อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 8/3 วันที่ 25 พ.ค. 57
“เอ๊า! ก็จริงป่ะล่ะ ผู้หญิงอย่างเรา เรื่องอะไรจะมาทำให้จิ๊ดใจได้เท่ากับเรื่องผู้ชาย เฮ้อ!จนป่านนี้เพื่อนยังไม่โป๊ะเช๊ะกับใครซักคน ส่วนตะวันน่ะ เพื่อนไม่ห่วงแล้ว..คุณนาคินทร์น่ะโป๊ะเช๊ะที่สุด!!”ปานตะวันอึ้ง
“นินทาอะไรผมอยู่ครับ” สองคนหันขวับเห็นนาคินทร์ยืนอยู่ ปานตะวันสะดุ้ง
“โห..ใครจะกล้านินทาคะ สุดหล่อและแสนดีอย่างคุณนาคินทร์มีแต่จะต้องสรรเสริญซิคะ..จริงมั้ย ตะวัน”
นาคินทร์พูดกับพราวพรรณราย “สงสัยผมคงจะไม่ใช่ผู้ชายแสนดีอย่างที่คุณพิงค์คิดซะแล้ว”
ปานตะวันมอง นาคินทร์ยิ้มให้ประมาณ..จริงมั้ย?!
“โห่..ถ้าอย่างคุณนาคินทร์ไม่แสนดี ผู้ชายในโลกนี้ก็คงจะห่วยกันหมดล่ะค่ะ ฮิฮิ..จริงมั้ยตะวัน?”
ปานตะวันอึดอัด ถามจั๊ง?? นาคินทร์มองปานตะวัน ยิ้ม ๆ “คุณพิงค์นี่น่ารักมากนะครับ สมกับเป็นเพื่อนคุณตะวัน”
พราวพรรณรายตาโต “โห..อวยกันอย่างนี้พิงค์ก็เขินแย่สิคะคุณนาคินทร์”
“ไม่ได้อวยครับ ผมพูดเรื่องจริง”
“งั้นพิงค์ก็พูดจริงค่ะ..คุณนาคินทร์น่ารักมากจริง ๆ”
นาคินทร์เลิกคิ้ว มองปานตะวัน “น่ารัก ไม่รู้จะรักรึเปล่า”
ปานตะวันอึ้ง อะไรอีกเนี่ย?
“โอย ๆๆ..คนเค้าจะจีบกันแล้วจ้าาาาาา!! เราควรจะกลับบ้านดีกว่ามั้ยจ๊าาาาา??”
ปานตะวันเสียงดุ รีบดึงไว้ “พิงค์!!! พูดอะไร??? ยังไม่ให้กลับ!!!”
นาคินทร์ยิ้มๆ “อยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนสิครับ”
“ไม่ดีมั๊งค้าาาา ไม่อยากจะอยู่เป็น กขค. แค่ก ๆๆ.. เห็นมั้ยคะ..ติดคอขึ้นมาทันทีเลย ถ้าอยู่ต่อสงสัยจะไม่ดี งั้นพิงค์กลับก่อนนะคะคุณนาคินทร์”
พราวพรรณรายพูดกับปานตะวัน “กินข้าวเย็นให้อร่อยนะจ๊ะเพื่อน--บ๊ายบาย ไปละ..สวัสดีค่ะ”
“พิงค์ ๆๆๆ..ยัยพิงค์!!!” ปานตะวันถอนใจเฮือก หันมาเจอะนาคินทร์มองอยู่ก็จะเดินออก
นาคินทร์คว้าข้อมือไว้ “จะไปไหน?? ผมยังยืนอยู่นี่”
“ก็เชิญคุณยืนไปสิคะ เกี่ยวอะไรกับฉัน”
นาคินทร์ดึงตัวมาโอบไว้เลย “เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยว”
“ปล่อยฉันนะคุณนาคินทร์”
“ไม่ปล่อย..ผมมันน่ารังเกียจอะไรนักหนาไม่ได้ยินเพื่อนคุณบอกเหรอว่าผมเป็นผู้ชายที่แสนดีขนาดไหน”
ปานตะวันมองหน้า “แสนดี?”
“ทำไม? สงสัย? ไม่เชื่อ? อยากพิสูจน์มั้ยล่ะ?”
นาคินทร์ก้มหน้าเข้าหาเหมือนจะจูบ ปานตะวันตกใจมาก ใบตองโผล่เข้ามาซะก่อน เห็นภาพตรงหน้า
“อาหารเย็นพร้อมแล้ว...ว๊าย!! อกใบตองจะแตก!!”
สองคนหันขวับ ใบตองปิดตา โบกไม้โบกมือ “มะ..มะ..มะ..ไม่เห็นค่ะไม่เห็น ใบตองไม่เห็น แค่จะมาบอกว่า อะ..อะ..อาหารเย็นไม่ต้องกินแล้ว เอ๊ย! อาหารเย็นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ!”
ใบตองพูดจบก็วิ่งจู๊ดออกไปเลย ปานตะวันถือโอกาสผลักนาคินทร์ออกแล้ววิ่งหนีตามไปด้วย นาคินทร์ยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า
มุมหนึ่งบ้านไกรตระกูล พราวพรรณรายเดินมาเจออัครินทร์กำลังหยิบจับว่านห่างจระเข้ ดอกอัญชัน ฯลฯ ในกระถางอยู่ก็ชะงัก แล้วตัดสินใจจะเปลี่ยนเส้นทาง
“ถ้าจะกลับบ้านก็ต้องออกทางนี้ทางเดียวล่ะครับ” พราวพรรณรายชะงัก ไงดีวะ?! “หรือไม่อยากกลับ? ติดใจอยากอยู่บ้านเดียวกับผม?”
“อยากตายล่ะ!!”
อัครินทร์ขำๆ ถามดีๆ “ทำไมรีบกลับล่ะครับ ไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อน”
“ก็อยากอยู่หรอก แต่กลัวจะเป็น กขค. ตะวันกับคุณนาคินทร์เค้าน่ะสิ”
อัครินทร์อึ้งไปนิดนึง
พราวพรรณรายกวนเลย “นี่ถ้าเป็นไปได้นะ ฉันอยากจะจับคุณตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ว่าคุณกับคุณนาคินทร์เป็นพี่น้องกันจริงรึเปล่า เพราะคุณนาคินทร์เค้าแสนจะสุภาพบุรุษเรียบร้อยไม่เหมือนคุณ”
“ยังไง? ไม่เหมือนยังไง?”
“ก็” พราวพรรณรายนึกแล้วชักกลัวโดนจูบ
“คุณนี่ก็แปลกนะ ไอ้ตอนผมสุภาพเรียบร้อย คุณก็หาว่าผมเป็นเกย์ แต่พอโดนผมจูบก็โกรธผมอีก”
ใบตองผ่านมาได้ยิน ‘จูบ’ ก็สะดุ้งโหยง
พราวพรรณรายสะดุ้ง เอามือแตะปาก แล้วแว๊ด “อยู่ ๆ โดนจูบอย่างนี้ไม่โกรธก็บ้าแล้วย่ะ”
ใบตองแน่นอก จะเป็นลม
“อ้าว! นึกว่าชอบ”
“หึ้ยย์ย์ !!!”
อัครินทร์ขำ ๆ “วันหลังก็อย่าเที่ยวไปสงสัยว่าใครเค้าเกย์ ไม่เกย์อีกล่ะ--เดี๋ยวจะโดนอีก!!”
อัครินทร์พูดจบก็เดินออก ปล่อยให้พราวพรรณรายโกรธฮึดฮัดแล้วเดินออกไป
ใบตองซุ่มอยู่ “แร้งงงง!! แซบบบบ!! ยิ่งกว่าในละครซะอีกใบตองเอ๋ยยย พี่ก็จูบบบบ น้องก็จูบบบ แอร๊ยยยย!!!”
ร้านอาหารริมถนน ข้าวผัดวางตรงหน้าประกายเดือนๆนั่งมองจานข้าวแล้วนึกถึงเมื่อครั้งอยู่กัน 2 คนพี่น้อง ทำกับข้าว นอนคุยกัน ฯลฯ
ประกายเดือนถอนใจเฮือก เหงา ๆ คิดถึงพี่ นัครินทร์ขับรถมาเพลิน ๆ มองเห็นประกายเดือนนั่งอยู่ก็จอดรถเทียบแล้วลงมาทันที
ประกายเดือนกำลังบ่นอุบ “โอย..จะกินข้าวอร่อยมั้ยเนี่ย??”
นัครินทร์เดินมานั่งร่วมโต๊ะ มองไปที่คนขาย “อ้าว!! ไหนบอกจะไปบ้านเพื่อนไงฮะ เพื่อนขายข้าวผัดเหรอฮะ”
ประกายเดือนขำประชด “ฮิ ๆๆ ฮ่า ๆๆๆ ตลก!!”
“เอ๊า!! ตลกก็ยังดีกว่าคนโกหก ไม่อยากไปทานข้าวกับผมก็ควรจะบอกตรง ๆ ไม่เห็นต้องโกหกว่าจะไปบ้านเพื่อน”
“หืมม์..ทำยังกะพูดตรงนักนี่ กะล่อนยังกะอะไรดี”
“คุณว่าใครกะล่อนฮะ”
“เก๊าะ..ว่าไปเรื่อยอ่ะค่ะ ใครอยากรับก็รับไป”
“อ้าวเฮ๊ย! มีงี้ด้วยแฮะ?!!”
“อ้อ! ดิฉันไม่ได้โกหกท่านรองฯนะคะ ดิฉันตั้งใจจะไปหาตะวันจริง ๆ”
“ใครฮะ..ตะวัน?! กิ๊กอีกล่ะสิ??”
“กิ๊กที่ไหนล่ะคะ..พี่สาวดิฉันเอง เอ๊ะ! นี่ท่านรองฯ ไม่รู้จักตะวันเหรอคะ?”
“ไม่รู้..ทำไมผมจะต้องรู้ด้วยล่ะ”
“ อ้าว..ก็”
มือถือนัครินทร์ดังขึ้น นัครินทร์ทำมือให้ประกายเดือนหยุดพูดก่อน “โอเค.ฮะ ทราบแล้วฮะ..ใจเย็นฮะแม่..อ่ะ! เดี๋ยวนี้ก็เดี๋ยวนี้ฮะ แค่นี้นะฮะ”
นัครินทร์วางหูพูดกับประกายเดือน “ผมต้องไปก่อน”
นัครินทร์ลุกขึ้น ชะงักหันมาสั่ง “จำไว้นะ เป็นเลขาฯท่านรองฯนัครินทร์ต้องไม่มานั่งกินข้าวริมถนน ต่อไปต้องไปกินข้าวกับผม แหม!! เสียชื่อท่านรองฯหมด”
ประกายเดือนมองตามนัครินทร์ออกรถไป “จะบ้ารึเปล่า?? เป็นเลขาฯ ท่านรองฯ แล้วไงยะ?? แหวะ!” ประกายเดือนตักข้าวเคี้ยว ๆ กิน “อร่อยจะตาย..เชอะ!!”
ในห้องนั่งเล่นบ้านไกรตระกูล สาวิตรีทิ้งตัวลงนั่งงอน ๆ
“เห็นมั้ย..จนป่านนี้ตานัคก็ยังไม่ยอมโผล่มา ไหนบอกแม่ว่าจะมาเดี๋ยวนี้ ๆ ดูซิ..ขนมเค้กสูตรใหม่ล่าสุดของแม่เซ็งแย่แล้ว”
“เอาน่า..มันคงจะรถติดอยู่ที่ไหนล่ะน่า”
“ติดอยู่บ้านผู้หญิงน่ะสิ”
“มา..เดี๋ยวผมชิมก่อนเลยนะครับ หน้าตาน่ากินมาก อดใจไม่ไหว”
สาวิตรีอารมณ์ดีขึ้น “แหม..ลูกหมอของแม่น่ารักที่สุดมาจ๊ะ..แม่ป้อน”
สาวิตรีตัดเค้กป้อนอัครินทร์ นัครินทร์โผล่มาแซวพอดี “โห..ไอ้ลูกแหง่ให้แม่ป้อนข้าวอีกแล้ว”
“ไม่ต้องเลยตานัค มาช้าแล้วยังจะปากดี แล้วนี่ก็ขนมเค้กย่ะ..ไม่ใช่ข้าว อ้อ! ขนมเค้กสูตรใหม่อร่อยด้วยย่ะ”
“โชคดีที่มาช้า” นัครินทร์ก้มลงพูดใกล้ ๆ น้อง “ไอ้หมอชิมไป..พี่รอดตัว!!”
“อะไรนะ..ว่าอะไรนะ??”
“เปล่าฮะ..ไม่ได้ว่าอะไรฮะ..อ้าว! ไหนแม่ชวนมากินข้าวไง ไหนล่ะฮะข้าว”
“มาช้าซะขนาดนี้ใครเค้าจะรอ เค้าทานกันอิ่มแล้ว”
“โห!! หิวจนไส้จะขาด”
“งั้นใบตองตั้งโต๊ะให้นะคะ”
“ดีมาก”
“ไม่ต้องย่ะ!! แกต้องนั่งดูละครกับชั้น วันนี้ตอนอวสานซะด้วย”
ใบตองคันปากมาก “หูย!! นอกจอแซ่บกว่าเยอะค่ะคุณผู้หญิง”
“แกว่าไงนะ?”
ใบตองเห็นทุกคน โดยเฉพาะอัครินทร์มองก็มั่ว “เอ่อ..ปะเปล่าค่ะ ใบตองว่าจะหาอะไรแซ่บ ๆ ให้คุณนัคทานนะค่ะ”
“ไม่ต้อง!! ให้ตานัคมันไปหากินเอาเองในครัว อยากมาช้าสมน้ำหน้า!!”
“โห!! แม่โหดอ่ะ”
“ใครโหดกันแน่ ลูกอะไรทิ้งแม่ ไม่มาหาแม่เป็นเดือน..ใจดำ!!”
“แหม..ก็งานมันยุ่งอีรุงตุงนัง”
“ถ้าจะยุ่งขนาดนั้น คงไม่ใช่งานแระ..สงสัยจะผู้หญิงมากกว่า”
“ขอบใจยัยนารถ ปากว่างก็กินขนมเค้กดีกว่านะ”
นัครินทร์หยิบขนมเค้กใส่ปากน้องอย่างแกล้ง นารถนรินทร์โวยวาย นัครินทร์ชอบใจ “ฮ่า ๆ ไปละ..ไปหาอะไรกินดีกว่า”
นัครินทร์วิ่งจู๊ดไป สาวิตรีบ่นว่านัครินทร์ นารถนรินทร์โวยวาย อัครินทร์ขำ
ในครัว ปานตะวันกำลังเทไข่เจียวลงกะทะฟู่ สักพักนัครินทร์เดินเข้ามาชะงัก “ใครวะ?!!”
นัครินทร์มองปานตะวันที่หันหลังอยู่หัวจรดเท้า นัครินทร์ตาวาว เบาๆ “เฮ๊ย..หุ่นเซียะโคตรๆ”
นัครินทร์ตาวาว ตื่นเต้น ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหาปานตะวัน ทันใดนั้นปานตะวันหันหน้ากลับมาป๊ะเข้าก็ตกใจร้องวี๊ดลั่นพร้อมตวัดไข่เจียวในกะทะกระเด็นไปโปะหน้านัครินทร์เข้าเต็ม ๆ ไข่เจียวค่อย ๆ ไหลตกลงเหลือแต่หน้า นัครินทร์ ปานตะวันตกใจมาก
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 8/3 วันที่ 25 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ