์ฯ
“คุณหญิงรักท่านขุนฯมากนะเจ้าคะ ทุกคนในบ้านคงดีใจถ้าท่านขุนฯ จะได้เป็นผู้ช่วยกรมสืบต่อจากท่านพระยา”
ชุ่มยิ้มแล้วจะไป แต่ขุนพิทักษ์คว้าแขนชุ่มไว้



“เดี๋ยว ทุกคนที่ว่ารวมถึงเจ้าด้วยหรือเปล่า”
ชุ่มเก้อเขิน ขุนพิทักษ์ดึงชุ่มเข้ามาใกล้ แล้วค่อย ๆยื่นหน้าเข้าไป
ชุ่มตัดสินใจชี้ไปทางอื่น “เฮ้ย !”
ขุนพิทักษ์หันขวับไป ชุ่มรีบดึงมือออกแล้วรีบวิ่งหนีไปทันที
“นังชุ่ม!”
ขุนพิทักษ์ไม่ตาม ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเอ็นดู และเดินกลับเรือนไป
สมเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง มองตามขุนพิทักษ์ไปอย่างไม่สบายใจ

ชุ่มกำลังจะล้มตัวนอน สมเดินเข้ามา ชุ่มตกใจหันมาเห็นเป็นสมก็โล่งใจ
“พี่สม! เข้ามาเงียบๆ ข้าตกใจหมด”
“คิดว่าเป็นท่านขุนหรือไง”
“พี่สม! พูดอะไรแบบนั้น”
“เอ็งไปไหนมาถึงกลับมากับท่านขุนตอนใกล้สางแบบนี้”
“ฉันไปหาพ่อกับแม่ ขากลับเจอกับท่านขุนพอดี ฉันสาบานได้”
สมมองอย่างไม่เชื่อ แล้วพูดอย่างหนักใจ
“เอ็งควรจะอยู่ห่างท่านขุนไว้ ท่านเป็นชายเอ็งเป็นหญิง ถ้าเอ็งยิ่งเข้าใกล้ท่านขุนเท่าไร เอ็งจะมีแต่เสียกับเสีย”
“ทำไมพี่สมพูดอย่างนี้”
“ข้ารู้ว่าเอ็งเข้าใจที่ข้าพูด ข้าขอเถอะนังชุ่ม ทาสอย่างเราก็อยู่ส่วนทาส อย่าได้ไปข้องเกี่ยวกับนาย ข้าไม่อยากเห็นใครมาทำร้ายเอ็งอีก”
ชุ่มนิ่งคิดตามที่พี่ชายพูด แต่เหมือนในใจยังสับสนอะไรบางอย่าง

ขุนพิทักษ์กำลังจะเดินไปที่ห้องตนเอง เสียงคุณหญิงมณีดังมาจากห้องพระ เขาหยุดฟัง
“คุณพี่คะ... คุณพี่คงอยากให้ลูกมีหน้าที่การงานที่ดีก่อนที่จะออกเรือน น้องพยายามแล้วแต่ลูกไม่ยอม น้องขอโทษนะคะที่ทำให้ความหวังของคุณพี่เป็นจริงไม่ได้”
คุณหญิงมณีปาดน้ำตา ขุนพิทักษ์หันกลับมา นึกถงคำพูดของชุ่ม
“คุณหญิงรักท่านขุนฯมากนะเจ้าคะ ทุกคนในบ้านคงดีใจถ้าท่านขุนฯจะได้เป็นผู้ช่วยกรมสืบต่อจากท่านพระยา”
ขุนพิทักษ์หันมองคุณหญิงมณีอีกครั้งอย่างคิดหนัก

ตอนสาย ขุนพิทักษ์แต่งตัวเต็มยศนั่งทานอาหารเช้าอยู่อย่างอารมณ์ดี คุณหญิงมณีกับแจ่มเดินขึ้นเรือนมาเห็น
“จะไปไหนแต่เช้าล่ะพ่อพิทักษ์”
“เช้าที่ไหนขอรับคุณแม่ นี่สายจนจะเที่ยงแล้ว”
“ปกติ แม่ไม่เคยเห็นลูกตื่นก่อนเที่ยงเลยนี่”
ขุนพิทักษ์ ยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินมาหาคุณหญิง
“ลูกว่าจะไปรับการคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมอย่างที่คุณแม่ต้องการไงขอรับ”
คุณหญิงมณีอึ้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แล้วยิ้มอย่างปลื้มใจ
“จริงหรือลูก แม่ดีใจจริงๆ แต่นี่มันสายแล้วนะลูก เค้านัดไปรายงานตัวตอนเช้าไม่ใช่เหรอ”
ขุนพิทักษ์เหวอ

ขุนพิทักษ์วิ่งออกมาอย่างรีบร้อน ร้องโหวกเหวกสั่งไอ้สม

“ไอ้สม ไอ้สมโว้ย! เอาม้ามาให้ข้าเร็ว”
ที่หน้าเรือน เห็นชุ่มจูงม้ายืนรออยู่
“ม้าพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
“เอ็งรู้ได้ยังไงว่าข้า...”
“ข้ารู้ว่าท่านขุนก็รักคุณหญิงท่านไม่น้อยเหมือนกัน”
ขุนพิทักษ์รับสายจูงม้ามา แล้วพูดอย่างเอ็นดู
“เอ็งนี่มันสู่รู้”
“เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์รีบควบม้าออกไป ชุ่มมองตามอย่างเป็นปลื้มที่ขุนพิทักษ์แล้วตัดสินใจ
คุณหญิงมณียืนอยู่บนเรือนมองมาที่ชุ่ม แจ่มเข้ามาหันมองคุณหญิงมณี
“น่าปลื้มใจนะเจ้าคะ ที่ท่านขุนยอมไปคัดเลือกตามที่คุณหญิงขอร้อง”
“อาจจะไม่ใช่ข้าที่ทำให้พ่อพิทักษ์เปลี่ยนใจ”
“แล้วใครล่ะเจ้าคะที่ทำให้ท่านขุนยอมเปลี่ยนได้”
คุณหญิงมณีมองที่ชุ่มอย่างเคร่งเครียด

ภายในห้องประชุมที่กรม ขุนไวพิชิตพลนั่งอยู่กับพระยาเทวราช และข้าราชการในกรมอีกสองคน
“ขุนพิทักษ์คงจะไม่มาแล้วล่ะมั้ง”
ขุนไว แอบยิ้มในชัยชนะของตัวเอง

ขุนพิทักษ์ควบม้าอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อรีบไปให้ทันเวลา
ด้านขุนพิทักษ์ไมตรีรีบวิ่งเข้าไปในตึกกรม ขณะนั้น พระยาเทวราช กับขุนไวพิชิตพลเดินออกมา ขุนพิทักษ์ วิ่งเข้าไปไหว้พระยาเทวราช

“กระผมมารายงานตัวครับ”
ขุนไว ยิ้มสมเพช
“ถ้ายังรักษาเวลาไว้ไม่ได้ จะรับผิดชอบการงานได้อย่างไร”
“เป็นความผิดของกระผมเองขอรับ แต่นั่นไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่ากระผมจะไม่มีความสามารถในการทำงานนะขอรับ”
“ให้โอกาสขุนพิทักษ์สักครั้งเถอะขอรับ” ขุนไว ว่า
“ไม่ต้องมาช่วยพูดแทนข้า สอพลอ!”
“ไอ้พิทักษ์!”
ทั้งสองคนจะเข้าใส่กัน แต่พระยาเทวราชห้ามไว้ซะก่อน
“ให้เกียรติที่นี่บ้างท่านขุน อย่ามาทำตัวเช่นนักเลงข้างถนนที่นี่”
ขุนไว พยายามคุมสติ
“ขอประทานโทษครับ กระผมแค่ต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า กระผมพร้อมในทุกด้านในการรับตำแหน่งผู้ช่วยกรมครั้งนี้ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งมาเพราะคู่แข่งมารายงานตัวไม่ทันเวลา”
“ถ้าเช่นนั้น ไอ้ไว... ข้าขอท้าเอ็ง มาวัดกันซักตั้ง เดิมพันตำแหน่งนี้กัน ถ้าข้าแพ้ เอ็งเอาตำแหน่งไป แล้วข้าไปจากที่นี่ไม่กลับมาอีก เอ็งกล้าพอรึเปล่า”
ขุนไว อึ้งมองพระยาเทวราช พระยาเทวราชนิ่งไม่พูดอะไร
ขุนไว เข้าไปพูดใกล้ๆ
“ได้ เอ็งจะได้ไปให้พ้นหน้าข้าสักที น้องรำพึงจะได้เป็นของข้าโดยชอบธรรม ที่ไหน เมื่อไหร่ว่ามาเลย”
“เอาอย่างนี้ ในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่ ฉันจะจัดงานประลองขึ้นระหว่างท่านทั้งสอง ใครชนะจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่”
“หากใครแพ้ จะต้องไปให้ไกลจากเมืองนี้และไม่กลับมาอีก! ขุนไว บอก
ทั้งคู่จ้องหน้ากันอย่างเคียดแค้น สีหน้าเหมือนอดใจรอวันประลองแทบไม่ไหว

คุณหญิงมณีพารำพึงเดินดูบ่าวในเรือนทำงาน
“พ่อพิทักษ์เค้าออกไปรายงานตัวตั้งแต่สายๆแล้วล่ะจ้ะ ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ด้วยศักดิ์ของคุณพี่พิทักษ์ จะต้องได้รับตำแหน่งอย่างแน่นอน”
“ขอบใจนะจ๊ะ ได้หนูรำพึงมาช่วยป้าดูแลงานต้อนรับท่านเจ้ากรมคราวนี้ป้าคงเบาแรงขึ้นเยอะ”
“เรื่องการบ้านการเรือนคงต้องให้คุณป้าช่วยแนะนำหลานอีกเยอะค่ะ”
คุณหญิงมณียิ้มรับ
ชุ่มเดินถือผ้ามาแล้วถูพื้น จวงเห็นชุ่มจึงสะกิดรำพึงให้มอง แล้วทั้งคู่ก็มองหน้ากันอย่างมีแผนร้าย
“บ่าวบ้านนี้ดูคล่องแคล่วดีนะคะ”
“ทำได้แค่งานเช็ดๆถูๆเท่านั้นแหละจ้ะ จะไปหวังพึ่งให้ทำงานปราณีตเหมือนคนอื่นเขาท่าทางจะยาก” คุณหญิงมณีว่า
“ให้คุณรำพึงสอนงานมันสิเจ้าคะ บ่าวที่บ้านก็ทำงานเป็นกันทุกคน ก็เพราะคุณรำพึงนี่แหละเจ้าค่ะ” จวงบอก
คุณหญิงมณีมองรำพึงเป็นเชิงถาม รำพึงยิ้ม คุณหญิงมณีจึงหันไปเรียกชุ่ม
“นังชุ่ม...มาทางนี้หน่อยซิ”
“เจ้าค่ะ”
ชุ่มคลานเข่าเข้ามาตรงหน้าคุณหญิงมณี
“เอ็งโชคดีแล้วนะที่คุณรำพึงเมตตาจะสอนงานให้เอ็ง”
ชุ่มมีสีหน้าไม่สบายใจ คุณหญิงมณีสังเกตเห็น
“ทำไมเอ็งไม่รีบขอบคุณคุณรำพึงล่ะ”
รำพึงพูดกับชุ่ม
“ชุ่มจ้ะ ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะจ้ะ ฉันไม่ใช่เสือใช่สาง”
ชุ่มจำใจ
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”
รำพึงยิ้มอย่างใจดี แต่แววตาแฝงไปด้วยความร้ายกาจ

บริเวณเรือนครัว ชุ่มกำลังล้างหม้อล้างไห ได้ยินผ่องกับผาดที่หั่นผักพลางซุบซิบกัน
“คุณรำพึงอาสามาช่วยงานคุณหญิงท่านแบบนี้ คงอยากเป็นคุณผู้หญิงของท่านขุนตัวซี้ตัวสั่นน่ะสิ” ผ่องว่า
สมเข้ามาได้ยินหยุดยืนฟัง
“นังชุ่ม เอ็งไม่ร้อนใจบ้างเหรอที่คุณรำพึงมาประกาศตัวขนาดนี้” ผาดถาม
“ทำไมฉันจะต้องร้อนใจด้วย เรื่องของเจ้านายไม่เกี่ยวอะไรกับบ่าวอย่างฉันสักนิด” ชุมว่า
“แต่เอ็งกับท่านขุน”
สมแทรกขึ้น
“ถ้าพวกเอ็งไม่เลิกปากมาก ปากพวกเอ็งจะแตกไม่รู้ตัว”
สมกระแทกเท้าปึง!
ผ่องกับผาดสะดุ้งแล้วพากันยกผัก ยกมีดเลี่ยงไปที่อื่น
“ชุ่ม เอ็งต้องระวังตัวนะ” สมบอก
“ไม่มีอะไรหรอกพี่สม ถ้าข้าไม่ยุ่งกับเขา เขาคงไม่มาทำอะไรข้าหรอก”

ชุ่มก้มหน้าล้างไหล้างหม้อต่อไป สมมองอย่างเป็นห่วง
ฝ่ายผ่องกับผาดเลี่ยงมานั่งอีกมุมของโรงครัว สายตามองทางชุ่มกับสม

“นังชุ่มมันไม่เห็นจะเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย” ผาดว่า
รำพึงกับจวงเข้ามาจากอีกทางหนึ่ง
“นังผ่องเอ็งแน่ใจเหรอว่านังชุ่มน่ะจะได้เลื่อนขั้นเป็นเมียท่านขุน” ผาดถาม
“เมื่อคืนข้าเห็นกับตาว่า ท่านขุนน่ะเดินจูงมือนังชุ่มมาส่งที่เรือนกลางดึก ถ้าไม่มีอะไรกันจะจับมือถือแขนกันขนาดนั้นเหรอวะ” ผ่องบอก
“คุณรำพึงมีบุญวาสนาเป็นถึงลูกพระยา สุดท้ายก็แพ้ทาสอย่างนังชุ่ม สะใจว่ะ” ผาดว่า
จวงหันไปมองรำพึงเห็นนายหญิงยืนกำมือแน่น สีหน้าแค้นสุดชีวิต
รำพึงพึมพำกับตัวเอง
“นังชุ่ม!”
“เข้าไปตบมันเลยไหมเจ้าคะ คุณรำพึง” จวงบอกแล้วจะพุ่งไป แต่รำพึงคว้าไว้
“เอ็งคอยฟังคำสั่งจากข้า อย่าสะเออะทำนอกเหนือคำสั่งข้า จำไว้”
“เจ้าค่ะ”
รำพึงมองไปทางชุ่มที่ล้างหม้อไหอย่างโกรธแค้น

ในเวลาต่อมา ขุนพิทักษ์ไมตรี ขี่ม้าเข้ามาที่หน้าเรือน ทาสชายวิ่งเข้ามารับ
“นังชุ่มอยู่ไหน!”
“ที่ครัวขอรับ” ทาสชายบอก
ขุนพิทักษ์ ส่งม้าให้ทาสชายแล้วรีบเดินไปทางไปครัว คุณหญิงมณียืนมองจากด้านบน แจ่มก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ
“แปลกนะเจ้าคะ ท่านขุนกลับมาถึงก็เรียกหานังชุ่ม เดี๋ยว อิฉันจะไปดูให้นะเจ้าคะ ว่านังชุ่มมันก่อเรื่องอะไรอีก”
“ไม่ต้อง! เอ็งให้คนไปดูที่กรมสิว่า ตกลงใครได้ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้ากรม”
“ไม่รอถามท่านขุนเหรอเจ้าคะ” แจ่มบอก
“ข้าสั่ง!”
แจ่มสะดุ้งแล้วรีบไป
“เจ้าค่ะ”
คุณหญิงมณีมองตามทางที่ขุนพิทักษ์ เดินไปอย่างกังวล

รำพึงเดินเข้ามาในเรือนครัว จวงเดินตามท่าทางกร่างเต็มที่
“อ้าวๆ มัวแต่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ได้ ถึงว่าสิ คุณหญิงถึงต้องให้คุณหนูของข้ามาช่วยงาน ก็เพราะว่าบ่าวเรือนนี้มีแต่พวกไม่ได้เรื่องแบบนี้นี่เอง” จวงว่า
รำพึงสีหน้าอ่อนโยนบอก
“จวง เอ็งพูดจาแบบนี้ เดี๋ยวพวกบ่าวที่นี่ก็กลัวข้ากันเสียหมด”
“ไม่ต้องสนหรอกเจ้าค่ะคุณรำพึง ขี้ข้ายังไงก็เป็นขี้ข้าวันยังค่ำ ถ้ามันไม่ฟังนายก็โบยมันสิเจ้าคะ” จวงบอก
บ่าวไพร่ต่างมองจวงด้วยสายตาหมั่นไส้ รำพึงหันไปเห็นชุ่ม
“ชุ่มจ๊ะ ข้ามีอะไรจะใช้เอ็งหน่อย”
ผ่องกับผาดและบ่าวไพร่คนอื่นๆมองกันอย่างลุ้นๆ
“เจ้าค่ะ แต่ข้าขอเอาจานชามพวกนี้ไปคว่ำก่อน”
ชุ่มลุกออกไป รำพึงเหลือบสายตามองจวง จวงรู้หน้าที่ทันทีตามไปดึงชุ่มไว้
“หยุดนะนังชุ่ม คุณหนูข้าเรียกใช้เมื่อไหร่ เอ็งต้องมาทันที” จวงบอก
ในจังหวะที่จวงกำลังจะถึงตัวชุ่ม สมแกล้งเตะเข่งใส่จวงจนจวงล้มคว่ำ
“นี่เอ็งแกล้งข้ารึ !”
“โทษที ลมมันพัดน่ะ ข้าจะเอาตีนเกี่ยวไว้ก็ไม่ทัน”
“ข้าไม่เชี่อ ... คุณหนูเจ้าคะ ดูมันทำกับบ่าวสิเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ เข้ามาไม่ทันเห็นรำพึงก็เรียก
“นังชุ่ม!”
ทุกคนชะงัก รำพึงหันมอง ขุนพิทักษ์เหวอที่เห็นรำพึง
“น้องรำพึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สักครู่แล้วค่ะ คุณพี่มีธุระกับนังชุ่มเหรอคะ”
ขุนพิทักษ์ รีบหาทางออกทันที

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 4 วันที่ 6 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager