@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/3 วันที่ 3 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/3 วันที่ 3 ก.พ. 56

ปฐวีหันไปเห็นปรงทองเดินเข้ามา ปฐวีรีบเดินเข้าไปประคองให้มานั่งที่โต๊ะ
“คุณย่า ยังไม่นอนหรือครับ”
“จะให้รีบนอนไปไหน เมื่อถึงเวลาย่าก็คงได้พักยาวแล้วละ”
“โธ่ คุณย่ายังแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญของลูกหลานไปอีกร้อยปีได้เลยครับ”
“สังขารคนเรามันไม่เที่ยงหรอก ย่าอายุมากแล้วอยากจะวางมือเรื่องธุรกิจซะที”
“อะไรกัน คุณย่ายังสาวออก เหมือนคนอายุ 50 มากกว่า”

“ปากหวานนะเราเนี่ย” ปรงทองถอนใจ “อะไรมันก็ไม่แน่นอน ดูพ่อกับแม่ของเราสิ จู่ๆก็ปุปปับไปเพราะอุบัติเหตุ ซ้ำร้าย แม่ของแม่ปรางค์ก็เป็นมะเร็งทิ้งย่าไปอีกคน มีที่ไหน แม่ต้องมาเผาลูก”



“โธ่ คุณย่าครับ อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย”
“ย่าไม่เศร้าหรอก เพียงแต่อยากเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่า คนเราไม่ควรดำรงตนอยู่ในความประมาท ถึงเวลาที่ย่าควรจะวางมือเรื่องงาน ให้คนที่เหมาะสมดูแลต่อไป”
“ครับ ผมเข้าใจคุณย่า แล้วคุณย่าคิดจะทำยังไงต่อไปล่ะครับ”
ปรงทองนิ่งไม่ตอบแต่มองปฐวีอย่างเอ็นดู
“ว่าแต่เมื่อกี้เจ้าคิดถึงใครอยู่หรือเปล่า” ปรงทองถาม
“ว๊า คุณย่ารู้ทันผมทุกทีเลย...”
ปฐวีเขิน ปรงทองยิ้มมองปฐวีอย่างรักใคร่

ตันหยงกำลังรื้อของออกจากกระเป๋าจนกระทั่งถึงของขวัญที่เธอซื้อมาให้พิราม ตันหยงหยิบปากกาด้ามนั้นออกจากกล่องขึ้นมามอง
“ห่อซะหน่อยดีกว่า...คนรับจะได้ตื่นเต้น”
ตันหยงลุกขึ้นไปหากระดาษมานั่งห่ออย่างสวยงาม เสร็จแล้วเธอก็บรรจงเขียนการ์ด “ด้วยความรักสำหรับผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต ตันหยง” ตันหยงนั่งมองห่อของขวัญด้วยความภูมิใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ตันหยงรีบกดรับ
“ทำอะไรอยู่ สุดที่รักของผม” เสียงพิรามดังจากปลายสาย
“ถ้ารักแล้วทำไมรีบกลับล่ะคะ หยงยังไม่ได้เอาของฝากให้คุณเลย”
“ขอโทษทีครับ นี่เพิ่งประชุมเสร็จ ต้องทานข้าวกับลูกค้าต่อ แต่ผมรีบออกมาโทรหาคุณก่อน”
“งั้นให้หยงไปหามั๊ยคะ หยงอยากจะเอาของให้คุณ”
พิรามอึกอัก “..ไม่ต้องดีกว่า คุณเพิ่งกลับมาถึงพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะไปรับ”
ตันหยงงอน “..ก็ได้ค่ะ”
“หยง...ผมรักคุณ”
“ทราบแล้วค่ะ พิราม พรุ่งนี้พบกันนะคะ”
ตันหยงกดปิดโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นจะเดินไป แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก ตันหยงชะงักเพราะคิดว่าพิรามโทร.กลับมา
“อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจ”

ตันหยงรีบกดรับ
ขณะเดียวกัน สุดนภาแต่งตัวสวยพร้อมจะออกจากบ้าน เธอกำลังเดินไปขึ้นรถของตัวเองและก็โทร.มาหาตันหยงไปด้วย

“นี่หยง แกเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ ทำไมไม่โทร.มารายงานตัวกับเพื่อน หรือว่าลืมชั้นแล้ว”
“บ้า ชั้นเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยยัง ไม่ 24ชั่วโมงเลย เหนื่อยจะแย่” ตันหยงบอก
“หนอยแน่ะ ไว้พักวันอื่น วันนี้ออกมาสังสรรค์กันหน่อย ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด ชั้นนัดเพื่อนไว้ครบก๊วนแล้ว”
ตันหยงอิดออด “บ้า แกเป็นครูอนุบาลนะ จะไปสถานที่อโคจรแบบนั้นได้ไง เดี๋ยวโดนต้นสังกัดเล่นงานหรอก”
“นั่นน่ะสิ แสดงว่าชั้นยอมเอาอนาคต แม่พิมพ์ของชาติมาเสี่ยงเพื่อเพื่อนได้ เพราะฉะนั้นห้ามปฏิเสธ เข้าใจมั้ย แต่งตัวเลย เดี๋ยวชั้นไปรับ”

รถของสุดนภาพวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้าผับ บรรดาสาวๆลงจากรถ ตันหยงเห็นรถของพิรามจอดอยู่ก็ถึงกับชะงัก
“เอ๊ะ นั่นรถของพิรามใช่มั๊ย”
สุดนภาจ้องมอง “...ใช่ เฮ้..พวกเรา วันนี้ฟ้าประทานเจ้ามือมาให้แล้ว”
ทุกคนร้องดีใจ ตันหยงรีบปราม
“บ้าน่า เค้าพาลูกค้ามาเอ็นเตอร์เทน เราจะไปกวนเค้าได้ไง” ตันหยงบอก
“ไม่กวนหรอก แค่นั่งโต๊ะข้างๆ แล้วรวมบิลก็ได้ดีมั๊ยพวกเรา” สุดนภาถามความเห็น
ทุกคนทำท่าเห็นด้วย
“มติเอกฉันท์ พวกเราลุย”
สุดนภาชักชวนทุกคนให้เข้าไป ตันหยงยิ้มขำๆ

กลุ่มของตันหยงเดินเข้ามา สุดนภาเรียกพนักงานอย่างคล่องแคล่ว
“นี่บี๋ แกคล่องเกินไปหรือเปล่า ถ้าไม่รู้ว่าแกเป็นครูอนุบาลนี่ ชั้นคิดว่าแกเป็นเจ้าของผับนะ ไม่กลัวเจอลูกศิษย์บ้างหรือไง” ตันหยงถาม
“จะบ้าหรือหยง นี่ผับนะ ไม่ใช่เขาดิน เด็กอนุบาลที่ไหนจะมาทัศนศึกษาในผับ” สุดนภาว่า
พนักงานรีบเดินเข้ามาต้อนรับ
“เชิญทางด้านนี้เลยครับ”
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวขอตามหาเจ้าภาพก่อน” สุดนภาบอก
สุดนภาสอดส่ายสายตาแล้วเดินนำออกไป ตันหยงหันไปมองเห็นพัดชาที่จะเดินออกไป เลยวิ่งตามไป

ตันหยงเดินตามมาจนทันแล้วเรียกเอาไว้ “คุณพัดชา ใช่มั้ยคะ”
“คุณตันหยง...”
“แล้วพิรามล่ะคะ ชั้นเห็นรถเค้าจอดอยู่ข้างหน้า”
“อ๋อ คุณพิรามออกไปส่งลูกค้าที่โรงแรมค่ะ เพิ่งไปเมื่อครู่นี้เอง...”
“ว๊า เสียดายจัง ชั้นชักอิจฉาคุณพัดชาแล้วสิคะ คุณพัดชาได้มาด้วย หยงขอมาเจอ พิรามก็ไม่ให้หยงมา”
“อย่าอิจฉาเลขาอย่างชั้นเลยค่ะ” พัดชาบอก “ยังไงคุณตันหยงก็ต้องเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว คนอย่างคุณพิรามน่ะ รู้จักจัดลำดับความสำคัญเสมอค่ะ”
“แหม...คุณพัดชา อย่าคิดแบบนั้นสิคะ หยงพูดเล่น”
“ค่ะ ชั้นขอตัวก่อนนะคะ”
พัดชายิ้มมองตันหยงแล้วเดินไป
สุดนภาที่ยืนมองอยู่ด้านข้าง รีบเดินเข้ามาสะกิดตันหยง
“นั่นใครน่ะ” สุดนภาถาม
“คุณพัดชา เลขาของพิรามไง แต่พิรามออกไปส่งลูกค้าก่อนแล้ว”
สุดนภาพยักหน้ารับหงึกๆ
“แหม น่าเสียดาย งั้นโต๊ะอยู่ตรงโน้น ไปกันเร็ว”
“ชั้นขอไปโทรหาพิรามหน่อยนะ”

ตันหยงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพิราม แต่พิรามไม่รับสาย
“ฝากข้อความไว้ดีกว่า พิรามคะ หยงมาที่ผับ เจอคุณพัดชาด้วย แต่คลาดกับคุณ เสร็จธุระกับลูกค้า แล้วจะตามมาก็ได้นะคะ”

พิรามกำลังขับรถอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงเตือนข้อความเข้า พิรามกดฟังเสียงจากบลูทูสในรถ
“พิรามคะ หยงมาที่ผับ เจอคุณพัดชาด้วย แต่คลาดกับคุณ เสร็จธุระกับลูกค้าแล้วจะตามมาก็ได้นะคะ”
พิรามเครียดแล้วจอดรถทันที เขาทุบพวงมาลัยอย่างหงุดหงิด
“โธ่เว๊ย.....”

พิรามเครียด
รถของพิรามวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าคอนโด สักพักรถของพัดชาก็วิ่งตามเข้ามาจอด พิรามลงจากรถแล้วเดินไปที่รถของพัดชาทันที

“คุณมัวไปทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบออกมา”
“ชั้นก็ไปเข้าห้องน้ำไงคะ แล้วก็บังเอิญเหลือเกิน ชั้นเจอคุณตันหยงด้วย” พัดชาบอก
“คุณจงใจใช่มั้ย”
“เปล่าค่ะ บอกแล้วไงคะว่าเป็นเหตุบังเอิญ แล้วที่คุณหงุดหงิดใส่ชั้นนี่ เพราะกลัวหรือโกรธกันแน่คะ”
พิรามชะงัก “พัดชา”
“อย่าวิตกไปเลย คุณตันหยงไม่มีวันรู้เรื่องของเราแน่นอน ขึ้นไปข้างบนกันเถอะค่ะ”
พัดชาเดินมาควงแขนพิราม พิรามรีบแกะออก
“ไม่ ผมจะกลับ และผมขอให้คุณทำตามที่ตกลงกันไว้”
“คุณมาที่นี่เพื่อจะบอกแค่นี้เหรอคะ”
“ผมไม่อยากให้คุณผิดสัญญา”
“คุณพิราม...นี่คุณจะกลับไปหาคุณตันหยงใช่มั้ย”
“ใช่ ผมจะไปหาตันหยง”
พิรามเดินไปขึ้นรถ พัดชามองตามอย่างแค้นใจ


สุดนภากับตันหยงนั่งมองเพื่อนๆเต้นกันอย่างสนุกสนานในผับ โดยที่ทั้งคู่ก็คุยกันอย่างสนุกสนานไปด้วย ตันหยงชำเลืองมองโทรศัพท์ สุดนภาสังเกตเห็น
“ชำเลียงมองอยู่นั่นแหล่ะ เชื่อสิ เดี๋ยวเค้าก็ตามมา”
ทันใดนั้นพิรามก็เดินเข้ามาหยุดมอง ตันหยงคุยกับสุดนภาด้วยความร่าเริง พิรามยิ้มเศร้าๆ เพราะรู้สึกผิดมากก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา
ตันหยงดีใจมากเมื่อเห็นพิราม “พิราม”
“ผมเพิ่งเสร็จธุระก็รีบมาเลย คอยนานหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลยค่ะ”
สุดนภากระแอม “...ไม่นานเลย ตาจ้องมองโทรศัพท์ สลับกับการชะเง้อคอมอง”
ตันหยงผลักเพื่อนเบาๆ ด้วยความเขิน
พิรามพูดกับตันหยง “ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องรอ ถ้างั้นผมขอไถ่โทษด้วยการเป็นเจ้ามือเลี้ยงทุกคนเลยนะครับ”
สุดนภารีบเปลี่ยนสีทันที “ยกโทษให้เลยค่ะ อย่าเจ้าคิดเจ้าแค้นเลยนะหยง”
“บี๋ก็ อะไรเนี่ย พูดเองเออเองตลอดเลย” ตันหยงว่า
“ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ เย้..เย้ .....เอาชนแก้ว”
ทุกคนชนแก้วกัน ตันหยงยิ้มเบิกบาน พิรามมองดูท่าทางดีใจของตันหยงแล้วก็ยิ่งสลด พิรามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นสายที่ไม่ได้รับของพัดชา 20 กว่าสาย เขาถอนหายใจแล้วกดปิดเครื่องทันที ตันหยงแอบเห็น
“ไม่รับโทรศัพท์หรือคะ งานหรือเปล่า” ตันหยงถาม
“อ๋อ..เพื่อนน่ะครับ ชวนไปกินเหล้า”
“ขอบคุณนะคะ ที่กลับมาหาหยง”
ตันหยงยิ้มเขิน พิรามมองตันหยงอย่างรักใคร่ปนสำนึกผิด


พัดชายังคงโทรศัพท์หาพิรามแต่ก็ได้ยินแต่ “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” พัดชาขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปด้วยความหงุดหงิด เธอหันไปหยิบเหล้ามาดื่ม
“นี่คุณปิดโทรศัพท์หนีชั้นหรือ อยู่กับตันหยงใช่มั้ย...”
พัดชาทั้งหึงทั้งเสียใจ สักพักเธอก็ลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์มาโทรหาพิรามอีกแต่ก็ยังไม่ติด
“คุณทำแบบนี้กับชั้นได้ยังไง...”
พัดชาผิดหวังสะเทือนใจ เธอร้องไห้อย่างเจ็บแค้นพลางนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต


เหตุการณ์ในอดีต พิรามเดินเคียงกับตันหยงมาที่โต๊ะทำงานของพัดชา
“คุณพัดชา วันนี้ผมไม่กลับเข้าออฟฟิศนะ เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณตันหยงที่สนามบิน” พิรามบอก
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เสียงานเปล่าๆ หยงไปเองได้”
“ได้ยังไง ผมอยากอยู่ใกล้คุณจนนาทีสุดท้าย” พิรามพูดกับพัดชา “ช่วยยกเลิกนัดตอนบ่ายให้ผมด้วยนะ”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ คุณตันหยง” พัดชาอวยพร
“คุณพิรามชมคุณเสมอเลย คุณเป็นเลขาที่ยอดเยี่ยมมาก แบ่งเบาพิรามได้ทุกเรื่องเลย” ตันหยงบอก
พัดชาแอบปลื้ม “ดิชั้นดีใจค่ะที่ได้ช่วยคุณพิราม”
พิรามพูดกับตันหยง “...ไปกันเถอะ ผมจองโต๊ะร้านโปรดของเราไว้แล้วนะ ไม่อยากไปสายน่ะ ผมไปก่อนนะคุณพัด ฝากด้วย”
“ค่ะ ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง พัดจะดูแลให้เป็นอย่างดีค่ะ”
“ไปนะคะคุณพัดชา บ๊ายบาย”

ตันหยงกับพิรามเดินเคียงคู่กันออกไป พัดชามองตามด้วยความอิจฉา
ไม่นานนัก พิรามนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ พัดชาเดินเอาแฟ้มมาเสนอให้พิรามเซ็น พัดชายืนมองพิรามอย่างปลื้มๆ

พิรามออกไปติดต่องานกับลูกค้า พัดชายืนคอยบันทึกคำสั่งของพิรามอย่างใกล้ชิด
พิรามกับพัดชานั่งคุยกับลูกค้าจนเสร็จ ทั้งคู่ลุกขึ้นล่ำลาลูกค้า พัดชาเซ พิรามจึงเข้ามาประคองไว้
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าซีดเชียว” พิรามถาม
“รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยค่ะ” พัดชาบอก
“งั้นผมไปส่งที่บ้านดีกว่า”
พิรามเปิดประตูรถให้พัดชาขึ้นไปนั่ง พัดชาแอบยิ้มปลื้ม


พัดชาเดินเข้ามาในห้องที่คอนโดของเธอ โดยมีพิรามเดินตามมา พัดชาแกล้งเป็นลม พิรามจึงอุ้มพัดชาไปนอนบนเตียง
“ไปหาหมอมั้ย..” พิรามถาม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ นอนพักเดี๋ยวก็หาย”
“ยาอยู่ไหน เดี๋ยวผมหยิบให้”
พิรามเดินไปหยิบยาบนโต๊ะพร้อมน้ำมาส่งให้พัดชากินจนเรียบร้อย พัดชาจับมือพิรามไว้
“ขอบคุณมากนะคะคุณพิราม คุณดีกับพัดจริงๆ”
“นอนพักนะครับ ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า”
พัดชาคว้ามือพิรามไว้แน่น
“อย่าเพิ่งกลับนะคะ อยู่เป็นเพื่อนพัดก่อน พัดไม่อยากอยู่คนเดียว”
พัดชากำมือพิรามแน่นแล้วแกล้งทำเป็นหลับ พิรามทั้งเป็นห่วงทั้งสงสารจึงไม่กล้าดึงมือออก พิรามมองพัดชาจนเคลิ้มหลับ

เวลาผ่านไป พัดชาใส่ชุดนอนวาบหวิวออกมาแล้วจัดให้พิรามนอนดีๆ พิรามจะขยับลุก พัดชากดตัวเขาไว้ พิรามชะงักมองหน้าพัดชา ทั้งคู่จ้องหน้ากัน
“ดึกแล้ว นอนพักที่นี่เถอะนะคะ” พัดชายื่นหน้าเข้าไปใกล้
“มันไม่เหมาะนะพัดชา ผมกลับดีกว่า”
“คุณรังเกียจพัดเหรอคะ” พัดชาถาม
“ไม่ใช่นะพัดชา คุณเป็นคนน่ารัก แต่ผมมีคู่หมั้นแล้ว”
ทั้งคู่จ้องหน้ากัน
“พัดไม่เชื่อ ว่าคุณไม่รังเกียจพัด” พัดชาแกล้งทำเป็นเสียใจ
แล้วพัดชาก็กอดคอและจูบพิราม พิรามจะแกะออกแต่แล้วสุดท้ายก็เคลิ้มตาม
“พิรามคะ ไม่ต้องพยายามเป็นคนดีหรอกค่ะ” พัดชาจ้องหน้าพิราม พิรามมองตอบ พิรามเริ่มหวั่นไหว “พัดไม่ใช่คนถือสาเรื่องแบบนี้” พัดชามองพิรามอีกจนคิดว่าพิรามไม่ปฏิเสธ แล้วทั้งคู่จึงจูบกัน
เวลาผ่านไป พัดชานอนอยู่ในอ้อมกอดของพิราม พัดชามองพิรามอย่างปลื้มเปรม
“ในที่สุด คุณก็เป็นของพัด”
พิรามรู้สึกตัวตื่นมองหน้าพัดชาแล้วก็รีบลุกขึ้นทันที
“พัดชา ผมขอโทษ” พิรามพูด
“ขอโทษทำไมคะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย” พัดชาบอก
“แต่ถ้าหยงรู้เข้า ผมไม่อยากให้หยงเข้าใจผิด”
พัดชาเข้ามากอดอ้อน
“คุณตันหยงจะรู้ได้ยังไงคะ ถ้าเราไม่บอก”
พิรามสับสน พัดชาจึงรุกหนัก

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/3 วันที่ 3 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager