@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3 วันที่ 3 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3 วันที่ 3 ก.พ. 56

“อ้าว...แล้วทำไมคุณรำพึงต้องแกล้งป่วย”
“ข้าก็จะทำให้คุณพี่คิดถึงข้าจนแทบสำลักไงล่ะ อยากไปยุ่งกับนังชุ่มดีนัก”
“ใครจะคิดถึงใครจนสำลักกันแน่”
“นังจวง...หุบปากไปเลย”
จวงหน้าจ๋อยแล้วรีบเอาใจ
“ของกำนัลจากขุนไวเจ้าค่ะ”

จวงวางผ้าลงบนเตียง รำพึงปลายตามองเพียงนิดเดียว ในใจเธอตอนนี้ไม่มีพื้นที่เหลือให้ใครนอกจากขุนพิทักษ์ไมตรีเพียงคนเดียว
บริเวณเรือนทาส แจ่มเอายาฝรั่งให้ชุ่มกิน
“เอ็งนี่มีบุญนักนังชุ่ม ยาฝรั่งเนี่ยทาสอย่างเราไม่มีใครได้กินง่ายๆนะโว้ย”
“คุณหญิงท่านมีเมตตากับข้าจริงๆ”



“ก็ใช่น่ะสิวะ เจ้านายเรือนนี้มีเมตตากับทาสอย่างพวกเรามาก ทั้งท่านพระยาฯแล้วก็คุณหญิงของข้า เสียก็แต่ลูกชายที่เกเรเหลือกำลัง”
ชุ่มรู้ว่าแจ่มหมายถึง ขุนพิทักษ์ ชุ่มพลิกตัวนอนไม่พูดสิ่งใดต่อ แจ่มเดินออกไปปล่อยให้ชุ่มนอนคิดถึงท่านขุนฯเกเรของแจ่มต่อไป
“ท่านขุนนี่หรือ..เป็นคนร้าย”

ชุ่มนอนคิดแล้วหลับตาลงพยายามไม่นึกขุนพิทักษ์
ในงานศพท่านเจ้าคุณ เรือนคุณหญิงมณี เวลากลางคืน ขุนพิทักษ์ไมตรีเดินลงมารอรับรำพึง แต่ไม่เห็นมา ขุนพิทักษ์ ไหว้แขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน จนเห็นพระยาเทวราชเดินมา ขุนพิทักษ์รีบเข้าไปรับ

“กราบขอบพระคุณจริงๆที่ท่านพระยามางานไม่เคยขาด”
“ท่านพระยาฯเป็นคนสำคัญฉันจะไม่มาได้อย่างไร”
“แล้วนี่น้องรำพึงไปไหนเสียขอรับ”
“รำพึงป่วยนิดหน่อย ฉันก็เลยให้อยู่บ้าน ฉันขึ้นเรือนก่อนนะ”
ขุนพิทักษ์มีสีหน้าผิดหวังและเป็นห่วง
“เชิญขอรับ”
ขุนไวพิชิตพลเดินผ่านหน้าขุนพิทักษ์ ทั้งสองคนจ้องตากัน ก่อนขุนไวจะยิ้มมุมปากเหมือนเยาะขุนพิทักษ์ก่อนเดินขึ้นเรือนไป
ขุนพิทักษ์ หัวเสียเห็นทาสเดินมาท่าทางคล้ายชุ่ม
“นังชุ่ม”
แต่ทาสไม่หยุด ขุนพิทักษ์จึงไปดึงแขนให้หันมา แต่เป็นทาสหญิงอื่น
“นังชุ่ม ข้าเรียกไม่ได้ยินรึ”
“เผื่อนเจ้าค่ะ ไม่ใช่นังชุ่ม”
“แล้วนังชุ่มมันไปไหน”
“นังชุ่มมันนอนซมพิษไข้ขึ้นอยู่ที่เรือนเจ้าค่ะ”
บ่าวเดินไปทำงานต่อ
“ป่วย หรือ สำออยกันแน่”
ขุนพิทักษ์เดินตรงไปยังเรือนทาส

ที่เรือนทาส ชุ่มนอนหนาวอยู่และได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าเรือน ชุ่มนึกว่าสม
“แขกหมดท่าแล้วหรือพี่สม”
ขุนพิทักษ์ ที่ยืนอยู่หน้าเรือน ไม่รู้ทำอย่างไร เลยเออออไปด้วย ทำเสียงกระแอม กระไอ
“อะ..เออ”
“ พี่ช่วยเข้ามาหยิบน้ำให้ฉันหน่อยได้มั้ย ฉันลุกไม่ไหว”
ขุนพิทักษ์ เปิดประตูเรือนเห็นชุ่มนอนซมอยู่ ก็เก้ๆกังๆหาขันน้ำที่วางอยู่ถือมาใกล้ๆชุ่ม แล้วประคองชุ่มขึ้นมา
“ท่านขุน...”
ชุ่มพยายามจะดิ้นรนแต่พิษไข้ทำให้แรงที่มีน้อยเหลือเกิน
“อย่าเพิ่งอวดเก่ง กินน้ำซะก่อน เดี๋ยวก็ได้แห้งตาย”
ขุนพิทักษ์ ดันขันไปที่ปากชุ่ม ชุ่มจำต้องดื่ม
“ว่าง่ายๆแบบนี้ ค่อยน่ามองหน่อย”
ชุ่มไอสำลักน้ำ ขุนพิทักษ์ หัวเราะในความเปิ่น ท่านขุนฯ ประคองให้นั่งชุ่มพิงฝา
ชุ่มหน้าแดงด้วยความอาย
“ไง...ไข้งอมแบบนี้จะมีฤทธิ์อะไรกับข้าอีก”
“ท่านขุนไม่ควรมาที่นี่นะเจ้าคะ ใครมาเห็นท่านจะถูกครหาเอาได้”
ขุนพิทักษ์ หัวเราะ
“นานๆ ข้าจะเจอบ่าวอย่างเอ็ง ที่ไม่ได้เห็นข้าเป็นยักษ์เป็นมาร กลัวข้าเป็นพัลวัน”
บรรยากาศอึดอัดเข้ามาปกคลุม ชุ่มตัดสินใจเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ท่านขุนไม่ขึ้นเรือนไปต้อนรับแขกเหรื่อเหรอเจ้าคะ คนจะติฉินให้คุณหญิงร้อนหูนะเจ้าคะ”
“เอ็งนี่แปลก ชอบไล่ข้าซะจริง รู้มั้ยผู้หญิงทั้งเมืองจ้องแต่จะเป็นเมียข้า”
“ข้ามีเรื่องอื่นที่น่าทำมากกว่าจ้องจะเป็นเมียใครสักคน”
“นังนี่ มันสำคัญตัวนัก เรื่องอะไรที่เอ็งว่าน่าทำมากกว่าจะเป็นเมียข้า”
“ก็ทำงานเก็บเงินมาก ๆ จะได้ไถ่ตัวพี่สม แล้วก็กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่เจ้าค่ะ”
ขุนพิทักษ์ มองชุ่มด้วยแววตาที่บอกไม่ถูก เขารู้สึกสบายใจ
“เอ็งรักพ่อแม่ดีนะ”
“ลูกคนไหนไม่รักพ่อแม่ก็อกตัญญูสิเจ้าคะ หรือว่าท่านขุนไม่รัก” ขุนพิทักษ์สะอึก
ขุนพิทักษ์ รีบเบรกทันที
“พอได้แล้ว นี่เอ็งไม่ได้ด่าข้าอยู่ใช่ไหม”
ชุ่มหน้าซื่อ ๆ ไม่ได้คิดด่า ขุนพิทักษ์ เห็นหน้าซื่อแล้วก็เปลี่ยนใจไม่พูด
“ข้าไปดีกว่า คุยกับเอ็งแล้วปวดหัว”
ขุนพิทักษ์ ออกไป ชุ่มล้มตัวลงนอน หลับตาด้วยพิษไข้ แต่ขุนพิทักษ์ เดินกลับมาห่มผ้าห่มให้ แล้วใช้นิ้วไล้แก้มชุ่มนิด ๆ อย่างแกล้ง ๆ
“ไว้ข้าจะมาเล่นกับเอ็งใหม่”
ขุนพิทักษ์ เดินจากไป ชุ่มลืมตาแอบมองตามไป ชุ่มจับหัวใจตัวเองที่เต้นตูมตาม

แขกผู้ใหญ่ขึ้นเรือนมา คุณหญิงมณีกำลังจะเข้ามารับแขก แต่ขุนพิทักษ์ชิงเข้ามาไหว้แขกผู้ใหญ่ซะก่อน
“ขอบคุณมากขอรับที่มาร่วมงาน”
แขกผู้ใหญ่รับไหว้ ยิ้มแล้วเดินไป ขุนพิทักษ์ ยืนรอรับแขกคนต่อไป แจ่มเข้ามาข้างคุณหญิงมณี
“แจ่มตาฝาดหรือเปล่าเจ้าคะคุณหญิง ท่านขุนมาต้อนรับแขก...”
คุณหญิงมณีเห็นจังหวะที่ขุนพิทักษ์ เดินออกมาจากที่ส่งแขกเข้าไปในงาน คุณหญิงมณีเข้าไปหา
“คุณพ่อคงจะดีใจนะที่เห็นลูกออกหน้าเป็นธุระอย่างนี้ บอกแม่ได้ไหมว่าอารมณ์ดีเรื่องอะไร”
“กระผมไม่อยากให้คนติฉินให้คุณแม่ร้อนหู”
ขุนพิทักษ์ ยิ้มนึกถึงชุ่ม แขกเข้ามาขุนพิทักษ์พาแขกขึ้นเรือนไป แจ่มตามไปช่วยจัดของ
เผื่อนเดินมาทางคุณหญิงมณีพอดี
คุณหญิงมณีถามเผื่อน
“รู้ไหมว่าเมื่อครู่พ่อพิทักษ์ไปไหนมา”
“ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่เห็นถามถึงนังชุ่ม”

เผื่อนเดินออกไปทำงานต่อ คุณหญิงมณีมองตามอย่างสงสัย

คืนพระจันทร์ข้างแรม ภายในห้องนอนคุณหญิงมณี แจ่มจัดที่ทางเตรียมที่นอนให้คุณหญิงมณี

“แปลกจริงๆ อย่างที่เอ็งว่า”
“เรื่องท่านขุนฯ ออกมาต้อนรับแขกเหรอเจ้าคะ ท่านขุนฯอาจจะทำเพื่อท่านพระยาฯก็เป็นได้นะเจ้าคะ” แจ่มว่า
แจ่มเดินออกไป คุณหญิงมณียังครุ่นคิดไม่วาย
“หวังว่าข้าจะคิดมากไปเอง”

ภายในห้องนอน ขุนพิทักษ์ นั่งมองดวงจันทร์ ภาพเหตุการณ์ของเขากับชุ่มเข้ามาในหัว

ที่บึงบัว ใบหน้าของชุ่มยังมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย เปียกไปด้วยหยดน้ำ แต่สวยเป็นธรรมชาติ ขุนพิทักษ์ พินิจมองหน้านั้นอยู่นาน
ขุนพิทักษ์ ก้มลงไปฟังเสียงหายใจ เป็นจังหวะที่ชุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก็ตกใจ!!

ที่เรือนทาส
“ท่านขุนไม่ขึ้นเรือนไปต้อนรับแขกเหรื่อเหรอเจ้าคะ คนจะติฉินให้คุณหญิงร้อนหูนะเจ้าคะ”
“เอ็งนี่แปลก ชอบไล่ข้าซะจริง รู้มั้ยผู้หญิงทั้งเมืองจ้องแต่จะเป็นเมียข้า”
“ข้ามีเรื่องอื่นที่น่าทำมากกว่าจ้องจะเป็นเมียใครสักคน”
“นังนี่ มันสำคัญตัวนัก เรื่องอะไรที่เอ็งว่าน่าทำมากกว่าจะเป็นเมียข้า”
“ก็ทำงานเก็บเงินมาก ๆ จะได้ไถ่ตัวพี่สม แล้วก็กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่เจ้าค่ะ”

ขุนพิทักษ์ ยิ้ม ๆ มองไปที่ดวงจันทร์ภาพของชุ่มกลับชัดเจนขึ้นมาในห้วงคำนึง เขากำลังจะเปลี่ยนเสื้อ แล้วผ้าของรำพึงก็หล่นลงพื้น ขุนพิทักษ์ หยิบขึ้นมาดูคิด ๆ

เช้าวันใหม่ ผ้าแพรผืนงามของขุนไวพิชิตพลถูกรำพึงจับเขวี้ยงไปที่ประตู เป็นจังหวะที่จวงเปิดประตูเข้ามาโดนไปเต็มๆ
“โอ้ย...คุณรำพึงเป็นอะไรเจ้าคะ”
“นังจวง เอ็งดูคุณพี่สิ ป่านนี้ยังไม่มาหาข้าเลย นี่คุณพี่ไม่คิดถึงข้าเลยหรือไร”
“ใจเย็นๆเจ้าค่ะคุณรำพึง คือว่า ท่านขุนพิทักษ์”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทน ข้าไม่อยากได้ยินชื่อนี้”
“ก็ได้เจ้าค่ะ งั้นจวงจะได้ไปบอกให้ท่านขุนพิทักษ์กลับเรือนไป”
ดวงตารำพึงวาวโรจน์
“หรือว่าคุณรำพึงจะแต่งตัวสวยๆลงไปพบท่านขุนฯเจ้าคะ”
จวงหยั่งเชิงรำพึง
“สู่รู้นักนะ”
รำพึงยิ้มดีใจที่เป็นไปตามแผน

ศาลากลางสวน บ่าวนำชาเสิร์ฟให้กับขุนพิทักษ์ไมตรีนั่งอยู่ตรงหน้ารำพึง
“ถ้าคุณพี่ตั้งใจมาหาคุณพ่อ คุณพ่อไปราชการแล้วเจ้าค่ะ คุณพี่ต้องไปหาคุณพ่อที่กรม”
รำพึงพูดเปิดทางและแอบประชด ขุนพิทักษ์จับมือรำพึง
“น้องก็รู้ว่าใจของพี่อยู่ที่น้องคนเดียว”
“อย่ามาทำปากหวานให้น้องตายใจเลยเจ้าค่ะ ใครจะรู้...คุณพี่อาจจะแอบมีใครเก็บไว้ที่เรือนก็เป็นได้”
“พี่จะแอบเก็บใครไว้ได้”
“ให้มันจริงเถอะเจ้าค่ะ”
จวงเดินถือถาดขนมมาเห็นเข้า จึงแกล้งกระแอมให้เจ้านายเป็นสัญญาณ
“ขนมมาแล้วเจ้าค่ะ”
รำพึงยิ้ม แต่ก็ดึงมือออกอย่างมีจริต
“บ่าวไพร่มากมาย น้องจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน”
จวงเดินเอาขนมมาเสิร์ฟให้ขุนพิทักษ์
“ขนมอลัว พี่ไม่ได้เห็นมานาน”
“คุณรำพึงทำเองกับมือเลยนะเจ้าคะท่านขุน”
“นังจวง มีอะไรต้องทำก็ไปทำได้แล้ว อย่าจุ้นจ้าน”
“เจ้าค่ะคุณรำพึง”
จวงเดินออกไป
“อลัว เป็นขนมชาววังที่ได้สูตรมาจากเมืองโปรตุเกสหาทานได้ยาก น้องเลยอยากทำให้คุณพี่ทานเจ้าค่ะ”
“น้องรู้ความหมายของขนมชนิดนี้รึเปล่า”
“มันมีความหมายว่า เสน่ห์ดึงดูดใจ”
รำพึงหยิบขนมป้อนขุนพิทักษ์ ขุนพิทักษ์ใช้ริมฝีปากสัมผัสมือรำพึง
“แต่เสน่ห์ของมันไม่ได้ครึ่งเสน่ห์ของน้อง”
จังหวะนั้นเองที่ขุนไวพิชิตพลเดินมาเห็น ขุนไว หัวเสียที่ครั้งนี้ขุนพิทักษ์มาเหยียบถึงถิ่น

“คุณรำพึงต้อนรับแขกดีถึงเพียงนี้เชียวเหรอ”
รำพึงกับขุนพิทักษ์หันขวับ รำพึงรีบชักมือกลับ

“น้องรำพึงคงเลือกว่าควรต้อนรับใคร แบบไหนมากกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นท่านพระยาฯคงไม่พอใจเป็นแน่ ถ้ารู้ว่าคุณรำพึงแสดงกิริยาอันไม่เหมาะแก่การเป็นหญิงงาม โดยเฉพาะกับคนที่ฉวยโอกาสอย่างขุนพิทักษ์”
“ไอ้ไว!”
ขุนไว จ้องหน้าขุนพิทักษ์ไม่ลดละ
รำพึงฉุนกึก
“ขุนไว ท่านไม่มีสิทธิ์มาเอ่ยเช่นนี้กับข้า!”
ขุนไว สวนขึ้นทันที
“แล้วท่านพระยามีสิทธิ์หรือเปล่า”
รำพึงหันขวับไปมองขุนไว ข้อนี้เป็นจุดที่ขุนไว ชนะตน รำพึงพยายามข่มอารมณ์
“ท่านขุนฯมาถึงเรือนมีธุระอะไรคะ”
“ท่านพระยาฯให้พี่มาเอาเอกสาร”
“ที่แท้ก็หมารับใช้” ขุนพิทักษ์ไมตรีบอก
ขุนไว ตวัดตามองแล้วก้าวเข้าไปกระชากคอขุนพิทักษ์
“แต่ก็ยังดีกว่าหมาขี้เรื้อนที่เจ้าบ้านเขาไม่อยากได้”
ขุนพิทักษ์ ผลักอกขุนไว แล้วถีบล้มทันที
“ตีนหมาขี้เรื้อนหนักพอจะปิดปากคางคกขึ้นวออย่างเอ็งได้มั้ยวะไอ้ไว”
ขุนไวพิชิตพลพุ่งเข้าหาขุนพิทักษ์ไมตรี ทั้งคู่ต่างปะทะหมัดกันนัว แต่สุดท้ายรำพึงมาขวางไว้
“ถ้าคิดจะวางมวยกัน เชิญไปที่อื่น!”
ขุนไว ชะงัก รำพึงหันไปหาขุนพิทักษ์
“คุณพี่คะ คุณพี่กลับไปก่อนเถอะค่ะ น้องจะให้จวงไปส่ง คืนนี้น้องจะไปฟังสวดกับคุณพ่อค่ะ”
“พี่จะรอน้องที่เรือน”
ขุนพิทักษ์ เดินออกไปแล้วตวัดตามอง ขุนไวฮึดฮัด
“คุณรำพึงทำแบบนี้ดูจะเข้าข้างมันเกินไป”
รำพึงรีบตัดบท
“เอกสารอะไรคะที่คุณพ่ออยากได้ ดิฉันจะไปหยิบให้”
รำพึงทำหูทวนลม ขุนไวพิชิตพลได้แต่กลั้นความไม่พอใจ

ขุนไวพิชิตพลเดินฉับๆถือเอกสารออกมาจากเรือนไปยังท่าเรือริมน้ำเรือนรำพึงด้วยความโมโห
“ไอ้พิทักษ์...เอ็งชนะข้าแค่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่เรื่องอื่นข้าจะไม่แพ้ รำพึงจะต้องเป็นของข้า!”
ตาของขุนไว เต็มไปด้วยความแค้นและมุ่งมั่น

ที่เรือนทาส เวลากลางวัน สมป้อนข้าวชุ่ม
“พี่สม ข้ากินเองได้”
ชุ่มดึงถ้วยจากมือสมมากินเอง สมมองสภาพน้อง
“ข้าจะบอกคุณหญิง ว่าคุณรำพึงทำร้ายเอ็ง”
ชุ่มมองหน้าสม
“อย่านะพี่สม”
“เอ็งโดนสองหนแล้วนะนังชุ่ม ข้าไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่”
“พี่สม ฉันขอร้อง ฉันไม่อยากหาเรื่องร้อนใจไปให้คุณหญิงท่าน ท่านดีกับเราเหลือเกินนะพี่สม”
“แต่เอ็งโดนทำร้ายจะให้ข้าอยู่เฉยได้ยังไง”
ชุ่มกอดสม

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 3 วันที่ 3 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager