@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 1 วันที่ 6 ก.พ. 56

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 1 วันที่ 6 ก.พ. 56

รถยนต์สุดหรูแล่นเข้ามาจอดที่ด้านหน้า บริษัท เอส เค กรุ๊ป จำกัด รปภ. รีบเข้าเปิดประตูรถให้ และทำความเคารพอย่างขันแข็ง กร้าว ศุภกาญจน์ นักธุรกิจหนุ่มรูปงาม ผู้บริหารของบริษัทนี้ ก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปในอาคาร

“สวัสดีครับท่านประธาน” พนักงานทุกคนต่างทักทายอย่างนอบน้อม
กร้าวยิ้มตอบบางๆ เลขาเข้ามาทักทาย

“สวัสดีค่ะ”
“เอกสารเรียบร้อยรึยัง”
“เรียบร้อยค่ะ”
กร้าวพยักหน้าอย่างพอใจ

กร้าวคุยงานกับลูกค้าชายชาวต่างชาติ แนะนำโครงการใหม่ของบริษัทเพื่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติร่วมลงทุน เลขาของกร้าวเป็นผู้ช่วยคอยจัดเตรียมสไลด์และเอกสารข้อมูลต่างๆ ให้ไม่นานนัก กร้าวและลูกค้าได้เซ็นต์สัญญาร่วมกัน เพราะการเตรียมงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย



กร้าวและเลขาส่งลูกค้าชาวต่างชาติออกจากบริษัทไป ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น เขาดูเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วรับสายทันที เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของนักสืบที่จ้างไว้ ได้นัดให้ไปพบที่ริมถนนแถวชานเมือง
เมื่อไปถึง นักสืบหยิบซองเอกสารส่งให้
“รูปถ่ายพร้อมข้อมูลสมาชิกครอบครัววิชเวทย์ครับ”
กร้าวเปิดซองเอกสารดู มีรูปถ่ายเดี่ยวๆของอสิต วิชเวทย์ พร้อมกับ ลลิตา ภรรยาของเขา และอรชา น้องสาวคนกลาง
“แต่ยังขาดน้องสาวคนเล็กที่ชื่ออนุช วิชเวทย์ กำลังเรียนอยู่ที่ลอนดอน” นักสืบอธิบาย
กร้าวยื่นซองใส่เงินให้ นักสืบรับเงินแล้วออกไป กร้าวดูรูปแล้วนึกเรื่องราวในอดีต ช่วงเวลานั้น เขาเห็นประสิทธิ์ พ่อของอสิต อรชา และอนุช ใช้กำลังข่มเหงแม่ของเขา กร้าวเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีตอันโหดร้ายนั้น
“อนุช วิชเวทย์…กลับมาเมื่อไร ฉันจะลากเธอมารับกรรมที่พ่อของเธอก่อไว้ ร่วมกับพี่ๆ ของเธอ!”
กร้าวบอกอย่างมุ่งมั่น ที่จะแก้แค้นลูกๆของประสิทธิ์แทนประสิทธิ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว

วันใหม่...ในสนามบิน อนุชเข็นรถเข็นกระเป๋าออกมาจากส่วนผู้โดยสารขาเข้า เธอกลับมาเมืองไทย พร้อมกับกรวิก พัชรกุล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท
กรวิกมองไปที่กลุ่มคนที่รอรับ เห็นกาญจนา แม่ของเธอยืนรออยู่ก็ดีใจมาก รีบวิ่งไปหา ขณะที่คนร้ายซึ่งถูกใครบางคนจ้างมา ยืนมองอนุช แล้วเปรียบเทียบกับรูปถ่ายในสมาร์ทโฟน เมื่อเห็นว่าเป็นคนเดียวกัน จึงยกป้ายกระดาษเขียนชื่ออนุช วิชเวทย์ชูขึ้น แล้วเดินเข้ามาหา
“คุณอนุช วิชเวทย์รึเปล่าครับ”
อนุชแปลกใจ
“ใช่ค่ะ…”
“คุณสิตกับคุณอรไม่ว่าง ให้ผมมารับคุณนุชแทนครับ”
“พี่สิตกับพี่อรไม่เห็นบอกไว้นี่คะ” อนุชแปลกใจ
“รีบไปกันเถอะครับ คุณสิตกับคุณอรรออยู่”
คนร้ายเข้าไปช่วยเข็นรถเข็นสัมภาระให้
“รอเดี๋ยวค่ะ”
อนุชขัดขึ้นแล้วเดินไปหากรวิกและกาญจนา
“แม่คะ นี่นุช เพื่อนนกไงคะ ที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ” กรวิกแนะนำ
อนุชยกมือไหว้กาญจนาอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ”
กาญจนารับไหว้ กรวิกหันมาหาอนุช
“จะรีบไปไหนล่ะ รอเจออากร้าวด้วยกันก่อน อากร้าวกำลังมา”
กาญจนาปรามลูกสาว
“อย่าเอาแต่ใจสิลูก เพื่อนมาเหนื่อยๆ ให้เขากลับไปพักผ่อน ไปเจอครอบครัวเขาดีกว่า วันหลังค่อยนัดเจอกันก็ได้”
“ก็ได้ค่ะ...เสียดาย ถ้านุชเจออากร้าว นุชจะต้องตะลึงในความหล่อ”
กาญจนาล้อๆ
“แม่คนนี้หายใจเข้าออกเป็นอากร้าว”
กรวิกเขิน อนุชขำเพื่อน หันไปหากาญจนา
“นุชขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
อนุชไหว้กาญจนาและหันไปกอดกรวิก
“เอาไว้นัดกันนะ”
อนุชเดินตามคนร้ายออกไป

คนร้ายเข็นรถเดินนำไปที่ทางออก อนุชเดินตามไป ไม่ได้สงสัยอะไร แล้วเสียงข้อความจากไอโฟนดังขึ้น อนุชเปิดดูข้อความ เป็นข้อความจากอรชาส่งมาว่า....
“พี่กำลังจะไปรับ ขอโทษที่ช้า”
อนุชเห็นข้อความแล้วแปลกใจ มองคนมารับอย่างระแวง คนร้ายเดินนำมาถึงรถที่จอดรออยู่ มีชายอีกคนเป็นคนขับรถรออยู่
“ออฟฟิศใหม่เป็นไงบ้างคะ สวยมั้ย” อนุชแกล้งถาม
คนร้ายที่มารับชะงักเพราะไม่รู้เรื่อง
“เอ่อ…ก็…ก็ดีครับ”
อนุชรู้ว่าเขาโกหกเพราะไม่มีออฟฟิศใหม่
“นุชขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
อนุชหันหลัง คิดหาทางหนี คนร้ายรู้ทันจับตัวและปิดปากเธอจากด้านหลัง อนุชตกใจ ดิ้นรน แต่ร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ คนร้ายผลักอนุชขึ้นรถและตามไปนั่งประกบ คนขับรถ รีบออกรถไป เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ และรวดเร็วจนไม่มีใครในบริเวณนั้นสังเกตเห็น
“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร” อนุชตกใจมาก
คนร้ายชักปืนออกมาขู่
“อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากตาย อยากรู้อะไรไว้ถามพี่ชายแกเองละกัน”
อนุชกลัว คิดหาทางหนี ใช้สายกระเป๋าล็อกคอคนขับรถจากด้านหลัง คนขับหายใจไม่ออก รถส่ายไปมา
“เฮ้ย หยุดนะ!”
คนร้ายพยายามดึงอนุชให้ปล่อยมือจากคนขับ แต่เธอไม่ปล่อย

กร้าวขับรถพลางคุยโทรศัพท์กับกรวิก
“อาใกล้จะถึงแล้ว คิดถึงสิ คิดถึงมากเลย”
รถของคนร้ายที่ขับสวนทางมาส่ายไปมาและพุ่งข้ามเลน เกือบชนรถของเขา กร้าวตกใจ รีบหักหลบและเบรกทัน รถของคนร้ายเบรกไม่อยู่ ชนต้นไม้ข้างทาง นิ่งไป กร้าวลงจากรถ ขณะที่อนุชรีบลงจากรถ วิ่งมาหา
“นี่คุณ ขับรถยังไงเนี่ย” กร้าวโวย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย” อนุชหน้าตาตื่นกลัว
คนร้ายลงจากรถในอาการเจ็บ
“พวกมันมาแล้ว หนีเร็ว!”
อนุชดึงกร้าววิ่งหนี กร้าวงงแต่ก็วิ่งตามเธอไป คนร้ายเห็นอนุชหนีก็เจ็บใจ แต่ต้องช่วยดึงเพื่อนออกมาจากรถก่อน

อนุชดึงกร้าววิ่งหนีมาระยะหนึ่ง
“เดี๋ยว ทำไมคุณต้องหนีผู้ชายสองคนนั้นด้วย พวกนั้นเป็นใครกันแน่” กร้าวหยุดวิ่ง
“ฉันก็ไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ยังไง” กร้าวสงสัย “คุณมีอะไรปกปิดผมรึเปล่า หรือว่าคุณทำอะไรผิดมา”
อนุชไม่พอใจ
“นี่คุณ อย่ามาปรักปรำฉันนะ ถ้าไม่อยากช่วยก็ไม่ต้อง ฉันไปเองก็ได้”
อนุชจะวิ่งหนีไป กร้าวรีบดึงไว้
“อย่าเพิ่งไป”
“เอ๊ะ นี่คุณ ปล่อยฉัน”
“ไม่”
กร้าวเป็นห่วง แต่อนุชเริ่มระแวงและไม่ไว้ใจเขา เธอกระทืบเท้าเขาอย่างแรงและผลักเซไป
“โอ๊ย!”
อนุชจะวิ่งหนี แต่กร้าวคว้าตัวไว้ ดึงมากอดไว้เลย
“จะไปไหน มันอันตราย”
อนุชยิ่งตกใจ คิดว่ากร้าวจะทำร้าย พยายามสะบัด
“คุณนั่นแหละตัวอันตราย ฉันไม่น่าหนีเสือปะจระเข้เลย ปล่อยฉัน!”
อนุชดิ้นรนและทุบตีไม่ยั้ง กร้าวจับมืออนุชไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันไปติดต้นไม้ด้านหลัง ตั้งใจจะทำให้เธอหยุดจนทั้งสองจมูกชนกัน ใบหน้าอยู่ใกล้ชิดกันมาก ทั้งสองต่างตะลึง ขณะเดียวกันนั้นคนร้ายทั้งสองวิ่งตามมา
“มันอยู่นั่น”
กร้าวและอนุชหนีไม่ทัน คนร้ายชักปืนออกมาจะยิง กร้าวพุ่งเข้าไปแย่งปืน ยื้อแย่งกัน เขาถีบคนร้ายล้มลง ปืนหลุดมือ กระเด็นไป กร้าวตามไปชก คนขับรถเข้ามาช่วย กร้าวสู้ไป ร้องบอกอนุชไป
“หนีไป! เร็ว!”
อนุชวิ่งหนีไป คนร้ายหันไปคว้าปืนมาจะยิง เปรี้ยง! กร้าวถูกยิงที่แขนซ้ายทรุดลงไม่ห่างคนขับรถที่โดนชกจนน่วมฟุบอยู่กับพื้น คนร้ายถีบกร้าวหงายล้มลงและจะยิงซ้ำ กร้าวคิดว่าไม่รอดแน่ ทันใดนั้นอนุชมาด้านหลัง ใช้ไม้ฟาดคนร้ายล้มลง
“คุณเป็นไรรึเปล่า”
อนุชประคองกร้าววิ่งหนีกลับไปทางรถ แล้วรีบขึ้นรถ กร้าวขับรถหนีไปทันที คนร้ายที่วิ่งตามมาจะยิง แต่คนขับรถห้ามไว้
“ไม่ต้อง”
คนร้ายเจ็บใจที่กร้าวและอนุชหนีไปได้

กร้าวขับรถหนีมา เจ็บแผลที่แขน อนุชโล่งใจ
“พวกนั้นไม่ตามมาแล้ว”
กร้าวแปลกใจ
“ทำไมคุณถึงกลับมาช่วยผม”
“แล้วเมื่อกี้คุณช่วยฉันไว้ทำไม ทั้งๆ ที่ตอนแรกหาว่าฉันทำความผิดมา”
กร้าวเจ็บแขนซ้ายที่ถูกยิง
“โอ๊ย”
อนุชตกใจ
“เลือดออกไม่หยุดเลย คุณรีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”

บุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่กร้าวนอนเข้าห้องฉุกเฉินไป อนุชรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นห่วง ครู่หนึ่ง อสิตและอรชามาถึง
“นุช” อสิตเป็นห่วงน้องสาวมาก
“พี่สิต...พี่อร!”
อนุชดีใจที่เจอพี่ๆ อรชาเห็นเสื้ออนุชเปื้อนเลือดก็ตกใจมาก
“นุชเป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
อรชามองสำรวจไปทั่วตัว กลัวน้องบาดเจ็บ
“นุชไม่เป็นไรค่ะ มีคนช่วยนุชไว้”
อสิตและอรชาโล่งใจที่อนุชปลอดภัย

รถอสิตมาจอดหน้าคฤหาสน์มโนรมย์ของตระกูลวิชเวทย์ ซึ่งใหญ่โตหรูหรา อนุชลงจากรถ มองบ้านด้วยความคิดถึงและผูกพัน หญิงสาวนึกถึงเรื่องราวในอดีตในวัยเด็ก ตอนนั้นเธออายุ 5 ขวบเพิ่งกลับจากโรงเรียน วิ่งเข้าไปไหว้และกอดพ่อ ประสิทธิ์ลูบหัวและยิ้มให้ คนรับใช้หญิง หิ้วกระเป๋านักเรียนตามหลังอนุช คอยดูแลรับใช้ คนสวนชายคนหนึ่งกำลังทำสวน คนรับใช้หญิงอีกคนกำลังกวาดลานบ้าน
อนุชยิ้ม คิดถึงพ่อ คิดถึงบ้าน เสียงอสิตเรียกดังมา
“นุช”
อนุชตื่นจากภวังค์
“คะ”
อรชาเข้ามาหาน้องสาว
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะจ้ะ”
อนุชยิ้มรับ
“ค่ะพี่อร”
อสิตหน้าตาเคร่งเครียด หิ้วกระเป๋าเดินทางของอนุชเข้าบ้านเอง อรชาตามเข้าไป อนุชมองสภาพบ้าน ที่ลานหน้าบ้านมีใบไม้ร่วงเต็มไปหมด บ้านดูไม่สวยงามเหมือนเมื่อก่อน เธอเข้ามาในบ้าน หยุดมองรูปถ่ายครอบครัวที่วางตกแต่งที่มุมหนึ่งของบ้าน ขณะเดียวกันนั้นเสียงลลิตาดังมาจากมุมหนึ่ง
“ระวังหน่อยสิ”
อนุชแปลกใจ

คนงานชาย กำลังช่วยกันขนของเก่าแก่ซึ่งเป็นของสะสมออกจากบ้าน โดยมี ลลิตายืนคุมอยู่ อรชาเข้ามาเห็นก็ตกใจ
“พี่ลิต้าทำอะไรคะ ของนั่นไม่ได้นะคะ คุณพ่อท่านรักมาก”
อรชาเข้าไปขวาง
“อย่ายุ่งน่า”
ลลิตาผลักอรชาล้มลง
“โอ๊ย”
อรชาอ่อนแอ ไม่สู้คน อนุชเข้าเห็นอรชาล้มก็ตกใจ
“พี่อร”
อนุชประคองอรชาให้ลุกขึ้น อนุชเห็นคนงานขนของออกจากบ้านก็ตกใจ รีบเข้าไปแย่ง
“เอาคืนมานะ นี่ของคุณพ่อฉัน”
ลลิตาเข้าไปดึงอนุช
“เอ๊ะ นุช หยุดนะ”
อสิตเข้ามา
“เสียงดังอะไรกัน”
อนุชฟ้องทันที
“พี่สิตคะ พี่ลิต้าเอาของคุณพ่อไปขาย”
ลลิตาหันไปหาอสิต
“ถ้าไม่ขายแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้”
อสิตพูดไม่ออก ลลิตาบ่น
“ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากับข้าว”
คุณมีปัญญาจ่ายมั้ย ถ้ามีก็เอามาสิ เอามา”
อสิตเครียดหนัก ลลิตาพูดจี้ใจดำ
“เลิกบ่นซะที คนยิ่งกลุ้มๆอยู่”
อสิตเดินหนีออกไป อนุชผิดหวัง
“พี่สิต”
อรชาเสียใจ ที่ลลิตาชนะทุกครั้ง ลลิตายิ้มเยาะ อนุชทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าฐานะทางบ้านจะลำบากถึงขนาดนี้

อสิตเข้าบ้านมา กลุ้มเรื่องเงิน ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ใจคอไม่ดี
“ครับเสี่ย”
เสี่ยยศเจ้าหนี้นอกระบบ ส่งเสียงขู่มาจากปลายสาย
“ครั้งนี้ลื้อรอดตัว แต่ถ้าไม่ยอมใช้หนี้ คราวหน้าลื้อจะไม่ได้เห็นหน้าน้องสาวอีกเลย!”
อสิตตกใจรีบขอร้อง
“อย่าทำอะไรน้องสาวผมเลย น้องสาวผมไม่เกี่ยว...”
แต่เสี่ยยศตัดสายทิ้งไปแล้ว อสิตทรุดลงนั่ง กุมขมับ เครียดจัด คิดหาทางหาเงินมาใช้หนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน

กร้าวรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา พบคณิตเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเป็นหมอ ดูแลอยู่
“ฟื้นแล้วเหรอ ไปมีเรื่องกับใครมา นี่โชคดีที่กระสุนแค่เฉียด แผลไม่ร้ายแรง” คณิตยิ้ม ดีใจ
“แล้ว…ผู้หญิง…”
กร้าวมองหาอนุช
“ฉันมาถึงก็ไม่เจอใคร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีคนจ่ายค่ารักษาให้แกเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกชื่อไว้ แล้วผู้หญิงที่แกว่าเป็นใครมาจากไหน”
“ฉันไม่รู้ ไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเขาเลย”
กร้าวนึกถึงอนุชอย่างเป็นห่วง

ค่ำนั้น อนุชกับอรชากราบอัฐิพ่อกับแม่ ทั้งสองหน้าเคร่งเครียดเพราะในบ้านมีปัญหา
“พ่อคะ แม่คะ นุชเรียนจบแล้ว เอาปริญญามาฝากพ่อกับแม่แล้วค่ะ”
“เสียดายที่คุณพ่อด่วนจากไปเสียก่อน ไม่ทันได้ยินดีที่นุชเรียนจบ”
อนุชกอดอรชา
“นุชไม่คิดเลยว่าบ้านเราจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”
อนุชและอรชาเศร้าหมอง

วันใหม่...อนุชตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายบอก
“พี่สิตจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนุช แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจัดงาน”
“พี่จะยืมเพื่อนก่อน”
“พี่สิตจะสร้างหนี้อีกแล้วเหรอคะ”
อสิตถอนใจ

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 1 วันที่ 6 ก.พ. 56

ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทประพันธ์ : บุษยมาส (จากเรื่องเดิม นางฟ้าซาตาน)
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทโทรทัศน์ : สิริกร
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กำกับการแสดง : ธนะสิทธิ์ อริยสินวีรกุล
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ออกอากาศ : เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี เร็ว ๆ นี้
ที่มา manager