อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 9/4 วันที่ 27 พ.ค. 57
ทวยเทพส่งเสียงมา “ก็ตีกอล์ฟน่ะสิ..แม่นี่ก็!!”สาวิตรี กับใบตอง หัวเราะกันคิกคัก “แหม..น่าเสียดายนะคะ ละครกำลังจิ้นเลย ดั๊นอวสานซะแระ..อดลุ้น คู่จิ้นคู่นี้เลย!!”
นารถนรินทร์ยิ้ม ๆ “‘คู่จิ้นในจอ’ ลุ้นไปก็งั้น ๆ แหละ สู้ลุ้น ‘คู่จิ้นนอกจอ’ ไม่ได้หรอก ฟินกว่าเยอะ”
“คู่จิ้นนอกจอ’ คู่ไหนคะคุณนารถ”
อัครินทร์เดินกลับจากทำงานเข้ามาพอดี
“ก็แหม..เรื่องแค่นี้ต้องให้บอกด้วยเหรอยะแม่ใบตอง?! ก็คู่พี่คินกับพี่ตะวันไงหายเงียบเลย ป่านนี้จะจิ้นกันไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้”
ทุกคิกคัก อัครินทร์อึ้ง ๆ เดินเข้ามา
อัครินทร์เดินมาให้แม่หอมแก้มฟ่อดๆ “ตะกี้ยัยนารถว่าไงนะ พี่คินกับคุณตะวันเค้ายังไงกันเหรอ?”
“ก็เค้าไปเที่ยวกันนน 2 ต่อ 2” อัครินทร์อึ้ง ๆ “นั่นแน่!! ไม่ต้องไปอิจฉาเค้าเลย น้องก็ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้พี่หมอของน้องก็เริ่มมีสาวกะเค้า แล้วเหมือนกันไม่ใช่เหรออออ?!!”
อัครินทร์หันมองใบตองทันที ใบตองก้มหน้าฟรึ่บ!!
“นั่นสิ!! น่ารักนะหนูพิงค์น่ะ แถมยังเก่งเป็นหมอผิวหนัง ดีจังเลย แม่จะได้พึ่งพาให้หน้าเด้งผิวดี”
“แม่คร้าบบบ.. ต่อไปจะเม้าท์อะไรยังไงกันก็ช่วยถามผมก่อนนะครับ ข่าวจะได้ไม่พลาด”
อัครินทร์พูดจบก็เดินออกไป
“หือ!!! ข่าวพลาด??? เหยี่ยวข่าวสาวสวยระดับใบตอง สยองขวัญ รับประกันไม่เคยพลาด!!!”
“เออ..ให้มันจริงนะนังตอง ห้ามพลาด!!”
“เอาหัวเป็นประกันเจ้าค่ะ!! ว่าแต่..แหม..อยากรู้ว่าคุณคินกับคุณตะวันเค้าไปไหนกัน อยากตามไปสืบข่าวจริงจริ้งงงง”
“นั่นสิ..ฉันก็อยากรู้”
นารถนรินทร์อมยิ้ม “ป่านนี้พี่ตะวันจะใจอ่อนรึยังน้อออ?!!”
สามสาวลุ้นกันตาวาว
บ้านเขาใหญ่ยามค่ำคืน เห็นท้องฟ้ามีฟ้าแล่บแปล๊บ ๆ แล้วก็ผ่าเปรี้ยง ปานตะวันนอนหลับอยู่ก็สะดุ้งสุดตัว ลุกขึ้นนั่งมอง ๆ รอบตัว รู้สึกหนาว ก่อนจะนึกถึงนาคินทร์ด้วยความเป็นห่วง
ในห้องรับแขกบ้านเขาใหญ่ นาคินทร์นอนขดตัวหลับอยู่ด้วยความหนาว ปานตะวันเดินถือผ้าห่มมาหยุดยืนมอง แอบสงสาร ปานตะวันค่อย ๆ โน้มตัวลงห่มผ้าห่มให้นาคินทร์อย่างเบามือ ทันใดนั้นนาคินทร์รวบตัวปานตะวันลงมาทับตัวเองแล้วล็อคไว้ในอ้อมกอดแน่น
“คุณนาคินทร์!! ปล่อยนะคะ”
“จะปล่อยได้ยังไง? จู่ ๆ ก็มีผู้ร้ายสาวสวยย่องมาจะทำมิดีมิร้ายผมยามวิกาล แบบนี้จะให้ผมปล่อยไปได้ยังไง มันต้องจับตัวไว้ลงโทษถึงจะถูก”
“ฉันไมได้จะทำอะไรคุณนะคะ ฉันเห็นว่าอากาศมันเย็น ฉันจะเอาผ้าห่มมาให้คุณ”
“เป็นห่วงผมเหรอครับ”
ปานตะวันอึ้งไป หลบตาอายสิ นาคินทร์ลูบแก้มตะวัน เชยคางตะวันขึ้นมองตา “ไม่เคยมีใครห่วงผมอย่างนี้นานแล้ว อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปได้มั้ยครับ..ตะวัน”
ปานตะวันอึ้ง นิ่ง นะจังงัง นาคินทร์ประคองใบหน้าของตะวันไว้แล้วโน้มมาจูบ เห็นแสงแล่บแปล๊บ ๆ ในความมืดในห้องนั้น
เช้าวันใหม่ บนชั้นผู้บริหาร บริษัท KTK มอลลี่กำลังเปิดการขายบิ๊กอายรุ่น สีต่าง ๆ บ้าง ไม่ชอบนางก็ควักขนตาปลอมนานาแบบออกมาให้เพื่อนพนักงานดู จามจุรีเดินถือแฟ้มผ่านมาก็ชะงัก ย่องมาแทรกตัวกลางฝูงชน
“มีอะไรขายอีกมั่ง”
ฝูงชนเริ่มสะดุ้ง ลูกกอล์ฟพยายามสะกอดมอลลี่ มอลลี่ไม่ทันมอง
“บิ๊กอายก็ไม่เอา ขนตาปลอมก็ไม่ชอบ งั้นเอาครีมหอยทาก!! คืนเดียวรับรองหน้าเด้ง ต่อให้หน้าเหี่ยวย่นอย่างคุณเจเจ เจ๊คอนเฟริ์มว่าเด้ง!!”
มอลลี่ยื่นครีมให้เห็นว่าเป็นจามจุรีก็สะดุ้งโหยง หันไปจะกินหัวลูกกอล์ฟ ลูกกอล์ฟโบกไม้โบกมือว่า ‘บอกแล้ววว’ มอลลี่หันกลับมาจ๊ะจ๋าใส่จามจุรี
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเจเจ แหม..ไปทำอะไรมาคะ หน้าใส๊ใส ออร่าประกายเด้งเปรียะ ๆๆ เชียวค่าา”
“เมื่อคืนฉันคงทาครีมหอยเม่น”
“หอยทากค่ะ”
“เออใช่!! หอยเม่นฉันเก็บไว้จิ้มปากคนขี้เม้าท์ดีกว่า”
“จริงค่ะ!! จิ้มไอ้ลูกกอล์ฟมันเลย”
“อ้าวววว..เจ๊หมอน??”
“เพิ่งจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้ชั้นผู้บริหาร KTK กลายเป็นตลาดนัดไปแล้ว”
“ตลาดนัด?? ตอนไหน?? อะไรยังไงคะคุณเจเจ??”
จามจุรีกวาดสินค้าขึ้นมา “ก็นี่ไง?? นี่มันอะไรยังไง??”
“ลูกกอล์ฟค่ะ ไอ้ลูกกอล์ฟมันอยากลอง มันซื้อมาลอง”
“บ้าาา!! คนอย่างลูกกอล์ฟขอบอกว่า “ชอบความแตกต่างอย่างมีสไตล์”พูดเลย!! ลูกกอล์ฟไม่เกี่ยว”
“โห..ไอ้นี่!! ก็แหม..คุณเจเจขา หมู่นี้ชั้นผู้บริหารไม่ค่อยจะมีงานทำ ก็ผู้บริหารทั้งท่านประธานฯ ทั้งท่านรองประธานฯได้พร้อมใจกันอันตรธาน หายตัวไปทั้งคู่อยู่เสมอ ๆ นี่คะ”
ปาริฉัตรชะงัก ตวัดสายตามองขวับ จามจุรีปรี่ไปหาปาริฉตร
“อะไรนะ?? จริงเหรอปาริฉัตร? วันนี้ท่านประธานฯ ไม่มาทำงานอีกแล้วจริงเหรอ?”
ปาริฉัตรพยายามเก็บความไม่พอใจ แต่ไม่มิด “ค่ะ”
จามจุรีตกใจ “คุณพระ!! ไม่อยากจะเชื่อ!! ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริงๆ รู้มั้ยว่าท่านประธานไปไหน? ไม่สบายรึเปล่า?”
ปาริฉัตรส่ายหน้า “ไม่ทราบค่ะ”
“ติดต่อได้มั้ยค่ะ”
ปาริฉัตรส่ายหน้า
“อะไร? ท่านประธานไม่บอกอะไรเธอบ้างเลยเหรอ? ลองนึกดูดี ๆ ซิปาริฉัตร”
ปาริฉัตรครุ่นคิด
“บ้านที่เขาใหญ่เขาใหญ่ของผมเรียบร้อยดีมั้ย ปาริฉัตร”
“ค่ะ เรียบร้อยดีค่ะ”
“ยังไงช่วยให้คนทำความสะอาดให้เรียบร้อยอีกครั้งนะครับ”
“ท่านประธานจะไปพักเหรอคะ”
“ช่วยบอกให้ด้วยนะครับ..ขอบคุณครับ”
ปาริฉัตรตาวาว
“ว่าไง? พอจะนึกออกบ้างมั้ย?”
“ไม่ค่ะ..ท่านประธานไม่ได้บอกอะไรเลย”
จามจุรีมองแฟ้มในมือ “เวรกรรม!! แล้วเอกสารพวกนี้จะทำยังไงล่ะ..เฮ้อ!!”
ปาริฉัตรยื่นมือ “ส่งไว้ที่ฉัตรก่อนเถอะค่ะ ติดต่อท่านประธานได้เมื่อไหร่ ฉัตรจะรีบรายงานให้ท่านทราบ”
จามจุรียื่นให้ “จ๊ะ ๆ..ขอบใจหนูฉัตรนะจ๊ะ”
จามจุรีเดินไป ปาริฉัตรทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดกำลังใจ นั่งคิดถึงนาคินทร์
ในห้องรับแขกบ้านเขาใหญ่ ปานตะวันนอนหลับอยู่บนโซฟา ซักพักรู้สึกตัวค่อย ๆ ลืมตาตื่นนึกได้ก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง มองสภาพตัวเองแล้วเสียใจ ก้มหน้าร้องไห้ลงกับฝ่ามือของตัวเอง
นาคินทร์ยืนมองภาพนั้นอยู่อย่างพอใจ ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารเช้า ปานตะวันจะรีบลุกหนี แต่นาคินทร์รีบวางถาดแล้วรวบตัวปานตะวันไว้ “จะไปไหนครับ?”
ปานตะวันก้มหน้าอายมาก “ฉัน..กลับกันเถอะค่ะ
“จะรีบกลับไปไหนครับ”
นาคินทร์เชยคางปานตะวัน “เมื่อคืนนี้..ผมมีความสุขมาก”
ปานตะวันเบือนหน้าหนี ละอายใจสุด ๆ พูดไม่ออก“ฉัน”
นาคินทร์ชอบมาก แต่ทำเป็นห่วง “ทำไมล่ะครับ คุณไม่มีความสุขเหรอครับปานตะวัน”
“ขอร้องล่ะค่ะ..อย่าพูดถึงอีกเลยนะคะ”
“ทำไมล่ะครับ..ทำไมคุณถึงชอบที่จะลืมอะไรง่าย ๆ”
ปานตะวันยังหลบตา ยังไม่รู้สึกความหมายของนาคินทร์
“ไม่เหมือนกับผม..ที่จำแม่น..ไม่เคยลืม”
ปานตะวันซื่อ หันมามองขอร้อง ไม่รู้จะพูดยังไง “มัน..มันไม่สมควรน่ะค่ะ ฉัน..”
“สมควรสิครับ มันสมควรที่สุด”
ปานตะวันส่ายหน้า “ฉันไม่น่า..ไม่น่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น”
“แต่ผมตั้งใจ”,ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์เช็ดน้ำตา..ลูบแก้มปานตะวัน “ผมตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้น”
ปานตะวันได้แต่หลบตา ส่ายหน้า สะอื้น
“นี่คุณ..จะเสียใจอะไรนักหนา” ปานตะวันแปลกใจในน้ำเสียงของนาคินทร์ที่เริ่มเปลี่ยนไป เงยหน้าขึ้นมอง“สองแสนพอมั้ย”
ปานตะวันตะลึง “อะไรนะคะ”
“ก็ผมถามว่า 2 แสนพอมั้ย?? ค่าเสียหาย!!”
ปานตะวันแทบไม่เชื่อหู “คุณ”
นาคินทร์มองหน้าอย่างไม่ยี่หระ ปานตะวันสะบัดตัวลุกขึ้นทันที นาคินทร์กระชากตัวให้ปานตะวันนั่งลงอย่างเดิม “แต่ผมว่ามากไปนะ..อย่าคุณ..2 หมื่นก็ยังแพงเกิน”
ปานตะวันแทบช็อค ตะลึงสุดขีด ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ น้ำตาร่วง “คุณ”
“โอเค..งั้น 2 หมื่น 5”
ปานตะวันตบหน้านาคินทร์เพียะ นาคินทร์หน้าหัน “เลว!! คุณเป็นผู้ชายที่เลวร้ายที่สุด!!”
นาคินทร์ค่อยๆ หันมามองช้าๆ “คงไม่เท่าคุณ”
ปานตะวันสะอื้น “ฉันเลวตรงไหน? ฉันเคยไปทำอะไรให้คุณ?”
“แล้วผมจะบอก”
ปานตะวันมองอย่างไม่เข้าใจ ส่ายหน้า “ฉัน..ฉันไม่เข้าใจคุณเลย..ทำไมคุณถึงต้องทำกับฉันอย่างนี้? ทำไมคะ..คุณนาคินทร์??”
“ไปอาบน้ำแต่งตัว ผมอยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว”
ปานตะวันฮึด “ฉันไม่กลับ!! เชิญคุณกลับไปคนเดียว!!”
“ไม่ได้!! ตราบใดที่คุณยังอยู่ภายใต้สัญญาของผม ผมเท่านั้นที่จะเป็นผู้ออกคำสั่งแต่เพียงผู้เดียว”
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
บนถนน ในรถตู้ นาคินทร์ & ปานตะวันนั่งคู่กัน บรรยากาศชวนอึดอัด
“ฉันขอลาออก”
“ได้..ถ้ามีปัญญาหาเงินมาชดใช้”
ปานตะวันหันขวับมองหน้า น้ำตารื้น “ฉันไม่น่า..ไม่น่าคิดผิด”
นาคินทร์นั่งเฉย ไม่ว่าอะไร
ปานตะวันบอกกับคนขับ “ช่วยจอดรถด้วยค่ะ..ฉันจะลง”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 9/4 วันที่ 27 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ