@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/4 วันที่ 4 ก.พ. 56

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/4 วันที่ 4 ก.พ. 56

“คุณตันหยงจะรู้ได้ยังไงคะ ถ้าเราไม่บอก”
พิรามสับสน พัดชาจึงรุกหนัก
“พัดเข้าใจคุณดีค่ะ พัดรู้ตัวดีค่ะว่าพัดอยู่ในฐานะอะไร อย่าห่วงเลยค่ะพัดจะไม่มีวันทำให้คุณเดือดร้อนเด็ดขาด”
พัดชาทำท่าน่าสงสารจนพิรามเริ่มใจอ่อน
“พัดขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ พัดก็พอใจแล้ว นะคะ คุณพิราม”
พัดชากอดและซบพิรามอย่างน่าสงสาร พิรามมองด้วยความอึดอัดก่อนเอามือลูบหัวพัดชา

พัดชนึกถึงเรื่องในอดีตแล้วก็เปรยออกมา “2 ปีที่ผ่านมา มันนานเกินกว่าพัดจะยอมเสียคุณไป... คุณพิราม”
พัดชาน้ำตาไหล



ตันหยงเดินเคียงคู่กับพิรามออกมาจากผับ โดยมีสุดนภาและผองเพื่อนเดินตามมา
“แน่ใจนะว่าขับไหว” ตันหยงถามเพื่อน
“แน่ใจสิยะ ชั้นดื่มม๊อคเทลนะ ไม่มีแอลกอฮอล์ซักหยดนึง จะเมาได้ไง” สุดนภาพูดกับพิราม “ฝากส่งเพื่อนชั้นให้ถึงบ้านด้วยนะคะคุณพิราม”
“รับรองครับ ผมจะดูแลหยงให้ดีที่สุดเลย” พิรามบอก
“ทนไม่ไหวก็ตรงนี้แหละ หวานไปมั้ยเนี่ย” สุดนภาแซว
“ไปได้แล้ว บ๊าย...บาย”
ทุกคนล่ำลากัน สุดนภาและผองเพื่อนขับรถออกไป พิรามหันมาจับมือตันหยง
“ผมอยากพาคุณไปที่นึง”
“ที่ไหนคะ มันดึกแล้วนะ”
“ผมรับรองความปลอดภัยด้วยเกียรติของผมเลย....”
พิรามทำท่าขึงขัง ตันหยงหัวเราะ
“ไปสิคะ หยงไว้ใจคุณเสมอ”

พิรามหลบตาก่อนจะมองตันหยงอย่างรู้สึกผิด
รถของพิรามวิ่งมาจอดที่ใต้สะพานแห่งหนึ่ง ตันหยงเดินลงจากรถแล้วมองดูบรรยากาศรอบๆ

“สวยจังเลย”
“ผมมาที่นี่บ่อยๆ เวลาคิดถึงคุณ”
ตันหยงมองหน้าพิราม “หยงขอโทษ หยงไม่น่าทิ้งคุณไปเลยตั้งสองปี”
“คุณไม่ผิดหรอก ผมต่างหาก ที่ผิด”
“ไม่เอาน่า งั้นเราต่างคนต่างผิดดีมั้ย เราไม่พูดเรื่องเก่ากันดีกว่านะคะ”
“หยงครับ ถ้าผมทำอะไรผิดมากๆ คุณจะให้อภัยผมได้มั้ย”
ตันหยงนิ่งนึก “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ หยงมั่นใจว่าคุณไม่มีวันทรยศต่อความรักของเราได้ ไม่มีวัน”
พิรามอ้าปากสารภาพ
“หยง...ผมผิดไปแล้ว...ผมกับพัดชา......”
ทันใดนั้นก็มีการจุดพลุเสียงดังกลบสนั่นเสียงพิรามไปหมด ตันหยงกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ดูสิ พลุสวยจังเลย พิรามดูสิคะ....” ตันหยงหันไปมองพิราม “เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะคะ”
พิรามเปลี่ยนใจ “ผมจะบอกว่า คืนนี้คุณสวยมาก”
ตันหยงเขิน “พูดแบบนี้หยงเขินนะคะ” ตันหยงนึกได้ “ว๊า...เสียดายจังเลย หยงไม่ได้เอาของขวัญมาให้คุณ หยงเลือกซื้อตั้งนานกว่าจะหาได้”
พิรามจับมือตันหยง “หยงครับ ผมจะรักและซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดไป”
“ค่ะ หยงเชื่อคุณ เคยมีคนบอกว่า เคล็ดลับของชีวิตคู่ที่ยืนยาวคือ เราต้องตกหลุมรักหลายๆครั้ง กับคนเดิมตลอดไป คุณจะทำได้มั้ยคะ”
“ตกลง ผมจะตกหลุมรักผู้หญิงที่ชื่อตันหยงคนเดียว ทุกวัน ตลอดไป”
ตันหยงยิ้มเขิน เธอมองพิรามด้วยความรัก ส่วนพิรามแอบเครียด


เช้าวันใหม่ ปฐวีกำลังทำGamma Knife (ฉายรังสีที่สมองเพื่อรักษาเนื้องอกในสมอง) ให้คนไข้ในห้องผ่าตัด ชีพจรคนไข้เต้นเร็ว ส่วนความดันก็สูงขึ้น
“ไม่ต้องเครียดนะครับ ใจเย็นๆ ไม่มีอะไร” ปฐวีบอก
พยาบาลซับหงื่อให้ปฐวี
ทุกคนมองที่จอมอนิเตอร์ซึ่งแสดงการเต้นของหัวใจ หัวใจคนไข้เริ่มเต้นเป็นปกติ ทุกคนยิ้ม ปฐวีแกะถุงมือกับผ้าปิดหน้าทิ้ง ก่อนจะเดินผ่านสองพยาบาลสาวที่มองเขาด้วยความชื่นชมหลงไหล


ญาติผู้ป่วยนั่งรออย่างลุ้นๆ ที่หน้าห้องผ่าตัด ปฐวีเดินออกมาจากห้อง ญาติๆ รีบกรูเข้าไปหาปฐวี
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ ลูกสาวดิชั้นจะเป็นยังไงบ้าง”
“ผลผ่าตัดเป็นยังไงคะ”
“ใจเย็นนะครับ การผ่าตัดเรียบร้อยดี เป็นที่น่าพอใจครับ” ปฐวีบอก
“แล้วเค้าจะกลับมาเป็นปกติหรือเปล่าคะคุณหมอ”
“ไม่น่ามีปัญหาครับ ก้อนเนื้อยังมีขนาดเล็ก ปริมาณรังสีที่ได้รับก็ไม่มาก ไม่น่าจะมีผลข้างเคียงอะไร ตอนนี้หมอสั่งให้พยาบาลฉีดยาแก้ปวดและแก้อาเจียน เพื่อลดผลแทรกซ้อนจากการทำ Gamma Knife คนไข้จะได้พักผ่อน ไม่ต้องวิตกนะครับ”
ทันใดนั้นจริณทิพย์ก็เดินถือแฟ้มเข้ามา
“คุณหมอปฐวีคะ เซ็นต์เอกสารให้หน่อยค่ะ”
“แหม หมอเก่งจังเลยนะคะ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ เรามารักษาที่นี่เพราะชื่อเสียงของคุณหมอเลย ว่าเป็นหมอศัลยกรรมประสาทที่เก่งมาก” ญาติคนไข้ชมเปาะ
ปฐวีพยักหน้ารับกับคำชม
เสียงนาวินดังขึ้น “เชื่อเถอะครับ เพื่อนผมคนนี้เค้าเจ๋งสุด แถมยังหล่ออีกด้วย ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ มีลูกสาวอย่ายกให้ เพราะผมจอง”
นาวินเดินเข้ามากอดคอปฐวีอย่างสนิทสนมแล้วหันไปยักคิ้วให้ญาติผู้ป่วย จริณทิพย์อ้าปากค้าง ปฐวีอ้าปากจะแก้ตัว นาวินรีบกอดคอปฐวีเอาไว้
“ขอตัวก่อนนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงจังเลย” นาวินบอก
นาวินแกล้งเป่าหูปฐวี ปฐวีอ้าปากจะด่าเพื่อน นาวินเอานิ้วปิดปากปฐวี บรรดาญาติคนป่วยอ้าปากค้าง
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ปฐวีพูดกับนาวิน “มานี่เลยไอ้ตัวดี”
ปฐวีรีบลากตัวนาวินออกไป นาวินหันไปสิ่งยิ้มหลิ่วตาให้ญาติคนป่วย - ญาติคนป่วยหันไปมองหน้ากันด้วยความเสียดาย ก่อนจะหันไปพูดกับจริณทิพย์
“น่าเสียดายจริงๆ สมัยนี้ ผู้ชายดูลำบาก”
“ไม่จริง ไม่จริง โอ๊ย...ชั้นอยากตาย”

จริณทิพย์ทำท่าจะเป็นลม
ปฐวีลากคอนาวินเข้ามาในห้อง นาวินลงนั่งบนเก้าอี้ของปฐวี

“ไอ้บ้า แกชอบเล่นพิเรนทร์อีกแล้ว ทำแบบนี้ซักวันกรรมจะตามสนองแก” ปฐวีว่า
“ไม่กลัวโว๊ย เวรกรรมไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ทำแบบนี้ เป็นการลดคู่แข่ง” นาวินบอก
“คู่แข่งอะไรของแกวะ”
“อ้าว ก็พยาบาลสาวๆในโรงพยาบาลของนายไงล่ะ ถ้านายสับสนทางเพศ ตัว เลือกก็ลดลง โอกาสของชั้นก็มากขึ้นไง”
“โอโห ...นี่ลงทุนเกินไปหรือเปล่า นี่ลุกขึ้นเลย นั้นเก้าอี้ชั้น”
ปฐวีดึงแขนนาวินให้ลุกขึ้น นาวินไม่ยอมลุก ทั้งสองยื้อยุดกันเล่นๆ ปฐวีเสียหลักล้มลงไปกอดนาวินที่โต๊ะ
จริณทิพย์เดินเข้ามาเห็นพอดีก็ถึงกับอ้าปากค้าง
“ให้ทิพย์ออกไปก่อนดีกว่ามั้ยคะ”
“ไม่ต้องครับ ไม่ใช่อย่างที่คุณทิพย์คิดหรอกนะ” ปฐวีรีบแก้ตัว
“ไม่เอานาวี ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นเถอะนะ” นาวินแกล้งต่อ
“ไม่จริ๊ง ทิพย์รับไม่ได้ ไม่น่าเลย หมอวี กับคุณนาวิน เปิดเผยตัวซะอย่างนั้น”
“โธ่คุณทิพย์ ใครเชื่อเจ้าวินออกลูกเป็นไข่แน่เลย” ปฐวีว่า
จริณทิพย์ทำงอน “ไม่รู้ล่ะ นี่ค่ะแฟ้ม เซ็นต์ให้ทิพย์ด้วย เดี๋ยวทิพย์เข้ามารับ ตอนนี้ขอเวลาไปไว้อาลัยก่อน”
จริณทิพย์วางแฟ้มแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้อง นาวินกับปฐวีมองหน้ากันแล้วขำก๊าก
“เจ้านายกับลูกน้องบ้าพอกัน” นาวินว่า
“ไอ้บ้าเอ๊ย...เดี๋ยวก็ลือกันไปทั่ว”
“ยังกะตอนนี้เค้าไม่ลือกันงั้นแหละ พยาบาลสาวๆเต็มไปหมด แกไม่เห็นสนใจใครซักคนนี่นา อ๊ะหรือว่าแกเป็นจริงๆ”
“ไม่พูดด้วยแล้วโว๊ย ไอ้บ้า แล้วนี่แกมาทำไมวะ งานการไม่มีทำหรือ”
“หนอย...ไอ้หมอปากร้าย มัวแต่ผ่าตัดสมองคนอื่น ลืมดูสมองตัวเองซะอย่างงั้น ลืมใช่มั้ย”
“เรื่องอะไร”
“ก็งานเลี้ยงรุ่นไงล่ะ วันนี้”
“เออ..จริงสิ งานเลี้ยงรุ่น แล้วเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ แกทำไมต้องถ่อมาบอกชั้นบอกถึงที่นี่ แกไม่รู้จักโทรศัพท์หรือวะ”
“รู้โว๊ย แต่ตั้งใจมาเหล่พยาบาลสาวๆ มาบอกแกมันเรื่องรอง”
“เฮ้อ ไม่น่าส่งน้องเมย์ไปเรียนโรงเรียนของแกเลยว่ะ แกไปก่อนเหอะ เดี๋ยวชั้นจะไป วันนี้ชั้นมีนัดกับคุณย่า”
“ไม่ได้ ชั้นไปด้วย เดี๋ยวแกเบี้ยวอีก”
“ไอ้บ้า ไม่เบี้ยวหรอก แกไปทำงานทำการซะบ้าง เดี๋ยวนักเรียนก็เดินขบวนประท้วงหรอก”
“ตอนนี้ปิดเทอมโว๊ย สัญญานะเว้ยว่าจะไป...ไม่ไปขอให้เป็นแต๋วแวว!!!”
“..แกรีบกลับไปทำงานเถอะ ไม่งั้นชั้นจะย้ายหลานชั้นออกจากโรงเรียนแก”
ปฐวีมองนาวินแล้วส่ายหน้ายิ้มขำ


ปฐวีกับนาวินเดินคุยกันมาตามทางเดิน หนึ่งฤทัยถือถุงขนมเดินมาจากอีกทางหนึ่ง
“หมอวีคะ จะไปไหนคะ” หนึ่งฤทัยทัก
“อ้าว หนึ่ง วันนี้ผมมีนัดกับคุณย่าครับ หนึ่งเข้าเวรหรือครับ”
“ค่ะ วันนี้หนึ่งเข้าเวรบ่ายค่ะ” หนึ่งฤทัยหยิบถุงขนมส่งให้ “นี่ขนมทองเอก หนึ่งทำเองฝากไปให้ท่านประธานลองชิมด้วยนะคะ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ คุณย่าคงถูกใจ”
“หนึ่งไม่ชอบอยู่ว่างๆน่ะค่ะ หนึ่งเลยลองทำดู”
“ขอบคุณมากครับ คุณย่าก็บ่นถึงหนึ่งอยู่นะครับ ว่างๆ ไปทานข้าวที่บ้านด้วยกันนะครับ”
นาวินมองสองคนคุยกันแล้วก็แกล้งกระแอม ปฐวีมองแล้วยิ้ม
“นี่นาวินเพื่อนผม เป็นครูโรงเรียนอนุบาลครับ นี่หมอหนึ่งฤทัย หมออายุรกรรม ที่เก่งมากของโรงพยาบาลเรา” ปฐวีแนะนำ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมจิตใจดี รักเด็กครับ” นาวินบอก
“หรือคะ ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกหมอหนึ่งก็ได้ค่ะ หมอวีก็ชมหนึ่งเกินไป” หนึ่งฤทัยดูนาฬิกา “ตายจริง หนึ่งขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ เชิญตามสบายเลย”
หนึ่งฤทัยเดินไป นาวินมองตามจนลับสายตา
“สวยว่ะ แต่สงสัย จะไม่มีผล ท่าทางหมอนี่จะชอบแกว่ะ” นาวินบอก
“ไอ้บ้า... เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ปี 1 ไม่เห็นมีท่าทีอะไรเลย” ปฐวีว่า
“หนอยไอ้ด๊อก...เตอร์ เก่งแต่ผ่าตัดสมอง เรื่องผู้หญิงนี่ทำมึนดูไม่ออก”
“ยังกะแกเก่งนักนี่”
“เก่งสิ...เรื่องแบบนี้ไม่พลาด ชั้นดูออก เค้าชอบแก”
ปฐวีขำ
“ถ้าเค้าไม่ชอบแก ชั้นจีบไปแล้วหล่ะ” นาวินบอก

ปฐวีส่ายหัวแล้วเดินไปอย่างไม่สนใจนาวิน
ที่อาคารสำนักงาน PD Properties กรรมการสองคนคุยกันอยู่หน้าห้องประชุม

“ไม่ทราบท่านประธานเรียกประชุมคณะกรรมการ มีเรื่องอะไรด่วนหรือครับ” กรรมการคนหนึ่งถาม
“หรือท่านประธานจะมีเซอร์ไพส์” กรรมการอีกคนเดา
ปรางทิพย์เดินเข้ามาร่วม
“อ้าว สวัสดีครับคุณปรางทิพย์ มาเข้าร่วมประชุมด้วยหรือครับ”
ปรางทิพย์ยิ้มภูมิใจ “ท่านประธานตามชั้น ให้มาประชุมด้วย”
“คงจะมีเซอร์ไพซ์จริงๆนะครับเนี่ย”
ปรางค์ทิพย์กระหยิ่ม
“อย่ามัวแต่เดาเลยค่ะ เข้าห้องประชุมกันเถิด”
ปรางค์ทิพย์มีสีหน้าเป็นเดือดเป็นร้อน


ปรงทองนั่งเป็นประธานอยู่ในที่ประชุม
“ชั้นต้องขอโทษทุกคน ที่เรียกประชุมเป็นวาระด่วน โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบมาก่อน เรื่องที่จะแจ้งให้ทราบก็คือ ชั้นจะวางมือให้คนรุ่นใหม่เข้ามาดูแลกิจการแทน”
กรรมการทั้งสองหันไปมองหน้าปรางค์ทิพย์เพราะคิดว่าปรางค์ทิพย์จะได้รับมอบหมายหน้าที่นี้
“แล้วท่านประธานจะมอบหมายให้ใครทำหน้าที่ต่อไปครับ” กรรมการคนหนึ่งถาม
ปรางค์ทิพย์ยิ้มเชิด
“ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้ว แต่ชั้นขอแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นี่ ปฐวี โภควันต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล PD Hospital และเป็นผู้จัดการมรดกของตระกูลโภควันต์ด้วยจะมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทPD Properties แทนชั้น”
ปฐวีกับประภัสสรมองหน้ากัน
“คุณย่าครับ....ผมไม่...”
ปรางทิพย์รีบพูดแทรก “คุณยายคะ ทิพย์ว่า ตาวีก็มีโรงพยาบาลที่ต้องรับผิดชอบดูแลอยู่แล้วนะคะทิพย์ว่างานนี้ ทำไมไม่ให้คุณเสกสรรดูแลหล่ะคะ”
“สามีเราน่ะเหรอ” ปรงทองไม่สนใจปรางทิพย์ “ย่าตัดสินใจแล้ว ย่าดูคนไม่ผิด ทำหน้าที่ที่ย่ามอบหมายให้ดีที่สุดนะ ตาวี”
ปรางทิพย์อ้าปากจะพูดแต่แล้วก็เงียบ
ปฐวีอึ้ง “ครับ คุณย่า”
ทุกคนปรบมือต้อนรับปฐวี ยกเว้นปรางค์ทิพย์ที่รู้สึกหงุดหงิดแต่ก็พยายามเก็บอาการไว้


คณะกรรมการมาจับมือแสดงความยินดีกับปฐวี
“ยินดีด้วยนะครับ คุณปฐวี เอ๊ย...ต้องเรียกท่านประธานสิ”
“เรียกเหมือนเดิมก็ได้ครับ” ปฐวีบอก
“คงไม่ได้หรอกครับ”
กรรมการทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ในขณะที่ปรางค์ทิพย์ยืนมองอย่างแค้นใจ
“คุณยายทำแบบนี้ เท่ากับไม่เห็นหัวเราเลย มันน่าแค้นใจจริงๆ”
ปรางค์ทิพย์เดินเชิดผ่านหน้าประภัสสรไป ประภัสสรมองตามอย่างไม่สบายใจ


ปรงทองนั่งเซ็นเอกสารอยู่ในห้อง โดยมีแม้นวาดยืนอยู่ใกล้ๆ
“ชั้นตัดสินใจแบบนี้ เธอคิดว่าจะมีปัญหามั้ย ยายวาด” ปรงทองถาม
แม้นวาดยิ้ม “คุณหญิงทำถูกต้องดีแล้วค่ะ แต่ว่า..คงมีคนไม่เห็นด้วยแน่นอน”
“ใครกัน ที่จะไม่เห็นด้วย”
ปรงทองมองแม้นวาด แม้นวาดยิ้มแต่ไม่ตอบ
“ยายวาด หล่อนนี่ชอบทำอมพะนำ ตั้งแต่สาวยันแก่ ไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“ประเดี๋ยวคุณหญิงก็ทราบเองแหละค่ะ”
ทันใดนั้นปรางค์ทิพย์ก็เปิดประตูพรวดเข้ามา ปรงทองกับแม้นวาดหันไปมองหน้ากัน
“คุณยายคะ ปรางค์มีเรื่องจะเรียนปรึกษา”
“อะไรหรือ ว่ามาสิ” ปรงทองถาม
ปรางค์ทิพย์ทำท่าจะพูดแล้วก็ชะงักหันไปมองหน้าแม้นวาด

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 1/4 วันที่ 4 ก.พ. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56 (ต่อจาก แรงปรารถนา)
ที่มา manager