@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/5 วันที่ 11 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/5 วันที่ 11 ก.พ. 56

“เจ้าเมย์ จะพูดอะไรต้องคิดก่อน พูดแบบนี้ผู้ใหญ่ฟังแล้วไม่สบายใจนะลูก” ปรงทองว่า
ตันหยงมองปรงทองด้วยความอึดอัด
“หนูไม่ได้โกหกนะคะคุณหญิง” ตันหยงคิดในใจแล้วหันมองประภัสสรด้วยความสงสาร “ผู้หญิงคนนี้ ต้องรับความจริงไม่ได้แน่ๆ” ตันหยงตัดสินใจพูด
“ขอโทษค่ะ น้องเมย์..แค่จะล้อคุณแม่เล่น”
ปฐวีมองหลานแล้วส่ายหัวก่อนจะมองนาฬิกา
“ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”

ปรงทองยิ้มให้ ปฐวีเดินออกไป
ตันหยงนึกได้ว่าอยากตามไปโรงพยาบาล เธอจึงหันมองปฐวีแล้วเรียกก่อนจะวิ่งตามไป
“เดี๋ยวก่อนค่ะ รอด้วย”
ประภัสสรกับเมธีลุกขึ้นตามไป



“น้องเมย์...”
ปฐวีหยุดเดินแล้วหันมามอง ตันหยงในร่างเมรินที่วิ่งมาหยุดยืนตรงหน้า

“ขอไปโรงพยาบาลด้วยคนได้ไม๊คะ น้องเมย์อยากไปที่โรงพยาบาลด้วย”
ปฐวีนั่งลง มองหลานสาว “ได้สิ....” ตันหยงดีใจ “แต่ไม่ใช่วันนี้”
ตันหยงปากคว่ำทันที
“น้องเมย์อย่ากวนน้าวีเลยนะคะ ให้น้าวีไปทำงาน น้าวีต้องไปดูแลคนไข้นะลูก” ประภัสสรบอก
“กลับไปทานข้าวกับคุณพ่อนะ” เมธีพูด
ปฐวีพูดกับหลาน “ขอเป็นวันพุธหน้าตามหมอนัดแล้วกันนะ วันนี้น้าวีมีเคสผ่าตัด”
ตันหยงบ่นด้วยเสียงอ่อนลง “แต่ชั้นอยากไปวันนี้”
“น้องเมย์คนเก่ง ไม่งอแงนะครับ เดี๋ยวคุณแม่จะเป็นกังวล” เมธีบอก
เมรินเงยหน้ามองแม่แล้วก็สงบลง
“ขอโทษค่ะ”
ปฐวียิ้มให้แล้วจับจมูก
“น้าวีไปนะ”
พูดจบปฐวีก็หอมแก้มเมริน เมรินจ้องด้วยความโกรธ ปฐวีหัวเราะแล้วเดินไปขึ้นรถ
“ไปทานข้าวต่อนะคะน้องเมย์” ประภัสสรบอก
ตันหยงเช็ดแก้มแล้วมองประภัสสรก่อนจะเดินนำออกไป

ตันหยงเดินมามองปรงทอง ปรงทองมองตอบแล้วแซวหลาน
“เจ้าเมย์เอ๊ย ติดน้าวีขนาดนี้ พ่อเราจะน้อยใจเอานะลูก”
เมธียิ้ม หันมองพ่อ
“ทานข้าวก็ไม่เสร็จ มาทานต่อกับย่ามา มานั่งใกล้ๆ ย่านี่”
เมธีอุ้มลูกสาวขึ้นไปนั่งใกล้ๆคุณย่า
พ่อกับแม่มองเมรินอย่างเป็นห่วง ตันหยงแอบถอนหายใจ แล้วตัดสินใจตักข้าวต้มใส่ปาก แล้วกินต่อโดยไม่พูดไม่จา ทุกคนมองหน้ากันด้วยความงง ส่วนคุณย่าปลื้มใจ
“ดูสิ บทจะกินขึ้นมา ก็กินเอากินเอา กินเก่งกว่า เมื่อก่อนอีกนะ” ปรงทองว่า
ทุกคนยิ้มแย้มอย่างโล่งใจ

พิรามดูรูปตันหยงในคอมพิวเตอร์ด้วยความเศร้า เขากดดูรูปต่อไปซึ่งเป็นรูปคู่เขากับตันหยงสองคนกำลังยิ้มแย้มมีความสุข พิรามมองรูปแล้วยิ้มแล้วกดดูต่อ จนพัดชาเดินเข้ามา พิรามหยุดดู
“คุณเข้ามาทำไม” พิรามถาม
“พิรามคะ อย่าโกรธพัดเลยนะคะ พัดแค่ไม่อยากสูญเสียคุณไป”
“แต่ผมกำลังจะสูญเสียตันหยงไป .....เพราะเราเป็นต้นเหตุ ทำให้ตันหยงเป็นแบบนี้”
“อะไรๆก็ตันหยง สมแล้วล่ะ ใครใช้ให้เมาแล้วขับล่ะทำตัวเองนี่”
“คุณมันใจร้ายพัดชา เพราะคุณเป็นแบบนี้ คุณถึงไม่ได้ใจผม”
พัดชาโกรธ “คุณก็ไม่เคยให้ใจกับพัดอยู่แล้วล่ะ”
“ใช่..เพราะผมรักตันหยง.... พัดชา ผมจะเลื่อนคุณนุชขึ้นมาเป็นเลขา และให้คุณไปทำงานอีกแผนกหนึ่ง ขอให้คุณอย่ามายุ่งผมอีก... อย่าให้ผมต้องไล่คุณออก”
พิรามเดินออก พัดชาเรียกไว้แต่พิรามไม่หยุดเดิน
“เดี๋ยวคุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ คุณพิราม คุณไม่เคยแคร์พัดเลยใช่ไม๊ คุณไม่เคยรักพัดเลยใช่ไหม”
พิรามเดินออกไปจากห้อง พนักงานหน้าห้องเงยหน้ามองเพราะตกใจเสียงพัดชา พิรามเดินต่อไปอย่างไม่สนใจ

ตันหยงนั่งคิดอยู่ที่โถงด้านล่างแล้วก็นึกได้
“พี่สายแก้วคะ คือ.. น้องเมย์อยากออกไปนอกบ้าน เอ่อ..ไปบ้านเพื่อนค่ะ พี่สายแก้วพาน้องเมย์ออกไปหน่อยได้ไม๊คะ”
สายแก้วตกใจ “อุ๊ย.. ไม่ได้หรอกค่ะ พี่สายแก้วไม่กล้าหรอก คุณน้องเมย์ไปขอคุณแม่ดีกว่านะคะ”
ตันหยงถอนใจเพราะเบื่อ สายแก้วเลยชวนเธอเล่นตุ๊กตา
“คุณน้องเมย์เบื่อเหรอคะ พี่สายแก้วเล่นตุ๊กตาเป็นเพื่อนเอาไม๊คะ”
ตันหยงหันมองสายแก้วด้วยหางตาเพราะกลุ้มใจ
“เล่นตุ๊กตา”
สายแก้วพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ตันหยงส่ายหัวก่อนหันไปเห็นคอมพิวเตอร์ก็นึกได้
“พี่สายแก้วคะ งั้นพี่สายแก้วช่วยค้น หนังสือพิมพ์เก่าให้น้องเมย์หน่อยนะคะ ย้อนหลังไปซักอาทิตย์นึง เร็วๆ นะคะ”
“คุณน้องเมย์จะเอามาทำอะไรคะ”
“จะหาข่าวอุบัติเหตุค่ะ”
“ข่าวอุบัติเหตุ” สายแก้วอ้าปากค้าง
“น้องเมย์ล้อเล่นค่ะ น้องเมย์จะอ่านการ์ตูน น้าวีบอกให้หัดอ่านหนังสือพิมพ์ มีการ์ตูนสนุกๆ จะได้ฉลาด เป็นเคล็ดลับ อย่าบอกใครนะ”
สายแก้วพยักหน้างงๆ แล้วเดินออกไป

ตันหยงหันมองไปทางเครื่องคอมพิวเตอร์ คิดบางอย่างในใจ
บุญศรีกับเด็กรับใช้กำลังกินข้าวอยู่ในครัว บุญศรีคุยอวดเรื่องปรงแก้วกับปรงขวัญ เด็กรับใช้ที่ฟังเริ่มเบื่อ

“คุณแก้วคุณขวัญของชั้นนะฉลาดเหลือเกิ๊น สอบก็ได้ที่ 1 เรียนก็เก่ง หัวก็ไว ..”
สายแก้วเดินเกาหัวเข้ามา
“มีใครเห็นหนังสือพิมพ์เก่าบ้างมั้ย “ สายแก้วถาม
“แกทำเอาไปทำอะไร”
“คุณน้องเมย์อยากได้ จะอ่านหนังสือพิมพ์”
“คุณเมย์เนี่ยนะ จะอ่านหนังสือพิมพ์” บุญศรีถาม
“ใช่สิ .เพราะว่าเป็นเคล็ดลับเรียนเก่ง คุณวีเป็นคนบอกเชียวนะ”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างงงๆ

ตันหยงกำลังใช้คอมพิวเตอร์เสริชหาข้อมูล ในจอคอมพิวเตอร์ตันหยงพิมพ์ว่า “ คนสลับร่าง” แล้วก็คลิ๊กดูก่อนจะถอนใจ เธอพิมพ์ “ วิญญาณเข้าผิดร่าง” คลิ๊กดูแล้วก็ถอนใจ
ตันหยงเซ็ง “อะไรกัน มีแต่ในหนัง”
ตันหยงพิมพ์ “ ตายแล้วฟื้น”
สายแก้วยืนถือหนังสือพิมพ์หอบใหญ่มาก้มลงมองหน้าจอแล้วก็ต้องตะลึง
“ตายแล้วฟื้น”
สายแก้วหันมองเมรินช้าๆ เมรินหันมามอง สายแก้วสยอง เมรินยิ้ม
สายแก้ววางหนังสือพิมพ์ที่พื้น “นี่ค่ะ”
ตันหยงรีบกางหนังสือพิมพ์อ่าน สายแก้วมองแบบกลัวๆ ตันหยงก้มหาข่าวตัวเองอย่างสนใจมาก เธอหยิบหนังสือพิมพ์มากางจนเต็มไปหมด แล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่าน สายแก้วมองอย่างสยอง

ปรางค์ทิพย์กำลังควบคุมปรงแก้วกับปรงขวัญให้ทำแบบฝึกหัดตามคำสั่ง ปรงแก้วปรงขวัญขี้เกียจจึงงอแงเพราะไม่อยากทำ ปรงแก้วกับปรงขวัญบ่น
“เหลือวันหยุดอีกวันเดียว ยังต้องทำแบบฝึกหัดอีกเหรอคะ คุณแม่”
“ใช่ค่ะ ขอพักเล่นวันนึงไม่ได้เหรอคะ มือจะหักแล้ว”
“กะอีกแค่สิบหน้า มันจะอะไรกันนักหนา ก็รีบทำให้เสร็จๆสิ แล้วชั้นก็จะให้แกสองคนเล่น”
บุญศรีรีบเดินเข้ามาหา
“คุณๆขา ขยันหน่อยเถอะคะ ไม่งั้นจะแพ้คุณเมย์นะคะ”
“แพ้ยัยเมย์ ลูกชั้นจะไปแพ้เด็กโง่อย่างยัยเมย์ได้ยังไง” ปรางค์ทิพย์ถาม
“ก็ตอนนี้ คุณเมย์กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ใหญ่เลย เห็นว่าเป็นเคล็ดลับฝึกสมอง ทำให้เรียนดีจากคุณวี”
“นังเมย์เนี่ยนะมันจะอ่านหนังสือพิมพ์ได้ ปรกติหนังสือเด็ก ตัวเท่าหม้อแกง ชั้นยังเห็นมันอ่านไม่ค่อยจะออก”
“ศรีถึงอยากให้คุณทิพย์ไปดูด้วยตัวเอง เพราะนังสายแก้วมันพูดมาอย่างงี้”
“ถ้ามันเป็นจริง ก็ถือว่านายวีลำเอียงที่สุด ไหนว่ายุติธรรมกับหลาน”
“ลำเอียงเห็นๆอยู่แล้วค่ะ นั่นมันหลานในไส้คุณวี คุณแก้วคุณขวัญน่ะ ถือเป็นหลานนอกไส้” บุญศรีใส่ไฟ
“แกไม่ต้องพูดแล้ว ยิ่งพูดชั้นยิ่งเจ็บใจ”
“แล้วตกลงคุณปรางจะไปดูไหมคะ”
“ไม่ไป!!”

เมธีกำลังนั่งทำงานอย่างคร่ำเคร่งก่อนที่จะปิดแฟ้มลง แล้วคิดนิดหนึ่งก่อนโทรศัพท์ไปหาประภัสสร
“เออ..คุณภัส วันนี้ผมว่างแล้ว ผมอยากพาคุณกับลูกไปเที่ยว อยากไปไหน เดี๋ยวผมจะไปรับ”
ประภัสสรพูดแบบงอนนิดๆ “ปรกติงานยุ่งไม่ใช่เหรอคะ”
“วันนี้เสร็จแล้วครับ ไปนะ ไปเที่ยวกัน พ่อแม่ลูก แล้วตอนเย็นเราไปดินเนอร์กัน ดีมั้ย”
ประภัสสรทำลังเลแต่จริงๆแล้วแอบดีใจ
“ต้องถามน้องเมย์ก่อน ถ้าลูกไป ภัสก็ไปค่ะ”

เมธีแอบยิ้มอย่างโล่งใจ
ขณะที่เมรินนั่งกางหนังสือพิมพ์อ่านจนเต็มบ้านไปหมด ประภัสสรเดินเข้ามาเห็น

“น้องเมย์ไปขึ้นไปแต่งตัวนะคะ วันนี้คุณพ่อจะพาไปเที่ยว ดีมั้ยคะ”
“เมย์ไม่อยากไปค่ะ เชิญคุณพ่อกับคุณแม่เถอะค่ะ”
“นานๆคุณพ่อจะมีเวลาว่างซักที ไปนะคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่นก็ได้ เดี๋ยวคุณพ่อมารับ”
ตันหยงเซ็ง “ก็ได้ค่ะ”
ประภัสสรยิ้ม “สายแก้ว พาคุณเมย์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”
“ค่ะ คุณผู้หญิง”

สายแก้วอุ้มเมรินขึ้นมาในห้องแล้วจัดแจงจะถอดเสื้อผ้าเมริน ตันหยงถอยกรูด
“พี่สายแก้วจะทำอะไร”
“อ้าว ก็จะอาบน้ำให้น้องเมย์ไงคะ มาเร็ว พี่สายแก้วถอดเสื้อให้”
“ไม่ต้องๆๆ ต่อจากนี้ไป พี่สายแก้วไม่ต้องช่วยเมย์อาบน้ำอีกแล้วเข้าใจมั้ยคะ”
เมรินฉวยเสื้อคลุมแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป สายแก้วมองตามอย่างงงๆ
“เฮ้อ...คุณน้องเมย์เนี่ย พี่สายแก้วชักน้อยใจแล้วนะ”

เวลาผ่านไป เมธีอุ้มเมรินส่วนอีกมือจูงประภัสสรเดินเข้าไปในห้างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ในขณะที่ปรงแก้วกับปรงขวัญนั่งทำการบ้านกองโตอยู่ในบ้านปรางทิพย์
ประภัสสรเข้าไปในห้องเสื้อเพื่อลองเสื้อชุดสวย เมธียิ้มอย่างพอใจ ส่วนตันหยงนั่งมองอย่างเซ็งๆ
บุญศรีเดินหอบหนังสือหอบโตมาวางไว้ตรงหน้าปรงแก้วกับปรงขวัญ ปรางค์ทิพย์ยิ้มอย่างพอใจ ปรงแก้วปรงขวัญมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า
ประภัสสรเดินหยิบของในซุปเปอร์มาเก็ตมาใส่ในรถเข็นที่เมธีกำลังเข็น เมรินนั่งอยู่บนรถเข็นด้วยใบหน้าหงิก
ปรงแก้วกับปรงขวัญทำแบบฝึกหัดตรงหน้าจนกองหนังสือลดลงไปเกือบหมด แต่เด็กทั้งสองก็เหนื่อยอ่อน ปรางค์ทิพย์หยิบหนังสือพิมพ์มาวางเพิ่มอีกกองโต ปรงแก้วกับปรงขวัญมองหน้ากันก่อนจะหยิบตุ๊กตาออกมาแล้วเอาดินสอจิ้มตุ๊กตาเพื่อระบายอารมณ์

ตันหยงที่กำลังนั่งเก้าอี้มองร้านขายชุดสวยตรงหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปมองชุดสวยในหุ่นโชว์
“ชอบหรือลูก ไว้รอโตอีกหน่อยนะ” เมธีถาม
ตันหยงหันกลับมามองก็เห็นเมธีกับประภัสสรยืนยิ้มพร้อมกับมองมาที่เธอ
“เป็นไงคะน้องเมย์เหนื่อยหรือยัง”
ตันหยงไม่ตอบแต่ยืนมองเลยทั้งสองคนไปเห็นร้านขนม ตันหยงก็เก็ทไอเดียขึ้นมาทันที
“อุ๊ย...ขนม น่าทานจังเลย” ตันหยงบอก
“เอาสิคะ น้องเมย์อยากทานขนมอะไร” ประภัสสรถาม
“เปล่าค่ะ น้องเมย์อยากซื้อขนมไปฝากน้าวีคะ”
ตันหยงวิ่งไปที่ร้านขนมทันที เมธีกับประภัสสรมองตามไปแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

ปฐวีนั่งทำงานอยู่ในห้อง สักพักประตูก็เปิดออก เมรินยื่นหน้าเข้ามา
“น้าวี...”
“อ้าวน้องเมย์ ....พี่เมธี พี่ภัส เชิญเลยครับ นึกยังไงถึงมาหาผมที่นี่”
“ก็หลานน้าวีน่ะสิ ร้องจะมาให้ได้ จะเอาขนมมาเซอร์ไพร์ส น้าวี”
ปฐวีย่อตัวลงนั่งมองเมริน
“น่ารักจริงเลย หลานน้าวีคนนี้ มาหอมทีซิ”
ปฐวีดึงเมรินมาจะหอม ตันหยงจึงรีบเอาถุงขนมกันไว้
“ขนมค่ะ น้องเมย์ขอกลับบ้านกับน้าวีได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกลูก คุณพ่อจองโต๊ะดินเนอร์ไว้แล้ว”
“วีว่างรึเปล่าล่ะ จะได้ไปด้วยกัน”
“เมย์ไม่อยากไปค่ะ เมย์ขออยู่กับน้าวีนะคะ คุณพ่อคุณแม่ไปดินเนอร์กันสองคนนะคะ”
เมรินมองปฐวีเพื่อขอให้ช่วย ปฐวีมองหน้าเมรินแล้วยิ้ม
“ให้น้องเมย์อยู่กับผมก็ได้ครับ พี่สองคนไปทานกันเถอะ ไหนๆมาแล้วผมจะให้น้องเมย์ตรวจซะเลย” ปฐวีพูดกับเมริน “ดีไม๊ กลัวหรือเปล่าเรา”
“ไม่กลัวอยู่แล้วค่ะ” ตันหยงตอบ
ประภัสสรมองหน้าปฐวีด้วยความเกรงใจ
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมรับมือไหว จริงมั้ย” ปฐวีถาม
“ เมย์จะทำตัวดีที่สุดเลยเลยค่ะ”
ประภัสสรมองเมธีเป็นเชิงหารือ
“ไปเถอะครับ ไม่ต้องห่วง” ปฐวีย้ำ
“เมดูแลน้าวีได้แน่นอนค่ะ” ตันหยงบอก
ทุกคนหัวเราะขำท่าทางของเมริน
“งั้นเราไปกันเถอะ เด็กดีนะคะน้องเมย์”
“งั้นพี่ฝากน้องเมย์ด้วยนะวี”
ประภัสสรกับเมธีเดินจากไป
“ทีนี้ก็เหลือเราสองคนแล้วละ อยากมาโรงพยาบาลใช่มั้ยเรา”

ปฐวีถามเมรินยิ้มประจบ
เมรินนั่งอยู่บนเตียงคนป่วย หนึ่งฤทัยส่องไฟเข้าตาเมรินเพื่อทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบ ก่อนจะเอาค้อนยางเคาะหัวเข่าเมรินแล้วจดบันทึก เมรินทำหน้าเบื่อหน่าย

ปฐวีกับหมอจิตเวชยืนดูการตรวจของหนึ่งฤทัยอยู่ในห้องกระจก
ครู่ต่อมาหมอจิตเวชเข้ามานั่งคุยกับเมริน และเอารูปภาพต่างๆ ให้เมรินดูแล้วจดบันทึก เมรินตอบคำถามต่างๆ อย่างอดทน

เมรินนอนอยู่บนเตียงโดยมีอุปกรณ์บันทึกอัตราการเต้นของหัวใจและการตอบโต้ซึ่งแสดงเป็นภาพกราฟบนกระดาษติดอยู่ที่ตัว

เมรินที่มีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยนั่งบนเตียง ปฐวีเดินเข้ามาพร้อมพร้อมพยาบาลรัก-ยม
“เรียบร้อยแล้ว น้องเมย์ เหนื่อยมั้ย” ปฐวีถาม
“ไม่เหนื่อยค่ะ แต่เบื่อสุดๆ”
“มาค่ะ รักจะพาน้องเมย์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” รสิการีบบอก
“เดี๋ยวยม อุ้มลงจากเตียงนะคะ” ยมนาเสริม
พยาบาลรัก-ยม พยายามเอาอกเอาใจเมรินจนออกนอกหน้า ตันหยงเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมตามไปโดยดี ปฐวีมองตามเมรินไปแล้วก้มลงมองชาร์ทในมือ

ปฐวียังถือผลการตรวจเมรินอยู่ หนึ่งฤทัยและหมอจิตเวชนั่งคุยกัน ตันหยงนั่งอ่านหนังสืออยู่อีกห้องโดยทำเป็นไม่สนใจ รสิกายืนเฝ้าอยู่แต่ก็มัวแต่นั่งมองปฐวีจนเพลิน
“เราจะหลบออกไปยังไงดีน๊า” ตันหยงคิด
“ผลตรวจทางร่ายกายก็ปกติดีทุกอย่างนะคะ แข็งแรงดีไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเลย” หนึ่งฤทัยบอก
“เรื่องอาการทางจิตเวชก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หลานของคุณค่อนข้างฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกันด้วยซ้ำ” หมอจิตเวชรายงาน

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/5 วันที่ 11 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager