อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/2 วันที่ 25 พ.ค. 57
“ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นตัวกาลกิณีอย่างที่เขาว่าจริงๆนั่นแหละ ทั้งคุณชายแจ้ พ่อเธอ แล้วก็คุณกริชต้องมาตายเพราะฉัน ฉันอยากบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พวกเขา แล้วก็จะขอยึดบารมีของพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง”
“คุณพูดเหมือนจะบวชยาวงั้นแหละ”
“ฉันอยากจะบวชตลอดชีวิต”
ปลายฝนตกใจ “ตลอดชีวิตเลยเหรอคะ”
“ก็ตั้งใจว่าอย่างนั้น”
“คุณยายกำลังคิดเรื่องที่คุณวนิจะบวชชีใช่ไหมคะ”
คุณยายวรางค์หันมามองหนุงหนิง
“แอบฟังอีกแล้วเหรอเนี่ย”
“ค่ะ เห็นคนคุยกันแล้วอดไม่ได้ ชอบแอบฟัง เวลาได้แอบฟังแล้วมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”
คุณยายวรางค์ ถอนหายใจ
“เอาเถอะ ถ้ามันเป็นนิสัยถาวรแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ ใช่ กำลังคิดเรื่องนี้อยู่”
“เสียดายนะคะ”
“ใช่ เสียดาย”
“หน้าเป๊ะอย่างงั้น หาผัวได้อีกเป็นร้อยคน”
คุณยายวรางค์มองค้อน
“ไม่ใช่ย่ะ ฉันหมายถึงเสียดายชีวิตของเขา เขาน่าจะมีชีวิตที่มีความสุขกว่านี้ จะมีทางไหนช่วยเขาได้บ้างนะ”
ปลายฝนกำลังนั่งกินไอติมกับป๋อง ในขณะที่ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ นั่งกันเป็นคู่ๆ จู๋จี๋กัน
“เดี๋ยวอยากกินอะไรอีกบอกเลยนะ วันนี้ฉันเลี้ยงขอบคุณที่นายช่วยฉันไว้วันนั้น”
ป๋องยิ้มให้ปลายฝน “ก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก”
“อ้ะ นี่คือคำขอบคุณของฉัน”
ปลายฝนยื่นถุงกระดาษผูกโบน่ารัก ป๋องรับมาดู แอบตื่นเต้น
“แกะดูสิ”
“แค่ถุงกับโบก็สวยแล้ว”
ปลายฝนหัวเราะ “แกะดูเลย”
ป๋องค่อยๆ แกะปากถุงที่แปะสก็อตเทป กับโบอย่างบรรจง พลางเปิดถุงออก แล้วหยิบหมวกไหมพรม ที่อยู่ข้างในออกมา
“ชอบมั้ย”
“ชอบมากครับ”
ป๋องหยิบมาสวม ปลายฝนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ป๋องยิ้มแล้วยักคิ้ว ปลายฝนหัวเราะ ถ่ายรูปเสร็จก็ยื่นให้ดู
“โห หมวกอะไรเนี่ย ใส่แล้วหล่อขึ้นทันตาเห็น ขอบคุณมากนะ ซื้อมาจากไหนเนี่ย”
“ไม่ได้ซื้อมาหรอก ฉันถักเอง”
ป๋องที่นั่งยิ้มอยู่ ถึงกับชะงัก ด้วยความคาดไม่ถึง
“ธะ เธอถักเองเลยเหรอ”
ปลายฝน พยักหน้า “ก็ใช่นะซิ”
ป๋องน้ำตาซึม “ปลายฝน ฉันจะเก็บรักษามันไว้อย่างดีที่สุด จะดูแลมันด้วยชีวิตของฉัน”
“เว่อร์”
“พูดจริง”
ป๋องกอดหมวกไว้แนบอก
“ปลายฝน ฉันมีเรื่องอยากบอกเธอ ตอนแรกฉันก็ลังเล แต่ตอนนี้ฉันกล้าบอกแล้ว”
“ว่า”
“ฉัน ฉันชอบเธอน่ะ”
ปลายฝนอึ้งไป ป๋องพูดย้ำ
“ฉันชอบเธอ เธอว่าไง”
“ฉัน ขอโทษนะป๋อง ฉันมีคนที่ชอบแล้ว”
ป๋องอ้าปากค้าง หน้าซีด เหมือนโดนฟ้าผ่ากลางใจ
“ว้า ฉันขอโทษ ฉันไม่น่าให้หมวกเธอเลย ฉันอยากทำสิ่งดีๆให้เธอ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าเธอจะเข้าใจผิด แต่เห็นเธอเป็นนักสืบ เธอน่าจะรู้ว่าฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอ”
ป๋อง ส่ายหน้า
“ไม่รู้ ฉันเป็นนักสืบที่ห่วยแตก แล้วฉันก็ไม่เคย แล้วก็ไม่คิดจะสืบเรื่องของเธอด้วย”
ปลายฝน ก้มหน้า “ขอโทษนะ”
“ไม่ต้องขอโทษ ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ฉันไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องซีเรียส”
ป๋องฝืนหัวเราะ
ป๋องกลับมาถึงบ้าน ก็เอาแต่นอนกอดหมวกไหมพรม แล้วร้องห่มร้องไห้ โจที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับโหร,การทำนายดวงชะตาราศี, การดูลายมือ อยู่ที่โต๊ะทำงาน ถึงกับทนไม่ได้
“เฮ้ย หนวกหูโว้ย ฉันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย”
“ขอโทษครับ ผมไม่ตั้งใจ มันหยุดไม่ได้ พี่ทำงานไปเถอะครับ อย่าสนใจผมเลย”
ป๋องพูดไป สะอึกสะอื้นไป
“ฉันจะทำงานยังไง มีแกมานั่งเป็นมอญร้องไห้อยู่แบบนี้น่ะ”
“พี่ทนเอาหน่อยเหอะ สภาพแบบนี้ผมไม่กล้ากลับบ้าน พี่เอาทิชชู่ชุบน้ำอุดหูไปก่อนครับ” โจถอนใจ “น่าสงสารก็น่าสงสาร น่าถีบก็น่าถีบ”
โจหยิบหนังสือ ที่อ่านค้างไว้มาอ่านต่อที่ระเบียง
“ทารกแรกเกิดนั้นเป็นธาตุบริสุทธิ์ ปัจจัยภายนอกเพียงเล็กน้อยที่มากระทบ ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรงและถาวร คลื่นรังสีจากดวงดาวต่างๆ บนฟากฟ้าก็เช่นกัน แต่ละดวงล้วนมีผลทั้งในทางดีและร้าย โดยเฉพาะตอนที่เราออกจากครรภ์มารดาสู่โลก มันจะมีอิทธิพลต่อชีวิตของเราไปจนตาย”
โจละสายตาจากหน้าหนังสือ พลางดูเหล่าดวงดาวบนฟากฟ้า
โจนั่งจิบกาแฟรออยู่ที่โต๊ะใต้ร่มไม้ในวังวาสุวงศ์ พลางมองไปที่ศาลาในสวน เห็นวนิษากำลังคุยกับหม่อมจันจิรา
“เรื่องที่เธอจะบวชเนี่ย ฉันจะบอกว่าไม่เห็นด้วยก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะถึงยังไง มันก็เป็นเรื่องบุญเรื่องกุศล แล้วฉันก็เชื่อว่าเธอคงไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใช่ไหม”
วนิษา ยิ้มให้หม่อมจันจิรา
“ค่ะ อะไรที่วนิเคยล่วงเกินหม่อมแม่ วนิขออโหสิกรรมด้วยนะคะ”
“ตามประเพณีก็ต้องว่าอย่างนั้น ว่าฉันให้อโหสิกรรมเธอ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่เคยล่วงเกินอะไรฉันเลย วนิษา เธอดีกับฉันเหมือนลูกแท้ๆ ของฉัน ฉันขออวยพรให้เธอพบความสงบสุข ร่มเย็นจาพระพุทธศาสนา อย่าให้มีอุปสรรคหรือความทุกข์ยากใดๆมาแผ้วพานเธอเลย”
วนิษากราบที่ตักหม่อมจันจิรา
“ขอบพระคุณหม่อมแม่มากค่ะ”
หม่อมจันจิราลูบศีรษะวนิษาด้วยรักและสงสาร ในขณะที่ ม.ร.ว. จันทร์ธิดากับพจน์ ยืนแอบฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง
“นี่ คุณพจน์ ถ้ายัยวนิษาบวชแล้ว ทรัพย์สมบัติของยัยนั่นจะตกเป็นของใครคะ”
“ก็ยังเป็นของเขาอยู่น่ะสิ”
“อ้าว เป็นแม่ชีมีเงินได้ด้วยเหรอ” คุณหญิงจุ๋ม แปลกใจ
“ได้สิ เขาไม่ได้ห้ามนี่”
“งั้นพอมันบวชแล้ว เราต้องช่วยกันบิ๊วให้มันคืนเงินชายแจ้มา”
พจน์ยิ้ม พลางพึมพำกับตัวเอง
“เออใช่ แบบนี้ง่ายกว่าตั้งแยะ”
“ง่ายกว่าอะไรคะ”
พจน์ส่ายหน้า แล้วรีบตอบกลบเกลื่อน
“เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไร ฉันเห็นด้วยว่าเราต้องหาทางพูดให้วนิษาคืนเงินของชายแจ้มา ท่าทางเขาก็ดูปลงๆอยู่ น่าจะยอมคืนเงินให้เราได้ไม่ยาก”
“ขอให้มันจริงเหอะ ไม่ใช่จะบวชแล้วยังงกเงินอยู่”
โจนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ริมห้องในบ่อน ขณะที่วนิษาคุยกับปฐม
“หลังจากฉันบวชแล้ว เรื่องทางบ่อนคงต้องขอให้คุณปฐมช่วยดูแล”
“ตั่วเจ๊ครับ ผมอยากให้ตั่วเจ๊ทบทวนเรื่องบวชอีกที คิดถึงพี่น้องเราด้วย ผมรู้ตัวว่าผมไม่มีบารมีพอจะดูแลเรื่องธุรกิจของตั่วเฮียได้หรอกครับ”
“ฉันเชื่อว่าคุณปฐมทำได้ค่ะ”
ปฐมแอบมองวนิษา แอบครุ่นคิดบางอย่าง ในขณะที่โจแอบมองท่าทีของปฐมอย่างไม่วางตา
โจมานั่งกินข้าวกับวนิษา ที่ร้านริมทาง
“มื้อนี้ผมขอเลี้ยงคุณแล้วกัน”
“เนื่องในโอกาสอะไร” วนิษายังงงๆ อยู่
“เรื่องที่คุณจะบวชยังไง”
“ขอบใจ เลี้ยงข้าวแบบนี้แปลว่านายเห็นด้วยใช่ไหม ที่ฉันจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับสามีทั้งสามเนี่ย”
“ถ้าใจคุณอยากบวช ก็บวชไปเถอะครับ”
วนิษา หน้าสลด
“ฉันก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วฉันอยากบวชจริงๆหรือเปล่า หรือฉันแค่รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้พวกเขามีอันเป็นไป พวกเขาทั้งสามคนดีกับฉันมาก”
“อะไรทำให้คุณรู้สึกผิด”
โจถาม พลางมองตาวนิษา “คุณฆ่าพวกเขาเหรอ”
“ถึงไม่ใช่ก็เหมือนใช่ ฉันมันเป็นผู้หญิงกาลกิณี มีดวงกินผัว ถ้าพวกเขาไม่ได้แต่งงานกับฉัน พวกเขาคงไม่ตายหรอก”
โจเงียบไป
“เมื่อก่อนเวลาพูดเรื่องนี้นายจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่มีจริง แต่ทำไมวันนี้เงียบไป นายเริ่มเชื่อแล้วใช่ไหม”
อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/2 วันที่ 25 พ.ค. 57
ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพลละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ