@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 2/5 วันที่ 7 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 2/5 วันที่ 7 ก.พ. 56

“พอดีผมติดธุระ เลยมาช้าไปหน่อย” พิรามบอก
“งั้นหรือ ธุระอะไร”
เสียงโทรศัพท์ของพิรามดังขึ้น พิรามหยิบขึ้นมาดูเห็นเป็นชื่อพัดชาก็ถอนหายใจเบื่อหน่ายแล้วกดปิด สุดนภามองแล้วยิ้มเยาะ
“ชั้นว่า วันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่า ถ้าพร้อมจะดูแลตันหยงเมื่อไหร่คุณค่อยกลับมา”
พิรามอึ้ง เขามองหน้าสุดนภากับบุหงาอย่างสำนึกผิด

“แม่คะ เดี๋ยวบี๋ไปส่งคุณพิรามก่อนนะคะ”
สุดนภามองหน้าพิรามเป็นเชิงบังคับให้พิรามตามไป พิรามยกมือไหว้บุหงาแล้วเดินคอตกออกไป บุหงารับไหว้พิรามอย่างงงๆ
“มันอะไรกันนี่”



สุดนภาเดินออกมาจากห้อง พิรามเดินตามมา สุดนภาหันไปเล่นงานทันที
“คุณไม่รู้จริงๆหรือว่า ที่หยงเป็นแบบนี้เพราะอะไร”
พิรามอ้ำอึ้ง “...ผม...”
“เมื่อคืนนี้หยงโทรหาชั้น”
สุดนภานึกถึงตอนที่ตันหยงโทรหาเธอแล้วร้องไห้
“...ชั้นเลิกกับพิรามแล้ว...” เสียงตันหยงดังก้อง
สุดนภาโมโห
“เค้าไปหาคุณที่คอนโด จากนั้นก็เกิดเรื่องนี้ คุณพอจะบอกชั้นได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น”
พิรามอ้ำอึ้ง “ผม..”
“บอกมาสิ..ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ประตูลิฟต์เปิดออก พัดชาวิ่งออกมาจากลิฟต์พอเห็นพิราม พัดชารีบวิ่งมาเกาะแขน
“คุณพิราม”
“คุณมาทำไม ผมบอกแล้วไงว่าอย่ายุ่ง” พิรามว่า
“พัดจะไม่ยุ่งได้ยังไง ก็พัดเป็นเมียคุณนี่นา”
พัดชาชะงักเมื่อเห็นสุดนภายืนมองอยู่
“ไม่อยากเชื่อเลย ว่าคุณจะเลือกแม่นี่ เลวจริงๆ” สุดนภาว่า
“คุณบี๋ มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
“พอเถอะ ชั้นไม่สนใจหรอก แต่ถ้าคุณยังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่ละก็ อย่ามาให้ครอบครัวหยงเห็นหน้าอีก” สุดนภาพูดกับพัดชา “ผู้หญิงไร้ศักดิศรี ไม่มียางอาย เป็นได้ก็แค่ทางผ่าน”
สุดนภาเดินไป พัดชาอึ้งแล้วจะตามไปเอาเรื่องสุดนภา
“นี่แกว่าใคร”
พิรามตวาด “เห็นมั้ย...เรื่องมันบานปลายไปใหญ่แล้ว”

พิรามเดินเข้าลิฟต์ พัดชารีบตามไป
ปฐวีกับนาวินเดินเข้ามาในห้องของเมริน นาวินถือหุ่นยนต์ตัวใหญ่มาเป็นของเยี่ยมไข้

“เป็นไงบ้างเด็กน้อย ดีขึ้นหรือยัง” นาวินถาม
ตันหยงมองหุ่นยนต์อย่างงงๆ ปฐวีมองหุ่นยนต์แล้วส่ายหน้า
“ทีหลังไม่ต้องเอาของมาเยี่ยมก็ได้ จะได้ไม่ลำบาก” ปฐวีบอก
“ไม่เป็นไรค่ะ เมย์ชอบ ยังไงก็ดีกว่าตุ๊กตาขนฟู” ตันหยงบอก
“เห็นมั้ย...หลานชอบ บอกแล้วไง ชั้นเป็นผู้บริหารโรงเรียนอนุบาล ต้องเข้าใจเด็กอยู่แล้ว”
ตันหยงแอบทำหน้าเบื่อหน่าย
“ชั้นต้องขอโทษนายด้วยนะเว้ยวี..ที่ดึงตัวนายไว้เมื่อคืน” นาวินบอก
“ช่างเหอะ ไม่เกี่ยวกันหรอก เออ นายจำผู้หญิงเมื่อคืนที่เราเจอที่โรงแรมได้มั้ย” ปฐซีถาม
นาวินนึก “อ๋อจำได้สิ สวยๆ แต่มารยาทไม่ดีใช่มั้ย ทำไมจะจำไม่ได้”
“ใช่ ชั้นเจอเธอไปดื่มเหล้าที่คลับด้วยนะ เล่นว้อดก้าไปตั้งหลายช๊อต”
ตันหยงสะดุ้ง เงี่ยหูฟัง
“เฮ้ย อย่าบอกนะ ว่านายแอบตามหล่อนไป”
“ไอ้บ้า มีคนพยายามจะลวนลามเธอต่างหาก ชั้นพยายามจะช่วยแต่หล่อนก็ขับรถหายไปก่อน เป็นไงบ้างก็ไม่รู้เมาเละเทะขนาดนั้น”
“แล้วทำไมนายไม่ขับรถตามไปล่ะ” นาวินถาม
“พอดีเกิดเรื่องน้องเมย์ซะก่อนน่ะสิ”
ตันหยงนึกถึงตอนที่เธอขับรถเกือบชนปฐวีและนาวิน
นึกถึงตอนที่เธอเมา แล้วปฐวีเข้าไปช่วยประคองที่หน้ารถ
ตันหยงตื่นเต้น “คุณสองคนนั้นเอง” ตันหยงชี้ตัวเอง “ชั้นคือผู้หญิงคนนั้นไงล่ะ”
นาวินกับปฐวีมองหน้ากัน แล้วหันไปมองหน้าเมริน
“น้องเมย์ เหลวไหลใหญ่แล้ว เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆไม่ควรแอบฟัง” ปฐวีว่า
“ไม่ใช่นะ ชั้นคือผู้หญิงคนนั้นจริงๆ”
ตันหยงชี้หน้าตัวเอง ปฐวีส่ายหน้า
“ไม่น่ารักเลยรู้มั้ย”
ปฐวีทำท่าดุใส่ตันหยง ตันหยงทำหน้าเซ็ง
นาวินกระซิบปฐวี “อย่าไปดุแกเลย แกคงอยากเรียกร้องความสนใจน่ะ” นาวินพูดกับเมริน “น้องเมย์ น้าขอตัวน้าวีแป๊บนึงนะคะ..”
ปฐวีกับนาวินเดินออกไปจากห้อง
ตันหยงบ่น “โธ่เอ๊ย...ชั้นอยากจะบ้าตาย ทำไมไม่มีใครเชื่อชั้นบ้างเลย”
ตันหยงทุบเตียงแล้วหงายตัวลงนอนอย่างขัดใจ

นาวินกับปฐวีเดินออกมาจากห้อง
“น้องเมย์นี่ประหลาดจัง ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาพูดจาแปลกๆ ชั้นชักวิตกแล้วสิ” ปฐวีบอก
“ชั้นก็ไม่เห็นหลานแกเป็นอะไรนี่หว่า ดูปกติดี พูดจาแก่แดดแก่ลมไปหน่อย แต่เด็กสมัยนี้ก็แบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
ปฐวียังคงวิตก เสียงโทรศัพท์ดัง ปฐวีกดรับ
“ครับ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ปฐวีพูดกับนาวิน “โทษที มีเคสด่วน”
“เออ ไปเหอะ...ไว้เจอกัน”
ปฐวีเดินไป นาวินเดินไปอีกทาง
สุดนภาเดินเข้ามา พอเห็นนาวิน สุดนภาก็สะดุ้งเฮือกรีบเลี้ยวขวับลงนั่งแล้วคว้าหนังสือขึ้นมาปิดหน้า นาวินเห็นพอดีจึงทำท่าเจ้าเล่ห์แล้วเดินมามองสุดนภา สุดนภากำลังอ่านหนังสือกลับหัว นาวินดึงหนังสือลง สุดนภายิ้มเซ็งๆ
“โลกแคบ” สุดนภาว่า
“นี่คุณ มาเพ่นพ่านแถวนี้น่ะ ส่งใบลาหรือยัง” นาวินถาม
“ชั้นโทรไปลาแล้วนะคะ”
“ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ”
“รีบกลับไปไปรับเรื่องสิคะ”
“บอกไว้ก่อนนะ ถึงครอบครัวคุณจะมีหุ้นในโรงเรียนก็เหอะ คุณควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างกับเพื่อนร่วมงานบ้าง”
“เชอะ แล้วคุณล่ะคะ ท่านผู้อำนวยการ เดินกรายไปกรายมา ถึงเวลากลับก่อน อย่างนี้เป็นตัวอย่างหรือเปล่าเนี่ย”
“แต่ผมเป็นผู้บริหาร จะเข้าออกตอนไหนก็ย่อมได้”
สุดนภาถอนหายใจ “โอเคชั้นยอมแพ้ ขอตัวก่อน ชั้นจะไปดูเพื่อน เพื่อนชั้นรถคว่ำเมื่อคืนนี้”
“คิดว่ามุกขอตัวแบบนี้ผมจะหลงเชื่อหรือ”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ อยากจะตามมาดูก็เชิญ” สุดนภาแอบบ่น “ประสาท จะวุ่นวายไปไหนเนี่ย”
สุดนภาเดินไป นาวินมองตามแล้วยิ้มแบบคิดว่าตัวเองหล่อ
“คิดว่าไม่กล้าหรือ ผู้หญิงท้า แสดงว่าผู้หญิงมีใจ”

นาวินเดินตามเข้าไป
สุดนภาเปิดประตูเข้ามาในห้องตันหยง โดยมีนาวินเดินตามเข้ามาติดๆ สุดนภาทำหน้าเหม็นเบื่อ

“ไม่อยากจะเชื่อ คนแบบนี้ก็มีด้วย”
“บ่นอะไร คุณเชิญผมมาเองไม่ใช่หรือ” นาวินว่า
นาวินเดินเข้าไปก็เห็นตันหยงนอนอยู่บนเตียง นาวินชะงักแล้วนึกย้อนไป
ภาพเหตุการณ์ตอนที่ตันหยงขับรถเข้ามาเกือบชน นาวินกับปฐวี แล้ววิ่งน้ำตานองหน้าผ่านไปย้อนกลับมา
“นี่มัน...”
“นี่เพื่อนชั้นเอง ทีนี้คุณเชื่อหรือยัง” สุดนภาถาม
“เมื่อวานนี้เพื่อนคุณเกือบจะขับรถชนผมที่โรงแรม” นาวินบอก
สุดนภามองหน้านาวินอย่างตกตะลึง
“อะไรนะ นี่คุณเจอหยงหรือ อ้าว แล้วทำไมไม่จับตัวไว้ก่อน”
“อ้าว...ผมจะไปรู้มั้ยล่ะ ขืนไปจับตัวเค้า มิข่วนผมหรอกหรือ”
“บ้า คุณว่าเพื่อนชั้นเป็นแมวหรือ”
“เพื่อนคุณก็คงเหมือนคุณนั่นแหละ เจอกันทีไรคุณข่วนผมตลอดเลย”
“คนใจดำ ใจร้าย เพราะคุณ เพราะคุณ ถ้าคุณดึงตัวหยงไว้ คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก” สุดนภาเบะจะร้องไห้
“โอโห .คุณนี่มันสุดยอดเลย หาเรื่องคนอื่นได้ตลอด....”
นาวินกับสุดนภามองหน้ากันแล้วเชิดใส่กัน

นาวินวิ่งผ่านหน้าโต๊ะจริณทิพย์จะบุกเข้าไปในห้องปฐวี จริณทิพย์รีบมาขวางไว้
“คุณวีไม่อยู่ค่ะ มีผ่าตัด”
“อะไรกัน ไม่อยู่หรือ มีเรื่องสำคัญซะด้วย”
“ฝากดิชั้นไว้ก็ได้ค่ะ เรื่องอะไรคะ”
จริณทิพย์คว้าสมุดขึ้นมาทำท่าจด
“ไม่ได้ เรื่องสำคัญมาก เป็นความลับด้วย”
จริณทิพย์จดแล้วนึกได้
“มีเรื่องอะไรสำคัญขนาดเลขาคนสนิทอย่างจริณทิพย์ไม่สามารถรับทราบได้ค่ะเนี่ย”
“เรื่องแบบส่วนตั๊ว...ส่วนตัวมากเลยครับ ผมไปก่อนดีกว่า แล้วผมจะโทรหาเจ้าวีเอง”
นาวินเดินไป จริณทิพย์มองตามแล้วสะอื้น
“ใช่สิ จะเรื่องอะไร้ ส่วนตั๊ว ส่วนตัวแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องอย่างงั้น เฮ้อ..ทำไมผู้ชายแท้ๆมันหายากหาเย็นแบบนี้”

ตันหยงกำลังนั่งกินโจ๊กที่ประภัสสรเตรียมมาให้ ตันหยงกินไปสองคำก็วางช้อน
“ไม่อร่อยหรือลูก โจ๊กของโปรดของหนูนี่นา”
“ไม่ชอบทานโจ๊กค่ะ มันเละๆแหยะๆยังไงก็ไม่รู้”
ประภัสสรกับสายแก้วมองหน้ากันอย่างแปลกใจ เมธีขยับเข้าไปหาลูก
“น้องเมย์คะ พ่อต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด สองสามวันนะลูก หนูอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“ค่ะ อยากได้ลิปมัน แล้วก็โฟมล้างหน้า แปรง....”
เมธีมองหน้าเมรินแบบงงๆ
“จะเอาไปทำไมคะ ลิปสติก โฟมล้างหน้า” ประภัสสรถาม
ตันหยงชะงัก “อ๋อ..เมย์พูดเล่นน่ะคะ”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างโล่งใจ เมรินแอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ประภัสสรลุกขึ้นแล้วเซ เมธีเข้ามาประคองไว้
“ภัส เป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดเชียว”
ประภัสสรเบี่ยงตัวหลบ “ภัสไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณรีบไปทำงานเถอะ ไม่ต้องห่วงยายเมย์หรอก ภัสดูแลได้”
“เดี๋ยวสายแก้วดูเองค่ะ คุณผู้หญิงไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่า” สายแก้วบอก
“ไม่ต้องเลย” ตันหยงชี้สายแก้ว “คุณแม่กลับไปพักเถอะนะคะ เมย์อยู่คนเดียวได้”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างงงๆ ปฐวีที่ยืนอยู่รับอาสา
“นั่นน่ะสิ กลับบ้านกันเถอะครับ วันนี้ผมขออาสาเฝ้าน้องเมย์เอง”
“ให้พี่อยู่ดีกว่า” ประภัสสรบอก
“ไม่ต้องหรอกครับพี่สร ผมอยู่เอง พรุ่งนี้มีผ่าตัดเช้าด้วย”
ประภัสสรละล้าละลัง
“เมย์อยู่กับน้าวีก็ได้ คุณพ่อไปส่งคุณแม่นะคะ บ๊ายบาย”
ตันหยงโบกมือบ๊ายบายทันที ทุกคนมองเมรินด้วยความแปลกใจ

ประภัสสร เมธี ปฐวี และสายแก้วเดินออกมาจากห้อง ประภัสสรยังห่วงเมริน
“วี พี่รู้สึกว่าน้องเมย์ดูแปลกๆ ไปนะ แปลกยังไงพี่ก็บอกไม่ถูก ดูกล้าขึ้น พูดจาฉาดฉานขึ้น”
“พี่สรอย่าวิตกไปเลยครับ ผมเพิ่งคุยกับเพื่อน เค้าบอกว่าเป็นธรรมดาของเด็กสมัยนี้”
“ใช่ แต่ผมก็ชอบนะ ลูกดูมั่นใจมากขึ้น” เมธีบอก
“แต่พี่ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี”
“วางใจเถอะครับพี่สร ไม่มีอะไรแน่นอน”
“ฝากหลานด้วยนะวี”
“ครับ พี่เมธีอย่าลืมส่งพี่ภัสด้วยนะครับ”
ปฐวีทำท่ากระเซ้า เมธียิ้มเก้อแล้วพูด
“รับรอง พี่ส่งถึงบ้านแน่”
ทุกคนเดินไป ปฐวีมองตามแล้วถอนหายใจ

“หวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้นนะ”
ปฐวีเปิดประตูเข้ามา ตันหยงเห็นก็รีบคลุมโปง ปฐวีมาถึงไม่ฟังเสียง ช้อนอุ้มตันหยงขึ้นมาทั้งผ้าห่ม ตันหยงร้องกรี๊ด

“จะบ้าหรือ ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ”
ปฐวีชะงักมองตันหยง
“จะบ้าหรือ อุ้มเค้าได้ไง ปล่อยนะ”
“อ๋อ...ว่าน้าวีหรือ อย่างนี้ต้องโดน”
ปฐวีวางตันหยงลงแล้วจี้เอว ตันหยงดิ้นจนขำออกมา
“คนบ้า คนโรคจิต”
“ยังไม่หยุดอีกเหรอ ต้องโดนอีก”
ปฐวีกอดตันหยงไว้แน่นแล้วพยายามจะเอาหนวดถูแก้มตันหยง ตันหยงพยายามดิ้น หนึ่งฤทัยเข้ามาในห้องแล้วเห็นปฐวีกอดเมรินอยู่
“ไงคะ...น้องเมย์ เล่นอะไรกันอยู่”
ตันหยงดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดของปฐวีแบบโกรธๆ
“เปล่าค่ะ...เอ่อ...”
“จำหมอหนึ่งไม่ได้หรือ เจ้าของขนมที่น้องเมย์ทานวันก่อนไงล่ะ”
ตันหยงงง แล้วก็เดามั่ว “อ๋อแฟนน้าวีใช่ม๊า”
ปฐวีเขิน “เจ้าเด็กแก่แดด หมอหนึ่งเป็นเพื่อนของน้าวีต่างหาก”
หนึ่งฤทัยหน้าเสียไปนิดนึง
“หวัดดีค่ะ หมอหนึ่งก่อนสิ” ปฐวีบอก
ตันหยงทำปากยื่นยกมือไหว้หนึ่งฤทัยแล้วล้มตัวลงนอนคลุมโปง
“เด็กดื้อ...ชักจะแก่แดดแก่ลมแล้วนะเรา”
ตันหยงบ่นอยู่ใต้ผ้าห่ม “ชั้นไม่ใช่เด็กดื้อนะ”
ปฐวีมองหน้าหนึ่งฤทัยแล้วยิ้มเขิน

ลุงสาย ป้าแก้ว กับเด็กรับใช้ในบ้านกำลังทำความสะอาดครัว บุญศรีกำลังเตรียมนมก่อนนอนให้เจ้านาย สายแก้วเดินเข้ามาในครัว ลุงสายกับป้าแก้วรีบเข้าไปล้อม
“คุณหนูเป็นยังไงบ้าง” ลุงสายถาม
“ทานอะไรได้หรือยัง โธ่ถังเอ๊ย.. เจ็บขนาดนั้นสงสัยกลับมาคราวนี้คงผอมเหลือแต่กระดูก ขนาดไม่เจ็บไม่ป่วย ยังไม่ค่อยจะทานอะไรเล๊ย...” ป้าแก้วเป็นห่วง

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 2/5 วันที่ 7 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager