@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13/4 วันที่ 1 มิ.ย. 57

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13/4 วันที่ 1 มิ.ย. 57

“บอกได้เลยว่าของปลอม เจ้าของดวงนี้มักจะเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ คนธรรมดาเป็นไม่ได้หรอก”
จากนั้นโจก็พาป๋องมาวัด ที่เคยเกิดอุบัติเหตุกับภาคย์ แต่วันนี้กลับไม่มีคนมาทำงานอยู่เลย บังเอิญพระรูปหนึ่งเดินสวนมา โจเข้าไปหา พลางยกมือไหว้

“หลวงพี่ครับ ทำไมวันนี้ไม่มีช่างมาก่อสร้างศาลาเลยล่ะครับ”
“อ๋อ ผู้รับเหมาเขารับเงินแล้วก็ทิ้งงานไปเป็นปีแล้ว นี่ทางวัดก็กำลังจะหาผู้รับเหมาใหม่อยู่ แต่ยังหาไม่ได้ ก็เลยต้องปล่อยแบบนี้ไปก่อน”
“อ้าว วันก่อนผมเห็นมีคนงานมาก่อสร้างนี่ครับ”


หลวงพี่งงไปครู่ แล้วก็นึกออก
“อ๋อ มีผู้รับเหมาจะมารับงาน เขาบอกจะขอดูงานก่อนว่าเป็นไงบ้าง เขาก็พาคนงานมาตั้งนั่งร้านอะไรวุ่นวาย ทำโน่นทำนี่ได้แค่วันเดียวก็ไปเลย”
หลวงพี่เดินจากไป โจเดินกลับมาที่ที่เกิดอุบัติเหตุ พลางสำรวจอย่างละเอียด แล้วก็เห็นมีกากบาทแดงเล็กๆ สองอันบนพื้น พลางมองย้อนกลับไปที่จุดที่เคยมีนั่งร้าน
โจมองเห็นภาพตอนที่ภาคย์เดินเล็งหามุมจะถ่ายรูป แต่ความจริงกำลังขยับตัวเองมาที่กากบาทสีแดงอันแรก คนงานคนหนึ่งที่แอบอยู่ เห็นภาคย์อยู่ในมาร์กกากบาทสีแดง แล้วก็แอบดึงเชือกคลายปมที่มัดนั่งร้านไว้นั่งร้านล้มโครม โดยที่ภาคย์ปลอดภัย แล้วก็เดินออกไปหยุดที่ตำแหน่งกากบาทอันที่สอง คนงานจึงค่อยๆ ดึงเชือกคลายปมที่สอง นั่งร้านล้มโครมอีกครั้ง
ป๋องเดินตามมา มองกากบาทสีแดงด้วยความสงสัย

“กากบาทที่พื้นนี่คืออะไรเหรอพี่”
“ตรงนี้เป็นจุดที่ภาคย์อยู่ตอนแรก แปลว่ามีการคำนวนไว้แล้วว่าตรงนี้เป็นจุดปลอดภัยจุดที่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินมาหยุดจุดที่สอง แล้วค่อยปล่อยนั่งร้านให้ล้มลงมาอีกชุด”
“แปลว่างานนี้พี่โดนต้มซะสนิทเลยอะดิ”
โจถอนใจ หงุดหงิดตัวเอง ป๋องพูดต่อ
“แต่เซ็ตกันขนาดนี้ ผมว่ามันแพงแน่ๆ ทำไมต้องลงทุนขนาดนี้ เพื่อให้พี่เชื่อว่ามันเป็นดวงปรมะ”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน คนที่มันต้องการให้เชื่อจริงๆคือคุณวนิ”
โจชักกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มือถือดังขึ้น โจรีบกดรับสาย
“หวัดดีครับ”
“ฮาโหล ผมช่างซ่อมรถนะครับพี่ เจอจุดที่เสียแล้วครับ ซ่อมวันเดียวก็เสร็จ แต่จะบอกพี่ว่าพี่โดนแกล้งนะครับ”
“หมายความว่ายังไงครับ” โจแปลกใจ
“มันไม่ได้เสียเองครับ ฝีมือคนแน่ๆครับ พี่ไปทะเลาะกับใครมารึเปล่า”
“ไม่มี แน่ใจเหรอว่าคนทำ” โจถามย้ำ
“แน่ใจครับ”
โจวางสาย พลางพูดกับตัวเอง
“ ฝีมือใครวะ ใครจะอยากแกล้งเราไปเพื่ออะไรวะ”
โจขมวดคิ้ว พลางมองไปที่กากบาทบนพื้น แล้วก็ฉุกใจคิดขึ้นมาได้
“หรือว่าคุณวนิ”

ขณะเดียวกับที่วนิษากำลังนั่งคุยกับผู้จัดการรีสอร์ตในห้องประชุม
“คุณวิโรจน์คะ เท่าที่ฉันดูทั้งเรื่องการดูแลสถานที่ บุคลากร และเรื่องบัญชี ต้องขอชมว่าคุณวิโรจน์ทำงานได้ดีมาก สมกับที่คุณกริชไว้วางใจให้คุณดูแลที่นี่”
“ขอบคุณครับ”
“ในเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางไปได้ดีอยู่แล้ว ฉันก็คงไม่ต้องทำอะไรมาก คุณวิโรจน์บอกพนักงานได้เลยค่ะว่าที่นี่จะดำเนินงานต่อไป จะยังไม่มีการขายกิจการให้คนอื่น ทุกคนยังได้ทำงานที่นี่ ผลประโยชน์ สวัสดิการทุกอย่าง ยังเหมือนเดิม”
ผู้จัดการยิ้มกว้าง “ครับผม ทุกคนคงดีใจที่ได้ยินแบบนี้”

วนิษากำลังจะเดินไปที่รถ พลางเหลือบเห็นชายคนหนึ่งกำลังถ่ายรูปดอกไม้
“คุณภาคย์”
ภาคย์หันมา เห็นวนิษา ก็แกล้งปั้นหน้าแปลกใจและดีใจ
“คุณวนิษา มาเที่ยวที่นี่เหรอครับ”
“เปล่าค่ะ มาทำงานค่ะ คุณภาคย์ล่ะคะ”
“ก็อย่างที่เห็นครับ เวลาว่างๆผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์ออกต่างจังหวัด เจออากาศบริสุทธิ์ ถ่ายรูปเล่นบ้าง แต่งเพลงบ้าง แวะคุยกับชาวบ้านไปเรื่อยๆน่ะครับ”
วนิษายิ้ม “ดูชีวิตมีความสุขดีจังนะคะ”
“คนโสดก็อย่างนี้แหละครับ แต่จริงๆแล้วผมอิจฉาคนที่มีครอบครัวมากกว่านะครับ ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขใช้ชีวิตกับคนที่เรารักและรักเรา ความสุขที่แท้จริงของคนเราก็คือการมีครอบครัวที่อบอุ่นครับ”
วนิษามองภาคย์อย่างชื่นชม
“แล้วคืนนี้คุณภาคย์จะพักที่ไหนเหรอคะ”
“ว่าจะขับไปเรื่อยๆนะครับ ผมก็ยังไม่ได้แพลนอะไรเลย”
“ถ้ายังงั้นพักที่นี่ก็ได้นะคะ เดี๋ยวเปิดห้องพิเศษให้พักฟรีเลย สนใจมั้ยคะ”
วนิษาเสนอ ภาคย์แกล้งออกตัวปฏิเสธ
“ขอบคุณครับแต่ไม่เอาดีกว่า ผมไปของผมเรื่อยๆดีกว่าครับ กำลังสนุกยังไม่อยากหยุดพัก”
“ถ้าเปลี่ยนใจก็เชิญเลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะบอกผู้จัดการให้”
“แหม คุณวนิษานี่ใจดีจังนะครับ งั้นเอางี้ดีกว่าเดี๋ยวผมพาคุณวนิษาไปหาอะไรกินร้านอร่อยๆ แถวนี้ ดีไหมครับ แถวนี้ผมมาบ่อย ร้านอร่อยอยู่ตรงไหนผมรู้หมด”
“แหม พูดซะขนาดนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
“งั้นตามมาเลยครับ”

ภาคย์เดินไปขึ้นบิ๊กไบ๊ค์ขี่ออกไป วนิษาขับรถตามออกไป
ทางด้านโจ ก็ขับรถด้วยความเร่งรีบ จนป๋องที่นั่งข้างๆ อดที่จะหันมาถามไม่ได้

“พี่จะขับไปหาเขาทำไมเนี่ย ทำไมไม่รอเขากลับมาก่อนล่ะครับ”
“มันลงมือ ทำให้รถเสียเพื่อกันฉันออกมา แปลว่าวันนี้มันต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ”
“งั้นพี่ก็โทรไปเตือนคุณวนิษาก่อนสิครับ”
โจถอนหายใจ “เตือนได้ยังไง ในเมื่อเราไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง เรื่องดวงปรมะ มันก็บอกว่าคนอื่นบอกมัน มันก็แค่เล่าให้ฟัง ไม่เกี่ยวกับตัวมัน เรื่องอุบัติเหตุนั่นก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นการจัดฉาก แค่รอยกากบาทบนพื้น มัดตัวมันไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องรถยิ่งแล้วใหญ่ ฝีมือใครก็ไม่รู้”

“ผมเป็นลูกน้องคุณวนิษาน่ะครับ โทร. นัดไว้แล้วว่าจะเอาเอกสารมาให้เซ็น แต่ผมมาช้าไป”
โจรีบแนะนำตัวกับผู้จัดการรีสอร์ต
“คุณวนิษาเธอออกไปซักชั่วโมงนึงแล้วครับ”
“บอกหรือเปล่าครับว่าจะกลับกรุงเทพ”
“เปล่าครับ พอดีเธอเจอเพื่อน เลยจะไปทานข้าวด้วยกันก่อน”
“เพื่อน? บังเอิญจังนะครับ” โจแอบประชด
“ครับ เห็นว่าเป็นช่างภาพน่ะ รู้สึกเพื่อนเธอจะชื่อภาคย์หรือไงเนี่ยแหละครับ”
โจยิ้มเล็กน้อย “ภาคย์”

ในขณะที่ภาคย์ก็พาวนิษา มานั่งทานอาหารที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง
“รีสอร์ตนี่อาจจะไม่หรูเท่าของคุณกริช แต่เรื่องพ่อครัว ผมกล้าท้าชนเลย”
“ถ้ามีฝีมือจริง เดี๋ยวฉันซื้อตัวไปอยู่ที่รีสอร์ตของฉันซะเลย”
ภาคย์หัวเราะ พร้อมๆกับที่เด็กเสิร์ฟยกอาหารมาเสิร์ฟ
“แหม แค่ได้กลิ่นก็สงสัยจะอร่อยจริงๆด้วยค่ะ”
ภาคย์ยิ้มรับ “บรรยากาศก็ดีด้วยครับ มีดอกไม่แปลกๆหายาก เห็นกล้วยไม้นั่นไหมครับ
หายากมากนะครับ”
วนิษาหันไปดูกล้วยไม้ ระหว่างนั้นภาคย์รีบหยิบไซรินจ์ยาขนาด 3 ซีซีออกมาจากกระเป๋า ข้างในมีของเหลวใสเตรียมอยู่แล้ว พลางฉีดของเหลวใสใส่แก้วน้ำดื่มของวนิษา ปากก็ชวนคุยไปด้วย
“ผมเคยเห็นแต่ในป่าลึก ความพิเศษของมันอยู่ที่สีกับลวดลายที่ไม่เหมือนใคร นักเลงกล้วยไม้มาเห็นนี่น้ำลายหกแน่ๆ ถ้าคนไหนขี้อิจฉาหน่อยอาจจะแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบว่ากล้วยไม้นี้ ท่านได้แต่ใดมา”
วนิษาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันกลับมา ขณะที่ภาคย์หย่อนไซรินจ์ลงพื้น แล้วเตะเขี่ยออกไป

โจขับรถอย่างรวดเร็ว ขณะที่สายตาก็มองซ้ายขวาไปด้วย จนมองเห็นท้ายรถของวนิษาที่ลานจอดรถ โจรีบขับลงข้างทาง จอดรถในพุ่มไม้รกๆ ก่อนจะรีบลอบเข้าไปในรีสอร์ต จนเห็นวนิษากับภาคย์ที่ห้องอาหาร จากนั้นก็ลัดเลาะตามสุมทุมพุ่มไม้ค่อยๆ เข้าไปใกล้ๆ
“ก็ดูปกติดีนี่หว่า”
โจกำลังจะถอยออกมา พลันสายตาก็เหลือบเห็นไซรินจ์ใต้โต๊ะอาหาร โจเอะใจ หยิบกล้องส่องทางไกลออกมา ส่องดู
“ทำไมถึงมีหลอดฉีดยา หรือว่า”
โจส่องบนโต๊ะ
“อาหารก็มีแต่ของเผ็ดๆแหะ มันวางยาไปแล้วจะล่อให้คุณวนิกินน้ำเยอะๆ”
โจเห็นวนิษายื่นมือจับแก้วน้ำ จะยกดื่ม แต่ก็เปลี่ยนปล่อยมือกินข้าวต่อ ในขณะที่ภาคย์ทำหน้าลุ้นและผิดหวัง
“ไอ้ภาคย์ ไอ้สารเลวเอ๊ย นึกว่ายอดฝีมือที่แท้ก็โจรบ้ากาม”
วนิษายกแก้วน้ำอีกขึ้น
“อย่าเพิ่งกินน้ำนะครับ คุณวนิ”
โจรีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“อาหารค่อนข้างเผ็ดนะครับ กินน้ำซักนิดดีกว่า”
ภาคย์แกล้งบอกกับวนิษา
“ค่ะ แต่ก็อร่อยนะคะ”
โจวิ่งมาถึงบริเวณที่จอดรถ พลางพุ่งกระโดดถีบรถของวนิษา ที่กำลังจะจิบน้ำ ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยของรถวนิษาก็แผดเสียงดังลั่นขึ้น
วนิษารีบวางแก้ว
“เสียงจากรถฉันนี่นา”
วนิษารีบลุกขึ้น เดินออกไป ภาคย์มองแก้วน้ำด้วยความเสียดาย แต่ก็ได้แต่รีบเดินตามวนิษาออกไป
โจวิ่งลัดสนามหญ้ากลับมา พุ่งเข้าไปในร้าน อาศัยจังหวะที่พวกพนักงานในร้านชะเง้อชะแง้ไปทางที่จอดรถ เข้าไปที่โต๊ะของวนิษากับภาคย์ หยิบแก้วน้ำของวนิษามาดู แล้วก็เห็นว่ายังไม่มีรอยริมฝีปาก

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13/4 วันที่ 1 มิ.ย. 57

ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
ละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ