@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 5 วันที่ 3 ก.พ. 56

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 5 วันที่ 3 ก.พ. 56

การปรากฏตัวของเจ้าอุรคาทำให้สองหนุ่มถึงกับปวดหัว ไพศิษฐ์โต้เถียงกับราชนิกุลสาวเรื่องข้อสันนิษฐานการตายของเสี่ยประเสริฐ เพราะเธอไม่เห็นด้วยว่าเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดา ภุชคินทร์มองทั้งสองคนหน้าเครียดอย่างไม่รู้จะเข้าข้างใครดี จนกระทั่งหญิงสาวหันมาขอความเห็นจากเขายิ้มๆ

“คุณชายไม่ได้บอกผู้กองหรือคะว่าดิฉันเป็นหมอดู นักมายากล นักสะกดจิต ดิฉันถึงรู้อะไรที่คนอื่นไม่รู้”

ไพศิษฐ์ทำหน้าเมื่อยอย่างเบื่อหน่าย เจ้าอุรคาไม่อยากต่อความยาวเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ ผู้กองหนุ่มดูจะไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมหรืออำนาจลี้ลับ เธอขอตัวกลับโดยมีภุชคินทร์เดินมาส่ง กล่าวลาและแอบเหน็บไพศิษฐ์ส่งท้าย

“ลาก่อนค่ะคุณชาย เราจะได้พบกันอีกหลายๆครั้งตามบุพกรรม ฝากบอกเพื่อนคุณชายด้วย ว่าดิฉันเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าเจ้าหญิงสูงศักดิ์หรือนักมายากล ไม่ได้เป็นอยู่อย่างเดียวคือสิ่งที่ผู้กองคิดในใจ สวัสดีค่ะ”



เจ้าอุรคาขับรถออกไปแล้ว ภุชคินทร์มองตามอย่างอ่อนใจ...เธอไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ

ด้านสุบรรณ...รู้ข่าวการตายของเสี่ยประเสริฐในวันถัดมา ตะลึงอย่างคาดไม่ถึงที่คนรอบข้างตายไปทีละคนราวกับใบไม้ร่วง อำนาจดูออกว่าเจ้านายหนุ่มเครียดจัดแต่เก็บอาการ มองมาอย่างเป็นห่วงระคนหนักใจ

“น่าสงสารนะครับนาย เสี่ยประเสริฐบริจาคเงินการกุศลทีละหลายแสน แต่ผลบุญไม่ช่วยอะไรเลย”

“เพราะไม่ใช่การทำบุญจริงๆแต่ทำเอาหน้า หลังฉากแกก็รู้ว่าเสี่ยประเสริฐสุดจะเลว ทำชั่วทุกอย่าง ฉันว่าเรื่องนี้ ไอ้เสี่ยทรงยศต้องพยายามโยงฉันไปเกี่ยวด้วยแน่”

“มันอาจไม่สมหวังก็ได้ ผมได้ข่าวมาว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์ด้วย เขาว่าเห็นผีน่ะครับ”

สุบรรณมีความหวังแล้วดับวูบ เบื่อและเซ็งสุดขีดที่ช่วงนี้มีแต่คนพูดเรื่องผีๆ

เวลาเดียวกัน...พยานปากเอกที่อำนาจพูดถึงให้การกับตำรวจที่โรงพัก ละล่ำละลักเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนด้วยความหวาดระแวง อ้างว่ามีผีชายชุดดำสูงใหญ่พาวิญญาณเสี่ยประเสริฐออกจากรถ ไพศิษฐ์เห็นท่าจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ สั่งเจ้าหน้าที่พาบุญมีไปพักและหันมาเย้าจ่าชิดที่มีสีหน้าตื่นๆ ลูกน้องคนสนิทคิดว่าอาจเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติจริงเพราะทราบจากคำให้การของคนในครอบครัวเสี่ย ยืนยันว่าเขาชอบสาบานอย่างท้าทายและลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไพศิษฐ์ชักเครียดเพราะจ่าชิดพูดเหมือนเจ้าอุรคาไม่มีผิด...หรือว่าจะตายเพราะคำสาบานจริงๆ

ภุชคินทร์ทราบเรื่องจากผู้กองหนุ่มหลังจากนั้น บอกว่าชายชุดดำที่บุญมีเห็นอาจเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นวันที่เสี่ยปิงตาย ซึ่งก็คือคนที่อยู่กับเจ้าอุรคาบ่อยๆ ไพศิษฐ์อยากได้เบาะแส ขอร้องเพื่อนให้ช่วยสืบ

“ฉันไม่ค่อยไว้ใจ ไม่ใช่ว่าเจ้าอุรคาเป็นผีสางอะไร แต่ฉันมั่นใจว่าการปรากฏตัวของเจ้าไม่ใช่เรื่องธรรมดา”

ภุชคินทร์ลำบากใจ อยากช่วยเพื่อนแต่ก็เป็นห่วงเจ้าอุรคา...กลัวเหลือเกินว่าเธอจะมีส่วนกับเรื่องนี้

ooooooo

เฟื่องวลีวิตกจริตเรื่องลูกแก้วที่ขโมยจากภุชคินทร์ ภาพในฝันตามหลอกหลอนจนไม่เป็นอันทำอะไร เฟื่องฟ้าไม่รู้เรื่อง บอกลูกไม่ให้คิดมาก ทั้งเรื่องชายหนุ่มและเรื่องฝันเพราะทุกอย่างเป็นลางดีทั้งนั้น เฟื่องวลีไม่วางใจ มองแม่อย่างหวาดๆพร้อมกับเปรยเสียงเครียด

“เรื่องความฝัน มันไม่ใช่เนื้อคู่หรอกค่ะคุณแม่ เสียงผู้หญิงคนนั้นยังก้องหูฟีบี้อยู่เลย เขามาทวงของคืน”

เฟื่องวลีทนอึดอัดไม่ไหว ตัดสินใจให้ดูลูกแก้ว สารภาพเสียงอ่อยว่าขโมยมาจากห้องภุชคินทร์ เฟื่องฟ้าตาโต แหวลูกเสียงเขียวว่าไม่เคยสอนให้เป็นขี้ขโมย เฟื่องวลีหน้าจ๋อย ละล่ำละลักแก้ตัวและหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

“ฟีบี้ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าอยากได้มากเพราะมันสวยและมีแรงดึงดูด มันอาจเป็นแหวนหมั้นของพี่ชายก็ได้นะคะ”

เฟื่องฟ้าดีใจจนเนื้อเต้น ห้ามลูกไม่ให้เอาไปคืนตามประสาคนเห็นแก่ตัว เฟื่องวลีตั้งท่าจะค้านเพราะกลัวอาถรรพ์ลูกแก้วแต่ไม่กล้าขัด...แล้วเธอจะนอนหลับไหมคืนนี้

ขณะเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคามีสีหน้าเกรี้ยวกราด โกรธเฟื่องฟ้ากับเฟื่องวลีที่ละโมบโลภมากอยากได้ลูกแก้วครุฑธิการ เตรียมไปจัดการแต่ยมนาปรากฏตัวมาขวางและกล่อมเสียงเคร่ง

“เขาไม่คู่ควร สักวันเขาต้องเอามาคืน”

เจ้าอุรคาไม่ยอมจะเอาคืนเดี๋ยวนี้ ยมนาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เตือนสติเรื่องโทษของโทสะและความเกลียดชัง หญิงสาวเหมือนจะคิดได้ ปรับเสียงอ่อนลงและสัญญาจะไม่ปล่อยให้ตัณหาครอบงำ ยมทูตหนุ่มยังไม่วางใจ

“เราจำเป็นต้องห่วงเพราะเราเป็นสหายเจ้า และสหายที่ดีย่อมต้องห่วงใยและพากันไปสู่หนทางที่ดี”

“ไม่ต้องห่วง เรารักษาสัญญา เราจะไม่ทำร้ายเขา เราแค่จะตักเตือนเท่านั้น”

“อย่านะอุรคาเทวี...พิษของเจ้านิดเดียวมีผลกับคนอื่นอย่างมหาศาล”

เจ้าอุรคากลายร่างเป็นพญานาคีออกไปแล้ว ยมนามองตามอย่างหนักใจ...เมื่อไหร่เจ้าจะคิดได้อุรคาเทวี

กลางดึกคืนนั้น...เจ้าอุรคาในร่างพญานาคีเลื้อยผ่านหนองน้ำละแวกเฮือนจนชาวบ้านหาปลาแถวนั้นตกใจตื่น มองตามงูใหญ่ที่หัวมีหงอนอย่างกลัวๆ ตะโกนลั่นว่าเจอพญานาค!

เวลาเดียวกันที่บ้านภิงคาร...เฟื่องวลีมองกล่องลูกแก้วอย่างหวาดระแวง ไม่กล้าเข้านอนเพราะกลัวฝันร้าย แต่ฝืนได้ไม่นานก็เข้าสู่นิทรารมณ์ ทันทีที่หลับตาก็ได้ยินเสียงครืดคราดจากบริเวณหน้าต่าง ตัดสินใจไปดูแล้วถึงกับตาเหลือก เห็นพญานาคพุ่งมาหา แว่วเสียงในหัวว่าให้เอาลูกแก้วไปคืน เฟื่องวลีกรี๊ดสุดเสียงและสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ถลากอดแม่ด้วยความกลัว ภิงคารมองมาอย่างงงงัน เฟื่องฟ้ากลัวความแตก เฉไฉว่าลูกสาวแค่ฝันร้ายและพาเข้าห้อง ภิงคารส่ายหน้าอ่อนใจ ตั้งท่าจะกลับห้องแต่ได้ยินเสียงแกรกๆจากด้านนอกจึงออกไปดู

ภิงคารแวะหยิบปืนและไปสำรวจด้านนอก กวาดตามองรอบๆแต่ไม่เห็นอะไรผิดปกติ ราชนิกุลหนุ่มใหญ่จะกลับห้องแล้วต้องชะงัก เมื่อหางตาเหลือบเห็นรอยเลื้อยประหลาดแต่คุ้นตาบนพื้น เดินไปดูแล้วถึงกับยืนตัวแข็ง พึมพำเบาจนแทบไม่มีเสียงว่าเจอรอยเท้าพญานาค!

ooooooo

พันเอกนรินทร์มองลูกสาวตักบาตรด้วยแววตาสบายใจ แม้จะมีเคราะห์หนักก็อาจผ่อนให้เบาได้ นาถสุดาหันมาเห็นก็เดินยิ้มแฉ่งไปหา อดีตนายทหารเปรยว่าอยากให้เธอทำบุญมากๆช่วงนี้ นาถสุดามองมาอย่างสงสัย หนุ่มใหญ่กลัวลูกซัก กลบเกลื่อนด้วยการสอนลูกเรื่องการทำบุญ

“การทำบุญเป็นการลงทุนเพียงอย่างเดียวที่ไม่มีการขาดทุน ได้ช่วยคนอื่นแล้วยังทำให้จิตใจสบายอีกด้วย”

นาถสุดายิ้มรับอย่างเห็นด้วย เดินโอบพ่อเข้าบ้านแล้วสะดุดตาข่าวพาดหัวบนหนังสือพิมพ์ หยิบมาอ่านเห็นข่าวชาวบ้านแตกตื่นพญานาคโผล่กลางกรุงก็เบิกตาโพลง กวาดตามองรายละเอียดที่เกิดเหตุว่าอยู่แถวบ้านเจ้าอุรคายิ่งร้อนรน ผลุนผลันออกจากบ้านด้วยความเป็นห่วงราชนิกุลสาว พันเอกนรินทร์ไม่ขวางราวกับรู้อยู่แล้วว่าจะมีเรื่องนี้

นาถสุดาขับรถอย่างเร็วด้วยความร้อนใจ เสียงมือถือดังขึ้น ไพศิษฐ์โทร.บอกว่าจะไปทานข้าวเช้าด้วย หญิงสาว บอกว่ากำลังไปหาเจ้าอุรคาเพราะเห็นข่าวพญานาค ผู้กองหนุ่มเบรกรถหัวทิ่ม สั่งห้ามไม่ให้ไป นาถสุดาชักสีหน้าอย่างไม่พอใจและกดวางสาย ไม่หยุดรถแต่เหยียบคันเร่งต่อโดยไม่สนใจคำสั่งแฟนหนุ่ม

ขณะเดียวกันที่วังนาเคนทร์...หม่อมภาณีกับนารีวรรณ พูดคุยถึงข่าวชาวบ้านตื่นพญานาคกันอย่างสนุกปาก ภุชคินทร์หัวเราะไปด้วยอย่างอารมณ์ดี เสียงมือถือเขาดังขึ้น ภิงคารโทร.ตามให้ไปหาด่วนเพราะมีรอยเท้าพญานาคที่บ้าน ราชนิกุลหนุ่มหุบยิ้ม บอกแม่กับน้องให้ไปหาน้าชายพร้อมกัน

สามคนแม่ลูกมองรอยเท้าพญานาคอย่างตื่นตะลึง ไม่ต่างจากเจ้าของบ้านอย่างภิงคารและผู้อาศัยอย่างเฟื่องฟ้ากับเฟื่องวลีที่มองมาอย่างกลัวๆ ภิงคารเล่าว่าได้ยินเสียงกลางดึกเลยออกมาดู ขนลุกซู่เมื่อเห็นรอยนี้เพราะจำได้ว่าเหมือนรอยที่เห็น ณ ริมโขง นารีวรรณเปรยว่าเหมือนข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ชาวบ้านอ้างว่าเจอพญานาคตัวเป็นๆ หม่อมภาณีเย้าน้องชายยิ้มๆว่าพญานาคอาจอยากบอกอะไรกับรัฐมนตรีหนุ่มไฟแรงก็ได้ ภิงคารพลอยขำไปด้วย ต่างจากเฟื่องวลีกับเฟื่องฟ้าที่มองมาหน้าซีดเผือด... หรือว่าพญานาคจะมาทวงลูกแก้วจริงๆ

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 5 วันที่ 3 ก.พ. 56

ละครเรื่อง มณีสวาท บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์
ละครเรื่อง มณีสวาท บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์
ละครเรื่อง มณีสวาท กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง มณีสวาท แนวละคร : ตื่นเต้น ลึกลับ
ละครเรื่อง มณีสวาท ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด โดย สมจริง ศรีสุภาพ
ติดตามชมละครเรื่อง มณีสวาท ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ