อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 2/2 วันที่ 5 ก.พ. 56
“ยังค่ะ รถคงจะติด” ตันหยงตอบ“งั้นหรือ ให้แม่รอเป็นเพื่อนมั้ยจ๊ะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ อีกสักครู่คงจะมา คุณพ่อคุณแม่ไปงานเถอะ ไม่ต้องห่วงหยงหรอก”
พินิจกับบุหงามองหน้ากันแล้วมีท่าทางลังเล
พินิจลังเล “เอางั้นนะ งานนี้สำคัญซะด้วยสิ”
“พิรามไม่ใช่คนเหลวไหล รถคงติด เดี๋ยวก็คงมาแหละลูก”
พินิจมองนาฬิกา “เราก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน ให้ท่านรัฐมนตรีรอคงไม่ดีแน่”
“งั้นแม่กับพ่อไปก่อนนะจ๊ะหยง เที่ยวให้สนุกล่ะ”
บุหงากับพินิจเดินจากไป ตันหยงนั่งรอ สักพักเธอก็หยิบโทรศัพท์มากดหาพิราม แต่ไม่ติด
“ทำไมต้องปิดโทรศัพท์ด้วยนะ”
ตันหยงเริ่มเครียด เธอกดโทรศัพท์อีกครั้งต่อไปที่บ้านของพิราม
เสียงคนรับใช้รับสาย “บ้านเดชาประดิษฐ์ค่ะ”
“นี่ตันหยงพูดนะคะ คุณพิรามอยู่มั้ย”
พิรามนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องของพัดชาที่คอนโด พัดชาที่ใส่ชุดคลุมพยายามเอาอกเอาใจพิราม แต่พิรามสะบัดหนี พัดชาหน้าเสีย
“คุณต้องการอะไรก็ว่ามา เรื่องมันจะได้จบซะที”
“ชั้นไม่ต้องการอะไรนอกจากตัวคุณเท่านั้น”
“เราตกลงกันแล้วนะ ถ้าตันหยงกลับมา ทุกอย่างเป็นอันจบ”
“สองปีที่ผ่านมา ไม่มีความหมายอะไรกับคุณบ้างหรือคะ คุณพิราม”
“พัดชา ผมขอร้อง อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตไปกว่านี้เลย ผมกำลังจะแต่งงานกับตันหยง”
พัดชาตะลึง “แล้วพัดล่ะ คุณจะเอาพัดไปทิ้งไว้ที่ไหน”
พิรามหงุดหงิด เขาลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป แต่พัดชาขวางไว้
“คุณจะไปไหน คุณจะทิ้งพัดง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะคะ พัดรักคุณ”
“พอเถอะ พัดชา ผมขอร้อง ไว้อารมณ์ดีกว่านี้ เราค่อยพูดกันดีกว่า”
พิรามเดินออกไป พัดชารีบวิ่งตาม
ตันหยงกำลังขับรถโดยที่หน้ารถมีจีพีเอสส่งเสียงบอกทาง
“เลี้ยวซ้าย”
ตันหยงเลี้ยวซ้าย เธอเห็นป้ายชื่อคอนโดของพัดชา
“เจอแล้ว”
ตันหยงเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าคอนโดทันที
ตันหยงลงจากรถแล้วมองหน้าคอนโดอย่างงงๆ
“พิรามซื้อคอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่”
ตันหยงเดินไปที่หน้าประตู พอถึงหน้าประตูตันหยงก็ชะงักเพราะประตูเป็นคีย์การ์ด
“แล้วจะเข้ายังไงกันล่ะนี่”
พิรามเดินดิ่งลงมาเปิดประตู เขาเห็นตันหยงกำลังยืนอยู่ก็ถึงกับตะลึง
ตันหยงหันมาเห็นพิราม “พิราม”
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง” พิรามถาม
“หยงรอคุณตั้งนาน โทรหาคุณก็ปิดโทรศัพท์ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะทำไมคุณต้องปิดโทรศัพท์ด้วย”
พิรามร้อนรน เขาพยายามจะดึงมือตันหยงไปขึ้นรถ
“ไปคุยกันที่อื่นดีกว่า”
“ทำไมคะ นี่คอนโดของคุณไม่ใช่หรือ”
เสียงพัดชาดังขึ้น “คุณตันหยง...แหม...ดีใจจังเลย ที่ได้พบกัน”
ตันหยงหันมาเห็นพัดชาในชุดคลุมก็ตกตะลึง
“คุณพัดชา นี่มันอะไรกัน” ตันหยงถามกับพิราม “นี่มันอะไรกันคะ พิราม”
พิรามอึ้งและพูดไม่ออก
“บอกคุณตันหยงไปสิคะ พิราม เราสองคนเป็นอะไรกัน ถ้าคุณไม่กล้าพูด พัดพูดเอง ชั้นเป็นภรรยาของพิราม...”
ตันหยงตะลึง เธอมองหน้าพิรามอย่างเจ็บช้ำ
“ไม่จริง..... ไม่จริงใช่มั้ยคะพิราม”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น..ผม”
พิรามพูดไม่ออก ตันหยงน้ำตาร่วง
“บอกไปสิคะ ว่าผู้หญิงอย่างคุณตันหยงน่ะหัวโบราณ หวงเนื้อหวงตัวกับคู่หมั้น ผู้ชายที่ไหนจะทนอยู่ได้ตั้งเป็นสองปี บอกสิคะที่ผ่านมา เราลึกซึ้งกันแค่ไหน”
“พิราม คุณทรยศกับความซื่อสัตย์ของหยง”
ตันหยงถอดแหวนออกจากนิ้วแล้วขว้างใส่พิรามก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถทันที
“หยงอย่าไป ฟังผมก่อน”
พิรามจะตามตันหยงไป แต่พัดชารีบดึงไว้
“ปล่อยผม”
“พัดไม่ปล่อย เอาสิ ถ้าคุณไป พัดจะประกาศให้ทั้งโลกรู้ ว่าคุณทิ้งพัดคุณเห็นพัดเป็นของเล่น ดูซิคุณจะยังมีหน้ายืนอยู่ในสังคมนี้ได้อีกหรือเปล่า”
“คุณไม่กล้าหรอก”
“ก็ลองดู พัดไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว”
พิรามกับพัดชาจ้องหน้าสู้ตากัน พัดชาเอาจริง พิรามโกรธมาก
ตันหยงขับรถไปร้องไห้ไป จังหวะนั้นเธอตัดสินใจจอดรถข้างทางแล้วฟุบหน้าร้องไห้กับพวงมาลัย เสียงเยาะเย้ยของพัดชาดังขึ้นในความคิด
“ว่าผู้หญิงอย่างคุณตันหยงน่ะหัวโบราณ หวงเนื้อหวงตัวกับคู่หมั้น ผู้ชายที่ไหนจะทนอยู่ได้ตั้งเป็นสองปี บอกไปสิคะที่ผ่านมาเราลึกซึ้งกันแค่ไหน”
ตันหยงปิดหน้าแล้วพยายามสลัดให้ภาพนั้นหลุดออกจากสมองแล้วเธอก็ร้องไห้
“คนทรยศ คนเลือดเย็น คนไม่มีหัวใจ คุณทำแบบนี้กับหยงได้ยังไง…”
ตันหยงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาสุดนภา
ด้านสุดนภาที่กำลังนั่งเตรียมอุปกรณ์การสอนนักเรียนอยู่ รับโทรศัพท์ตันหยง
“ไงล่ะ ดินเนอร์เสร็จแล้วหรือ เลยโทร.มาให้เพื่อนอิจฉาเล่นใช่มั้ย”
“ชั้นเลิกกับพิรามแล้ว” ตันหยงบอก
สุดนภางง “แกว่าอะไรนะ...จะบ้าหรือ มีเรื่องอะไร บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้”
ตันหยงสะอึกสะอื้น “ชั้นถอนหมั้นเค้าไปแล้ว”
“ตายจริงหยง จู่ๆจะถอนหมั้นกันง่ายๆ ได้ยังไง คิดถึงตอนที่แกรักกันบ้างสิ ทำอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ถ้ากลับไปเป็นเด็กได้ก็ดีน่ะสิ จะไม่ต้องคิด ไม่ต้องเหนื่อยกับเรื่องแบบนี้”
พูดจบตันหยงก็ปิดโทรศัพท์ทันที
“เดี๋ยวก่อนสิหยง บ้าจริง”
สุดนภากดโทรศัพท์โทร.หาตันหยง แต่ตันหยงไม่รับ
“ไอ้หยงเอ๊ย...อะไรของมันนี่...”
สุดนภาเริ่มวิตก
ที่งานเลี้ยงรุ่นซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งนั้น ปฐวีนั่งมองเพื่อนๆ ดื่มเหล้าท่าทีเซ็งๆ นาวินกำลังคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน พนักงานเสิร์ฟเดินผ่านมา
“รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”
ปฐวีมองเครื่องดื่มในถาด
“มีอะไรบ้าง ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์”
“ไอ้บ้า...งานเลี้ยงก็ต้องมีบ้างสิวะ” นาวินพูดกับพนักงาน “เอาเหล้าให้หน่อย บางๆ ก็ได้”
“ไม่ต้อง ขอเป็นสปาร์คกิ้งแล้วกัน ชั้นแพ้แอลกอฮอล์”
พนักงานหยิบเครื่องดื่มให้ปฐวีแล้วเดินไป
“นี่เหลืออดข้าวเย็นนี่แกก็ถือศิลแปดครบแล้วนะเนี่ย เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ หญิงไม่สน หรือว่าแกถือพรหมจรรย์วะ ไอ้วี”
“นี่ชั้นกลับได้หรือยังเนี่ย หลานชั้นไม่สบาย”
“ไอ้บ้า...มายังไม่ทัน ห้านาทีจะกลับแล้ว ไม่ได้โว๊ย...อยู่ก่อน”
ปฐวีมองรอบๆ ตัว อย่างเซ็งๆ ส่วนนาวินยังร่าเริง ปฐวีแอบมองนาวินแล้วค่อยๆ ย่องออกจากห้องจัดงานเงียบๆ
“เฮ้ยไอ้วี เอ็งจำผู้หญิงคนนั้นได้มั้ยวะ ใช่ยายแพ็ตหรือเปล่าน่ะ นายช่วยดูหน่อยซิ”
นาวินพูดแล้วหันกลับมา แต่ปฐวีหายตัวไปแล้ว
“หนอย ไอ้เพื่อนนิสัยเสีย หนีกลับได้ไง”
นาวินหงุดหงิด รีบเดินออกตามหาปฐวีทันที
ปฐวีเดินออกมาจากโรงแรม นาวินรีบวิ่งตามออกมา
“ไอ้วี...หนีกลับอย่างนี้ไม่ได้นะโว๊ย”
ปฐวีเบื่อ “ไม่เห็นมีไรนี่หว่า เป็นอย่างนี้ทุกปี เดี๋ยวก็เมาเละ”
“ก็ใช่น่ะสิ รู้หน้าที่แล้วไม่ใช่หรือ”
“หน้าที่อะไร”
“อ้าว เดี๋ยวชั้นก็ต้องเมา แกจะได้ขับรถพาชั้นไปส่งบ้านไง ไอ้ด๊อก”
“นี่ไอ้วิน เรียกยาวกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง”
“เอาน่า กลับเข้าไปด้วยกันก่อนนะ ...ขอร้อง”
ปฐวีทำท่าทางลังเล นาวินจึงลากแขนเขาไป
ตันหยงขับรถเข้ามาอีกทางหนึ่งอย่างเร็ว นาวินกับปฐวีกระโดดหลบ ตันหยงลงจากรถ ปฐวีมองตันหยงวิ่งน้ำตานองหน้าผ่านไปอย่างตกตะลึง
นาวินตะโกนไล่หลัง “นี่คุณ....ขอโทษน่ะ พูดเป็นมั้ย..ผู้หญิงอะไร”
นาวินจะตามไปเอาเรื่อง แต่ปฐวีรีบดึงเอาไว้
“ช่างเหอะ...เหมือนชั้นเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้” ปฐวีจะเดินตาม แต่นาวินดึงไว้
“หนอยแน่ะ ลูกไม้ตื้นๆ อ้างว่ารู้จัก จะตามไปแล้วจะชิ่งกลับบ้านใช่มั้ย...ไอ้หมอสมองใส เสียใจห้ามนายต้องกลับพร้อมชั้น ไม่งั้นชั้นจะประกาศให้โลกรู้ ว่านายชอบผู้ชาย”
ปฐวีส่ายหน้า “ไอ้เพื่อนโรคจิตเอ๊ย..”
นาวินไม่ฟังเสียง เขาลากปฐวีเข้าไปในงานทันที
ตันหยงนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบาร์ เบื้องหน้ามีแก้วว้อดก้าวางเรียงเป็นแถว ตันหยงดื่มแก้วต่อแก้ว
“ดื่ม...ให้กับผู้ชายใจร้าย..คนหลอกลวง”
ตันหยงดื่มจนหมดแก้วแล้วยกมือเช็ดน้ำตา
สุดนภาเดินวนไปวนมาพร้อมกับกดโทรศัพท์หาตันหยงตลอด แต่โทรศัพท์ตันหยงวางอยู่บนเบาะข้างคนขับในรถของเธอที่จอดอยู่
“หยง ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์นะ มัวทำอะไรอยู่”
สุดนภาเดินไปเดินมาแล้วก็นึกได้
“จริงสิ พิราม”
สุดนภาพต่อโทรศัพท์หาพิราม เธอได้ยินเสียงตอบรับ “เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
“โอ๊ยย...นี่มันอะไรกันนักกันหนา ปิดโทรศัพท์ทำไม”
สุดนภาเดินไปเดินมาแล้วถอนหายใจ
สุดนภายกมือไหว้ “เจ้าประคุณ ขออย่าให้มีเรื่องไม่ดีกับหยงเล๊ย....”
สุดนภาเครียด
ปฐวีเดินย่องออกจากห้องจัดเลี้ยงไปตามทางเดิน
“เฮ้อ..กว่าจะหลุดมาได้...”
ปฐวีเดินไปแล้วก็ชะงักเพราะเห็นตันหยงกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบาร์ เขายืนมองซักครู่
“ผู้หญิงอะไร ดื่มเหล้ายังกะน้ำ ไม่ไหวเลย”
ปฐวีเดินไปอีกนิดแล้วหยุด เขาหันกลับไปมองตันหยงอีกครั้ง
“เฮ้อ...แล้วจะอะไรกับเค้าเนี่ย ท่าจะบ้าแล้วเรา”
ปฐวีตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งในผับแล้วแอบมองตันหยงเงียบๆ ชายสองคนนั่งมองตันหยงแล้วยิ้ม พวกเขาเห็นตันหยงเมาจึงเข้ามาประกบ
“ผมเลี้ยงเหล้าคุณดีมั้ย...”
“ไม่ต้อง ชั้นมีเงินจ่าย” ตันหยงปัด
“งั้นผมดื่มเป็นเพื่อนก็ได้”
“ไม่ต้อง ชั้นไม่อยากมีเพื่อน ชั้นเกลียดผู้ชาย”
ตันหยงหยิบเงินวางบนโต๊ะแล้วเดินโซเซออกไป ชายทั้งสองยิ้มให้กันแล้วลุกขึ้นเดินตามตันหยงไป ปฐวีมองตามแล้วถอนหายใจ
“หาเรื่องแล้วมั้ยล่ะ”
ปฐวีลุกขึ้นตามไปอีกคน
เมธียืนอยู่ริมสระว่ายน้ำ ประภัสสรเดินลงมาพอเห็นเมธีเธอก็ชะงักแล้วทำท่าจะเดินหนี
“ลูกเป็นยังไงบ้าง”
“หลับแล้วค่ะ” ประภัสสรตอบ
“นี่คุณเป็นอะไร ถามคำตอบคำ โกรธอะไรผมหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“ผมขอโทษ ที่ไม่ได้กลับมาทานข้าวกับคุณกับลูกตามสัญญา งานผมยุ่งจริงๆ”
“ยุ่งมากขนาดรับโทรศัพท์ไม่ได้เชียวหรือคะ นี่ถ้ายายเมย์เป็นอะไรไปมากกว่านี้ คุณจะกลับมาทันหรือคะ”
“โธ่..ภัส ไม่เอาน่า ยายเมย์ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ตัวร้อน” เมธีตำหนิ “ว่ายน้ำมากเกินไปเท่านั้นเอง”
“นี่คุณจะโทษภัสว่าดูแลลูกไม่ดีใช่มั้ยคะ ถ้าคุณคิดว่าทำดีกว่า ทำไมไม่กลับมาเลี้ยงลูกบ้าง”
“นี่คุณ ทำไมถึงพาลแบบนี้นะ” เมธีว่า
เมรินเริ่มร้องครวญคราง
“หนาวจังเลย น้องเมย์หนาวจังเลยค่ะ คุณแม่”
เมรินลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ไม่เห็นใคร
“คุณแม่ขา..คุณแม่”
เมรินลุกขึ้นแล้วปีนลงจากเตียงอย่างยากเย็นมาพร้อมตุ๊กตาหมีในอ้อมกอด เมรินเดินออกไปจากห้อง
ตันหยงเมามาก เธอเดินโซเซมาที่รถแล้วพยายามจะค้นหากุญแจจากกระเป๋า ทันใดนั้นก็มือหนึ่งมาจับแขนตันหยงไว้
“มาผมช่วย” ปฐวีบอก
ชายสองคนเห็นปฐวีอยู่กับตันหยงก็ชะงักแล้วเลี่ยงไป
“เฮ้ย...มากับเพื่อนนี่หว่า”
“รอดูไปก่อน”
ชายทั้งคู่แอบซุ่มดูตันหยง
ปฐวีพูดกับตันหยง
“เป็นผู้หญิง กินเหล้าเมาขนาดนี้ มันดูได้มั้ยเนี่ย”
“มันเรื่องอะไรของคุณล่ะ ถ้าเป็นผู้ชายทำไม่ผิดใช่มั้ย”
“เฟมินิสซะด้วยนะ...อย่าขับรถเลย อันตราย”
ตันหยงผลักปฐวีออกไป
“ไม่ต้องมายุ่ง ผู้ชายเชื่อไม่ได้ทุกคน”
ตันหยงกลับเข้าไปนั่งในรถแล้วล๊อคประตูก่อนจะขับออกไปทันที
ปฐวีตะโกน “นี่คุณกลับมาก่อน เมาแบบนั้นจะขับรถได้ยังไง”
ชายทั้งสองขับรถตามตันหยงไปอย่างรวดเร็ว ปฐวียืนมองอย่างละล้าละลังแล้วรีบวิ่งไปที่รถของตัวเอง
เมรินเดินลงบันไดมาอย่างทุลักทุเล
“แม่ขา แม่อยู่ไหนคะ เมย์หนาว”
ประภัสสรกับเมธีกำลังเถียงกันอยู่ในห้องรับแขก
“คุณไม่ต้องมาแก้ตัวเลย คุณจงใจว่ากระทบภัส ว่าเลี้ยงลูกไม่ดีใช่มั้ยใช่สิ ชั้นมันไม่ดีทำอะไรก็ผิด”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณฟังผมก่อนได้มั้ย”
อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 2/2 วันที่ 5 ก.พ. 56
พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตรพรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager