ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 13/5 วันที่ 7 พ.ค. 57
เธอแปลกใจ เงยหน้ามอง กฤษฎาสบตาหวานซึ้ง"แต่ผมจะทำแบบนี้"
กฤษฎาค่อยๆ โน้มเข้าไปประทับจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา เธอหลับตาพริ้ม
ทุกอย่างรอบตัวสดใสวิ้งๆ... กลุ่มของไทเกอร์ ดรณ์ หยาดทิพย์ เจ๊ฟู และชาโนยืนอึ้งมอง อ้าปากค้าง เขินและดีใจไปกับความสมหวังของเธอ ทุกคนค่อยๆออกไป เพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่กับตามลำพัง
น้ำฟ้ายืนมองด้วยความแค้นใจ ก่อนค่อยๆถอยหลังออกไป หายไปกับความมืด
เมธาวลัยสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากเตียง เอามือจับที่ริมฝีปากทันที
"ฉันฝันไปหรือเปล่า"
เสียงเตือนว่ามีข้อความจากไลน์ดังขึ้น เธอหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาดู
"Good Morning ครับ...แฟนผม"
เธอตื่นเต้นดีใจ อ้าปากค้าง
"ฉันไม่ได้ฝัน"
มุมอาหารเช้า มีอาหารเช้าวางอยู่เต็มโต๊ะ ปินัทธาและภัทรวลัยกรี๊ดลั่นด้วยความดีใจ เป้อยู่ด้วย ดีใจแต่ไม่ได้กรี๊ด เมธาวลัยนั่งขวยเขินอยู่
"ดีใจด้วยนะเมเปิ้ล" เป้ว่า
"ในที่สุด ก็ได้ ก็โดน" ปินัทธาบอก
เพื่อนทั้งสองร้อง "แอร๊ย"
"เหย! แค่โดนจุ๊บุๆ พูดซะ!เดี๋ยวใครได้ยินก็เข้าใจผิด" เมธาวลัยบอก
เสียงเตือนไลน์จากมือถือ ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนหันมอง เธอดูที่หน้าจอ เป็นไลน์จากกฤษฎา
"อุ๊ย!ส่งมาอีกแล้วอ่ะ"
ทุกคน "อร๊าย!"
"อายอ่ะ โอย...ตื่นเต้น จะส่งอะไรมาอีกล่ะ อร๊าย! หัวใจเต้นเร็วมากเลย อร๊าย ...แก้มจะแตกแล้วอ่ะ แก! ทำไงดี ฉันยิ้มไม่หุบเลย อร๊าย"
"นี่! เยอะไปมะ ทำยังกะไม่เคยมีแฟน"
"ก็มันไม่เคยมี"
"เออ!ลืมไป"
"เงียบไปเลย ฉันจะอ่านข้อความจากแฟน"
เธอกดอ่านไลน์ เพื่อนๆต่างมุงดู
"เมื่อคืนฝันดีป่ะครับ อร๊าย ! ยิ่งกว่าดีอีกอ่ะ"
ปินัทธาและภัทรวลัยบอก "อ่านต่อ!"
"หมดแระ...ส่งมาแค่นี้"
เพื่อนทั้งคู่ว่า "เหย ไรอ่ะ"
"น้องเค้าอาจจะเป็นคนสั้นๆ" เป้ว่า
"อะไรสั้นคะพี่เป้"
"หมายถึงชอบพูด ชอบสื่อสารด้วยคำพูดสั้นๆ"
"สั้นๆไม่เป็นไร แต่ขอถี่ๆ" เมธาวลัยบอก
เสียงเตือนข้อความไลน์ดังขึ้นอีก ถี่มากๆๆๆ ติ๊งๆๆๆ ทุกคนมอง อึ้ง
ไแต่พี่ว่า...ก็ถี่ไปนะไ
"ถ้านังลินีอยู่ มันจะต้องบอกว่า เอ๊ะ...แล้วลินีล่ะ ป่านนี้ยังไม่ตื่นมากินอาหารเช้าอีกเหรอ" ปินัทธาว่า
"เออ ลืมมันไปเลยอ่ะ" เมธาวลัยว่า
ทุกคนสงสัยว่า ณัฎฐาลินีหายไปไหน ก่อนจะหมดความสนใจเรื่องเพื่อน หันมาสนใจเรื่องของเมธาวลัยต่อ
"ช่างมันเหอะ สนใจเรื่องของแกดีกว่า เมเปิ้ล"ปินัทธาบอก
"อ่านเร็วๆ อยากฟังสำนวนเด็กจีบสาวแก่" ภัทรวลัยว่า
"เค้าบอกว่า กำลังมาหา อีกห้านาทีเจอกันครับ อีกสี่นาทีห้าสิบวินาทีเจอกันครับ อีกห้านาทีสี่สิบห้าวินาที" เมธาวลัยบอก
"โอย เยอะ!" ทุกคนบอก
วายุบุตรที่นั่งหลับอยู่บนเตียง รู้สึกตัว มองไปข้างตัว ณัฎฐาลินีหายไปแล้ว
"ลินี!"
วายุบุตรรีบลุกขึ้น มองไปที่ห้องน้ำ ประตูเปิดอยู่ วายุบุตรเดินไปมองหาในห้องน้ำ ในห้องน้ำว่างเปล่า วายุบุตรเดินออกมามองไปทั่วห้อง เจอกระดาษเขียนโน้ตแปะไว้ที่กระจก ด้วยสก็อตเทปที่ใช้ปิดปากในตอนแรก
วายุบุตรรีบเข้าไปดึงมาอ่าน
"ขอโทษด้วยนะคุณวายุบุตร"
เวลาเช้า ณัฎฐาลินีกำลังนั่งอยู่บนสปีดโบ้ตที่กำลังมุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่
"ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อคุณและไม่ใช่ว่าฉันจะไม่แคร์ความรู้สึกของคนที่รักฉัน แต่ฉันจำเป็นต้องทำให้มันจบ เมื่อเช้ากุ๊งกิ๊งโทรหาฉัน"
ย้อนหลังกลับไป ณัฎฐาลินียังนอนหลับอยู่ ได้ยินเสียงมือถือสั่นอยู่ที่หัวเตียง สะดุ้งตื่น
รีบคว้ามือถือมาดู เห็นชื่อกุ๊งกิ๊ง.... เธอหันไปดูวายุบุตรซึ่งนั่งหลับอยู่ เธอตัดสินใจรับ รีบเดินออกไปจากห้องอย่างแผ่วเบา วายุบุตรยังหลับไม่รู้ตัวอยู่
เธอออกมาจากห้อง เดินหามุมที่ห่างออกไป พลางคุยมือถือ
"อะไรนะ...นายพิภพหายตัวไป"
เธอร้อนใจอยู่บนเรือ
"ระหว่างทางที่ตำรวจสะกดรอยตามนายพิภพเดินทางมาภูเก็ต จู่ๆมันก็หายไป"
ยามเช้าในอดีต รถของพิภพวิ่งมา เลี้ยวเข้าซอย รถตำรวจนอกเครื่องแบบแล่นตามมาห่างๆ
รถพิภพเลี้ยวต่อเนื่องเข้าซอยมา รถอีกคันหนึ่งจอดเทียบข้างทางอยู่ ที่เปิดประตูทั้งสามบานไว้เรียบร้อยแล้ว รถคันนั้นติดฟิล์มมืดทึบดำสนิท มาร์กนั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งยืนรออยู่
รถของพิภพมาจอดเทียบรถคันนั้น
พิภพ ลงมาจากรถพร้อมสิริมา พิภพดึงสิริมาเข้าไปขึ้นนั่งบนรถอีกคันทางด้านหลัง
เจตต์ลงมาจากที่นั่งคนขับ งงๆ พร้อมช้างซึ่งลงมาจากฝั่งที่นั่งข้างคนขับอีกฝั่ง ช้างดันให้เจตต์ขึ้นไปนั่งข้างมาร์ก แล้วตัวเองก็ขึ้นไปนั่งด้านหลังร่วมกับพิภพและสิริมา
ชายฉกรรจ์ยืนรออยู่เข้าไปแทนที่เจตต์ทันที แล้วขับออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาอัรวดเร็วมาก
รถตำรวจเลี้ยวตามเข้ามาพอดี แล่นผ่านรถที่จอดอยู่ ตามรถคันเดิมของพิภพไป ส่วนรถคันใหม่ที่พิภพขึ้นไปนั่ง กลับรถเลี้ยวออกไปทางเดิม
วายุบุตรเปิดประตูห้องพักออกมาอย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วง ในมือยังถือจดหมายของเธอเอาไว้อยู่ พลางต่อสายหาเธอตลอดเวลา
"หลังจากนั้นไม่นานนัก นายพิภพก็โทร.เข้ามือถือฉัน"
วายุบุตรวิ่งหลุดออกไป
พิภพยืนอยู่ที่ท่าเรือปลอดคนแห่งหนึ่ง เจตต์และสิริมายืนอยู่ด้วยกับช้างและมาร์ก
สิริมาและเจตต์สบตากัน ทั้งสองคนต่างกระวนกระวายใจ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่ตัวเอง
ต่างวางกันเอาไว้
"คุณลินีเหรอครับ"
"โทร.มาแต่เช้าเลยนะคะ เชียงใหม่อากาศดีมั้ยคะ"
"ผมอยู่ภูเก็ตครับ"
"อุ๊ย...ทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนใจล่ะคะ"
"พอดีมีงานด่วนที่นี่น่ะครับ...ผมคิดถึงคุณจัง แต่เราคงจะเจอกันยาก คุณคงไม่สะดวก"
"สำหรับคุณ...สะดวกเสมอค่ะ จะให้ไปเจอที่ไหนล่ะคะ"
พิภพยิ้มกริ่ม
วายุบุตรเร่งฝีเท้าในบริเวณทางเดินในรีสอร์ต โทรศัพท์ต่อหาเธอแต่ไม่ติด
"ฉันรู้ว่าคุณต้องพยายามโทร.หาฉัน ฉันปิดเครื่อง เลิกพยายามเถอะ"
วายุบุตรฉุนที่ติดต่อเธอไม่ได้ ครุ่นคิดหาทาง จะเอาไงดี
"ฉันคือทางออกเดียวที่จะช่วยตำรวจตามไปเจอตัวมันได้ ฉันต้องไป ถ้าฉันเปิดเครื่องเมื่อไหร่ นั่นคือแปลว่าฉันปลอดภัยดี"
วายุบุตรตัดสินใจวิ่งออกไปทางหนึ่ง
เธอเร่งเวลาให้ไปถึงท่าเรือเร็วๆ ระหว่างที่เรือแล่นไป
"ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีอย่างจริงใจของคุณที่มีให้ฉัน ฉันรับรู้มันได้ แต่ฉันคงจะตายตาไม่หลับ ถ้าปล่อยให้คนเลวที่ดูถูกและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างนายพิภพลอยนวลออกไปอยู่ในสังคมอีก...ฉันมาไกลแล้วค่ะ ไกลเกินกว่าจะหยุดมันกลางคัน แล้วเราจะพบกันอีก ฉันสัญญา"
เรือสปีดโบ้ตแล่นห่างออกไปจากเกาะตะวัน
พิภพยืนอยู่ สิริมาเข้ามาต่อว่าพิภพ
"ทำไมต้องลากฉันมาด้วย"
"อ้าว...ไม่อยากเห็นจุดจบของคนที่คุณเกลียดเหรอ"
"ไม่จำเป็น ฉันแค่ฟังข่าวอยู่ที่กรุงเทพก็ได้"
"มันจะไปสะใจอะไร...เริ่มแล้วก็ต้องอยู่ให้เห็นจุดอวสานกับตาตัวเองสิ ทั้งนังลินีและแก"
สิริมากับเจตต์ตกใจ เจตต์พยายามเก็บอาการ
"อะไรนะ"
พิภพเข้าไปจิกผมสิริมา
"คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าแกโกหกฉัน เรื่องสายไอ้วายุบุตร...มันยังอยู่"
สิริมาและเจตต์อึ้ง
"แกยังคิดจะช่วยมันอยู่ เลยปกปิดไม่บอกความจริง"
"ฉันไม่ได้โกหก"
"แล้วตำรวจมันสะกดรอยตามฉันมาถึงภูเก็ตได้ยังไง ถ้าไม่มีหนอนอยู่ข้างใน! ฉันจะเปลี่ยนรถทำไม นังโง่! ถ้าไม่รู้ว่าตำรวจมันตามมา"
เจตต์เริ่มใจคอไม่ดี
"แกไม่บอกก็ไม่เป็นไร...ยังไง ฉันก็จะหาตัวมันจนเจอ ส่วนแกต้องถูกฉันเอาคืน ไหนๆก็หมดความเร้าใจแล้ว แต่ยังพอทำเงินได้"
พิภพพูดกับช้างและมาร์ก
"เฮ้ย!เอามันไปขังไว้แล้วส่งมันไปขายพร้อมอีพวกนั้น!"
ช้างกับมาร์กบอก "ครับ เสี่ย!"
พิภพเสือกตัวสิริมากระเด็นออกไป ช้าง มาร์กเข้าไปล็อกเอาไว้ สิริมากลัวมาก เจตต์เห็นใจแต่จำต้องปิดปาก
"คุณพิภพ ฉันขอโทษ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ นะ! ขอร้อง อย่าทำอย่างนี้กับฉัน"
ช้าง มาร์ก ลากสิริมาไป
"คุณพิภพ ขอร้องล่ะ อย่าทำอย่างนี้กับฉัน คุณพิภพ!"
"เดี๋ยว!"
สิริมา เจตต์แปลกใจ พิภพจะทำอะไรอีก พิภพเดินเข้าไปหาสิริมา
"ตอนนี้...รักตัวเองขึ้นมาแล้วสินะ"
สิริมาได้แต่พยักหน้า
"คิดได้แล้วสินะว่า การรักไอ้วายุบุตรมันมีแต่ทำให้แกเดือดร้อนเสียตัว เสียใจและเป็นทุกข์มากแค่ไหน...ถ้ามันจะตาย ก็ไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย ... แล้วถ้าคราวนี้ตุกติกอีกล่ะ"
"ฉันยอมคุณทุกอย่างแล้ว จะฆ่าจะแกงยังไงก็เชิญ"
"ดี...รู้อะไรมั้ยว่าไอ้วายุบุตรมันตามนังลินีมาเที่ยวด้วย โทร.หามัน! ให้มันตามมาช่วยพวกเธอแต่อย่าให้เรื่องถึงตำรวจ ไม่งั้น...ตายหมู่"
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 13/5 วันที่ 7 พ.ค. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ