@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3/4 วันที่ 5 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3/4 วันที่ 5 ก.พ. 56

ชุ่มรีบออกไป ขุนพิทักษ์มองตามแล้วยิ้มชอบใจ
“เอ็งนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ”
ตกเวลากลางคืน ภายในห้องนอนรำพึง จวงทำท่าอยากรู้ อยากเห็นเรื่องที่รำพึงเล่า

“เจ็บใจนัก ขุนไวขู่ข้าว่าจะฟ้องคุณพ่อเรื่องวันนี้”
“แต่ดูท่านพระยาฯก็ยังไม่รู้เรื่องนี่เจ้าคะ” จวงว่า
รำพึงยิ้มที่มุมปาก
“จะฟ้องได้อย่างไรล่ะ”
“ทำไมล่ะเจ้าคะ”

“ออกไป! ข้าจะนอนแล้ว”
“อ้าว...”
จวงเดินออกไปจากห้องอย่างสงสัยในคำพูดของรำพึงที่เล่าไม่หมด
“เจอคำลวงเข้าไปก็หลงข้าจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ผู้ชายอย่างขุนไวไม่มีวันจะคู่ควรกับคนอย่างรำพึง!”
รำพึงยิ้มเหยียดดวงตาแฝงแววร้าย



ภายในเรือนทาส เวลาเดียวกัน ชุ่มนวดให้สมผู้เป็นพี่
“พี่สม ข้าว่าท่านขุนฯก็ไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายเหมือนที่ใครๆเขาว่ากันนะพี่”
“เอ็งยังไม่เห็นตัวจริงของท่านขุนฯน่ะสิ ทางที่ดีอยู่ให้ห่างๆไว้ จะดีกับตัวเอ็งที่สุด”
“น่าสงสารท่านขุนฯ คงจะไม่มีมิตรดีๆเลยสักคน ถ้าทุกคนคิดกันเช่นนี้”
“เออ ... อย่าเพ้อเจ้อไปเลย เข้าเรือนไปนอนได้แล้ว”
ชุ่มเดินเข้าไปในเรือนทาส สมมองตามน้องอย่างรู้สึกเป็นห่วง

ภายในห้องเก็บศพ เรือนคุณหญิงมณี ในกลางคืน คุณหญิงมณีจุดธูปไหว้พระยาสุรเดชไมตรี
“ดิฉันไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร หวังเพียงแต่ว่าลูกของเราจะดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกที่ควร ขอให้ลูกยอมบวชเรียนก่อนจะออกเรือน และขอให้ลูกได้คู่ครองที่เป็นคนดีนะคะ คุณพี่”
คุณหญิงมณีปักธูปลง ทันใดนั้นลมก็พัดทำให้เทียนดับไปในทันที คุณหญิงเห็นเช่นนั้นแล้ว ยิ่งวิตกกังวลรู้สึกเหมือนลางร้ายกำลังจะคืบคลานเข้ามา

วันใหม่ พระยาเทวราชนั่งอ่านหนังสืออยู่ โดยมีรำพึงนั่งร้อยพวงมาลัยอยู่ใกล้อย่างอึดอัด
“คุณพ่อคะ คุณพ่อให้รำพึงอยู่แต่ในบ้านมาหลายวันแล้ว รำพึงอยากจะขออนุญาต”
“ถ้าคิดจะไปเรือนคุณหญิงมณี พ่อไม่อนุญาต คิดว่าพ่อไม่รู้เหรอว่าเจ้ามีใจให้กับขุนพิทักษ์”
รำพึงชะงักแล้วตัดสินใจถาม
“ทำไมล่ะเจ้าคะคุณพ่อ พี่พิทักษ์พร้อมทั้งรูป ทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงาน”
“เจ้าก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้น ขุนพิทักษ์ได้มาจากมรดกตกทอด มิได้สร้างขึ้นด้วยตนเอง หนำซ้ำยังไม่สนใจการงาน ติดการพนัน ผู้หญิง”
ขุนไวพิชิตพลกำลังจะเดินขึ้นเรือน ก็ชะงักที่ได้ยินเสียงพระยาเทวราช
“หากพระยาเทวราชจะมีเขยสักคนต้องเป็นผู้ที่ไม่มีมลทินติดตัว ดังเช่นขุนไว”
ขุนไว ยิ้มอย่างพอใจ จวงหันไปที่บันไดเห็นขุนไว มาพอดี
“ท่านขุนไวมาเจ้าค่ะ”
พระยาเทวราชกับรำพึงเปลี่ยนท่าทีทันทีในทันที ขุนไว เข้ามาแล้วกราบพระยาเทวราช
“ตามสบายเถอะพ่อไว มาเช้าขนาดนี้คงจะมีเรื่องด่วนสินะ”
“ขอรับ”
ขุนไว แอบหันมามองรำพึงแล้วส่งสายตาหวานให้ รำพึงยิ่งรู้สึกอึดอัด
“งั้นลูกขอตัวกลับห้องนะเจ้าคะ จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อทำงาน”
“ไม่ได้มีเรื่องหนักหนาอะไรที่คุณรำพึงจะรู้ไม่ได้หรอกครับ”
พระยาเทวราชพยักหน้าให้รำพึงอยู่ต่อ เธอนั่งลงอย่างเสียอารมณ์ ยิ่งเห็นแววตาและรอยยิ้มหวานๆของขุนไว ก็ยิ่งไม่สบอารมณ์
“มีเรื่องอะไรรึ”
“เจ้าคุณเทพให้กระผมมารายงานว่า ทางพระนครได้กำหนดวันที่เจ้ากรมคนใหม่จะเดินทางมารับตำแหน่งแล้วขอรับ”
“เมื่อไหร่”
“อาทิตย์หน้าขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้นวานท่านขุนเรียนเจ้าคุณทั้งหลายมาประชุมกันในเร็ววันนี้ด้วยนะ เห็นทีงานเลี้ยงต้อนรับคงต้องใหญ่น่าดู”
รำพึงฟังแล้วนึกบางอย่างได้ จะหาทางใช้งานนี้เปิดทางให้ตนเองและขุนพิทักษ์ได้เจอกัน
“คุณพ่อเจ้าคะ วันพรุ่งนี้เป็นวันพระ ลูกขอออกไปถวายเพลที่วัดนะเจ้าคะ”
“ทำไมอยู่ๆถึงอยากไปวัดขึ้นมาล่ะ”
พระยาเทวราชมองรำพึงอย่างเค้นหาความจริง รำพึงแกล้งทำสีหน้าเศร้าๆ
“ลูกไม่สบายเจ้าค่ะ เมื่อคืนลูกฝันถึงคุณแม่ จึงนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ทำบุญให้คุณแม่นานแล้ว”
พระยามีท่าทีไม่สบายใจกับคำพูดของรำพึง แต่หันไปเห็นสายตาขุนไว ที่สนใจฟังอยู่ พระยาจึงขัดไม่ได้
“ตามใจ !”
รำพึงยิ้ม แต่พระยาเทวราชยังแคลงใจอยู่
“กระผมขอไปทำบุญด้วยนะขอรับ” ขุนไวบอก
“คุณพี่ต้องไปเรียนเชิญเจ้าคุณทั้งหลายไม่ใช่เหรอคะ”

ขุนไวชะงักเห็นจริงด้วย รำพึงยิ้มชนะอย่างเนียนๆ
เช้าวันใหม่ รำพึงและพระยาเทวราชกำลังรอถวายเพลพระบนศาลาภายในวัด จวงกำลังจัดสำรับอยู่ ระหว่างนั้นเห็นคุณหญิงมณีเดินขึ้นมาบนศาลา มีแจ่มถือของถวายพระตามมาด้วย

คุณหญิงมณียกมือไหว้ท่านเจ้าคุณ
“ท่านพระยา”
รำพึงยิ้มไหว้คุณหญิงมณี
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
“บังเอิญจริงๆนะครับที่มาเจอคุณหญิงที่นี่” พระยาเทวราชว่า
“ดิฉันก็มาถวายเพลทุกวันพระล่ะค่ะ ยังเคยคุยกับหนูรำพึงว่าจะมาถวายด้วยกันสักครั้ง”
พระยาเทวราชมองรำพึงที่ยิ้มเนียนทำซื่อมาก พระยาเทวราชคิดว่า รำพึงจะใช้วัดเป็นสถานที่มาพบกับขุนพิทักษ์จึงหลอกถามคุณหญิงมณี
“แล้วนี่ขุนพิทักษ์ไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“พ่อพิทักษ์ยุ่งกับงานศพหลายวัน ดิฉันก็เลยปล่อยให้พักน่ะค่ะ หนูรำพึงน่ารักนะเจ้าคะ รู้จักเข้าวัดเข้าวา น่าปลื้มใจแทน”
พระยาเทวราชมองรำพึงอย่างสงสัยหนักว่า รำพึงกำลังจะทำอะไร

ในเวลาต่อมา พระยาเทวราชกับคุณหญิงมณีเดินลงมาจากศาลาด้วยกัน มีรำพึง แจ่ม จวงเดินตามมา
“ภัตตาหารที่คุณหญิงป้านำมาถวายวันนี้ รสชาติดีมากเลยนะคะ ฝีมือรำพึงเทียบไม่ติดเลย”
“หนูรำพึงก็พูดเกินไป”
“กระผมเองก็ยังไม่เห็นว่าใครจะทำอาหารได้รสเลิศไปกว่าคุณหญิง”
“คุณพ่อคะ งานเลี้ยงต้อนรับท่านเจ้ากรมคนใหม่ ถ้าได้คุณหญิงมาเป็นแม่งานเรื่อง อาหารคงจะดีไม่น้อยนะเจ้าคะ”
“ป้าก็แก่มากแล้ว ถึงจะยินดีช่วยงานบ้านเมือง แต่สังขารจะพารับผิดชอบงานใหญ่ขนาดนั้นไม่ไหวน่ะสิ”
“รำพึงเองก็ความรู้ยังน้อย จะอาสาช่วยงานคุณป้า ก็กลัวจะพาลเป็นตัวถ่วงซะเปล่าๆ”
คุณหญิงมณีคิดแล้วบอกพระยาเทวราช
“เอาอย่างนี้ ดิฉันรับเป็นแม่งานก็ได้ค่ะ แต่ขอรำพึงมาช่วยอีกแรงนะคะ ท่านพระยา”
พระยาเทวราชชะงักไป เพราะรู้ตัวว่าเสียรู้รำพึงซะแล้ว รำพึงยิ้มอย่างผู้มีชัย พระยาเทวราชต้องฝืนยิ้มรับคำคุณหญิงมณี

บริเวณศาลาในสวนบ้านพระยาเทวราช จวงพูดขึ้น
“ในที่สุด คุณรำพึงก็หาทางเจอกับท่านขุนพิทักษ์ได้แล้ว”
“โดยที่ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป”
“ทูนหัวของบ่าว ฉลาดที่สุดเลยเจ้าค่ะ”
รำพึงยิ้มพอใจ

บนเรือน พระยาเทวราชนั่งสนทนากับขุนไวพิชิตพล
“คุณรำพึงอาสาช่วยงานคุณหญิงมณีจัดงานต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่หรือขอรับ”
“จะว่าอาสาก็ไม่ใช่ คุณหญิงท่านออกปากขอไปช่วยเองต่างหาก”
พระยาเทวราชมีท่าทีคิดมากจนขุนไวสังเกตเห็น
“ท่านเจ้าคุณกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอขอรับ”
“ที่ฉันเรียกท่านขุนมาพบเพราะมีเรื่องจะแจ้ง เกี่ยวกับตำแหน่งงานผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่ ตอนนี้มีคนที่มีคุณสมบัติพออยู่สองคน หนึ่งในนั้นคือท่านขุนเองนั่นแหละ”
ขุนไว ยิ้ม
“แล้วอีกคนล่ะครับ”
พระยาเทวราชมีท่าทีคิดหนัก

ขุนไวพิชิตพลเดินลงมาจากบ้านพระยาเทวราช เห็นรำพึงนั่งยิ้มอย่างมีความสุขที่ศาลา ขุนไว เดินเข้าไป พอรำพึงเห็นก็หน้าบึ้งทันที
“ถ้าคนที่เดินมาเป็นไอ้พิทักษ์ น้องรำพึงคงไม่หุบยิ้มแบบนี้สินะ”
“น้องก็แค่ตกใจที่คุณพี่โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงต่างหากล่ะคะ”
“หวังว่าเรื่องที่น้องรำพึงอาสาช่วยงานคุณหญิงมณี คงไม่ใช่แผนที่น้องวางไว้เพื่อจะได้ใกล้ชิดไอ้พิทักษ์นะ”
รำพึงทำงอนบอก
“นี่เหรอคะที่บอกว่ารักน้องนักรักน้องหนา กลับมาพูดจาหมิ่นเกียรติกันขนาดนี้”
รำพึงเดินไปด้วยความโกรธ ขุนไว ขวางไว้ น้ำเสียงและท่าทีอ่อนลง
“แต่น้องทำให้พี่คิดมาก น้องไปช่วยงานคุณหญิงมณีก็เท่ากับน้องต้องเข้าไปในบ้านของไอ้พิทักษ์ จะให้พี่วางใจได้อย่างไร”
รำพึงน้ำเสียงน้อยใจบอก
“น้องทำก็เพราะอยากช่วยงานบ้านเมือง อีกอย่างคุณหญิงท่านออกปากเองด้วยซ้ำ”
ขุนไว รู้สึกผิด
“พี่ขอโทษ พี่รักน้องมากเหลือเกิน จนความหึงความหวงมันล้นหัวใจพี่”
ขุนไว จับมือรำพึงขึ้นมา
“อีกไม่นาน พี่ก็จะได้เป็นผู้ช่วยท่านเจ้ากรม มียศ มีศักดิ์เหนือไอ้ขุนพิทักษ์นั่น น้องจะได้ไม่ต้องชายตามองมันอีก”
รำพึงเหวอ
“คุณพี่ได้รับแต่งตั้งแล้วหรือคะ”
“ยัง แต่มีเพียงพี่กับไอ้พิทักษ์ที่มีศักดิ์พอที่จะเป็น แล้วน้องคิดว่าผู้ใหญ่จะเลือกใครระหว่างพี่กับมัน ถึงตอนนั้นพี่จะมาสู่ขอน้องกับท่านพระยา”
ขุนไว จุมพิตไปที่มือของรำพึงแล้วจากไป รำพึงมองเหยียด

“คุณพี่พิทักษ์ไม่มีทางยอมแพ้แกหรอก”
ส่วนบนเรือน คุณหญิงมณีคุยอยู่กับขุนพิทักษ์ที่นอนเอกเขนกอยู่บนตั่ง

“ไม่เอาขอรับ! ทุกวันนี้ลูกก็สุขสบายดีอยู่แล้ว เงินเราก็มีเยอะแยะ จะต้องไปหาเรื่องใส่ตัวทำไม”
คุณหญิงมณีบอก
“ตระกูลของเรารับใช้แผ่นดินมาแต่ไหนแต่ไร ที่เราอยู่อย่างมีเกียรติจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะแผ่นดินนี้มอบเกียรตินั้นให้แก่เรานะลูก”
“ก็เพราะไอ้เกียรตินี่ไม่ใช่รึครับ คุณพ่อถึงได้ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องมาตาย”
คุณหญิงมณีอึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ถ้าลูกคิดได้ ลูกคงรู้ว่าพ่อของลูกทำเพื่อใคร คนเราทำผิดแล้วก็ควรแก้ไขนะลูก”
“บางทีการแก้ไขที่ดีที่สุดคือการไม่หาเรื่องใส่ตัวนะขอรับ”
ขุนพิทักษ์แกล้งหลับไม่สนใจ คุณหญิงมณีเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้
สีหน้าของขุนพิทักษ์เต็มไปด้วยความขัดแย้งในใจ ที่มุมหนึ่ง ชุ่มได้ยินทุกอย่างก็รู้สึกสงสารคุณหญิง

ในเวลากลางคืน ภายในห้องทำงาน พระยาเทวราชนั่งตรวจหนังสือราชการอยู่ รำพึงเดินถือกาน้ำร้อนและถ้วยใส่ชาเข้ามาวาง
“ชาฝรั่งเจ้าค่ะคุณพ่อ”
“ทำไมไม่ใช้ชาจีนอย่างทุกครั้ง”
รำพึงตักใบชาใส่ถ้วยแล้วเทน้ำร้อน และพูดไปด้วย
“ลูกคิดว่าถ้ามีชาให้เลือกถึงสองรสชาติ ถ้าไม่ลองทั้งสองแบบ เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะคะว่า ชาจีนกับชาฝรั่งอย่างไหนดีกว่ากัน”
พระยาเทวราชมองรำพึงอย่างรู้ทัน
รำพึงชงชาเสร็จยกให้พระยาเทวราช พระยาเทวราชรับไว้แล้ววาง ไม่คิดจะกิน
“ถึงอย่างไร พ่อก็ชอบชาจีนมากกว่า ดีไม่ดีอย่างไรเราก็คุ้นกับรสชาติ ชาฝรั่งน่ะ สวยแต่รูปจูบไม่หอม ไปชงชาจีนมาให้พ่อ”
รำพึงมีท่าทางไม่ค่อยพอใจ
“ถ้าแค่เรื่องชาคงไม่มีใครว่าคุณพ่อได้ที่เลือกชาจากความพอใจส่วนตัว แต่หากเป็นเรื่องเลือกคน”
พระยาเทวราชสวนทันที
“ถ้าคนที่ลูกพูดถึงคือขุนพิทักษ์กับขุนไวล่ะก็ คงไม่มีใครกังขาหรอกถ้าพ่อจะเลือกขุนไว”
รำพึงอึ้ง
“คุณพ่อคะ”
พระยาเทวราชขัดเสียงแข็ง
“นี่มันเรื่องการบ้านการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงอย่างลูกจะเข้ามายุ่ง”
“ลูกก็หวังว่านี่จะเป็นแค่การบ้านการเมือง ไม่เกี่ยวกับการเลือกคู่ครองให้ลูกนะเจ้าคะ”
รำพึงเดินออกไปอย่างหัวเสีย พระยาเทวราชมองอย่างกลุ้มใจ

เวลากลางคืน ขุนพิทักษ์นอนคิดถึงเรื่องที่คุยกับแม่อยู่ที่ท่าน้ำในบ้าน
“ก็เพราะไอ้เกียรตินี่ไม่ใช่รึครับ คุณพ่อถึงได้ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องมาตาย”
คุณหญิงมณีอึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ถ้าลูกคิดได้ ลูกคงรู้ว่าพ่อของลูกทำเพื่อใคร”
ขุนพิทักษ์พลิกตัวอย่างหงุดหงิดเพราะว่าคำพูดคุณหญิงมณียังดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา แล้วก็เห็นชุ่มกำลังถือตะกร้าตรงไปที่ท่าน้ำ ขุนพิทักษ์มองอย่างสนใจ

ในเวลากลางคืน ที่นอกเมือง ชุ่มเดินเข้ามาในกระท่อม นายอยู่นอนซม มีนางเย็นคอยเช็ดตัวดูแล
“แม่จ๋า”
“นังชุ่ม เอ็งมาได้ยังไง แล้วเอ็งเรียนขออนุญาตคุณหญิงหรือเปล่า”
ชุ่มส่ายหน้า
“ฉันคิดถึงพ่อกับแม่ก็เลยแอบออกมา แล้วจะรีบกลับก่อนรุ่งจ๊ะ พ่อเป็นอะไรจ๊ะแม่”
“เป็นไข้มาหลายวันแล้ว พ่อเอ็งทำงานไม่หยุดเลย คงอยากจะเก็บเงินไปไถ่ตัวเอ็งกับไอ้สมออกมา”
ชุ่มกอดนายอยู่ด้วยความเป็นห่วง
“โธ่...พ่อ”
ขุนพิทักษ์ยืนมองอยู่จากด้านนอกเห็นทุกอย่าง

ในเวลาต่อมา ชุ่มเดินออกมา นางเย็นตามออกมาส่ง
“ระวังตัวนะลูก”
ชุ่มกอดนางเย็น
“ฉันรักแม่นะ”
นางเย็น กอดชุ่มตอบ
“แม่ก็รักเอ็ง”
“ฉันไปล่ะ”
นางเย็นกลับเข้าไป ชุ่มรีบเดินออกมา ขุนพิทักษ์เข้ามาจับชุ่มไว้ ชุ่มตกใจสะบัด
“เฮ้ย!”
ขุนพิทักษ์รวบตัวชุ่มมาปิดปาก
“ข้าเอง !”
ชุ่มตกใจ
“ท่านขุน ท่านมาที่นี่ได้ยังไง”
“ก็ข้าเห็นเอ็งทำลับ ๆ ล่อ ๆ ออกมากลางดึก ก็เลยตามมารอดูว่าเอ็งจะก่อเรื่องอะไรอีก”
“รอจนฟ้าจะสางเลยนี่นะเจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์กลัวจะโดนจับได้ว่าห่วงเลยบอกว่า
“ข้าจะกลับตั้งนานแล้ว แต่นึกได้ว่าแถวนี้มันผีดุ”
ชุ่มชะงัก หน้าเสีย
“ผี”
“เออสิ หัวโกร๋นกันไปหลายคนแล้ว ข้าก็เลยรอให้เอ็งเดินเป็นเพื่อนข้ากลับเรือน”
ชุ่มเซ็ง
“ข้านึกว่าท่านขุนรอเพราะมีน้ำใจห่วงข้าซะอีก”
ขุนพิทักษ์ยิ้ม
“แล้วจะต่อล้อต่อเถียงข้าอีกนานไหม ข้าง่วงเต็มทีแล้ว ไป”
ขุนพิทักษ์จะเดินนำ ชุ่มยังมองอย่างละล้าละลัง
“ข้าง่วง!”

ขุนพิทักษ์ไม่รอคำตอบ คว้ามือชุ่มให้เดินตามไปทันที ชุ่มเดินตามอย่างเขินๆ
ไม่นานนัก ขุนพิทักษ์ลากชุ่มเข้ามาที่หน้าเรือนทาส
“ถึงแล้ว...”
ชุ่มมองมือตัวเองที่โดนจับอย่างเขินๆ
“เจ้าค่ะ ท่านขุนก็...”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3/4 วันที่ 5 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager