อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/4 วันที่ 25 พ.ค. 57
พร้อมกับตีคว้านเนื้อของแกหลุดออกมาด้วยแผลเท่ากำปั้น เข้าใจมั้ย”อ. เม้งหน้าเสีย โจพูดเสียงเข้ม
“ฉันถามแกตอบ แกโกหกฉันยิงแก ตกลงไหม”
“ตะ ตกลงครับ”
โจจ้องตา อ. เม้ง
“ใครใช้ให้แกโกหกชาวบ้านเรื่องดวงกินผัวของคุณวนิษา”
อ. เม้งงงไปวูบหนึ่ง
แต่ไม่มีใครจ้างผมหรอก”
โจเอาปืนกดหัวเข่า อ. เม้งหน้าเสีย
“ถ้าไม่อยากขาเป๋ก็บอกความจริงมา”
“ผมยืนยันไม่มีใครจ้างผม ดวงเธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
“ฉันไม่เชื่อ ฉันจะยิงพุงแกละกัน ยิงตรงนี้แกจะทรมานสุดๆ ก่อนที่จะตาย ลำไส้ของแกจะขาด ไอ้ที่ทะลักออกมา ก็จะบวมพองจนยัดกลับเข้าไปไม่ได้”
โจเอาปืนกดพุง อ. เม้ง ที่กลัวจนตัวสั่น
“อย่ายิงผมเลย ผมพูดความจริง หมอดูอย่างผมต้องยึดสัจจบารมีเป็นที่ตั้ง ผมโกหกไม่ได้ ผิดคำพูดไม่ได้”
โจ แสยะยิ้ม
“เห็นพุงไม่มีค่าใช่มั้ย งั้นตรงกล่องดวงใจนี่ล่ะ”
พลางเอาปืนกดที่เป้ากางเกง แล้วขึ้นไกปืน อ. เม้งกลัวจนแทบจะร้องไห้
“ใครใช้แก”
“ไม่มีจริงๆ ผมดูตามตำราที่ผมเรียนมา อย่าทำอะไรผมเลย”
โจกดปืนลงไปอีก “ฉันจะยิงให้เละเดี๋ยวนี้เลย”
“ผมพูดความจริง ขอร้องล่ะ อย่ายิงผมเลย”
“ใครใช้แก” โจตะคอกถามย้ำ
“ไม่มีจริงๆครับ”
โจถลึงตา แล้วเหนี่ยวไก เสียงดังแชะ อ. เม้งอ้าปากค้าง โจเก็บปืน อ. เม้งรีบก้มดูเป้า โล่งอกสุดๆ รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
“ขอถามอีกข้อ ดวงกินผัวมีจริงเหรอ”
“ใช่ครับ ตำราว่าไว้ ขอโทษนะ“
อ. เม้งกลัวจนเสียงแห้ง พลางเดินไปกดน้ำอุ่นจากกระติกน้ำร้อนบนโต๊ะ แล้วยกขึ้นจิบ จากนั้นก็เดินไปที่ชั้นหนังสือ ใช้เวลาไล่หาหนังสือเพียงแป๊บเดียวก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่ง เปิดออก ส่งให้โจ โจรับมาดู เห็นภาพที่ถ่ายจากคัมภีร์ใบลาน เป็นลายเส้นยึกยือ รูปผู้หญิง มีตัวอักขระคล้ายๆภาษาขอม ดูขลัง
อ. เม้ง รีบอธิบาย
“ดวงนารีบริโภคภัสดา ท่านว่าลักขณาวิกฤติผิดพื้นเพ ดาวจระเข้กลับหัวหางชี้ พุธ ศุกร์ เสาร์ขี่ซ้อน ล้านสมรหาได้หนึ่งนางเดียว ดวงขบเขี้ยวเคี้ยวผัวตายทุกคน ... ความหมายของมันคือเจ้าของดวงๆนี้หาเจ้าเรือนได้ยาก มีน้อยกว่าน้อย ต้องเกิดตอนดวงดาวทำมุมในลักษณะพิสดาร แต่พลังดวงนั้นรุนแรง ผู้หญิงเจ้าของดวงนี้
อยู่กินกับคู่คนไหน คู่ต้องถึงตาย”
โจวางหนังสือลง “มีทางแก้เคล็ดมั้ย”
“ดวงนี้เป็นหนึ่งในดวงอาถรรพ์โทษทั้งเจ็ด คือหมายถึงเป็น 7 พื้นดวงที่ไม่มีทางแก้เคล็ด ไม่มีทางผ่อนหนักเป็นเบา ถ้าเจ้าของดวงไม่อยากให้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก็มีทางเดียว คือห้ามมีผัว”
โจถึงกับเงียบไป
โจกับป๋อง เดินคุยกันออกมาตามทาง
“ดูท่าทางแล้วปล่อยให้คุณวนิษาบวชดีกว่ามั้งพี่ ฟังกลอนแล้วขนลุกไม่หายเลย ตรงตามตำราเป๊ะ”
ป๋องพูดพลาง ทำท่าขนลุก
“กลอนนั่นท่าทางจะของเก่า ไอ้หมอเม้งคงไม่ได้แต่งเองแน่ๆ”
“คนสมัยก่อนไม่แต่งกลอนกันเล่นๆหรอกพี่ ผมว่ามันมีจริงนะ เราปล่อยคุณวนิษาบวชไปดีกว่า”
โจพยักหน้า “อืม ถ้าเราขัดขวางก็เหมือนเราปล่อยฆาตกรโรคจิตออกมาเพ่นพ่าน ไม่รู้ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของเธอ”
“ใช่ครับ”
โจหยุดนิ่ง ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“ไม่ว่ะ”
“อะไรนะครับ” ป๋องถามย้ำ
“ฉันเชื่อคุณยายว่ะ ฉันว่าเขาไม่อยากบวช เขาอยากให้ใครสักคนช่วยเขา”
ป๋อง ส่ายหน้า
“ใครจะไปช่วยเขาได้ ก็ดวงเขาเป็นอย่างนี้”
“ยัง ฉันยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องดวงกินผัว ถึงเชื่อก็ยังเชื่อครึ่งๆกลางๆ”
“โอ้โห เป็นเด็กดื้อน่าดูนะเนี่ย พี่ไม่เชื่อแล้วจะทำยังไงได้”
โจพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันจะไปหาหลวงพ่อ”
โจเดินเข้าไปในวัด พวกศิษย์วัดที่กำลังตัดแต่งกิ่งต้นไม้อยู่เห็นโจก็เข้ามาทัก โจเอาถุงขนมที่หอบหิ้วมาส่งให้ พลางถามหาหลวงพ่อสีสุก ศิษย์วัดชี้บอกทาง
โจเดินเข้าไปยังบริเวณอุโบสถ เห็นหลวงพ่อกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ ก็รีบเดินไปหา พลางคุกเข่าก้มลงกราบ
“สวัสดีครับหลวงพ่อ”
“เจริญพรโจ”
หลวงพ่อดูโจอย่างพินิจพิจารณา “ไปนั่งสมาธิในโบสถ์ไป เดี๋ยวค่ำๆค่อยคุยกัน”
โจเข้ามาไหว้พระประธานในโบสถ์ พลางมองไปรอบๆ แล้วนั่งสมาธิ หลับตา ค่อยๆกำหนดลมหายใจ แต่พอนึกถึงหน้าวนิษา ก็สมาธิหลุด
โจกำลังนั่งกอดเข่าดูรูปเขียนที่ผนังโบสถ์เพลินๆ จู่ๆก็มีไม้เท้าเคาะหัว
“ โอ๊ย”
โจหันมาเห็นหลวงพ่อสีสุก ยืนทำหน้าดุอยู่
“บอกให้นั่งสมาธิ แล้วนี่ทำอะไร
“เอ่อ ผมไม่มีสมาธิน่ะครับ”
หลวงพ่อสีสุกเดินมานั่งตรงข้างหน้าโจ “ทำไมไม่มีสมาธิ”
“ก็มันฟุ้งซ่านครับ”
“ฟุ้งซ่านเรื่องอะไร” หลวงพ่อถามต่อ
“เรื่องคนคนนึง”
“ทำไมเป็นคนคนนี้”
โจเงียบไปพักหนึ่ง “เพราะผมชอบเขา”
“แล้วไง”
“เขากำลังเดือดร้อน ผมอาจจะช่วยเขาได้ แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะช่วยเขาดีไหม ผมเลยตั้งใจจะมาถามหลวงพ่อเรื่องนี้ เรื่องดวงเนี่ย”
“เรื่องที่เธอจะถามฉัน ฉันเคยตอบไปแล้วไม่ใช่หรือ”
โจพยักหน้า
“แล้วจะมาถามซ้ำทำไม”
“ผมเริ่มไม่แน่ใจ”
“คำตอบของฉันเหมือนเดิม ถ้าเธอไม่แน่ใจคำตอบของฉัน ฉันก็จนปัญญา เธอต้องหาคำตอบด้วยตัวเธอเอง”
“ตอบแบบนี้ หลวงพ่องอนผมรึเปล่าครับเนี่ย”
หลวงพ่อ ส่ายหน้ายิ้มๆ “เปล่า ฉันชี้ทางออกให้เธอ”
“งั้นผมถามใหม่ ถามดื้อๆเลยแล้วกัน ผมควรจะช่วยเธอไหมครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าควรจะช่วยหรือไม่ควรจะช่วยดี”
“ทำไมถึงควรจะช่วยเขา” หลวงพ่อย้อนถาม
“ก็ ผมว่าเขาน่าสงสาร”
“แล้วทำไมถึงไม่ควรจะช่วย”
โจถอนหายใจ “เพราะเขาอาจจะเป็นฆาตกร ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม”
“ถ้าใครคนหนึ่งเป็นฆาตกร เราสงสารคนคนนั้นไม่ได้หรือ”
“ผมว่าได้ครับ”
“เราจะช่วยคนที่เป็นฆาตกรไม่ได้หรือ”
โจพยักหน้า “เอ่อ ได้ครับ”
“ได้คำตอบรึยัง จะช่วยหรือไม่ช่วย”
“ผมจะช่วยเธอครับ ขอบคุณหลวงพ่อมากครับ”
หลวงพ่อ ยิ้มอย่างมีเมตตา
“ฉันยังไม่ได้บอกอะไรเธอเลยนะ ฉันแค่ถาม ทุกคำตอบมาจากตัวเธอเอง”
“แปลว่าผมคงสับสนจริงๆน่ะครับ”
หลวงพ่อถอนใจ
“ปกติเธอเป็นคนมีสตินะโจ แต่ฉันก็เข้าใจ รัก โลภ โกรธ หลง มันทำให้ขาดสติได้เหมือนกัน งั้นฉันจะแนะนำอะไรเธอสักอย่าง ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว”
“ครับ”
“ถ้าจะช่วยเขา จงช่วยด้วยเมตตา อย่าช่วยด้วยเสน่หา”
โจนิ่งคิดตามคำพูดของหลวงพ่อ
ทางด้านปฐม กำลังนั่งคุยอยู่กับใครคนหนึ่งในร้านก๋วยเตี๋ยว
“หาคนได้รึยัง เอามือเจ๋งๆ”
“ได้ประมาณ 3 - 4 คนเฮีย”
ปฐมพยักหน้า
“3-4 คนก็ได้ ฟังนะ ให้ลงมือในวันบวชของตั่วเจ๊ ลูกน้องลื้อต้องปลอมตัวเป็นลูกน้องเสี่ยเพ้ง เข้ามาป่วนให้เละ บอกว่าตั่วเฮียของอั๊วติดหนี้พวกลื้อ 50 ล้านบาท ตั่วเจ๊ต้องรับผิดชอบ แล้วอั๊วจะช่วยเสริมให้มันดูน่าเชื่อถือ ถ้าวัดเขาเชื่อว่าตั่วเจ๊ติดหนี้ตามที่ว่า เขาก็จะไม่ให้ตั่วเจ๊บวช”
อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/4 วันที่ 25 พ.ค. 57
ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพลละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ