@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

ตันหยงถาม “เพื่อนซี้ ใครกันคะ”
“เดี๋ยวก็รู้” ปฐวีบอก
ทันใดนั้นหนุงหนิง สุนัขตัวโปรดของเมรินก็วิ่งควบเข้ามาอย่างรวดเร็ว พอใกล้ตันหยง หนุงหนิงก็เบรคตัวโก่งแล้วยืนเห่าตันหยงอย่างเอาเป็นเอาตาย ตันหยงรีบหลบหลังปฐวี
“เนี่ยนะ เพื่อนซี้”
“ใช่สิ เจ้าหนุงหนิง จำได้ไม๊”
ทุกคนมองขำ ตันหยงกับหนุงหนิงดูเชิงกัน
“เพื่อนซี้อะไรกัน หมาตัวเท่ายักษ์มันจะขย้ำชั้นหรือเปล่าเนี่ย”

ตันหยงนิ่งคิด
ตันหยงกับเจ้าหนุงหนิงยืนเผชิญหน้ากัน ปฐวีดันตันหยงให้เดินไปข้างหน้า หนุงหนิงเลยเริ่มถอย ตันหยงรุกต่อ หนุงหนิงถอยกรูด ตันหยงขำ



“เจ้าหมาใจเสาะ ตัวโตซะเปล่า”
ตันหยงแยกเขี้ยวขู่ หนุงหนิงวิ่งหนีไป ตันหยงเลยแกล้งวิ่งไล่อย่างสนุกสนาน ประภัสสร เมธี และปฐวีมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น
“สงสัยน้องเมย์ไปอยู่โรงพยาบาลหลายวัน เจ้าหนุงหนิงเลยผิดกลิ่น”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดี๋ยวก็เหมือนเดิม”
เสียงโทรศัพท์ของ เมธีดังขึ้น เมธีกดรับแล้วมีสีหน้ากังวล
เมธีพูดกับประภัสสร “ภัส ผมต้องไปก่อนนะ ต้องรีบไปทำงานต่อ”
ประภัสสรงอน “เชิญเถอะค่ะ ภัสอยู่กับลูกได้”
เมธีมองประภัสสรอย่างห่วงๆ
“ทางนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ พี่เมธีไปทำงานเถอะ” ปฐวีบอก
“ขอบใจมากวี”
ประภัสสรทำเมิน เมธีเดินไปอย่างหนักใจ
หนุงหนิง กระโดดใส่ตันหยง จนตันหยงล้มก้นกระแทก
“โอ๊ยหมาบ้า ตัวโตยังกะม้า ทำตัวเป็นหมาเล็กไปได้ ไปพ้นเลย”
หนุงหนิงทำท่าสำนึกผิดแล้วค่อยๆเดินไปรอ พอตันหยงดุซ้ำ หนุงหนิงก็วิ่งหายไป สายแก้วรีบเข้ามาประคองตันหยง
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บตรงไหนบ้าง”
ตันหยงยกมือห้ามแล้วลุกขึ้นยืนปัดตัวอย่างทะมัดทะแมง
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”
“เราเข้าบ้านกันดีกว่า” ประภัสสรบอก
ตันหยงถอนหายใจแล้วเดินตรงไปจะเข้าบ้านปรางค์ทิพย์ สายแก้วหันไปมองหน้าทุกคนเหวอ ก่อนจะรีบวิ่งไปคว้าตัวเมรินไว้
“หยุดก่อนค่ะ คุณน้องเมย์ขา ไม่ใช่ทางนั้นค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“นั่นมันบ้านคุณปรางค์ทิพย์ค่ะ”
“อ้าว...แล้วก็ไม่บอก”
สายแก้วรีบจูงมือเมรินเดินไปทันที ประภัสสรกับปฐวีมองหน้ากัน ปฐวียิ้มปลอบใจ

ตันหยงเดินเข้ามาในบ้านพร้อมๆ สายแก้ว ตันหยงหยุดยืนมองสภาพในบ้าน
“นี่บ้านของน้องเมย์หรือคะ” ตันหยงถาม
ปฐวีและประภัสสรมองหน้ากัน ประภัสสรรีบเข้ามาจับมือเมริน
“ใช่จ๊ะ นี่หนูเริ่มจำได้แล้วใช่มั้ยคะ น้องเมย์ แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว”
ประภัสสรดีใจ แต่ตันหยงชะงักมองหน้าประภัสสรแล้วถอนหายใจ
ปรงทองกับแม้นวาดเดินเข้ามาในบ้าน ทุกคนทำความเคารพ ตันหยงยืนมองนิ่งแล้วนึกได้จึงรีบยกมือไหว้ปรงทองและแม้นวาด
“ไหว้พระเถอะลูก มาให้ย่าทวดกอดให้ชื่นใจหน่อย มามะ” ปรงทองเรียก
ตันหยงมองหน้าประภัสสร ประภัสสรพยักหน้าให้ ตันหยงค่อยๆ ขยับเข้ากราบที่ตักปรงทอง ปรงทองกอดตันหยงไว้แนบอก
“หมดทุกข์หมดโศกแล้วนะลูก”
ปรงทองลูบเนื้อลูบตัวเมรินอย่างเป็นห่วงแล้วก็น้ำตาซึม
“ทำไมคนบ้านนี้ถึงประคบประหงมน้องเมย์กันนักนะ หรือว่าจะเป็นเด็กอ่อนแอ” ตันหยงคิด
ตันหยงหันไปหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตาให้ปรงทองอย่างอ่อนโยน
“เมย์หายดีแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ ที่ทำให้คุณย่าเป็นห่วง” ตันหยงบอก
“โถ..เด็กเอ๊ย...ขอบใจมากนะลูก คนเก่ง”
ปรงทองกอดตันหยงอย่างรักใคร่ ทุกคนมองหน้ากันแล้วยิ้มโล่งใจ ปฐวีมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้ม
“งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับคุณย่า น้องเมย์อยากพักไม๊ครับ เดี๋ยวน้าวีพาขึ้นไปบนห้อง”
“ดีแล้ว ไปพักให้เยอะๆ นะลูกนะ ส่วนแม่ภัส อยู่คุยกับย่าก่อนนะ ย่าจะสอบถามเรื่องงานมูลนิธิ”
ประภัสสรรับคำ “ค่ะคุณย่า”
ปฐวีพาตันหยงเดินออกไป โดยมีสายแก้วเดินตาม
“เออ.. แล้วพ่อเมธีไปไหนล่ะ เห็นเข้ามาพร้อมกันไม่ใช่หรือ” ปรงทองถาม
“คุณเมธีคงมีงานด่วนค่ะ ออกไปแล้ว” ประภัสสรตอบ
“อืม.. คนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวก็แบบนี้แหล่ะ”
ประภัสสรหน้าเศร้า จนปรงทองสังเกตได้

ปฐวี ตันหยง และสายแก้วเดินออกมา ตันหยงมองไปทั่วๆ บ้าน สักพักเสียงโทรศัพท์ปฐวีก็ดังขึ้น จริณทิพย์ที่อยู่ที่โรงพยาบาลดูสมุดนัดพร้อมโทรหาปฐวีไปด้วย
“คุณวีคะ วันนี้คุณวีมีผ่าตัดตอน บ่าย2 นะคะ”
ปฐวีมองนาฬิกา “ครับคุณทิพย์ ผมไม่ลืมหรอกครับ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ปฐวีกดวางสายแล้วหันไปมองเมรินที่ยืนมองรอบๆตัว
“ขึ้นไปพักข้างบนเลยนะครับ”
“เมย์อยากเดินเล่นแถวนี้ก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”
ปฐวีคลายใจ “เอางั้นหรือ ก็ได้ สายแก้ว ดูแลคุณเมย์ให้ดีนะ”
“ค่ะ สายแก้วจะดูแลคุณเมย์ไม่ให้คลาดสายตาเลย”
ปฐวีนั่งลงดึงเมรินมาหอมแก้ม ตันหยงตกใจจนตาโต เธอเอามือดันปฐวีไว้ และมองโกรธๆ
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะ” ตันหยงบอก
“อ้าว... ทำไมล่ะ นี่หลานน้าวีเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไร แต่ไม่ชอบให้หอม”
ปฐวีงงๆ ขำๆ “งั้นน้าไปก่อนนะ”
ปฐวีเดินไป ตันหยงมองตามแล้วก็เช็ดแก้มอย่างโกรธๆ
“คุณเมย์แปลกไปนะคะ ไม่ชอบให้น้าวีหอมแล้วหรือ เมื่อก่อนเห็นรักน้าวีจะตายไป”
“ก็ชั้นไม่ใช่น้องเมย์น่ะสิ” ตันหยงโกรธ

ตันหยงเดินไป สายแก้วตาโตแล้วมองรอบๆ ตัว
ตันหยงเดินออกมาจากในบ้าน โดยมีสายแก้วเดินตามออกมา ตันหยงหันไปมองสายแก้ว

“จะตามมาทำไมเนี่ย”
“ก็สายแก้วเป็นพี่เลี้ยงคุณน้องเมย์นี่คะ”
ตันหยงถอนใจ
ตันหยงเดินไปที่สนามแล้วมองไปที่ประตูรั้วก่อนจะนั่งลงด้วยความเซ็ง หนุงหนิงวิ่งเข้ามาหาแล้วมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ตันหยงเอามือชี้หน้าหนุงหนิง
“หยุด อย่ามายุ่งกันเด็ดขาด ชั้นไม่ชอบหมาตัวโต เข้าใจไม๊ !”
หนุงหนิงหางตกแล้วเดินหนีกลับไป
สายแก้วมองตันหยงงงๆ ว่าจะเอาไงดีหว่า มองเลิกลักอยู่ห่างๆ
ตันหยงถอนหายใจยาว
“ตันหยง คิดซิ คิดซิตันหยง จะทำยังไงดี” ตันหยงคิด “ต้องหาทางไปหาคุณพ่อคุณแม่ เล่าให้ท่านฟังใช่ไม๊”
ตันหยงมองตัวเองด้วยความกลุ้มใจ
“แล้วชั้นจะไปได้ยังไงล่ะเนี่ย เฮ่อ...”
สายแก้วเห็นเมรินนั่งพูดคนเดียวก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจึงเผ่นแนบออกไป

ลุงสายกับป้าแก้วช่วยกันเตรียมของว่างของโปรดของเมรินอยู่ สักพักสายแก้วก็เดินเข้ามาในครัว
“คุณน้องเมย์เป็นอะไรก็ไม่รู้ ทำไมแปลกประหลาดอย่างงี้”
“เอ็งพูดอะไรนังสายแก้ว คุณเมย์แปลกยังไงของเอ็ง”
“ก็คุณน้องเมย์บอกว่าไม่ใช่น้องเมย์คนเดิม แล้วยังนั่งพูดคนเดียว ขนาดเจ้าหนุงหนิงยังโดนไล่ตะเพิดเลย แล้วเจ้าหนุงหนิงก็เหมือน ไม่คุ้นกับคุณน้องเมย์ หมามันต้องรู้ดีกว่าคนไม่ใช่หรือแม่”
“เอ็งจะบอกว่าหมามันฉลาดกว่าเอ็งใช่มั้ย พูดเข้า เดี๋ยวเหอะ..รีบเอาของว่างไป ให้คุณหนูทาน ข้าจัดเสร็จแล้ว”
“หือ..จ๊ะ”
“แล้วนี่คุณเมย์ทำอะไรอยู่ล่ะ ไม่ไปดูแล เดี๋ยวก็เกิดเรื่อง” ลุงสายบอก
“นั่งเล่นอยู่ในสนามนั่นแหละ” สายแก้วตอบ
สายแก้วรีบรินน้ำส้มกับขนมแล้วเดินไป พอลับสายตาลุงสายกับป้าแก้วก็มองหน้ากัน
“จะว่าไป นังสายแก้วมันก็พูดมีเหตุผลนะตา หรือว่าคุณเมย์จะทำอะไรผิดเจ้าที่เจ้าทาง ท่านเลยมาทัก”
“บ้าแกก็เพ้อเจ้อ งมงาย” ลุงสายว่า

สายแก้วรีบเดินมาโดยไม่ทันสังเกตจึงเกือบชนกับประภัสสรที่เดินตามหาเมรินอยู่
“คุณภัสขา สายแก้วขอโทษ”
“น้องเมย์ล่ะสายแก้ว”
“คุณน้องเมย์อยู่ในสวนค่ะ สายแก้วมาเอาของว่างไปให้คุณน้องเมย์ค่ะ”
“งั้นก็ไปพร้อมกันเลย”
สายแก้วมองถาดน้ำและขนมในมือตัวเองแล้วก็คิด
“เออ..คุณภัสคะ คือ.....คุณน้องเมย์”
“มีอะไรเหรอจ๊ะ”
สายแก้วงงๆ ไม่รู้จะเล่าอย่างไร
“ไม่มีอะไรค่ะ คงหิวขนม”
ประภัสสรยิ้มแล้วเดินนำสายแก้วไป สายแก้วมองแล้วทำท่าสะอื้นก่อนจะเดินตาม

เมรินนั่งกอดเข่าอย่างใช้ความคิด ประภัสสรเดินเข้ามาจับตัวเมริน
“ทำอะไรอยู่คะ น้องเมย์”
เมรินไม่ตอบแต่เงยหน้ามองประภัสสร
“น้ำหวาน กับคุกกี้ค่ะ คุณน้องเมย์” สายแก้วนำมาเสิร์ฟ
“ขอบคุณค่ะ” ตันหยงพูดแต่ไม่สนใจนั่งเซ็งต่อ
“น้องเมย์ไม่ทานคุกกี้เหรอคะ” ประภัสสรถาม
ตันหยงมองหน้าประภัสสร
“เอ่อ.. เมย์ ไม่ชอบทานคุ๊กกี้ค่ะ น้ำหวานด้วย”
ประภัสสรงงเพราะปรกติลูกสาวชอบทานคุ๊กกี้
“งั้นพี่สายแก้วเอาไปเก็บนะคะ” สายแก้วบอก
สายแก้วเดินไป ประภัสสรมองเมรินอย่างรักใคร่
“ลูกแม่ แล้วเจ้าหนุงหนิงอยู่ไหนล่ะ”
“หนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะ”

เมรินตอบแล้วเมินหน้าหนี ประภัสสรมองอย่างแปลกใจ
สายแก้วเดินกลับเข้ามาในครัวพร้อมถาดขนม

“อะไรของเอ็งอีก วันนี้คุณหนูจะได้กินของว่างหรือเปล่า”
“คุณหนูไม่กินคุกกี้” สายแก้วบอก
ลุงสายกับป้าแก้วตกใจ “อะไรนะ”
“บอกว่าคุณหนูไม่กินคุกกี้”
ลุงสายกับป้าแก้วงง
“อะไรกัน ปกติชอบจะตาย”
“ก็บอกแล้วไง คุณหนูเปลี๋ยนไป๋ หรือว่าจะผิดเจ้าที่จริงๆ” สายแก้วพูด
“เดี๋ยวเหอะ นางสายแก้ว เดี๋ยวจะโดนตะหลิวยัดปากพูดไม่เป็นมงคล”
สายแก้วงอน “พูดก็ไม่มีใครเชื่อ โอ๊ย อึดอัดใจจริง”
สายแก้วเลยเดินออกไป
“หรือว่าจะจริงของมัน ตา” ป้าแก้วเริ่มสงสัย
“เฮ้ย ไม่มีหรอก แกก็รู้นังสายแก้วมันขี้ขึ้นสมอง กลัวทุกอย่างนั่นแหละ”
ป้าแก้วพยักหน้าแล้วทำงานเงียบๆ ลุงสายคิดแล้วสะกิด
“หรือเราควรจะหาของไหว้พระภูมิเจ้าที่บ้าง”
“ชั้นเห็นด้วย”
สองตายายมองหน้ากันแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วยต่อกัน

ประภัสสรอุ้มเมรินเข้ามาในห้อง พอถึงห้อง ประภัสสรก็วางเมรินลง ตันหยงมองไปรอบๆห้องแล้วเหวอเพราะทุกอย่างในห้องเป็นสีชมพูไปหมดแถมยังมีตุ๊กตาขนฟูวางไว้เต็มไปหมด
ตันหยงคิดในใจอย่างเซ็งๆ “จะชมพูอะไรขนาดนี้ ตุ๊กตาก็เยอะไปไม๊เนี่ย”
“ถึงห้องของน้องเมย์แล้ว...คืนนี้คุณแม่มานอนเป็นเพื่อนน้องเมย์นะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ นอนคนเดียวได้ค่ะ”
“จริงหรือคะ น้องเมย์แน่ใจนะคะไม่อยากให้คุณแม่มานอนเป็นเพื่อน”
“แน่ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เมย์นอนคนเดียวได้ค่ะ”
สายแก้วเดินเข้ามาพร้อมถาดผลไม้ในมือ
สายแก้วดีใจ “งั้นพี่สายแก้วไม่ต้องนอนเป็นเพื่อนแล้วนะคะ”
สายแก้วจะเดินไป ประภัสสรจ้องสายแก้ว จนสายแก้วจ๋อย
“ให้พี่สายแก้วนอนเป็นเพื่อนนะคะ ไม่งั้นคุณแม่จะเป็นห่วงเดี๋ยวคุณแม่ขอไปเคลียร์งานมูลนิธีก่อน สายแก้วอยู่เป็นเพื่อนน้องเมย์นะ”
ประภัสสรเดินไป ตันหยงหันมามองสายแก้ว สายแก้วรู้สึกหวาดๆ
“คุณน้องเมย์อย่ามองแบบนี้สิคะ พี่สายแก้วกลัว”
ตันหยงแกล้ง “..จะบอกให้นะพี่สายแก้ว ตอนนี้ในร่างของน้องเมย์ มีวิญญาณของผู้หญิงสิงอยู่”
“คุณน้องเมย์ไม่เอานะคะ พี่สายแก้วกลัว ไปค่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า พี่สายแก้วจะอาบน้ำให้”
ตันหยงชะงัก “...ไม่ต้องค่ะอาบเองได้” ตันหยงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว “ขอแค่ครีมล้างหน้า กับโทนเนอร์ก็พอ”
“คุณน้องเมย์จะเอาไปทำอะไรคะ”
ตันหยงชะงัก แล้วนึกได้ว่าตัวเองเป็นเด็ก “...ล้อเล่นน่ะคะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ตันหยงเดินเข้าไปในห้องน้ำ สายแก้วถอนหายใจแล้วก็กลัวต่อ

สุดนภาขับรถเข้ามาในที่จอดรถของโรงพยาบาล สุดนภามองหาที่จอดรถ นาวินขับรถเข้ามามองหาที่จอดรถเช่นกัน ทั้งคู่เห็นที่จอดรถว่างที่เดียวกัน สุดนภากับนาวินมองหน้ากันเพราะต่างคนต่างอยากได้ที่จอดรถ สุดนภาเหยียบคันเร่ง
“ใครดีใครได้”
“ต้องวัดใจกันหน่อย” นาวินบอก
สุดนภาขับรถเข้าที่จอดรถได้ก่อนก็ยิ้มเย้ย
นาวินมองกระจกหลังอย่างอารมณ์เสีย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”

สุดนภาจะเดินเข้าประตู นาวินวิ่งตามมาจนทัน
“นี่คุณ ผมเจอที่จอดรถก่อนนะ”
“หรือคะ แต่ชั้นจอดก่อน ขอบคุณนะคะ”
“ที่ผมยอมน่ะเพราะผมรักษามารยาท ความจริงคุณก็ควรรู้ว่าใครมาก่อนได้ก่อน”
“ผิด ใครจอดก่อนก็ได้ที่จอดรถก่อน เข้าใจมั้ย มีอะไรไม่เคลียร์หรือ”
นาวินทำท่าจะเถียงแต่เถียงไม่ออก
“แค่นี้ใช่มั้ย มีธุระอะไรก็ไปคุยกันที่โรงเรียนแล้วกัน ตอนนี้นอกเวลางานแล้ว อ๊ะ..หรือว่าคุณจงใจสะกดรอยตามชั้นมา”
“ไม่ใช่ซะหน่อย ผมมาหาเพื่อนผมต่างหาก”
“ดีใจด้วยนะคะ คนอย่างคุณยังมีคนอยากคบด้วย”
“ใครว่า คุณต่างหากที่แอบตามผมมา แอบชอบผมใช่มั้ยล่ะ”
สุดนภาระงับอารมณ์ “กล้าพูดจริงนะ”
“แน่อยู่แล้ว ผมคนรุ่นใหม่ จริงใจมีวิสัยทัศน์ เชื่อใจได้”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 3/2 วันที่ 9 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager